Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รีวิวสอบ GED 2021 ฉบับละเอียดที่สุด!!!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

สวัสดีค่ะทุกคนนน ในกระทู้นี้ เราจะมาแชร์ประสบการณ์การสอบของเรา ตั้งแต่ข้อมูล การเตรียมตัว การสอบจริง ไปจนถึงแนะนำหนังสือ เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่สนใจจะสอบ ต้องการอ่านเอง ไม่เรียนพิเศษ และใช้เวลาสั้นๆค่า

      ก่อนอื่นเลย ต้องอธิบายก่อนว่า GED คือ วุฒิการศึกษาของอเมริกา การสอบเทียบเท่าวุฒิม.ปลายของอเมริกาเมื่อสอบผ่านเรียบร้อยแล้ว ก็เทียบเท่ากับการจบ ม.6 โดยนำวุฒินี้ไปยื่นเข้ามหาลัยต่าง ๆ ทั้งในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นจุฬาฯ มธ มหิดล (ซึ่งส่วนใหญ่ที่รับก็จะเป็นภาคอินเตอร์) เอกชนบางที่ และตปท. 

โดยจัดสอบทุกวัน มีหลายรอบเวลาให้เลือก  ผู้สอบต้องอายุ 16 ขึ้นไป สอบได้ครั้งเดียวต่อวิชา! ส่วน rescore หรือสอบซ่อม ดูตรงด้านล่างเลยนะคะ


 

สมัครสอบ GED ยังไง ?

 
  1. เว็บไซต์ https://ged.com/ แล้วสังเกตแทบเมนูด้านบน ถ้ายังไม่มี account ให้คลิกที่ “SIGN UP”   ((ถ้ามีอยู่แล้วให้ Log in เข้าระบบได้เลย))
  2. กรอกอีเมล ตั้งรหัสผ่าน, กรอกประวัติส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด ให้ตรงตาม passport ทุกตัวอักษร* ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์
  3. อายุ 18 ปีบริบูรณ์ สามารถเข้าสอบได้เลย แต่ถ้าอายุ 16-17 ปี ต้องให้ผู้ปกครองเซ็นใบยินยอมหรือ Consent Form 
  • กด Schedule Test ในเว็บฯ จะขึ้น My Alerts 
  • กด ‘Click here to print and download the Consent form’
  • ปริ๊นเอกสารออกมา กรอกข้อมูลค่ะ อันนี้ตัวอย่างค่ะ

  • สแกนเอกสาร แล้วส่ง email ไปที่ help@ged.com เขียนหัวข้อ mail กำกับง่ายๆว่าส่งอะไร
  • จะมี mail ตอบกลับ 2 ครั้ง ครั้งแรกตอบกลับมาใน 24 ชม. ว่าได้รับเอกสารแล้ว ครั้งที่สองคือ แจ้งภายใน 48-72 ชม. (อาจจะนานถึง 2 อาทิตย์) ว่า age requirement has been approved 


 

สอบวิชาอะไรบ้าง ?

      แบ่งออกเป็น 4 วิชา คือ Math, Science, RLA (อังกฤษ), และ Social Studies 

      แถมของไทย ต้องสอบ GED Ready แต่ละวิชาให้เกิน 165 คะแนนถึงจะมีสิทธิ์ลงสอบจริงค่ะ

      คะแนนเต็มวิชาละ 200 คะแนน ต้องได้ 145 คะแนนขึ้นไปถึงจะสอบผ่าน และผ่านในทุกวิชาถึงจะได้ GED Diploma and Transcript นั่นเองค่ะ  แต่เกณฑ์ของแต่ละคณะ/มหาลัยก็จะไม่เหมือนกันค่ะ เช่น ต้องทำ 4 วิชารวมให้ได้ 660 คะแนนขึ้นไปถึงจะมีสิทธิ์สมัคร ประมาณนี้ค่าา 

