Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

[SOTUSที่ไหนแรงบอกต่อ] มหาลัยเกียรติยศสาขาเกษตรฯและระบบโซตัสแห่งภาคเหนือ part2

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกๆท่าน หลังจากที่กระทู้แรก ได้ลงข้อมูลเกี่ยวกับการรับน้องใหม่7วันของมหาลัยแห่งนี้แล้ว ทีนี้จะมาบอกต่อถึงข้อมูลเก่าๆที่เคยมีมาแล้วแต่อาจจะมีเด็กรุ่นใหม่หลายคนน่าจะยังไม่เห็นค่ะ จะมีรายละเอียดอะไรบ้างตามไปอ่านต่อได้เลยค่ะ


 

ทุกๆที่ย่อมมีกฎเป็นของตัวเองค่ะ ในกระทู้แรกที่ผู้อ่านจะเห็นว่ามีใบจดรายชื่อรุ่นน้องที่ทำผิด”กฎ”ก็น่าจะเป็นเอกสารแผ่นนี้แหละค่ะ


 

นี่เป็นอีกสื่อในหนังสือเล็กๆที่เรียกว่า”โฉนด แม่โx้ ” เป็นสิ่งที่ไม่มีขายตามท้องตลาด ต้องมาเป็น นศ. ที่นี่เท่านั้นค่ะถึงจะได้รับจากรุ่นพี่ ภายนอกเป็นเหมือนหนังสือรวมเพลงของสถาบันธรรมดาๆแต่ว่าต้องรักษายิ่งชีพนะคะ ทุกตัวอักษรในเล่มต้องท่องจำให้ได้ และห้ามเอาไปให้คนภายนอกอ่านด้วยนะคะ ตามกฏที่เห็นในภาพเลยค่ะ


 

แล้วรับน้อง 7วันที่ผ่านมาก็ทำคนปากแตกไปแล้ว1รายค่ะ

 

ไหนจะเด็กปี1โซนBที่ถูกหามส่งโรงพยาบาลในวันเดียวกันค่ะ เอาจริงๆแล้วเด็กปี1ที่บาดเจ็บจากกิจกรรมนี้มีทุกๆปีค่ะ คุณอาจเป็นหนึ่งในนั้นได้ทุกเมื่อที่มีงานกิจกรรมรับน้อง

 


 

อ่อ หลายๆคนคงงงว่า โซนB คืออะไร งั้นลองอ่านโพสต์นี้เพื่อทำความเข้าใจค่ะ มีคลิปปลากรอบด้วย
 


 

มาดูรายละเอียดอีกคลิปกันดีกว่าค่ะว่า เป็นคลิปที่อัดไว้เกี่ยวกับการรับน้องของที่นี่เมื่อนานมาแล้วแต่เพิ่งมาเผยแพร่เมื่อ4ปีก่อนค่ะ ลองเปรียบเทียบูกับข้อมูลในกระทู้แรก ดูค่ะว่ามีอะไรบ้างที่คล้ายคลึงกัน อย่างเช่น มีกฎห้ามมองหน้า มีรุ่นน้องถูกทำร้าย ฯลฯ


 

อันนี้คลิปที่สองค่ะ เป็นคลิปที่พยายามจะรวบรวมมาให้ดูค่ะว่าใครพูดจริงหรือโกหกหรือว่าช่วยกันโกหก พร้อมทั้งรายละเอียดต่างๆที่เป็นภาพเคลื่อนไหวออกมาด้วย


 

นี่คือคลิปสัมภาษณ์เด็กในมหาลัยนั้นเมื่อ4ปีก่อนค่ะ ออกมาจากปากของศิษย์เก่า และ นศ. ที่เคยเปิดเผยคลิปที่หลุดรอดออกมาได้ในตอนนั้นค่ะ  ส่งผลให้ทุกวันนี้ การใช้มือถือในกิจกรรมสำหรับรุ่นพี่และรุ่นน้องเองจึงต้องเข้มงวดมากขึ้น เพื่อป้องกันคนที่ตีเนียนเข้ามาบันทึกเหตุการณ์ในกิจกรรม ในคลิปของข่าวมีทั้งการถ่ายทำบรรยากาศในมหาลัยด้วยค่ะ แทบจะบ่งบอกถึงทุกสิ่งของมหาลัยนี้แล้วค่ะ ถึงอย่างนั้นเอาเข้าจริงๆแล้วก็แค่ส่วนนึงของกิจกรรมมหาลัยทั้งหมดอย่างที่ผู้ประกาศข่าวบอกไปจริงๆค่ะ



