Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ติดมหาลัย Top 3 ของจีน ไม่ผ่านagency+แนะนำทริค

ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่า นี่เป็นกระทู้แรกของเรา อาจจะเขียนมึน ๆ หน่อย ขออภัยล่วงหน้าด้วยนะคะ เราอยากทำกระทู้มานานมาก แต่ตอนนั้นเรายังไม่รู้จะเขียน หรือแนะนำเรื่องอะไร ตอนนี้เราสอบติดมหาลัย Zhejiang University(浙江大学)คณะนิติศาสตร​์ เรียนภาคภาษาจีนค่ะ

เราชื่อ เอมมี่น้า จบมัธยมจาก โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สายศิลป์ภาษาจีน จริง ๆ แล้วเราไม่ชอบภาษาจีนเลย (ทุกคนอาจจะงงว่าทำไมเราเลือกศิลป์จีน) ก็เราเลือกผิดสายไง จริง ๆ เราอยากสอบเข้าศิลป์เยอรมัน แต่ดันกดเลือกผิดตอนสมัคร เลยได้เรียนภาษาจีนซะงั้น แต่พอได้เข้าไปเรียนจริง ๆ เราก็รู้สึกรับไม่ค่อยไหว เพราะเนื้อหาในโรงเรียนอัดแน่นมากก เราก็เริ่มเทภาษาจีน แต่โชคดีที่เพื่อนสนิทเราเก่งภาษาจีนมาก เค้าเลยช่วยเราอธิบายเนื้อหาในห้องให้ฟังตลอด ตอนนั้นความฝันแรกของเราคือ เราอยากเรียน BBA ที่ฮ่องกง เพราะตอนนั้นครูให้รุ่นพี่ที่เรียนฮ่องกงมาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง ทำให้เราอยากไปแบบพี่เค้าบ้าง แต่ความฝันก็ได้สลายเพราะเราเรียนเลขไม่เก่งได้ 2.5 เกือบทุกเทอม จริง ๆ เราแทบไม่เก่งวิชาอะไรเลย ขนาดเราอยู่ศิลป์จีน ยังไม่ได้ภาษาจีนเกรด 4เลย555555 ตอนม.5 เรารู้สึกผิดหวังกับตัวเองในหลาย ๆ เรื่อง เหมือนทำอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจไปหมด เราเลยขอพ่อแม่ไปแลกเปลี่ยน (ตอนนั้นรู้สึกอย่างเดียว คือ ถ้าหนีปัญหาไปทุกอย่างก็จะราบรื่น) ถ้ามองย้อนกลับไป จะรู้สึกว่าความคิดในตอนนั้นเด็กมาก ๆ เราสอบของโครงการ AFS ตอนนั้นอยากไปแคนาดา เพราะอยากหนีภาษาจีน แต่ทุกอย่างมันก็ไม่ได้ตามที่ตั้งใจไว้ เราไม่ติดแคนาดา แต่เราดันคิดประเทศจีน ตอนนั้นเรารู้สึกเฟล แล้วไม่ค่อยอยากไปแลกเปลี่ยน แต่จะให้กลับมาเรียนที่เตรียมอุดมต่อ เราก็รู้สึกหนักเกินไป สุดท้ายเราเลยตัดสินใจไปแลกเปลี่ยนที่ประเทศจีน เมืองเจียมู่ซือ โรงเรียนเจียมู่ซือหมายเลข 8 (ถ้าใครอยากให้รีวิวโรงเรียน การใช้ชีวิต ประสบการณ์ตอนไปแลกเปลี่ยน comment บอกได้น้า เรายินดีแนะนำมาก ๆ )

พอได้ไปประเทศจีน เราก็รู้สึกมองทุกอย่างเปลี่ยนไป มองโลกกว้างขึ้นมาก ๆ ความคิดโตขึ้น เพราะเราได้ใช้ชีวิต เรียนรู้หลาย ๆ อย่างด้วยตนเอง ด้านการเรียน เราว่าครูที่โรงเรียนค่อนข้าง strict กับการสั่งการบ้านมาก ๆ คำเตือนน!! ถ้าใครไม่ชอบความกดดัน ไม่แนะนำให้ไปประเทศจีน เพราะทุกอย่างจะอยู่ในสภาวะกดดันมาก ๆ แต่ในทางกลับกันก็ทำให้เราโตขึ้นด้วยเช่นกัน ก่อนไปเราได้ประมาณ HSK 3-4 แต่ถ้าใครไม่มีพื้นฐานภาษาจีน ก็ไม่เป็นไรนะ เพราะครูจะสอนเราตั้งแต่เบสิคเลย พอเราได้ไปที่จีน เราก็ได้ศึกษามหาลัยในมหาลัยจีนมากขึ้น จนเราไปสะดุดตากับมหาลัย Zhejiang University เพราะมหาลัยนี้อยู่ในเมืองหางโจว (ธรรมชาติสวยมาก) อีกทั้งยังเป็นมหาวิทยาลัย Top 5 ของเอเชีย (QS Asian Ranking 2021) เราเลยตั้งใจว่าจะไปต่อมหาวิทยาลัยนี้


