Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รีวิวStudy In Harbin(มีนาคม-พฤษภาคม)

ตั้งกระทู้ใหม่
               สวัสดีค่ะ เดี๋ยวเรามาเเนะนำตัวเราก่อนดีกว่าเนอะ เราชื่อวิวค่ะ วันนี้เราก็จะมารีวิวการเรียนซัมเมอร์ที่จีนตอนช่วงปิดเทอมใหญ่ที่ผ่านมา(เราอยู่ม.2 ขึ้นม.3)
            เรื่องเเรกที่เราจะมารีวิวก็คือพี่สตาร์ฟค่ะ การเดินทางไปเรียนซัมเมอร์ครั้งนี้เราเลือกไปกับพี่ๆ Study In Harbin เพราะเห็นรีวิวมาค่อนข้างเยอะพอสมควร การไปเรียนครั้งนี้พี่เอ็ม Study In Harbin เป็นคนให้ Information ต่างๆกับเราเเละดูเเลเรื่องต่างๆทุกอย่าง ทั้งในเรื่องวีซ่า ตั๋วเครื่องบิน เเละการเดินทางไปกับน้องๆทั้งขาไปเเละขากลับ ในเรื่องการดูเเลของพี่สตาร์ฟเราว่าพี่เค้าดูเเลเราดีมากๆเลยค่ะ เวลามีน้องป่วยพี่เค้าก็คอยเข้ามาดูเเลเราตลอด เเละที่สำคัญพี่เค้าพาเราไปเที่ยวเเทบจะทุกจุดในเมืองฮาร์บินมีที่ไหนบ้างเราจะรีวิวให้ดูด้านหลังนะ พูดง่ายๆว่าการเดินทางครั้งนี้คุ้มมากเเละพี่ๆจัดการให้เราทุกอย่างพร้อมเลย ก็คือจ่ายเงินเเล้วรอบินเลยอะ 5555 ส่วนเรื่องการเรียนพี่สตาร์ฟไม่ได้เข้ามายุ่งในส่วนนี้เท่าไหร่ค่ะ เพราะอยากให้เราได้ฝึกใช้ภาษาจีนกับอาจารย์คนจีนเเละเพื่อนต่างชาติซะมากกว่า
            ตอนเเรกที่เราติดต่อพี่เอ็ม(พี่สตาร์ฟ)ไป พี่เค้าก็ถามว่าเรามีพื้นฐานภาษาบ้างไหม คือเราเป็นคนที่ไม่มีพื้นฐานภาษาจีนเลยค่ะ พี่เค้าก็เป็นห่วงเพราะการไปอยู่ที่นั่นต้องดูเเลตัวเองให้ได้ด้วยเพราะเราปิดเทอมช้ากว่าประเทศอื่นพอเราไปถึงคนอื่นก็เริ่มเรียนไปเเล้วประมาณ 5 วัน
           

           

           

            
นี่ก็เป็นภาพบรรยากาศบางส่วนสำหรับวันเดินทางนะคะ
       พอถึงวันเดินทางพี่เอ็มก็มารับที่สนามบินค่ะ กรุ๊ปที่เราไปมี 20 คน(ขอบอกก่อนว่าการเดินทางกับ Study In Harbin พี่ๆเค้ารับจำนวนจำกัดต่อกรุ๊ปประมาณ 20 คนเท่านั้นเพราะพี่ๆจะดูเเลได้ทั่วถึง) การเดินทางค่อนข้างที่จะเหนื่อยเพราะเดินทางทั้งวัน กว่าจะไปถึงก็ประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ ตอนเปลี่ยนเครื่องพี่เอ็มกลัวน้องๆเหนื่อยก็เลยทำการจองห้องพักให้น้องๆได้อาบน้ำ นอนรอพักเครื่อง

