Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

(วิศวกรไฟฟ้า) รีวิวการสัมภาษณ์งานสุดโหด

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

สวัสดีครับ smiley

พี่ชื่อ พี่แมน นะครับตอนนี้เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศกรรมไฟฟ้า แต่ตอนนี้ก็กำลังใกล้จบแล้ว แน่นอนว่าปัญหาของเด็กจบใหม่ทุกคนคือการเริ่มมองหางานที่ตัวเองใฝ่ฝัน แต่กับพี่นั้นไม่เลยเลย!!

เพราะพี่มีปัจจัยหลายอย่างที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการหางานเลย นั่นก็คือ "การยังไม่ผ่านการเกณฑ์ทหาร" พี่เชื่อว่าปัญหาเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับน้องๆ ผู้ชายหลายๆ คน เพราะว่าจะไม่ค่อยมีบริษัทรับทำงาน เพราะต้องผ่านการเกณฑ์ทหารก่อนเท่านั้น น้อยที่มากๆที่จะเปิดรับ พี่ก็เลยยอมไม่หางาน 1 ปีเต็มๆ เพื่อที่จะรอเกณฑ์ในปีหน้า (ก่อนหน้านี้พี่เคยสมัครหลายที่เลย แต่ไม่มีบริษัทไหนรับ TT) ซึ่งระหว่างรอปีหน้า พี่ก็วางแพลนอ่านหนังสือเตรียมสอบทั้ง การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ (TOIEC) ,สอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น (JLPT)  และที่สำคัญที่สุดคือสอบใบประกอบวิชาชีพของพี่เอง

และในวันนึงพี่กำลังนั่งรถไฟไปเที่ยวหัวหินกับเพื่อนในกลุ่ม จู่ๆมีโทรศัพท์ดังขึ้นมาและโทรมาบอกพี่ว่า
"คุณแมนรึเปล่าคะ โทรมากจากบริษัท........"
"จะขอนัดสอบสัมภาษณ์งานในวันที่ 23 มีนาคมนี้ คุณแมนสะดวกไหมคะ"

แต่ด้วยความที่รถไฟนั้นเสียงค่อนข้างดังบวกกับกลัวว่าเป็นคอลเซ็นเตอร์ พี่เลยตอบกลับว่า
"โทรมาจากบริษัทไหนนะครับ และทราบประวัติผมได้อย่างไร"

ซึ่งทางบริษัทแจ้งว่าทราบมาจากเว็บหางานสีส้ม และได้เห็นประวัติเลยโทรมานัดสอบสัมภาษณ์ ในใจของพี่ตอนนั้นก็ยังไม่อยากเชื่อและตกใจไปหมด บวกกับเรายังไม่รู้ที่มาที่ไปของบริษัทนี้เลย เลยให้ทางบริษัทส่งอีเมลมายืนยันและให้ส่งรายละเอียดของงานมาก่อนที่ตัดสินใจที่จะไปสัมภาษณ์

ในอีก 2 วันถัดมาทางบริษัทก็ได้ส่งอีเมลมาแจ้งเตือนเรื่องให้ไปสอบสัมภาษณ์พร้อมกับให้เตรียมหลักฐานการสมัครต่างๆ   และให้ไปสัมภาษณ์ตามวันเวลาที่กำหนด

เอาจริงๆนะน้องๆ พี่ตื่นเต้นมากๆ เพราะพี่คิดว่าหลังจากเรียนจบต้องกลับบ้านไปอ่านหนังสือเหงาๆ  ไม่คิดว่าจะได้งาน ในใจก็แอบคิดว่าโทรเรียกให้เราไปเอง และประวัติในเว็บส้มระบุชัดเจนว่า พี่ยังไม่ผ่านเกณฑ์ทหารพี่ก็เลยคิดว่าเขาคงให้โอกาสพี่แน่ๆ

--- แต่ความจริงแล้วนั้น ---

ณ วันสัมภาษณ์ เวลา 8.00 น.