ด้วยความที่ระหว่างไปเรียนที่จีนเครียดกับการสอบ HSK 6 มาก เลยไม่ค่อยได้โฟกัสกับการดูคณะหรือศึกษามหาลัย เราจะแนะนำทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับการสอบ HSK นะ อย่างแรกเลย เราต้องทำความเข้าใจ patternของข้อสอบก่อน หลังจากนั้นค่อยวางแผนว่าจะอ่านวันละกี่ชั่วโมง หรือทำข้อสอบพาร์ทควรเน้นจุดไหน แนะนำแอปนี้เลย ฝึกข้อสอบจริงและคำศัพท์ https://www.hskonline.com ขอบอกทริคแต่ละพาร์ทโดยสังดเขปพอนะ ถ้าอยากให้ทำฉบับเต็ม commentบอกได้เลยค่า
การฟัง-- สำหรับเรา เราว่าเป็นพาร์ทที่เก็บคะแนนได้เยอะที่สุด แนะนำในดูซีรีย์ แล้วจดศัพท์ที่ไม่รู้ออกมาหา (ถ้าฟังผ่าน ๆ จะไม่ได้ประโยชน์อะไร) แล้วก็ดูเป็น subtitle ภาษาจีนด้วย หรือำถ้าใครไม่ชอบดูซีรีย์ ฟังเพลง หรือฟังข่าวก็ได้ แต่ที่สำคัญ คือการจดศัพท์ที่ไม่รู้ออกมาท่อง เราจะได้พัฒนาทั้งskillการฟัง และเขียน
การอ่าน-- เป็นพาร์ทที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะตัว และการฝึกฝนอย่างยาวนาน พาร์ทนี้ค่อนข้างยากก ถ้าเป็นคนไม่ชอบอ่านหนังสือ ฉะนั้นควรตั้งgoalให้ตัวเองว่า แต่ละวันจะอ่านกี่หน้า ฝึกไปจนชิน แล้วเราจะอ่านบทความจีนได้รู้เรื่องมากขึ้นเอง
การเขียน-- เราชอบพาร์ทนี้มากที่สุดนะ แต่ก็ยากมากเช่นกัน ถ้าเป็นข้อสอบของ HSK 6 เค้าจะให้บทความเรามาอ่านแล้วย่อ เราว่ามันเป็นทักษะที่ดีมาก แต่ต้องผ่านการฝึกฝนอย่างหนัก แนะนำให้น้อง ๆ ฝึกจากการอ่านบทความ สั้น ๆ ง่าย ๆ ก่อนแล้วลองสรุปออกมาเป็นbullet point มันจะช่วยให้เราหาmain ideaได้ง่ายขึ้น

พอเรามีคะแนนHSKในมือเรียบร้อยแล้ว ทีนี้ เราก็ลองดูเกณฑ์ของมหาวิทยาลัย http://iczu.zju.edu.cn/english/redir.php?catalog_id=22210 ว่าเค้ารับคะแนนอะไรบ้าง ที่สำคัญเลยอย่าลืมดูเกณฑ์ของแต่ละคณะว่าเค้ารับขั้นต่ำเท่าไหร่ เพราะแต่ละคณะรับไม่เท่ากัน
ยกตัวอย่างเช่า พี่เข้านิติศาสตร์ ขั้นต่ำป.ตรี รับ HSK 6 180 คะแนน ในเว็ปเขียนเพิ่มว่าควรมี skill การเขียนในระดับดีมาก เราก็ต้องไปพัฒนาในจุดที่มหาลัยกำหนด ทางมหาลัยบังคับให้ยื่น IELTS / TOEFL และSAT/ ACTแล้วแต่ความถนัดของน้อง ถ้ามี HSKK Advanced Level จะดีมากค่ะ พอมีคะแนนทุกอย่างครบ ขั้นตอนนี้จะนานที่สุด คือการเตรียมเอกสาร ประมาณ10กว่าอย่าง ควรเตรียมเนิ่นๆ เอกสารที่ต้องเตรียมเช่น SOP , recommendation letters ค่ะ พอส่งเอกสารเรียบร้อย ทางคณะจะมีการนัดสัมภาษณ์ (อยากรู้รายละเอียดสัมภาษณ์ทักมาถามได้ค่ะ ) บางคณะไม่มีนะคะ อันนี้ก็แล้วแต่คณะอีกค่ะ ขั้นตอนนี้รอนานมาก ๆ ค่ะ กว่าจะได้สัมภาษณ์รอประมาณ 5 เดือนค่ะ อีกเรื่องนึงค่า ใครที่สมัครทุกก็สมัครได้นะคะ มีหลายทุนให้เลือกค่ะ ทั้งทุนcscกับทุนของมหาลัยค่ะ


สุดท้ายนี้ ก็ของคุณทุกคนที่อ่านจนจบนะคะ ถ้ามีคำถามหรืออยากปรึกษาอะไรเพิ่มเติมถามเข้ามาได้ใน IG:law.schoollife ได้เลยค่า ยินดีตอบทุกคำถามเลยค่า ( ถ้าใครอยากถามเกี่ยวกับมหาลัยอินเตอร์ที่ไทย รอบพอร์ตก็ถามเราได้นะ เราติดแล้ว 2 คณะ ที่ธรรมศาสตร์ค่า )

