Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

{Review} *Life in Switzerland* #นักเรียนแลกเปลี่ยน

ตั้งกระทู้ใหม่
 

         

          Gruezi!! สวัสดีค่ะ เราเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โครงการ AFS วันนี้ก็อยากมาแชร์ประสบการณ์ (และรูปภาพจำนวนมาก;-;) หลังจากอยู่มาได้ 8 เดือนกว่า ๆ ... 

          ก่อนอื่นเลย เราไม่เคยรู้เหตุผลที่อยากมาแลกเปลี่ยน (...) คิดแค่ว่า เป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตมัธยมปลายที่จะได้ไปใช้ชีวิตต่างแดน ได้ไปลองอยู่ในที่ใหม่ ๆ ไปพบเจอกับคนใหม่ ๆ ได้ลองเรียนภาษาใหม่ ๆ ได้ลองใช้ชีวิตคนเดียว อือ มันก็เป็นอะไรที่น่าลองดีนะ ถ้าไปตอนป.ตรี ป.โท หรือทำงาน มันก็จะไม่ใช่ประสบการณ์แบบนี้แล้วอะ นี่เรียกว่าเหตุผลที่มาได้มั้ย 555 ละสำหรับเราคือทุกประเทศน่าสนใจหมด แต่ที่เลือกสวิตเซอร์แลนด์เพราะสวย สะอาด เจริญ ปลอดภัย แล้วก็คิดว่าในอนาคตอาจได้ใช้ภาษาเยอรมัน สรุปก็ฟิ้วววว แปป ๆ ก็บินมาอยู่นี่ละ

       

      เมืองที่เราอยู่ชื่อ Basel เป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของสวิสรองจากซูริก และเบิร์น ตอนรู้นี่ดีใจมาก เพราะทีแรกไม่รู้จักบาเซล คิดว่าจะเป็นเมืองเล็ก ๆ แต่เปล่าเลย เมืองใหญ่มาก คนครึกครื้นมาก มีแหล่งช็อปใหญ่มาก ๆ ลบภาพภูเขาสวิสที่ฝันไว้ออกไปเลย ฮึกก แต่เมืองนี้สวยนะ มีแม่น้ำไรน์ผ่ากลางเมือง แล้วก็ข้ามฝั่งไปเที่ยวเยอรมันและฝรั่งเศสได้ง่ายมากกกกก

* Host Family *

   ตอนอยู่กับโฮสท์แรก คือภาษาพัฒนาไปไวมากกก เพราะเขาจริงจังเรื่องการใช้เวลาอยู่ด้วยกันมาก คือแฟมิลี่ไทม์สุด ๆ กินข้าวเย็นทีนี่นั่งอยู่บนโต๊ะเกือบสองชั่วโมง เขาจะคุยกันทุกเรื่องแบบการเมือง การศึกษา โซเชี่ยล ท่องเที่ยว หูย ถกกันรอบจักรวาล ละชอบวกมาถามเกี่ยวกับประเทศไทย 55555 ข้อดีที่เราเห็นจากโฮสท์นี้คือ ทัศนคติในการใช้ชีวิตเขาดีมาก ๆ แบบได้ความคิดใหม่ ๆ จากเขาเยอะ เขาแอคทีฟ ชอบเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ และเขารับฟังความเห็นทุกอย่างจากลูก ซิสพูดอะไรไม่มีขัด ต่อให้ขึ้นเสียงก็ไม่ว่า คือมีสิทธิที่จะพูดทุกอย่างอ่ะ 555 แต่ก็มีส่วนที่เราเข้ากับเขาไม่ได้ คือเรื่องโทรศัพท์ เขาจริงจังมาก สี่ทุ่มคือทุกคนต้องวางโทรศัพท์ แล้วเวลากลางวันห้ามเล่นให้เขาเห็นอ่ะ มันก็จะเกร็ง ๆ หน่อย ๆ เคยโดนทักว่าเล่นเยอะเกินไปด้วยTT_TT ทั้งที่ตอนนั้นแค่หาสูตรทำอาหารไทย นอกจากนั้นก็มีเรื่องงานอดิเรก เขาบอกคนสวิสทุกคนต้องมี Hobby เขาไม่ชอบเห็นเราว่าง อยู่ไทยเราขี้เกียจมาก พอมาเจอครอบครัวนี้ก็เลยแบบเหนื่อย เหนื่อยมากกกกก ตอนเย็นหลังเลิกเรียนเรามีเข้าชมรมแบด เต้น ไม่ก็พาหมาของโฮสไปเข้าโรงเรียน (หมาโฮสมันยังชีวิตไม่ว่างเลยคิดดู 5555) ต้องอ่านหนังสือที่เขาหามาให้ เล่นดนตรี ไรก็ว่าไปปป 