        ตอนลงเครื่องอากาศอยู่ที่ -12องศาค่ะ ครงกับช่วงฤดูใบไม้ผลิ ส่วนใครสนใจไปในช่วงหน้าหนาวอันใกล้นี้ก็สามารถไปในช่วงตุลาคมค่ะ เห็นพี่เค้าจัดโปรเเกรมอยู่ พอไปถึงก็เข้าห้องพักค่ะ หอที่เราพักก็คือ A6 ค่ะ ในส่วนของ International Dorm ก็จะมี 2 หอค่ะ ก็คือ A6 เเละ A13 ห้องพักของเราจะเเบ่งเป็นในห้องใหญ่ 1 ห้องจะมีห้อง นอน 2 ห้อง เเละห้องน้ำ 1 ห้องค่ะ ในห้องนอน 1 ห้องก็จะนอน 2 คนค่ะ
      เเละจุดพีคที่สุดของ Study In Harbin น้องเดินทางมาถึงดึก พี่ๆทีนงานเตรียมข้าวไก่ทอดกระเทียมไว้ให้คนละกล่อง....ฟินเวอร์ เเละนอกจากนี้พี่ๆทีมงานกลัวน้องเบื่ออาหารจีนทุกอาทิตย์จะมีอาหารไทยให้น้องๆทานฟรี!!!
กดไลค์จ้า~ตามภาพเลย

                   
             วันต่อมาพี่เอ็มนัดตอนประมาณ 11 โมงค่ะ เพื่อสอบวัดระดับภาษาจีน โดยเเบ่งเป็นคลาส A B C D E F ในส่วนของการสอบจะมีทั้งการสอบสัมภาษเเละสอบเขียนค่ะ เราได้อยู่คลาส A ค่ะ เป็นคลาสเริ่มต้น
                    

                     

                     

                  

                  
คลาสเราเอง~
         มาดูเรื่องการเรียนมั่งดีกว่า สำหรับคลาสเราใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารบ้างค่ะ สำหรับคนที่พื้นฐานภาษาอังกฤษไม่ค่อยดีไม่เป็นไรค่ะ เค้าจะพยายามทำทุกอย่างให้เราเข้าใจ เเต่ในส่วนของคลาส B ขึ้นไปจะใช้ภาษาจีนในการสอนค่ะ สำหรับเรื่องการบ้าน...ค่อนข้างที่จะเยอะค่ะ 5555 เเต่ก็ไม่ได้เยอะขนาดไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่นเลย เพราะเราก็ออกไปเที่ยวทุกวัน เหล่าซือค่อนข้างที่จะจริงจังกับการสอนค่ะ สอนเข้มเวอร์ สอนดีมาก เข้าใจง่ายด้วย เเต่เราคิดว่าเราไปทั้งทีก็ควรที่จะเก็บเกี่ยวความรู้ให้ได้เต็มที่
         ในส่วนของเรื่องวิชาเรียนก็จะมีทั้งหมด 4 วิชาค่ะ ก็จะมีวิชาจงเหอ(综合课) เป็นวิชาที่รวมทุกอย่างทั้งพูด อ่าน เขียน ฟัง เเละเเกรมม่าค่ะ วิชานี้จะมีเรียนทุกวันค่ะ หรือจะเรียกว่าเป็นวิชากลักเลยก็ว่าได้ วิชาที่ 2 ก็คือวิชาทิงลี่(听力课)ค่ะ เป็นวิชาฟัง มีเรียนอาทิตย์ละ 2 ครั้ง วิชาต่อมาก็คือวิชาตู๋เสีย(读写课)เป็นวิชาเขียนค่ะ มีเรียนอาทิตย์ละครั้ง วิชาสุดท้ายก็คือโข่วหยู(口语课)ค่ะ เป็นวิชาพูด มีเรียนอาทิตย์ละ 1 ครั้งค่ะ
          อาหารการกินที่นี่เราก็ว่าดีนะ มาดูอาหารในมหาลัยฯกันก่อนดีกว่า ในมหาลัยฯจะมีทั้งหมด 4 โรงอาหารค่ะ โดยการจ่ายเงินจะต้องใช้บัตรฟ้าข่า(饭卡) ยกเว้นโรงอาหารเฮยเตี้ยนค่ะที่สามารถจ่ายเงินสดได้ อาหารค่อนข้างที่จะหลากหลายค่ะ ส่วนใหญ่เราจะไปโรงอาหารที่ใหญ่ที่สุดค่ะ เป็นโรงอาหารที่มี 2 ชั้น ราคาอาหารค่อนข้างที่จะถูกค่ะ
       มาต่อที่ร้านอาหารนอกมหาลัยฯกันมั่ง ร้านอาหารค่อนข้างที่จะเยอะค่ะ ส่วนใหญ่ตอนเย็นเราก็ออกไปกินข้างนอก
ร้านอาหารเกาหลีค่อนข้างที่จะเยอะเพราะนักศึกษาเกาหลีที่นี่ค่อนข้างที่จะเยอะค่ะ ราคาก็จะเเพงกว่าอาหารในมหาลัยฯ เเต่ก็เป็นราคาที่เราพอจ่ายได้ค่ะ ส่วนใหญ่เราก็จะไปกินปิ้งย่าง....หนาวๆก็ต้องอยู่หน้าเตาสิ//อ่าวไม่ใช่หรอ 5555
                 