พี่เชื่อว่าทุกคนทำได้แค่เราพยายามมากพอ และเชื่อมั่นในตัวเอง ความพยายามสามารถสร้างmiracleได้เสมออ



แสดงความคิดเห็น

>

9 ความคิดเห็น

Dek65 fightforu 8 เม.ย. 64 เวลา 16:50 น. 1

สวัสดีค่ะ อยากสอบถามเกี่ยวกับการเลือกเรียนกฎหมาย แต่เรียนที่ต่างประเทศซึ่งกฎหมายจะเป็นคนระบบกับกฎหมายไทย เลยอยากถามพี่ว่าส่วนใหญ่ถ้าไปเรียนแล้วจะทำงานต่างประเทศเลยไหม หรือว่าเลือกแนว ๆ เป็นกฎหมายระหว่างประเทศไปเลย


ขอบคุณสำหรับคำตอบนะคะ หนูจะนำมาประกอบการตัดสินใจค่ะ

1
lawschoollife 8 เม.ย. 64 เวลา 17:07 น. 1-1

พี่ว่าแล้วแต่คนนะคะ ถ้าทำงานต่างประเทศ เราก็ไม่จำเป็นต้องรู้กฎหมายไทยก็ได้ค่ะ แต่ถ้าเลือกทำระหว่างประเทศ ควรศึกษากฎหมายประเทศที่น้องอยากไป กับประเทศไทยค่ะ

0
lawschoollife 8 เม.ย. 64 เวลา 19:54 น. 2

มีบางข้อความในบทความพิมพ์ผิดเล็กน้อยนะคะ ขออภัยมา ณ ที่นี้ค่ะ ครั้งต่อไปจะละเอียดในการตรวจเช็คมากขึ้นค่ะ

1
lawschoollife 12 เม.ย. 64 เวลา 15:07 น. 2-1

ตอนนี้เรา กลับมาเปิดรับสอนพิเศษนะคะ ใครสนใจ แอดไลน์ได้เลยค่ะ id:farmmythv ค่ะhttps://image.dek-d.com/27/0909/2146/131818845


0
lawschoollife 9 เม.ย. 64 เวลา 08:39 น. 3-1

ได้ค่ะ เดี๋ยวเราทำกระทู้แยก รีวิวตอนไปแลกเปลี่ยนนะคะ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น

Half moon 10 เม.ย. 64 เวลา 21:33 น. 7

บางมหาวิทยาเขาให้เลือก จะเรียนภาษาก่อน หรือจะเรียกนตามสาขาเลย ถ้าเลือกเรียนภาษาก่อนต้องออกค่าใช่จ่ายเเยกต่างหากสำหรับค่าเรียนภาษาหรือเปล่าคะ

1
lawschoollife 10 เม.ย. 64 เวลา 21:50 น. 7-1

ถ้า เป็นเรียนปรับภาษาก่อนหนึ่งปีจะเรียกว่าเป็น pre college ค่ะ ถ้าถามว่าต้องจ่ายเงินค่าเรียนปรับภาษาก่อนมั้ย ต้องดูว่าเราได้ทุนรึปล่าวค่ะ บางคนจะได้ทุนเรียนปรับภาษาหรือยางคนก็ต้องจ่ายเองค่ะ แล้วแต่มหาลัยจะให้ค่ะ ถ้ามีคำถามเพิ่ทเติมสามารถถามในif:law.schoollifeได้นะคะ จะอัพเดทเรื่องการเรียนต่อให้เรื่อย ๆ ค่ะ

0
Kunxiaogg 14 เม.ย. 64 เวลา 11:49 น. 8

สวัสดีค่า ถ้าสมมติว่าหนูสนใจไปต่อตรีที่จีนเหมือนกัน แต่กลัวไปแล้วเพื่อนที่ไทยจะน้อย พี่คิดว่าจะขาดคอนเนคชั่นที่ไทยมั้ยคะ แบบถ้าอิงจากสังคมของเตรียมค่า

1
lawschoollife 14 เม.ย. 64 เวลา 19:36 น. 8-1

สำหรับเรานะคะ เรามองว่าเรื่องconnectionก็เป็นเรื่องที่สำคัญเหมือนกัน เด็กเตรียมส่วนใหญ่ไปต่อ ที่มธกับจฬ เราเลยคิดว่าถ้าต่อที่มหาลัยไทย ส่วนมากก็ยังได้เพื่อนกลุ่มเดิม แล้วก็มีเพื่อนโรงเรียนอื่นเพิ่มมา จริง ๆ ถ้าไปเรียนต่างประเทศ เรื่องconnectionก็จะไม่มีเยอะเท่ากับเพื่อนที่ต่อมหาลัยไทยค่ะ แต่เราก็ยังสามารถมีconnectionกับเพื่อนกลุ่มอื่น ๆ ได้ค่ะ(รวมถึงตอนมัธยมค่ะ)

0