        
           บ้านก็จะอารมณ์เป็นทาวน์เฮ้าส์                          สวนหลังบ้านที่ต้องพาหมามาเดินเล่นนน

      ที่สวิสมีปิดเทอมถี่มาก ครั้งละสองอาทิตย์ ยกเว้นปิดเทอมฤดูร้อนปิดเดือนครึ่ง แต่เพราะโฮสไม่ชอบให้เราว่าง เราเลยถูกส่งไปเที่ยว ไปเข้าค่าย ไปทำงานตลอดเวลา เขาบอกถ้าเราอยู่แต่บ้านคงเล่นเฟสและไอจีทั้งวันแน่ ๆ (ซึ่งก็จริง 55555 laugh) ชีวิตเราเหมือนจะดีนะ แบบภาพที่เราโชว์ให้คนอื่นเห็นอ่ะ คนก็จะมองแบบ ดีจังเลย ได้เที่ยวโคตรเยอะเลยยย แต่ในภาพนั้นมีน้ำตาซ่อนอยู่ T_T แบบเหนื่อย 5555 อยากมีอารมณ์ขี้เกียจบ้าง นอนตื่นสายบ้างแบบที่ไทย เราไม่เคยมีโมเม้นท์นั้นเลย 55555 
      แต่พอผ่านจากครอบครัวนี้มาแล้วก็คิดว่าทั้งหมดเป็นประสบการณ์และความทรงจำที่ดีนะ เขาตั้งใจรับเรามาอยู่ให้เราเห็นว่าวัฒนธรรคนสวิสเป็นยังไง เราได้ลองหมดเลย เล่นสกีเอย เล่นกีฬาทางบกทางน้ำเอย ปีนเขา เดินเขา ทำอาหาร ละก็ได้ฝึกความอดทน ได้ออกมาจาก comfort zone รู้สึกคุ้มค่าดี เย้~~

                          
                                               ไปเล่นสกีกานนนนนนน #หนาว

        
             อาหารสวิสก็ต้องชีส ๆ อันนี้คือ Raclette เป็นชีสแผ่น ย่างแล้วกินกับมันฝรั่ง ผักดอง มันอร่อยกว่าฟองดูนะ เชื่อเราเถอะ 5555555