       ที่เที่ยวที่นี่ค่อนข้างน่าสนใจค่ะ พี่สตาร์ฟพาเราไปหลายที่เลย ทั้งเรียนรู้ประวัติศาสตร์เเละเเบบชิวๆ บอกเลยครบ!!!
ช่วงอาทิตย์เเรกที่มาถึงพี่ๆก็พาไปเดินโบสถ์เซ้นโซเฟียเเละถนนจงยางซึงเป็นถนนสายการค้าที่สำคัญในเมืองฮาร์บิน เเละเเนะนำสายสายรถเมล์ สายรถไฟเพื่อไปเที่ยวเองได้ด้วย
              
              

              

              
 
               
ในส่วนของถนนจงยางค่ะ
      ต่อไปเรามาเรียนรู้ประวัติศาสตร์กันบ้าง==> พิพิธพัณธ์ 731 ค่ะ เป็นสถานที่ที่ค่อนข้างจะหดหู่นิดหน่อย เเต่ได้ความรู้มากๆเลยค่ะ เป็นสถานที่ที่ทหารญี่ปุ่นใช้มนุษย์ในการทดลอง โดยใช้คนจีนในการทดลอง ด้านในพิพิธพัณธ์มีการจัดเเสดงอุปกรณ์จริงเเละห้องเเลปจริงๆที่มนุษย์ใช้ทำการทดลองสมัยนั้น
 
                

                

               

              

                 
     สถานที่ค่อไปก็คือ...หมู่บ้านรัซเซียค่ะ เเต่เราว่าถ้ามาช่วงเดือนมกรา-กุมภาน่าจะสวยกว่านี้ (ค่าเข้าของเเต่ละ seasonไม่เท่ากันค่ะ) นั่งรถไปค่อนข้างไกลค่ะพี่เอ็มเลยเหมารถให้ ฟรีทั้งค่าเข้า ค่ารถไปเลยค่า เอาจริงๆเราเห็นพี่ๆเค้าทำเเคมป์นี้เรายังคิดอยู่เลยว่ากำไรมากจาก...ไปดูภาพบรรยากาศกันดีกว่า อ้อ! อย่าลืมพกบัตรนักเรียนติดตัวไว้ตลอดเน้อ
                    
ทางเข้าค่ะ

หนาวจนน้ำเป็นน้ำเเข็งอ่ะคิดดู



หมู่บ้านหมี~
    เบื่อหมู่บ้านรัซเซียละ ไปเข้าวัดทำบุญกันมั่งดีกว่า 555 ไม่ต้องเสียเวลาอธิบายไปดูรูปกันเลยดีกว่า วันที่พี่ๆพาไปเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในฮาร์บินชื่อวัด จี๋เล่อ เป็นวัดที่อยู่ใกล้สวนสนุกเมืองฮาร์บิน นับว่าเป็นที่สวยงามเเห่งหนึ่งของเมืองเลยก็ว่าได้ เอ้อเเต่ลืมบอก ก่อนเข้าวัดนี่ต้องกินอาหารเจก่อนนะ...ไม่ใช่อะไร มันอร่อย!!! บริเวณรอบๆวัดอาหารค่อนข้างที่จะอร่อย ใครผ่านๆไปเเถวๆนั้นก็ลองชิมดู