ก่อนเข้าบริษัทพ่อของพี่ได้ไปส่งพี่หน้าบริษัท ซึ่งพี่รปภ. ไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าพี่เลยต้องเข้าไปคนเดียวหลังจากนั้นพี่ก็แลกบัตรประชาชนและเข้าไปในบริษัท ไปที่ตึกสักตึกนึงพี่คิดว่าน่าจะเป็นตึกสำนักงานทั่วไป แลังจากนั้นพี่แจ้งเจ้าหน้าที่ตรงนั้นว่า
"มาสัมภาษณ์งานใช่ไหมคะ รบกวนรอในห้องนี้ก่อน เดี๋ยวพี่เอาเอกสารการสมัครงานไปให้"
น้องรู้ไหม ห้องนั้นเหมือนห้องเชือดเลยอ่ะ แอร์คือเย็นมากก กลังจากนั้นพี่เจ้าหน้าที่ก็ให้เอกสารพี่มา มีเอกสาร 3 อย่าง
1) ใบสมัครงาน : น้องเชื่อไหมใบสมัครงานคือกรอกเยอะมากกก ทั้งข้อมูลส่วนตัวของเราทั้งหมด ตั้งแต่ชื่อ ข้อมูลส่วนตัวล้านแปด ประวัติการศึกษา  ประวัติการทำงาน ความสามารถพิเศษ น้องอาจจะนึกภาพมันออกในเอกสารมียังความเร็วในการพิมพ์ดีดอ่ะน้อง คือละเอียดมาก นอกจากนี้ยังมี ประวัติบิดา มารดา ประวัติผู้รับรอง พี่ก็ไม่รู้ที่อื่นเป็นยังไงนะ แต่อันนี้เป็นที่แรกของพี่ พี่หวังว่าที่อื่นจะไม่เยอะขนาดนี้นะ5555
2) ใบกาข้อสอบสำหรับแบบทดสอบ : ตอนแรกพี่กลัวมากนะจะสอบอะไร ในหัวแทบไม่มีอะไรเลย ปรากฏว่าเป็นการสอบประเมิน   personality พี่ก็ค่อยยังชั่วหน่อย แต่!! มี 120 ข้อทำตาแตกไปเลยเยอะมาก เยอะจนพี่คิดว่าพี่มาทำอะไรเนี่ย
3) ชุดข้อสอบ : มันก็เป็นข้อสอบง่ายๆ แค่ตอบตามความรู้สึกและความเป็นจริงของเรา มีตัวเลือกแค่ ก. กับ ข. เท่านั้นแค่เลือกว่าอะไรเป็นตัวเรามากที่สุดก็ทำไปเลย 120 ข้อ

ซึ่งทั้งหมดที่พี่กรอกใบสมัครและทำข้อสอบปาเวลาลาไป 40 นาทีตอนนั้นเวลา 8.40 น. แต่เวลาสัมภาษณ์จริงของพี่ 8.30 น.  แต่เหมือนเขาให้พี่รอต่อไปเรื่อยๆ เหมือนรอพี่ที่จะสัมภาษณ์มาครบ

ระหว่างนั้นพี่ก็ลองถาม-ตอบกับตัวเองในใจ เพื่อจะได้ไม่รนตอนถูกสัมภาษณ์ เช่น การแนะนำตัว ข้อดีข้อเสียของตัวเอง เห็นตัวเองอย่างไรใน 3 ปีข้างหน้า อยากได้เงินเดือนเท่าไหร่ พี่ก็นั่งเตรียมคำตอบนะจะได้ไม่รน จนเวลา 9.00 น. มีพี่ผู้ชายคนนึงเรียกพี่ให้ไปสัมภาษณ์ ซึ่งตึกที่จะสัมภาษณ์อยู่คนละตึกกัน

นี่แหล่ะเวลาที่ทุกคนรอคอย นั่นคือเวลาเข้าห้องเชือดอย่างแท้จริง

บรรยากาศในห้องเย็นมาก ตามสไตล์คนที่ตื่นเต้น ในห้องมีกรรมการ 6 คนซึ่งพี่เชื่อทั้ง 6 คนเป็นวิศกรไฟฟ้าของบริษัททั้งหมด เพราะดูจากการแต่งตัวไม่เหมือนคนทำงานออฟฟิศ กรรมการแต่ละท่านมีกระดาษคนละ 2 แผ่น มีใบประเมิน (อารมณ์ประมาณมี 5 ช่องดีถึงแย่) และก็กระดาษเปล่าสำหรับจด เนี่ยแหล่ะสิ่งที่พี่กลัวกลัวพูดอะไรไม่ดีแล้วเขาจดไป555