         
           นี่คือความสวิสดั้งเดิมที่เราไปประสบพบเจอมาในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน อย่างที่บอก โฮสบอกไม่อยากให้เราอยู่บ้าน เขาเลยติดต่อครอบครัวที่มีฟาร์มอยู่บนเขา ให้เราไปเปิดหูเปิดตาดู เขาขนาดไหนก็ดูรูปเลยยย แต่คือมันสวยมากกกกก สวยมาก สวยแทบลืมหายใจ สวยแบบ โอ้มายก้อด อะเมซิ่งสวิตเซอร์แลนด์heart อยู่บนเขาก็ไม่มีที่ช็อป ไม่มีเมือง ไม่มีคนเยอะ ๆ มีแต่วัวแต่ลา เช้ามารีดนมวัว ทำชีส ดูแลสัตว์ ชีวิต slow life ที่แท้ทรู ชอบมาก ชอบจนไม่อยากกลับไปหาโฮสเดิม (แต่ก็ต้องกลับ) 55555 
        อนึ่ง เพราะโฮสแรกเรามีกิจธุระส่วนตัวที่ทำให้เราไม่สามารถอยู่ต่อกับเขาได้ หลังเรากลับมาจากภูเขาได้เดือนกว่า ๆ ก็ย้ายโฮสมาอยู่กับโฮสปัจจุบัน ซึ่งก็ไม่มีอะไรมาก เขาใจดีสุด ๆ เราไม่ต้องเกร็งเวลาอยู่กะเขาอีกต่อไป มีเวลาว่างเยอะขึ้นมากมากมากกก แต่ข้อเสียคือเราใช้เวลาอยู่กะโฮสน้อยลง เพราะบ้านนี้ไม่ค่อยทำกิจกรรมร่วมกัน กินข้าวยังไม่พร้อมกันเลย 555 แต่เขาใจดีมาก โฮสบราน่ารักมาก เราให้อภัยยย

+ โรงเรียน +

        

        โรงเรียนเรามีชื่อน่ารัก ๆ ว่า โรงเรียนสวนเชอร์รี่ 55555 เป็นโรงเรียนมัธยมปลายขนาดใหญ่ นักเรียนหลายพันคน มีสายการเรียน (Schwerpunktfach) อยู่สามสายคือ Bio-Chemie / Math-Physics / Arts-Music ซึ่งอยู่สายไหนก็จะมีคาบเรียนวิชานั้น 4 คาบต่อสัปดาห์ (คาบละ 45 นาที) วิชาอื่น ๆ ก็ 2-3 คาบ ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่ค่อยเห็นความต่างเท่าไหร่ จะเรียนสายไหนก็เข้ามหาลัยได้หมด (เพื่อนบอกเรียนดนตรีก็เข้าหมอได้นะถ้าสอบติด) โรงเรียนเราเด่นเรื่องสายวิทย์ ถ้าไปโรงเรียนอื่นก็จะมีสายหลากหลายกว่านี้ เช่นสายภาษา ธุรกิจ ฯลฯ
        ที่สวิสเลือกวิชาเรียนไม่ได้เหมือนเมกานะ อ่ะ จะร้องT T มีตารางเรียนแบบที่ไทยเลย บวกลบคูณหารแล้วก็ชั่วโมงเรียนเยอะพอกัน บางวันเริ่มแปดโมงเลิกเที่ยง บางวันก็เลิกสี่โมง ช้าสุดคือเลิกเรียนหกโมงเย็นsad แทบสลบเลยบางวัน โคตรเหนื่อยย มีดีที่พักกลางวันเยอะ บางวันก็สามสี่ชั่วโมง กลับบ้านไปกินข้าวได้แล้วค่อยกลับมาเรียนใหม่
         ในห้องมีนักเรียนประมาณ 20 คน เดินเรียนด้วยกัน คาบเหมือนกันเกือบหมด ยกเว้นกีฬา เลือกได้และมีให้เลือกเยอะมากกก พายเรือ ตีกอล์ฟ ตีเทนนิส แบด วิ่ง ปีนผา ฯลฯ แล้วเด็กสายวิทย์จะเลือกได้ว่าจะเรียนดนตรี หรือ ศิลปะ แค่นั้นแหละ 55555 เราโชคดีนะที่ได้เพื่อนในห้องเฟรนด์ลี่และใจดีมาก คอยถาม คอยใส่ใจตลอด ไม่เย็นชา หยิ่ง ๆ นิ่ง ๆ แบบที่เคยได้ยินมา ทุกวันนี้ก็คุยกันได้ เข้ากันได้ดี ทริคเข้าหาเพื่อนฝรั่งคือเล่นสแนปกะเค้าเยอะ ๆ 555555 