อาหารจานเเรกมาเสิร์ฟเเล้ว

ตามด้วยจาน 2

อะๆจานที่ 3 ค้าบ

รูปขอกินพอยัง...พอเเล้วเเหละ มาอิ่มบุญมั่งมา

ไหนๆมากันครบยัง ถ่ายรูปรวมหน่อยซิ

อะทำบุญๆ

เค้าบอกว่าถ้าโยนเหรียญเข้าพรที่ขอจะสมหวัง

ไปเดินถ่ายรูปเล่นชิวๆที่เมืองโบราณต่อเลยค่า

น่ารัก~

อ่า...อยู่ฮาร์บินมาตั้งนาน เพิ่งเจอความจีน 5555

เอ๊ะ เเต่ตึกมันไม่จีนนะ 5555

จัดว่าดีย์

อ่า ใกล้จะกลับเเล้วก็ต้องซื้อของฝากสิ

เเล้วมาจีนจะให้ซื้ออะไรล่ะ ถ้าไม่ใช่ชา
      เข้าไปตึกชาเลยค่า การเดินทางก็ไม่ยากด้วย พี่เอ็มบอกมาเรียนภาษาจีนทั้งทีก็ต้องชมประเพณีการชงชาหน่อย เพราะการชงชาเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ขอบอกเลยว่าจะชิมเเล้วไม่ซื้อก็ได้นะ เค้าไม่ว่า ชานี่หลากหลายรสชาติมากอ่ะ
           มาต่อกันที่ลานดนตรีเมืองฮาร์บิน อันนี้เรารีเควสพี่เค้าไป เเล้วพี่เค้าใจดีพาเราไปด้วยเเหละ มาดูกันดีกว่าว่าสวยเเค่ไหน

ลมมันก็จะเเรงหน่อยๆ
         การเดินทางค่อนข้างที่จะยากนะเนี่ย~
         ไปดูลานดนตรีเมืองฮาร์บินกันต่อดีกว่า

มันก็จะสวยๆเเบบนี้เเหละ

ถ่ายลงไปที่ถนนก็จะเป็นเเบบนี้

ไปเดินเล่นชิวๆข้ามสะพานดีกว่า ลมเเรงมากอ่ะ หมวกเกือบปลิวตกน้ำ

พอเปิดไฟตอนกลางคืนมันก็จะสวยประมาณนี้เเหละ

มาสรุปการรีวิวครั้งนี้ของวิวกันดีกว่าค่ะ เราว่ามากับ Study In Harbin ดีทุกอย่างจริงๆนะ เพราะว่าพี่สตาร์ฟก็ดูเเลดี ใครที่สนใจก็ลองหาข้อมูลดูนะคะ ในเฟสบุ้ค Study In Harbin
ได้ประสบการใหม่ๆมากมาย ได้สังคมใหม่ เพื่อนใหม่ๆเยอะมากเลยค่ะ
เเละที่สำคัญได้ถ่ายรูปสวยๆ//อ่าวไม่ใช่หรอ 5555...ได้ความรู้กลับไปเต็มๆเลยค่ะ

แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น

_blanket 25 พ.ค. 61 เวลา 21:46 น. 2-1

สำหรับเรื่องทักษะภาษาจีนของเราตอนนี้คือพอที่จะฟังเค้าพูดรู้เรื่องค่ะ สามารถที่จะอ่านออกเพราะว่าเราไปอยู่นู่นถึงยังไงก็ต้องใช้ภาษาจีนอ่ะเนอะ มันก็เลยซึมซับไปในตัวด้วย ไม่ใช่ได้รับเเค่ในห้องเรียน

0
_blanket 25 พ.ค. 61 เวลา 21:55 น. 2-2

เเต่ว่าก็ขึ้นอยู่กับความใฝ่รู้ของเเต่ละคนด้วยนะ เเต่ยังไงก็ได้อะไรกลับมาค่ะได้มากได้น้อยเเค่นั้นเอง

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น