คำถามแรก แนะนำตัว : พี่ก็แนะนำตัว ชื่อ สกุล ชื่อเล่น อายุ ระดับการศึกษาปัจจุบัน ประสบการณ์การฝึกงาน งานปริญญานิพนธ์ที่ทำ ประวัติการทำกิจกรรมในรั้วมหาวิทยาลัย

คำถามที่ 2 จากการฝึกงานคุณได้ทำอะไรบ้าง : ตอนนั้นพี่ฝึกงานเป็น Lighting Engineer ออกแบบระบบไฟฟ้าแสงสว่างภายในอาร พี่ก็ตอบกรรมการไปแบบนี้

คำถามที่ 3 ไหนคุณลอกอธิบายสิถ้าผมอยากออกแบบระบบแสงสว่างในออฟฟิศจะทำอย่างไร : พี่ก็อธิบายไปเลยต้องใช้ค่าความสว่างเท่านี้ เลือกหลอดแบบนี้ ออกแบบโดยโปรแกรมนี้ จะได้ผลออกมาแบบนี้
แต่.....

คำถามที่ 4 ถ้าผมไม่ให้คุณใช้โปรแกรม คุณคิดมือได้ไหม : อ่ะความชิปหายมาเยือนแล้ว คือคิดมือมันก็คิดได้แต่ถ้าให้พ่นสูตรออกมา มันก็จำไม่ได้แน่นอน พี่ก็เลยตอบเขินๆไปว่า "คิดได้ครับ แต่สูตรและตัวแปรค่อนข้างเยอะเลยคิดได้ยาก" แต่พี่ก็อธิบายขั้นตอนไปนะ กรรมการก็ดูพอใจ

คำถามที่ 5 สาย Overhead คืออะไร : เอ้าจะระบบแสงสว่างมาเวย์นี้ได้ไงวะ อ่ะแต่ก็ไม่มั่นใจว่าหมายถึงสายไหนก็เลยถามเขาไป แต่เขาก็บอก "ไม่รู้อ่ะ เขาเรียกสาย Overhead" เอ้าเล่นแล้วไงแต่พี่ก็ตอบนะ ตั้งแต่สายส่งแรงสูง แรงกลาง แรงต่ำเอาให้ครบทุกเส้นไปเลย
คำถามที่ 6.1 รู้จักสายดินไหม : เออพี่ก็ต้องตอบรู้จักสิ และก็อธิบายการทำงานไป
คำถามที่ 6.2 รู้จักสายนิวทรัลไหม : อันนี้ก็รู้จัก ก็ตอบไป
คำถามที่ 6.3 ทั้งสองสายมันต่างกันอย่างไร : อันนี้ก็ต้องใช้สิ่งเรียนเรียนมาตอบ พี่ก็ตอบตามความเข้าใจของพี่ อันไหนที่เขาไม่เคลียร์ในคำตอบของเรา เขาก็จะถามเพิ่มเอง แต่พี่ก็เริ่มล่กละ5555
คำถามที่ 6.4 รู้จักตู้คอนซูเมอร์ยูนิตไหมและรู้ไหมมันต่ออย่างไร :  อันนี้ดีนะที่พี่เคยอ่านมาเลยอธิบายตั้งแต่สายไฟออกจากมิเตอร์ไฟฟ้ายันเข้าตู้ออกตู้ไปเลย
คำถามที่ 6.5 สายดินและสายนิวทรัลใช่ร่วมกันได้ไหม :   พี่เริ่มแปลกๆละ ถามลึกมากมันครอบจักรวาลที่เรียนเลย บางทีพี่ก็เอ๊ะ เออทำไมวะ มันไม่รู้แต่ก็ตอบไปว่า ไม่ทราบจริงๆครับ ให้พี่แถก็คงไม่รอด555 กลังจากนั้นเหมือนสงสารพี่เลยเปลี่ยนเรื่อง