      ซึ่งตอนนี้ค่าสมัครขึ้นเป็นวิชาละ 80$ แล้วค่ะ  Ready อีกวิชาละ 6$ (ถ้าสมัคร 4 วิชาพร้อมกันเหลือ 20$) โดยต้องสอบภายใน 1 ปีหลังชำระค่ะ รวมแล้วทั้งหมด 340$ ประมาณ 11,400 บาท  แต่เทียบกับการที่เราเรียนจบเร็วขึ้น มีเวลามากขึ้น ประหยัดค่าเทอมไปอีกปีหรือสองปีก็ถือว่าคุ้มค่าค่ะ 



 

สอบไม่ผ่าน ต้องทำยังไง ?

      ถ้าเป็นการสอบครั้งที่ 2 และ 3 ในแต่ละวิชา สามารถสมัครใหม่ได้เลย แต่ครั้งที่ 4 เป็นต้นไป จะต้องเว้นระยะห่างจากการสอบครั้งที่แล้วไปอีก 60 วันค่ะ

      แต่ถ้าได้เกิน 145 คะแนนมาแล้ว แค่อยากเพิ่มคะแนน ปกติระบบจะล็อคไว้ไม่ให้สมัครใหม่ค่ะ จะต้องยื่นคำร้อง  1ครั้ง/ 1วิชา คือ ส่ง email ไปที่ help@ged.com ใช้เวลา 14-21 วัน

  • First and Last name
  • Date of Birth 
  • Subject to retest
  • Passing Score
  • วันที่ทำ GED Ready วิชานั้นครั้งล่าสุด
  • Score ล่าสุดของ GED Ready
  • เหตุผลที่อยากสอบใหม่
  • สถาบันที่จะใช้ GED new score ยื่นเข้า และข้อมูลสำหรับติดต่อ


 

เตรียมตัวยังไง ? 

      Mock exam ที่ไว้ใจได้ที่สุด = GED Ready นี่แหละค่า เพราะคล้ายข้อสอบจริง แค่ลดจำนวนลงมาเหลือครึ่งนึงค่ะ ถ้าคะแนนไม่ได้ดีมาก ก็อย่าพึ่งท้อค่ะ ตัวหารน้อยกว่า ผิดไปข้อนึง คะแนนจะลบไปเยอะค่ะ ให้ดูแบบละเอียดเลยว่าเราพลาดตรงไหน ควรจะทวนเรื่องอะไรเพิ่มเติม ก็ไปเน้นส่วนนั้นค่ะ ซึ่งจัดลำดับสอบได้ตามถนัดเลยย ขั้นตอนคร่าวๆก็เข้าสู่ระบบทางเว็บ เลือกวิชาที่ต้องการสอบ ศูนย์สอบ วันเวลา และชำระผ่านบัตรเครดิต/บัตรเดบิต

      ประสบการณ์ส่วนตัว คือ เราวางแผนว่าจะไปสอบ 2 วัน แบ่งเป็นวันละ 2 วิชาค่ะ (ไม่อยากเสียเที่ยว5555555555) แยกเช้า-บ่าย   เริ่มจากเก็บวิชาที่ง่ายกว่าก่อน พวก Math กับ Science คาดว่าใช้เวลาเตรียมตัวไม่นานค่ะ  จะมาหนักสองวิชาหลังมากกว่า 

ฝึกทำบ่อยๆค่ะ โจทย์สไตล์ GED จะต่างจากการสอบทั่วไป คือ รูปแบบหลากหลาย ทั้ง mutiple choices, drag-and-drop, fill in the blank, select an area แล้วก็ drop-down 
 

1.  Mathematical Reasoning  คณิตศาสตร์     (19x)

คำถาม 46 ข้อ ใช้เวลาทั้งหมด 1 ชม. 55 นาที

เนื้อหาที่ออกจะเป็นเลขม.ต้นค่ะ ใครเรียนโรงเรียนไทย น่าจะทำได้สบายเลย เน้นคิดเลข แต่คนที่ไม่ค่อยมีพื้นฐานอังกฤษ อาจจะต้องใช้เวลาจำศัพท์, keyword จับจุดว่าโจทย์ถามอะไร ประมาณนี้ค่ะ