+ ภาษา +
          สวิสมีภาษาประจำชาติ 4 ภาษาคือเยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลี และโรมานซ์ แต่สำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานภาษาอิตาลีหรือฝรั่งเศสมาก่อนก็จะถูกส่งมาเขตที่สื่อสารด้วยภาษาเยอรมันอยู่แล้ว ตอนสมัครสอบกะ AFS ไม่ต้องมีพื้นฐาน แต่หลังสอบติดต้องเรียนเป็นบ้าเป็นหลัง เพราะเขาขอใบรับรองระดับภาษาเยอรมันของเรา ซึ่งเราอยากสอบให้ผ่าน A2 ในเวลา 4 เดือน เราเลยเรียนเยอะมากกก อาทิตย์ละประมาณ 6 ชั่วโมงได้ สุดท้ายก็สอบผ่าน เฮ้ คือระดับที่เราได้มาจัดอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี นักเรียนแลกเปลี่ยนบางคนอยู่มานานก็เพิ่งได้ระดับนี้ นั่นก็คือ ภาษาเราดีก่อนมาแล้วนั่นเอง ตึ่งตึ๊งงงง ชีวิตการคุยกับโฮสท์เลยไม่มีปัญหา มีปัญหาแค่ตอนเรียนวิชายาก ๆ กะอ่านหนังสือนิยายเท่านั้นน พออยู่ไปนาน ๆ ภาษามันก็จะไปไกลแบบก้าวกระโดดดึ๋ง ๆ เราเลยแนะนำให้ เรียนภาษาให้มากเท่าที่จะทำได้ก่อนมา มันช่วยจ้าา แล้วก็อ่านหนังสือ ดูหนัง ดูข่าวก็ช่วยนะ แต่ปัญหามันก็มี นั่นคือออออ สวิสเยอรมัน นั่นเองจ้าา 
         ในสวิส ทุกคนพูดเยอรมันได้ก็จริง แต่พูดแค่เวลาทางการหรือใช้สอนในโรงเรียนเท่านั้น คนสวิสทั่วไปพูดภาษาสวิสเยอรมันกัน ซึ่งจะพบเจอได้ทั่วไปตามท้องถนน ที่บ้าน ในทีวี โฮสพูดกันเอง หรือเพื่อนพูดกันเอง เอาจริง ๆ คือมันแตกต่างกันมากกกก หูดับเลยอ่ะเวลาฟัง ไม่รู้เรื่องเลย 55555 และพอฟังไม่รู้เรื่องมันก็จะน่าเบื่อมาก ต้องรอคนแปลจากสวิสเยอมาเป็นเยอรมันอีกทีfrown ความยากของสวิสเยอคือไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว ใครใคร่พูด พูด ใครใคร่เขียน เขียน ไม่มีหนังสือให้เรียน ไม่มีคนสอน อยากฟังรู้เรื่องก็คืออยู่ ๆ ไปเดี๋ยวก็รู้เรื่องขึ้นมาเอง (เอ้อ...) แต่ใช่ว่าจะฟังรู้เรื่องทั้งหมดนะ สวิสเยอก็เหมือนภาษาถิ่น มันแตกต่างไปตามแต่ละพื้นที่ด้วย เราอยู่ Basel ก็จะฟัง Basel-Deutsch ออก แต่อย่างของเบิร์นหรือซูริก เราก็ไม่คุ้นเลย แต่ถ้าเก่งภาษาเยอรมันแล้ว ก็จะค่อย ๆ เดาไปได้เองว่าคำนี้ในสวิสเยอหมายถึงคำไหนในเยอรมัน แต่อย่าคาดหวังว่าจะพูดสวิสเยอได้ มันยาก เพื่อนกะโฮสจะคุยกับเราเป็นภาษาเยอรมันซะส่วนใหญ่อยู่แล้ว ตั้งใจเรียนเยอรมันไปเถอะะ

