ดอกเกลือ เมืองเพชรบุรี soft power พร้อมสร้างชื่ออาหารไทยในอนาคต
ตั้งกระทู้ใหม่
ก่อนอื่นเราต้องมาทำความรู้จักกับ ดอกเกลือ คืออะไร สำหรับดอกเกลือคือ ผลึกเกลือที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ ต้องเก็บก่อนจะจม จึงมีลักษณะเบาบาง สะอาด บริสุทธิ์ มีโซเดียมคลอไรด์ต่ำกว่าเกลือปกติ และมีแร่ธาตุตัวอื่นสูงกว่าเกลือปกติ จึงมีรสชาติกลมกล่อม ไม่เค็มจัด
สำหรับองค์ประกอบทางเคมีของเกลือของเกลือแต่ละชนิด
เกลือที่ผลิตด้วยวิธีธรรมชาติ (ทั้งเกลือทะเลและเกลือสินเธาว์)
จะมีแร่ธาตุหลายชนิด เช่น โซเดียม แคลเซียม แม็กนีเซียม ธาตุเหล็ก ไอโอดีน รสชาติจึงกลมกล่อม ไม่เค็มจัด แต่ปริมาณแร่ธาตุอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่
เกลือที่ผลิตด้วยวิธีอุตสาหกรรม (รีไฟน์)
จะมีโซเดียมคลอไรด์สูง
ความแตกต่างที่สำคัญคือ ขนาดผลึก ความเค็ม ความชื้น ความสะอาด องค์ประกอบทางเคมีไม่ค่อยต่างกันมากนัก (มีแร่ธาตุหลายชนิดเหมือนกัน) เพราะเป็นการผลิตด้วยวิธีธรรมชาติ ไม่มีการแยกสารทางเคมี
ปัจจัยที่ทำให้ดอกเกลือแต่ละเจ้าแตกต่างกัน
อุณหภูมิน้ำเกลือขณะที่เก็บ อุณหภูมิสูงผลึกจะเล็ก อุณหภูมิต่ำผลึกจะใหญ่
เกลือทะเลตากจะอุณหภูมิต่ำกว่าเกลือสินเธาว์ต้ม
และที่สำคัญที่สุดที่คนมองข้ามคือ กระบวนการและวิธีการเก็บรักษาหลังจากเก็บมาแล้ว จะมีผลต่อความชื้น ความเค็ม การเกาะตัวเป็นผลึกใหญ่ และความสะอาด
จากการประชุม APEC ครั้งที่ 29 ที่ผ่านมา ที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพได้ผ่านไปด้วยดี เป็นนัยยะสำคัญที่ประเทศไทยนั้นต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปข้างหน้า พร้อมทั้งสร้างความน่าเชื่อถือต่อนักลงทุนและประเทศสมาชิกต่างๆในย่านเศรษฐกิจ หากแต่สิ่งแล้วนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลพร้อมที่จะเดินหน้าต่อ เพื่อสานต่อเศรษฐกิจของประเทศสู่การพัฒนา แต่ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่ประเทศไทยได้เผยแพร่สู่สายตาชาวโลก นั้นคืออาหารจากผู้นำของโลก ผู้ติดตาม นักข่าว ต่างได้เห็น ซอฟท์พาวเวอร์ ของคนไทยที่ถูกส่งผ่านอาหาร ของกิน ของใช้ หรือแม้แต่ของฝาก หนึ่งในนั้นคือ ดอกเกลือของจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็น ดอกเกลือ ที่มีคุณภาพสูง
สำหรับทางด้านดร.ยุทธพล อังกินันทน์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ถึงแนวคิด ดันไทยเป็นแหล่งความมั่นคงทางอาหารโลก หลังจากการประชุม APEC ที่ผ่านมา อาหารไทยหลายเมนูได้รับความสนใจจากผู้นำนานาประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ปลากุเลาเค็มจากตากใบ โคขุนโพนยางคำสกลนคร ไก่ย่างเบตง เนื้อวากิวโคราช ฯลฯ ซึ่งดอกเกลือเมืองเพชร จาก จ.เพชรบุรี ก็เป็นหนึ่งในวัตถุดิบสำคัญ ที่ประเทศไทยเลือกใช้ในการปรุงอาหารเสิร์ฟบรรดาผู้นำจากทั่วโลกที่เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ด้วย ดร.