ในคอมมีเครื่องคิดเลขค่ะ (ใช้ได้แค่part 2) อย่าลืมศึกษาวิธีใช้ก่อนนะคะ และมี formula sheet ตรงแถบบนข้างๆ เรียกได้ว่าไม่ต้องจำสูตรเลยค่า  +มีกระดาษทดให้ด้วย

  • Basic เลข 
  • เรขาคณิต
  • Algebra พื้นฐาน 
  • กราฟและฟังก์ชัน

2.  Science  วิทยาศาสตร์     (17x)

คำถาม 38 ข้อ ใช้เวลาทั้งหมด 1 ชม. 30 นาที

จะมีทั้งให้อ่านบทความ  การทดลองและออกแบบ  อ่านตัวเลข&กราฟ
ไม่ต้องไปเสียเวลาจำ detail ทั้งหมดนะคะ ไม่ได้ออกลึกขนาดนั้นค่ะ ส่วนใหญ่ให้หาใจความมากกว่า 

หัวข้อที่ออก 

  • Earth and Space Science 20%
  • Physical Science 40%
  • Life Science 40%

3.  Reasoning Through Language Arts  ภาษาอังกฤษ      (16x) 

ใช้เวลารวม 2 ชม. 30 นาทีค่ะ

แบ่งเป็น 3 parts

Part 1 - 30 นาที

  • Reading   2 passages

Part 2 - 45 นาที

  • Extended Response —> จะได้บทอ่านเกี่ยวกับผู้เขียน/คน 2 กลุ่มที่มีความเห็นขัดแย้งกัน  เขียน essay แบบargumentative ว่าสนับสนุนฝั่งไหนมากกว่า เพราะอะไร แล้วทำไมเหตุผลของอีกคนมีน้ำหนักน้อยกว่า   ลองฝึกเขียนตาม Structure ดูค่ะ และควรจะอ้างอิงจากข้อมูลที่เขาให้มา *ห้ามใส่ opinion ตัวเองลงไปนะ* เขียนประมาณ 4-7 paragraphs, 300-500 words  ดู grammar และ transition words พวก First, however, moreover, for instance, finally, etc. มาด้วยนะะ

________พักเบรก 10 นาที_________

Part 3 - 65 นาที

  • Reading   4 passages ยาวๆ      —> ถาม main idea, opinion, fact, feeling   อันไหนไม่มั่นใจ flag ไว้ก่อนแล้วกลับมา review ตอนสุดท้ายค่ะ
  • Standard English Convention   2 passages      —> ฟีลเดียวกับ writing ของ SAT Verbal ค่ะ ให้เลือกตอบไม่ยากมากค่ะ  comma, sentence structure ค่อนข้างสำคัญ

เราแทบไม่ได้เตรียม reading เลยย รู้สึกว่าอ่านแล้วไม่ค่อยเวิร์ค แต่ตัว passage อ่านง่ายกว่าของ SAT Verbal  เน้นอ่านจับใจความสำคัญได้ ก็ผ่านแล้วค่า

Tips :  อ่านเขียนภาษาอังกฤษ ทำบฝห.บ่อยๆ ช่วยได้ค่ะ เหมือนทำให้เราชินกับภาษามากขึ้น
            เวลาฝึกอ่าน ใช้นิ้วหรือดินสอลากไปตามบรรทัดที่อ่าน ช่วยเพิ่มโฟกัสได้ดีขึ้น
            ตอนสอบจริง เราสามารถ highlight ให้อ่านง่ายขึ้นได้ (ทุกวิชา) อยู่แถบซ้ายบน
            Manage เวลาดีๆ