จบด้วยเรื่อง ++ เที่ยว ++
    สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่สวยมาก สวยงามทุกพื้นที่ ทุกฤดู ทุกเมือง โอ้ย มาเถอะแล้วจะไม่เสียใจ เพราะเป็นประเทศที่เล็กมากและสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก เราสามารถเที่ยวได้ทุกวันหลังเลิกเรียนหรือทุกเสาร์อาทิตย์ตามกำลังทรัพย์ 555555555 เป็นเด็กแลกเปลี่ยนสวิสเนี่ยเที่ยวคุ้มมาก พูดจริง ๆ เพราะโครงการจะออกบัตร Halbtax ให้ คือเสียตั๋วรถไฟแค่ครึ่งราคา หรือถ้าอยากเที่ยวให้คุ้มโคตร ๆ ก็มีบัตรชื่อ GA สามารถนั่งรถไฟ บัส เรือแบบ unlimited ตลอดปี (แต่ราคาโหดมาก น้ำตาเล็ดT^T) ถ้ามาเที่ยวเฉย ๆ ก็มีสวิสพาสนะ หาข้อมูลตามกูเกิ้ลเลยเพราะไม่รู้จ้า 55555 นอกจากจะเที่ยวในสวิสแบบง่ายมาก ๆ แล้ว ยังข้ามไปเยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลีได้ง่ายมากกกกก สุด ๆ จากเหนือสุดลงใต้สุดแค่ 5 ชม. จากเมืองเราไปปารีส มิลาน แฟรงก์เฟิร์ตได้ใน 3 ชม. โอ้โหวเลย 5555 (แต่ไม่เคยไปนะ เก็บตังอยู่ อิอิ)
    ไปดูรูปกันนนนนsmiley

        
      
                     


เย้ จริง ๆ รูปมีเยอะมากแต่ลงไม่หมด แฮร่ มีคำถามเรื่องเที่ยว เรื่องเรียน เรื่องค่าใช้จ่ายก็หลังไมค์มาถามได้นะ>,< ชอบตอบ เพราะเราเป็นคนใจดี 55555

ปล. มาเม้าท์ได้นะ ตัวอยู่สวิสแต่ใจอยู่เกาหลี เลยจะปิดท้ายด้วยสองรูปนี้ แฮร่

   



 

แสดงความคิดเห็น

>

18 ความคิดเห็น

Wanderer 1 พ.ย. 60 เวลา 10:25 น. 1

โห สุดยอดมากเลยครับ อยากไปมั่งจังเลย

แล้วก็เพิ่งรู้ว่าสวิสพูดภาษาเยอร์มันกัน *0*

0
kazuki55 1 พ.ย. 60 เวลา 17:11 น. 2

ปีหน้าจะไปสอบAFSอยู่ค่าาาจะติดไมก็อีกเรื่องหนึ่ง แล้วพี่เตรียมตัวก่อนสอบยังไงค่ะ อย่ากสอบติดมากก

1
rainycrown 1 พ.ย. 60 เวลา 19:24 น. 2-1

พยายามท่องศัพท์ไปเยอะ ๆ ศัพท์ครูสมศรีก็ดี รู้เยอะได้เปรียบ ฝึกอ่านข่าวภาษาอังกฤษก็ช่วยนะ^^ ละเราทำข้อสอบย้อนหลังสองปี รู้สึกว่าจะซื้อได้ตามศูนย์สอบ พยายามเข้านะ สู้ๆ

0
อยากไปบ้างเลยค่ะ 2 พ.ย. 60 เวลา 09:18 น. 4


เจ้าของกระทู้เขียนดีมากๆเลยค่ะ ทำเอาอยากไปสอบแลกเปลี่ยนตั้งแต่ตอนนี้เลย^^ ปกติเป็นคนไม่ชอบอ่านค่ะแต่กระทู้นี้อ่านจนจบเลย ไว้แวะมาเขียนอีกนะคะ อยากฟังเรื่องสวิสจากเจ้าของกระทู้เยอะๆเลย