ยุทธพล กล่าวว่า ซอฟท์พาวเวอร์เรื่องอาหาร จากการประชุม APEC ถือเป็นกระแสที่ดี ที่ภาครัฐและเอกชนไทย ควรจะรีบคว้าโอกาสในการทำตลาดอาหารทั้งในและนอกประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้ดีขึ้น ทั้งนี้จากสถานการณ์โลก ที่เพิ่งฟื้นตัวจาก Covid19 ภาวะสงคราม ไปจนถึง ภาวะโลกรวน ที่เป็นปัญหาสิ่งแวดล้อม ทำให้หลายภูมิภาคของโลก กำลังเผชิญภาวะขาดแคลนอาหาร ถือเป็นโอกาสที่ดีของไทย ในการสร้างจุดขายเรื่องอาหาร สร้างศักยภาพให้เป็นแหล่งความมั่นคงทางอาหารของโลก ซึ่งเราสามารถทำได้ ไม่ไกลเกินฝัน เพราะถึงแม้ไทยจะเป็นประเทศเล็กๆที่มีสัดส่วนพื้นที่แค่ 1% ของโลก แต่เรากลับมีความหลากหลายทางชีวภาพสูงถึง 10% ทำให้ไทยมีจุดแข็งในการเป็นแหล่งเพาะปลูกอาหาร สำหรับดอกเกลือ จากเพชรบุรี นั้นจะต่างจากเกลือทั่วไป ที่จำหน่ายในท้องตลาด โดยดอกเกลือจะเป็นเกลือชุดแรกที่ลอยตัวขึ้นมาเกาะตัวเป็นแพบนผิวน้ำ คนทำนาเกลือจะช้อนเอาดอกเกลือเหล่านี้ขึ้นมาเก็บไว้ก่อนที่จะจมลงไป ดอกเกลือจึงมีความบริสุทธิ์กว่าเกลือทั่วไป รสชาติไม่เค็มจัด และมีรสอมหวานนิดๆ ซ่อนอยู่ เป็นรสชาติเค็มที่มีความกลมกล่อม จัดอยู่ในหมวดหมู่สินค้าพรีเมียม เป็นราชาของเกลือทะเล โดยในเพชรบุรี มีพื้นที่นาเกลือมากกว่า 20,000 ไร่ มีเกษตรกรชาวนาเกลือ กว่า 700 ครัวเรือน โดยเฉพาะใน อ.บ้านแหลม ซึ่งยังคงสืบทอดอาชีพจากรุ่นสู่รุ่นมาถึงปัจจุบัน ซึ่งที่ผ่านมาในช่วงวิกฤต Covid19 ชาวนาเกลือได้รับผลกระทบจากปัญหาราคาตกต่ำ เนื่องจากกำลังการรับซื้อจากภาคอุตสาหกรรมต่างๆ หยุดชะงักและหดตัวลงอย่างมาก ดังนั้นการแสวงหาตลาดใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อนำเสนอคุณภาพพรีเมียม ของ”ดอกเกลือเมืองเพชร” เพื่อให้เป็นสินค้าที่ขายได้ราคาสูง มากกว่าที่จะขายให้ได้ปริมาณมาก จึงเป็นอีกหนึ่งมาตรการที่จะช่วยสร้างความมั่นคงทางรายได้ให้ชาวนาเกลือ ซึ่งแนวคิดทั้งหมดนี้จะถูกขับเคลื่อนผลักดันเชิงนโยบายผ่านคณะทำงานพรรคชาติไทยพัฒนาต่อไป ดร.ยุทธพล กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนก็เป็นลูกหลานชาวนาเกลือคนหนึ่ง ครอบครัวของตน ตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ เป็นคนทำนาเกลือมาตลอดชีวิต และคลุกคลีกับเกษตรกรชาวนาเกลือ ได้ผลักดันให้เกิดการรวมกลุ่มของชาวนาเกลือเพชรบุรี และจังหวัดใกล้เคียง เพื่อสร้างอำนาจให้เกษตรกรในการต่อรองราคา และได้สนับสนุนช่วยเหลือกันมาตลอด ตั้งแต่สมัยที่คุณพ่อเป็นส.ส. และรัฐมนตรี ซึ่งปัจจุบันน้องชายของตน ได้สานต่องานทางด้านนาเกลือต่อจากคุณพ่อ ซึ่งครอบครัวให้ความสำคัญ ถือเป็นกลุ่มอาชีพที่จะทอดทิ้งไม่ได้ เพราะเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งอาชีพนาเกลือนั้นมีต้นทุนค่าแรงสูง ต้องใช้แรงงานจำนวนมาก หากราคาเกลือตกต่ำ ผู้ประกอบการอยู่ไม่รอด ก็จะส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน เดือดร้อนไปถึงภาคแรงงานในที่สุด
isaree40
27 พ.ย. 65 เวลา 18:16 น.
609
views
แสดงความคิดเห็น