 

4.  Social Studies  สังคม     (16x)

คำถาม 30 ข้อ มีเวลาทั้งหมด 70 นาที
เป็นวิชาที่หลายคนกังวล รวมถึงเราด้วยเหมือนกัน  เพราะถ้าไม่ใช่นักเรียนที่เรียนในระบบอเมริกันจริงๆ ก็จะมีความรู้สึกว่าเนื้อหาค่อนข้างไกลตัว โดยเฉพาะ
คำศัพท์ค่ะ  ควรจะมีพื้นฐานนิดนึง เพื่อจะให้ไม่งงค่ะ
ข้อสอบมีทั้ง
กราฟ, สถิติ, Speech, บทความ

แบ่งเนื้อหาหลักๆได้ 4 หัวข้อ

  • ประวัติศาสตร์อเมริกา (U.S. History) 
  • การเมืองการปกครอง (Civic and Government) *ออกเยอะสุด
  • เศรษฐศาสตร์ (Economics)
  • ภูมิศาสตร์และปวศ.โลก (Geography and the world) 



 

สอบที่ไหน ? ไปกี่โมง ? เอาของอะไรไปบ้าง ? 

ศูนย์สอบในไทย

กรุงเทพฯ 3 ที่

  • Paradigm Language Institute: อาคารอัลมาลิงค์ ชั้น 2 หลังเซ็นทรัลชิดลม
  • Pearson Professional Centers-Bangkok: BB Building ชั้น 10 อโศก
  • Assumption University: Suvarnabhumi Campus 

ต่างจังหวัด 4 ที่

  • Movaci Technology: อ.เมือง จ.เชียงใหม่
  • Payap University: อ.เมือง จ.เชียงใหม่
  • Thabyay Education: อ.แม่สอด จ.ตาก
  • Phuket Academic Language School: อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต

คำแนะนำ

  • **เตรียม Passport ที่ยังไม่หมดอายุ** และเสื้อหนาว (เผื่อ) 

ไม่ต้องใส่ accessory มาดีที่สุดค่ะ เจ้าหน้าที่จะให้ถอดเก็บในล็อคเกอร์ (แล้วแต่ที่)

  • เช็ควัน เวลาสอบดีๆค่ะ

จากใจคนเคยพลาด สอบ 14.15 เราจำผิดเป็น 14.45 ค่ะ รอนานนิดนึง สุดท้ายก็ได้สอบค่ะ โชคดีมากๆมีคนที่สอบเสร็จก่อนเวลาออกมาค่ะ ปกติเขารันตามเวลาและคอมเครื่องที่ว่าง ซึ่งพอดีกับจำนวนคนที่จองรอบนั้นๆ แล้วอาจจะมีคนสอบรอบถัดไปใช้คอมเครื่องว่างไปแล้วค่ะ หรือถ้าโชคไม่ดี บางเคสอาจจะถูกไม่ให้สอบได้เลย

  • ไปถึงก่อนเวลาสอบอย่างน้อยเลย 15 นาทีค่ะ 

เผื่อเวลาสำหรับเซ็นชื่อ, เก็บของ, ให้เจ้าหน้าที่ตรวจเช็คด้วยค่ะ



 

อ่านหนังสืออะไรดี ?

  1. GED Test Prep Plus 2021 ของ Kaplan      หลักๆเราอ่านแค่เล่มนี้เลยค่า อธิบายโอเคนะ  มี practice tests ก่อน-หลังอ่าน มีเนื้อหา+บฝห.ให้ทำเยอะ

  2. GED ของ Barron’s      ง่ายกว่าข้อสอบจริงค่ะ แต่เราชอบที่รูปแบบการเขียนในนส. อ่านง่ายย
  3. https://drive.google.com/file/d/1EhEtQh3Z3pzqmiMUCT6iHH95tF_75Ow1/view?usp=drivesdk  สรุป social studies      ดีมากกก เราได้มาฟรีเลยอยากจะส่งต่อให้น้องๆที่อยากจะปูพื้นวิชาสังคมของอเมริกา เหมาะแก่การเริ่มต้นอ่านมากค่า



 

สอบผ่านทุกวิชาแล้ว ทำอะไรต่อ ? 

