Tips ดี ๆ ในการเตรียมตัวไปเรียนต่างประเทศ

Special Tips!!!

ใกล้ปิดเทอมแล้ว น้อง ๆ หลายคน
ช่วงนี้ พี่วินนี่ได้รับโทรศัพท์จากน้อง ๆ ทุกวันเลย ไปเรียนไหนดี เรียนอะไรดี มีทุนบ้างไหม เรียนในต่างประเทศยากไหม เพราะหลาย ๆ คน จะจบมัธยมกันแล้ว ก็อยู่ระหว่างตัดสินใจว่าจะเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่ไทยหรือต่างประเทศดี ส่วนน้อง ๆ จะจบปริญญาตรี ก็คิดว่าจะทำงานหรือเรียนต่อดี

วันนี้ พี่วินนี่มี Tips ดี ๆ ประกอบการตัดสินใจของคนที่กำลังลังเลกับการไปเรียนในต่างประเทศมาฝากกันค่ะ

ถามตัวเองก่อนค่ะว่าเราเป็นคนที่ชอบเรียนภาษาไหม ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ จีน ฝรั่งเศส และอื่น ๆ เพราะการไปเรียนในต่างประเทศ ไม่ว่าจะไปเรียนชาติไหน คุณก็ต้องมีความรักที่จะเรียนรู้ภาษาที่จะต้องใช้ในการเรียน ในการดำเนินชีวิตในประเทศนั้น ๆ ไม่ว่าต่อไปคุณจะเลือกเรียนสาขาอะไร ความสามารถด้านภาษาที่เป็นภาษาหลักในการเรียนต้องอยู่ในระดับที่สถาบันการศึกษานั้น ๆ กำหนด

ถ้าคำตอบคือ ใช่ !!!เราพร้อมที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับภาษา ก็ต้องมาวางแผนเรื่องประเทศกันค่ะ เพราะแต่ละประเทศก็มีกฏหมายเกี่ยวกับการเรียน การขอวีซ่าของนักเรียนต่างชาติ ที่แตกต่างกัน ค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิต และค่าเทอมก็ต่างกัน บางประเทศทำงานระหว่างเรียนได้ บางประเทศทำงานระหว่างเรียนไม่ได้ บางประเทศมีทุนการศึกษา บางประเทศไม่มีเป็นต้น หาข้อมูลก่อนนะคะว่าประเทศไหนน่าจะเหมาะกับเรา

แต่ถ้ายังไม่รู้ว่าแต่ละประเทศมีข้อแตกต่างกันอย่างไร จะตัดสินใจเลือกประเทศไหนดี ขอแนะนำว่า !!! หาข้อมูลจากเอเจ้น หรือบริษัทแนะแนวการศึกษาที่มีคุณภาพ เชื่อถือได้ ผ่านมาตรฐานการสอบ การอบรม สัมมนาของหน่วยงานระดับนานาชาติ ด้านการศึกษาและแนะแนวการศึกษาต่อต่างประเทศ ให้เป็นผู้แนะนำเราค่ะ

โดยเฉพาะถ้าเอเจ้นนั้น ๆ มีผู้ที่มีประสบการณ์การเรียน การใช้ชีวิต การทำงาน การเดินทางในต่างประเทศ เราก็จะได้คำแนะนำที่กระจ่างและถูกต้อง แม่นยำค่ะ

ไม่มีประเทศไหนที่ดีกว่ากันอย่างชัดเจน แต่องค์ประกอบเรื่องของตัวเรา ครอบครัวเราก็สำคัญค่ะ บางประเทศอาจจะมีคนไทยเยอะ แต่กฏเกณฑ์ก็อาจจะเยอะด้วย ต้องใช้สเตทเมนท์เยอะ ๆ มันอาจจะไม่เหมาะกับคนที่ฐานะทางบ้านไม่ดีมาก มีเงินฝากไม่มากพอ หรือไม่มีญาติช่วยสปอนเซอร์เรื่องค่าเล่าเรียน ลองมองหาประเทศที่คนไทยน้อยหน่อย ระเบียบกฏหมายไม่เยอะมาก ก็จะเป็นอีกทางเลือกที่ดีค่ะ ในเมื่อเราอยากเก่ง อยากประสบความสำเร็จในชีวิต อย่าเอาตัวแปรเรื่องคนไทยมากน้อย หรือมีเพื่อนอยู่เมืองใดเมืองหนึ่งมาเป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจ เอาความเหมาะสมกับตัวเราและอนาคตการเรียนเป็นเกณฑ์ในการตัดสินจะดีกว่าค่ะ

อย่าฟังแค่เขาเล่าว่าค่ะ เพราะหลายครั้งมากที่พี่วินนี่เจอกรณีที่บอกว่า เขาว่าอย่างนี้ ตอนนั้นเขาไปเรียนเป็นอย่างนี้ เพราะทุกประเทศมีการเปลี่ยนกฏหมาย กฏระเบียบทุกปี แม้กระทั่ง คนที่เดินทางไปในปีเดียวกัน บางครั้งต้นปีกับปลายปีกฏหมายก็ไม่เหมือนกันค่ะ ปรึกษาเพื่อนหรือคนที่เคยไปเรียนเป็นข้อมูลพื้นฐานได้ค่ะ แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องยึดกฏระเบียบ ณ ปัจจุบันของแต่ละประเทศ เอเจ้นที่มีบุคลากรที่มีความรู้ มีความเชี่ยวชาญ สามารถให้คำตอบเราได้ค่ะ เพราะหลาย ๆ คนไปยึดกับสิ่งที่เพื่อนบอกว่า แล้วทำให้วีซ่าไม่ผ่าน เดินทางไปเรียนไม่ได้กันเยอะมากค่ะ