Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

จากนิติไปเรียนต่อUXที่USA

ตั้งกระทู้ใหม่

บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลให้กับเพื่อนพี่น้องรุ่นหลังที่มีความใฝ่ฝันจะตามรอยการเดินทางย้ายสายงานอาชีพไปต่างประเทศเหมือนกับเรา เนื่องจากเราไม่ศรัทธาในศาสนาจึงขอใช้บทความนี้เป็นการแชร์ประสบการณ์เพื่อมอบคืนให้แก่สังคม ให้ความรู้กับนักผจญภัยรุ่นต่อไป ขอให้ทุกคนมีกำลังใจในการทำตามความฝันของตัวเองและประสบความสำเร็จอย่างที่ต้องการ

เราจบนิติ จากมหาวิทยาลัยtier 1 ของประเทศด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1
เนื่องจากเราต้องการย้ายประเทศและค้นพบว่าสายงานนิติมันย้ายประเทศยาก ประเทศอื่นเขาเลือกจะจ้างคนจบนิติในประเทศตัวเองมากกว่าเนื่องจากรู้กฎหมายประเทศนั้นๆ ดีกว่า เข้าใจบริบทประเทศเขามากกว่า เราก็เลยค้นคว้าข้อมูลไปสายเทคโนโลยีที่เป็นสายงานที่ต้องการในปัจจุบันมากที่สุด และเราเองก็อยากไปทำด้านเทคด้วยอยู่แล้ว

หลังจากค้นหาข้อมูลและพูดคุยกับทีมงานที่เราจ้างให้ช่วย (หวังว่าต่อไปคอมมูนิตี้จะมีข้อมูลดี ๆ มากขึ้นให้ทุกคนได้เข้าถึงง่ายขึ้นโดยไม่ต้องใช้เงินมากมาย) เราก็พบว่า UX นี่ละคือคำตอบของเรา เราไปเรียนคอร์สออนไลน์ที่Courseraเพื่อให้เข้าใจคอนเซ็ปต์และแน่ใจว่าเราชอบมันจริง ๆ ก่อนที่จะไปเรียนด้านนี้จริง ๆ ซึ่งทีมงานก็ช่วยแพลนมหาวิทยาลัยและประเทศให้เรา มีทั้งอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย ที่กำลังเป็นผู้นำในสายงานนี้ นอกจากนั้นก็ลิสต์เอกสารที่เราต้องมี เช่น ผลสอบTOEFL, IELTS, portfolio (ซึ่งเราไม่มีเพราะว่าไม่ได้จบการออกแบบมา และทำให้เราสามารถสมัครได้แค่ไม่กี่มหาวิทยาลัยที่เขายอมรับนักเรียนที่จบจากสายงานที่แตกต่่าง), บางที่ขอ Statement of Purpose, Academic Statement, หรือ ขอรวมกันเป็น Personal Statement ต้องดูแต่ละที่กันไป โชคดีที่เรามีranking UX schools ที่คนจากGoogleจัดอันดับไว้ให้ (https://topuxschool.com/program/us) ทำให้เราเลือกเป้าหมายของเราได้ง่ายขึ้น ซึ่งขั้นตอนการเตรียมเอกสารนี่แหละที่ต้องใช้เงินเยอะมาก นอกจากนั้นยังมีค่าสมัครประมาณ 100 USD ในการยื่นสมัครแต่ละมหาลัยด้วย เราใช้เงินที่เก็บไว้เป็นปี ๆ ตอนทำงานมาจ่ายเองทั้งหมด