      คะแนนออกไวมากกกกหลังสอบเสร็จในแต่ละวิชาค่ะ เมื่อสอบผ่านครบแล้ว ในขั้นตอนถัดไป ก็ทำเรื่องขอ Diploma และ Transcript เลยค่า ซึ่งปกติจะมี email ตามรูปล่าง ส่งมาให้เรากดดาวน์โหลด e-trancscript & e-diploma ที่เป็นไฟล์ official ของ GED ฟรีค่ะ ให้ดาวน์โหลดได้ 7 ครั้ง ภายใน 180 วัน


      อย่างของเรา ใช้แบบ electronic ในการเทียบวุฒิและยื่นคณะ  ส่วน paper copy ใบ diploma จะแจกฟรีค่ะ แต่มีค่าtranscipt 15$ และก็อาจจะมีค่าส่งไปรษณีย์เพิ่มเติมค่า (USPS ≈14วัน / Fedex ≈5วัน +40$)

เรามีแพลนจะลาออกจากโรงเรียนอยู่แล้ว เลยตั้งใจสั่งแบบ paper มา ส่วนตัวว่า (ในกรณีลาออก) ควรจะสั่งมานะคะเพราะเปรียบเหมือนใบจบ ที่เราจะได้จากโรงเรียนค่ะ
 


 

       “ทางลัดไม่ใช่คำตอบ”

เราเชื่อว่า ข้อสอบไม่ได้ยากเกินความสามารถค่ะ ถ้าตั้งใจ ทำความเข้าใจเนื้อหาที่ออก ฝึกทำโจทย์ จะไปถึงเป้าหมายได้ไม่ยากเลยค่ะ ขอให้โฟกัสกับมัน วางแผนดีๆ และอย่าประมาทค่ะ 

YOU CAN DO IT สู้ๆนะค้าาา 

      อ่านมาจนถึงตรงนี้แล้ว อาจจะตาลายกันไปบ้างง5555555 หวังว่าอย่างน้อยความตั้งใจของเราในการเขียนกระทู้นี้ จะเป็น1 ในตัวช่วยที่ให้ทุกคนเดินไปสู่บันไดขั้นต่อไปได้เร็วขึ้น เพราะตัวเราเองก็เคยมานั่งหาข้อมูลแบบงงๆและเสียเวลาไปเยอะเหมือนกันค่ะ

      สุดท้าย อยากแนะนำให้เข้ากลุ่ม รวมพลคนสอบอินเตอร์ by learning cafe ด้วยน้า ใครจะเข้าอินเตอร์คือห้ามพลาด ดีมากกๆๆ

 

ถ้ามีอะไรอยากถามเพิ่มเติมก็เม้นไว้ด้านล่างได้เลยนะค้า

ผิดพลาดตรงไหน ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ‍️

แสดงความคิดเห็น

>

4 ความคิดเห็น

no name 5 ม.ค. 65 เวลา 10:10 น. 2

เขียนข้อมูลละเอียด มีประโยชน์มากค่ะ ขอบคุณมากๆๆๆๆนะคะ เราก็จะไปสอบเทียบเหมือนกัน

1
Cdsssr 18 เม.ย. 65 เวลา 13:24 น. 2-1

ตัวเองติวสอบเองรึเปล่าคะหรือว่าติวกับสถาบัน

0
Aunarpa 11 ม.ค. 65 เวลา 03:58 น. 3

แบ่งหัวข้อชัดเจนมาก~ ขอบคุณนะคะ ตั้งใจจะสอบเดือนหน้า อ่านแล้วมีไฟเลยค่ะ

0