 

ในช่วง กรกฎา-สิงหา จะเป็นช่วงทำกิจกรรมประชุมเชียร์(กีฬาสีของมหาลัย) มีสายข่าวแฝงตัวไปแอบถ่ายบรรยากาศมาให้ดูแบบน้ำจิ้มๆนะคะ(จากคลิปปีที่แล้ว)


 

อ่อ อีกเรื่องนึงสำหรับคนกู้ กยศ. ปี59ผ่านมาหมาดๆเลยนะคะ นศ. บางคณะที่กู้ กยศ. จะถูกกดดันให้ไปล่ารายชื่อผู้กู้ กยศ. ด้วยกันเองให้มาบริจาคเลือดตามจำนวนที่มหาลัยกำหนดค่ะ ไม่เช่นนั้นเงินที่จะโอนเข้ามาให้กับผู้กู้ในสาขานั้นๆจะล่าช้าไปอีก นี่ไม่ใช่คำขู่จากรุ่นพี่แน่นอนค่ะเพราะรุ่นพี่ไม่มีส่วนรับผิดชอบอะไรกับเรื่องนี้แน่ๆแต่ว่าเป็นคำขู่จากหน่วยงาน กยศ. ของมหาลัยนั้นเองจริงๆค่ะ ในมหาลัยนี้เราบอกก่อนนะคะว่าบางคณะรับน้องกันบ่อยและเลิกกิจกรรมกันดึกมากๆ ต่อให้เกณฑ์คนมาได้ครบจริง เจ้าหน้าที่สภากาชาดฯคงไม่รับบริจาคไปเยอะเหมือนกันค่ะเพราะว่าบางคนนอนไม่พอจากการทำกิจกรรมนั่นเอง ทำให้เซลล์เม็ดเลือดไม่มีความพร้อมในการเอาไปใช้งานค่ะ ดังนั้นเป็นไปได้ยากค่ะที่จะหาคนมาบริจาคได้ครบ ใครคิดจะเรียนที่นี่แต่บ้านไม่ค่อยมีเงินก็คิดให้ดีๆก่อนละกันค่ะว่าจะหาคนที่พร้อมบริจาคเลือดตั้งร้อยกว่าคนภายในระยะเวลาอันสั้นมาจากไหน




 

บุคคลากรที่นี่เค้าไม่แอนตี้ระบบโซตัสกันหรอกนะคะ เค้าพอใจที่จะอยู่แบบนี้กันซะมากกว่าค่ะ ถ้าเค้าแอนตี้กันจริงๆป่านนี้คงมีวิทยานิพนธ์กับใบงานวิจัยทางวิชาการมากกว่า จุฬาฯ กับ มหิดล และ ธรรมศาสตร์ ละค่ะ เพราะเค้าคิดกันแบบนี้ไงคะ จึงมีระบบโซตัสที่เป็นเกียรติยศของมหาลัยมาจนถึง 82ปี น่าชื่นชมจริงๆค่ะ

"ถูกหรือผิดกรูไม่สนกรูเอาแx่โจ้ไว้ก่อน

นั่นคือสิ่งที่เราปลูกฝังกันมา"

 

เป็นสิ่งที่ท่านรองอธิการฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าฯได้กล่าวเอาไว้ค่ะ


 



มาดูในมุมมองของอาจารย์ในมหาลัยนั้นกันบ้างค่ะ

ส่วนคนที่บอกว่ากิจกรรมรับน้องไม่ต้องเข้าก็ได้ ไม่เห็นเป็นไร คงไม่ใช่เรื่องจริงอีกต่อไปมั้งคะ จขกท.ถึงได้บอกกับนศ.ในมหาลัยนั้นบางคนไงคะว่าคงไม่กล่าวอ้างเพื่อปั้นน้ำเป็นตัวหรอกนะ เพราะมีองค์กรนักศึกษาของมหาลัยที่พวกคุณเรียนเค้าตอบกลับมาแบบนี้ไงคะ