ถ้าเห็นว่ามหาลัยที่ไหนเขียนว่า Portfolio optional ก็สมัครได้เลยไม่ต้องกลัว (สำหรับUK ที่ไม่ต้องจ่ายค่าสมัคร และสามารถสมัครได้ง่ายผ่านพี่ Agency ที่ต่าง ๆ แต่สำหรับUS ก็แนะนำให้อีเมลไปถามมหาลัยก่อนเพื่อความชัวร์ถ้าเขาไม่เขียนชัดเจนว่ารับนักเรียนที่จบสายงานอื่น เนื่องจากค่าสมัครแพง) ส่วนGRE ช่วงนี้มหาลัยหลายที่ยกเว้นให้เนื่องจากผลกระทบจากCovidทำให้ไปสอบยาก เขาก็พร้อมที่จะอนุโลมผ่อนผันให้นักเรียน และTOEFL, IELTS ก็สามารถสอบที่บ้านได้ และผลสอบนั้นสามารถไปยื่นมหาลัยได้ (ควรเช็คให้แน่ใจก่อน) และคะแนนที่เขาต้องการจะเขียนไว้ชัดเจน ควรรีบสอบเพื่อให้ได้คะแนนที่ต้องการ ถ้าครั้งแรกยังไม่ผ่านเราจะได้มีเวลาสอบครั้งต่อไป ส่วนเราแพลนตรงนี้ไว้ไม่ค่อยดี เพิ่งมารู้ตอนท้ายปีว่าต้องเตรียมยื่นแล้ว เดชะบุญเราตั้งใจอ่านหนังสือและสอบครั้งเดียวผ่าน TOEFL ได้คะแนน100+ และ IELTS 7.5 ทั้งนี้ต้องขอบคุณเพื่อนที่แนะนำเว็บและคลิปเตรียมสอบให้เราด้วย

สำคัญมากที่จะต้องเตรียมเอกสารให้เสร็จประมาณเดือนพ.ย. ในปีก่อนที่จะไปเรียน เช่น เราจะไปเรียนFallปี2022 พ.ย.ปี2021 เอกสารต้องครบเตรียมยื่นในเดือนธ.ค. 2021 แล้ว เขาเปิดยื่นกันไวมาก และเอกสารที่ไม่ได้มาจากเรา เช่น recommendation letters (USต้องการสามฉบับ UKต้องการสองฉบับ) เราต้องไปหาอาจารย์ดี ๆ ที่เคยสอนเราตอนป.ตรี ไว้อย่างน้อยสองคน อีกคนสามารถเป็นหัวหน้างานที่บริษัทที่เราเคยทำงานได้ หรือจะเป็นอาจารย์ทั้งสามคนเลยก็ได้ ต้องคัดแต่คนที่รู้จักเราพอสมควรและสามารถเขียนให้เอกสารออกมาสตรองได้ คุยกับท่านไว้ให้ดีว่าเราจะสมัครที่ไหนบ้าง อยากให้ท่านส่งเอกสารในเวลาช่วงไหนบ้าง เนื่องจากท่านต้องส่งเอกสารให้มหาลัยโดยตรงโดยไม่ผ่านเรา (สำหรับUS)

ในขณะช่วงที่เราเขียนstatement จะเป็นmoment of truth ที่จะได้เห็นจริง ๆ ว่ามหาลัยที่ไหนที่สตรองจริง ๆ ผ่านข้อมูลที่เขาให้ไว้บนหน้าเว็บเพื่อเอามาเขียนในstatementของเรา ถ้าเขาเก่ง เขาจะมีข้อมูลให้เราเยอะและละเอียด สามารถนำมาเขียนเพิ่มได้เลยว่าเราอยากเข้าที่นี่เพราะเขามีอย่างนั้นอย่างนี้ จะช่วยให้เราพัฒนาและไปสู่เป้าหมายของเรามากที่สุด บางทีมหาลัยที่rankingสูง ๆ ก็ไม่ได้ดีกว่าเสมอไป แต่ละมหาลัยก็สูสีกันมาก มีจุดเด่นต่าง ๆ กันไป เราต้องรู้ก่อนว่าเรามองหามหาลัยแบบไหน เช่น มหาลัยที่มีคอร์สออกแบบเยอะ ๆ จะทำให้เราเลือกมหาลัยที่ตรงกับใจเราได้ง่ายขึ้น บางมหาลัยก็ไม่ได้สตรองจริง ๆ แค่อาศัยชื่อเสียงมหาลัยก็มี เราต้องดูทั้งหมด ทั้งชื่อเสียง คอร์ส อาจารย์ที่จะเป็นadvisorเราตอนเราเข้าไปเรียนแล้ว เปเปอร์งานวิจัย โลเคชั่น alumniที่จบออกมาแล้วไปทำงานที่ไหนได้รับตำแหน่งอะไร เนื่องจากแต่ละปัจจัยมีผลต่อการเรียนของเราและงานที่เราคาดหวังไว้