0
rainycrown 29 พ.ค. 61 เวลา 17:07 น. 6-1

ประเทศอื่นกฎเคร่งนิดนึงนะคะ แต่ที่สวิสไปได้เลยค่า

0
แพรินทช์ 8 เม.ย. 61 เวลา 14:20 น. 7

สวิสเป็นประเทศที่1ในฝันเลยอ่ะอยากไปสักครั้งอยากไปแลกเปลี่ยนด้วย แต่เราเรียนภาษาจีนแล้วก็สอบทุนที่ประเทศจีนอยู่5555 แต่สวิตในอนาคตจะต้องไปให้ได้สักครั้ง ปล.ชอบปิดท้ายมากเลยค่ะ ตัวอยู่สวิสแต่ใจอยู่เกาหลี555 น้องหลินน

1
PaPiz 8 ก.ย. 62 เวลา 11:47 น. 7-1

แงงงงตอนนี้ได้ไปแลกเปลี่ยนที่ยูนนานประเทศจีนมาแล้วค่ะ ฮื่ออพึ่งกลับมาเลยย

0
engpsuwit2558 26 พ.ค. 61 เวลา 12:19 น. 8

แล้วถ้าเราเลือกเรียน Art-music เราต้องเอาไรไปบ้างอ่ะครับ หรือเเค่ไปเรียนทฤษฎี เฉยๆ

1
rainycrown 29 พ.ค. 61 เวลา 17:08 น. 8-1

ที่โรงเรียนมีเครื่องดนตรีให้หมดนะคะ มีเยอะกว่าที่ไทยด้วย:3 แต่ต้องรีเควสโรงเรียนดนตรีนะคะ บางโรงเรียนก็ให้เรียนแค่ทฤษฎี

0
Dream-Apinya 2 ก.ย. 61 เวลา 11:52 น. 10

เรากำลังจะไปเรียนที่บาเซิลค่ะ

หลังไมค์ได้ทางไหนบ้างคะ

ขอข้อมูลหน่อยค่า นะๆ 55

0
Masaru Yukiho 22 มิ.ย. 62 เวลา 14:30 น. 12

พี่ทำหนูอยากไปเลยอ่ะ นี่เลือกสวิสไปอันดับ 1 แล้วแต่เค้ารับแค่ 1 คนอ่ะ ตอนนี้เครียดมาก


0
tobi 10 ก.ค. 62 เวลา 16:21 น. 13

พี่ครับผมกำลังสงสัยอยู่ครับคือถ้าผมได้ไปนี้รัฐอะไรน่าจะดีที่สุดครับ


0
... 2 มิ.ย. 63 เวลา 21:25 น. 14

ในสวิสมีเขตไหนที่พูดภาษาฝรั่งเศษบ้างคะ แล้วการไปเที่ยวข้ามชายแดนในเขตนั้นๆลำบากมั้ยคะ

0
Yongyee 25 ต.ค. 63 เวลา 10:11 น. 15

ชอบรีวิวน้องมาก

พี่ดูเป็นแรงบัลดาลใจค่ะ

วางแผนให้ลูกสาวสอบชิงทุนAFSไปให้ได้

ควรเริ่มเรียนภาษาเยอรมันตั้งแค่ตอนไหนคะน้องเพิ่งป.1

0
Lala 14 ก.ย. 66 เวลา 13:55 น. 18

หนูได้ทุนไปสวิสของAfsค่ะ แต่ติดตรงที่ว่าไม่มีกำลังทรัพย์มากพอเลยไม่ได้ไปเสียดายมากๆเลยค่ะ ยิ่งเห็นพี่รีวิวยิ่งอยากไปปปมากกกๆ

0