คำถามที่ 7 รู้จัก PLC ไหม ใช้เป็นไหม  : พี่ก็ตอบว่ารู้จัก พี่บอกเพิ่งรู้จักเพราะลงเรียนวิชาเสรีตัวนี้ แต่เขาถามพี่ว่า "ถ้าไม่ลงเรียนก็จะไม่รู้จักเลยหรอ"  หน้าพี่สั่นเลยได้แต่ตอบว่าครับ คือในหัวพี่พี่ต้องตอบไงวะ ก็เพิ่งรู้จัก

คำถามที่ 8 เซอร์กิตเบรกเกอร์ทำงานอย่างไร มันรู้ได้ไงว่าต้องตัดไฟ และอธิบายกลไกการทำงานของมัน : โหอันนี้คือแบบรัวปืน แต่ก็ยังดีที่ตอบได้จนน่าตกใจว่า กูตอบได้ไงวะ555

คำถามที่ 9 บ้านคุณมีพัดลมไหม มีกี่ปุ่ม แล้วเวลาเปลี่ยนปุ่มทำไมความเร็วถึงเปลี่ยน : คำถามนี้ยกเป็น MVP เพราะในหัวพี่แทบไม่รู้อะไรเลย รู้แค่ว่ามันเกี่ยวกับขดลวดพี่ก็ตอบไปแค่นี้ แล้วเขาก็ถามต่อ "ทำไมล่ะ เกี่ยวอะไรกับขดลวดอธิบายสิ ตัวแปรไหนมันเปลี่ยน" พี่แทบจะยกธงขาวคือคำถามมันก็ไม่ยากหรอก แต่เหมือเราก็ไม่ได้เตรียมมาที่จะตอบอย่างให้ให้เขารู้ว่าเรารู้มันจริงๆนะ พี่ก็เงียบแล้วบอกว่าตอบไม่ได้จริงๆครับ เกมไปเรียบร้อย

จนถึงตอนนี้พี่นั่งในห้องสัมภาษณ์ประมาณครึ่งชั่วโมงได้ เกร็งไปทั้งตัวและเขาก็ถามว่า
คำถามที่ 10 คุณยังไม่เกณฑ์ทหาร คุณจะทำอย่างไรต่อไป :  เอาจริงพี่ก็รู้แหล่ะว่าเขาต้องถามคำถามนี้ พี่ก็เลยตอบไปว่า มีแผนว่าจะเกณฑ์ปีหน้า คือมันก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเกณฑ์ (ส่วนใครอยากรู้ทำไมพี่ไม่เกณฑ์ปีนี้ Comment ถามได้เลย) พี่ก็ตอบว่าถ้าไม่ได้งานที่นี้ก็จะอยู่บ้าน อ่านหนังสือเตรียมสอบที่พี่ตั้งใจจะไปสอบ เพราะเคยสมัครบริษัทอื่นแต่เขาไม่รับเพราะเหตุผลนี้
คำถามสุดท้าย มีอะไรจะถามไหม : เอาจริงพี่เหนื่อยมากนะตอบแต่ละคำถาม555 พี่เลยถามไปว่าจะรู้ผลสัมภาษณ์เมื่อไหร่ เขาก็เลยตอบสัปดาห์หน้า
 
อันนี้เป็นประสบการณ์สัมภาษณ์งานของพี่เอง พี่ไม่ได้บอกว่าพี่ตอบดีหรือไม่ดีนะ แต่พี่ตอบตามความรู้สึกในตอนนั้น แต่พี่ก็กลับมาคิดได้ว่า นอกจากนี้ยังมีอีหลายคำถามเลยที่พี่ไม่ได้ใส่มา เพราะเหนื่อยแล้วนั่งพิมพ์555

เอ๊ะถามแต่วิชาการ ไหนคำถามจิตวิทยาของ HR อุตส่าห์นั่งดู tiktok สัมภาษณ์งานมาไม่ได้ใช้เลย สุดท้ายนี้พี่ก็หวังว่าจะได้งานที่นี่นะ เป็นกำลังใจให้พี่ด้วย ไว้ผลออกเมื่อไหร่จะมาเฉลย

ถ้าใครมีคำถามสามารถคุยกันได้เลยนะหรือจะถามเรื่องเรียนก็ได้เลย

ขอบคุณครับ
พี่แมน
 

แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น