เมื่อมหาลัยเปิดให้สมัคร ควรรีบยื่นเอกสารเนื่องจากจะต้องรอrecommendation lettersจากท่านด้วย ต้องคอนโทรลให้ดีอย่าให้ยื่นสมัครช้ากว่าเดดไลน์ ควรเลือกไว้ประมาณสี่ถึงหกมหาลัย ตอนแรกเราเลือกอังกฤษและออสเตรเลียไปด้วย แต่มีเสียงบอกว่าออสเตรเลียยังหางานยาก งานไม่ค่อยเยอะและไม่สนับสนุนให้ไป เราเลยสมัครแค่อังกฤษและอเมริกา แล้วก็ค้นพบว่าอเมริกาตลาดงานเยอะกว่ามาก มีเปเปอร์วิจัยลึกกว่ามาก ทำให้เราปฏิเสธofferจากอังกฤษไป และตอนนี้หลังจากสัมภาษณ์กับDean ของมหาลัย เราได้รับofferจากอเมริกาพร้อมทุนเกือบ1ล้านบาท ซึ่งถือว่าใจกว้างมากแล้ว ทุนมหาลัยจะมีตั้งแต่5%-35% (บางที่) และหากสมัครทุนนอกเช่น ฟุลไบรท์ ก็สามารถเติมเข้าไปได้อีก แต่ทุนไม่มีปีที่แล้วเลยทำให้ไม่ได้สมัคร (และมันแปลกที่จะสมัครได้เลยโดยไม่มีofferจากมหาลัย) 

ตอนนี้เรากำลังรอofferจากมหาลัยที่เหลือที่สมัคร ทุกอย่างเราแทบทำเองหมดเลย มีพี่agencyที่น่ารักช่วยยื่นแอปบ้างบางมหาลัย แต่เราก็ต้องตาม ห้ามวางใจเด็ดขาด ทุกอย่างต้องคอนโทรลเองไม่ให้พลาด

สุดท้ายนี้อยากเป็นกำลังใจให้กับรุ่นต่อไปที่สนใจจะเปลี่ยนสายงานและไปเรียนต่อโทต่างประเทศทุกคน ค่าใช้จ่ายมหาศาลมาก แต่ก็ยังมีทุน(ที่ไม่ผูกมัด)เหมือนกัน ทุกคนเก่งมาก อย่าให้ใครมาบอกว่าคุณทำไม่ได้ ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ช่วยเรามาจนถึงจุด ๆ นี้ ทั้งครอบครัว ทีมงาน อาจารย์ เพื่อน และพี่ ๆ agency และต้องขอบคุณตัวเองที่ทรงงานหนักมากก

หวังว่าเราจะได้รับข่าวดีและการเดินทางของเรายังดำเนินต่อไป (from zero to hero) เราจะเอากลับมาแชร์ให้กับทุกคน นี่คือการมูของเรา55  

ใครได้ไปFall2022นี้ก็ยินดีด้วยนะ คุณเก่งมาก เยี่ยมที่สุด!!
ส่วนใครยังคิดอยู่กำลังเตรียมอยู่ คุณทำได้! เราเชื่อในตัวคุณ

แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น

tarayoeshi 15 เม.ย. 65 เวลา 10:57 น. 1-1

พี่คะหนูสนใจสายนี้เหมือนกันอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม พี่สะดวกให้ติดต่อผ่านทางไหนบ้างคะ? ขอคอนแท็กหน่อยค่า

0
✖the iconoclast 8 มิ.ย. 65 เวลา 17:20 น. 2-1

ILLINOIS INSTITUTE OF TECHNOLOGY ค่ะ เป็นทุนมหาลัยซึ่งปกติในทุกมหาลัยจะมีให้ทุนบางส่วนกับผู้สมัครที่ได้รับofferอยู่แล้วค่ะ บางทุนต้องส่งเอกสารเพิ่ม บางทุนแค่ได้offerก็จะได้รับการconsider scholarshipไปด้วยแล้ว ให้เลือกมหาลัยก่อนที่จะเลือกทุน เพราะทุนนี้ไม่ได้มาจากภายนอก เช่น Fulbright

0