       ถ้ามหาลัยนี้จะไปเอาเด่นทางด้านนี้จริงๆจนจะเปิดสาขาวิชาเฉพาะทางที่ไม่มีในประเทศไทยมาก่อนเลยก็ไม่มีใครว่าอะไรหรอกค่ะ หรือนักศึกษาที่ภาคภูมิใจในการมาเรียนที่นี่แล้วมาเข้าสู่ระบบแบบนี้ก็เช่นกันค่ะ ถ้าคนภายนอกเปิดใจยอมรับเรื่องเหล่านี้ได้สักวันก็คงจะไม่รู้สึกถึงความถูกกดดัน รุนแรง หรือถูกควบคุมก็ได้มั้งค่ะ เพราะขนาดคนที่ศัลยกรรมให้หน้าตัวเองเป็นสุนัขยังมีมาแล้วเลย จะนับประสาอะไรกับมีคนไปเชื่อฟังคำสั่งสุนัขในรั้วมหาลัยละคะ



อ้างอิง:
ถ้าว่างๆและกระทู้ไม่โดนแจ้งลบจะนำมาใส่ให้นะคะ

แสดงความคิดเห็น

>

7 ความคิดเห็น

มัณทนา 13 มิ.ย. 60 เวลา 13:58 น. 2

เรื่องที่ว่าไม่ต้องเข้ารับน้องก็ได้เป็นเรื่องจริงสำหรับนิสิตนักศึกษาของหลายมหาวิทยาลัยค่ะ

ยกเว้น มหาวิทยาลัยแม่โจ้

0
สาวเหนือ 13 มิ.ย. 60 เวลา 15:29 น. 3

รอวันล่มสลายของมหาลัยนี้ ในวันที่นักศึกษาน้อยลง มหาลัยที่มีจุดเด่นเท่านั้นจึงจะอยู่ต่อไปได้ มหาลัยที่มีแต่เรื่องแย่ๆ สักวัน คงยุบไปเอง บ๊ายบายล่วงหน้านะคะแม่โจ้

0
xี!!ouโ๑s!ม๑้ๅ 13 มิ.ย. 60 เวลา 17:13 น. 4

ใครกลัวกระทู้ปลิวอีกแต่ยังอยากแชร์ต่อแนะนำให้บันทึกกระทู้หน้านี้เป็นแคชไว้ค่ะ แต่ถ้าขี้เกียจบันทึกเดี๋ยว จขกท. มีแผนสำรองจ้าาา ลูกโจ้ต่อให้มีปัญญาแจ้งลบได้ก็ขอให้แจ้งมาทุกๆวันเลยแล้วกันค่ะ 555555+


ปล.นับตั้งแต่เขียนpartนี้เสร็จลงใหม่ตั้ง4รอบค่ะ 5555+

0
กานต์ 13 มิ.ย. 60 เวลา 23:26 น. 6

รับน้องโหดไป และบังคับสิทธิ์เสรีภาพเด็กใหม่มากเกินไป นับวันจะมีเด็กที่เลือกไปเรียนมหาลัยนี้น้อยลงไปทุกวัน เด็กที่เลือกไปเรียนก็คงมีแต่เด็กในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงเพราะไม่อยากไปเรียนไกลบ้านเลยจำเป็นต้องไปเรียน อย่างนี้นับวันจะทำให้ชื่อเสียงมหาวิทยาลัยน้อยลงไปทุกวัน สังเกตดีๆ ม.พะเยา และ ม.แม่ฟ้าหลวง ที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่กี่ปีเอง ก้าวหน้าและได้ความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆน่าจะแซงหน้าไปแล้ว (ถ้าดูจากคะแนน Admissions ที่สูงกว่า) ระบบเก่าแบบนี้ใช้ได้กับเด็กเมื่อ20-30ก่อนได้แต่เด็กสมัยนี้ยุคดิจิตอลและยุค 4.0 เขาไม่ยอมหรอกและอีกอย่างมหาวิทยาลัยก็มีมากขึ้นเลยเด็กก็หนีไปที่ศิวิไลย์กว่า รีบปรับปรุงเถอะก่นที่จะเป็นมหาวิทยาลัยในตำนาน

2
xี!!ouโ๑s!ม๑้ๅ 15 มิ.ย. 60 เวลา 16:58 น. 6-2

มีนะคะ แต่ว่าจะรับน้อยมาหน่อยเพราะเปิดรับตรงค่อนข้างเยอะพอตัวค่ะ แถมเปิดทีนี่โปรโมชั่นมากๆค่ะ อยากรู้ต้องไปเรียนเองอย่างว่า

0
seeskySoon 14 มิ.ย. 60 เวลา 00:25 น. 7

รับน้องเป็นเรื่องดีนะ เเต่ต้องในทางสร้างสรรค์ ชวนไปทำจิตอาสา ทำประโยชน์เพื่อสังคม ไปบ้านเด็กกำพร้า บ้านพักคนชรา ไรก็ว่าไป ได้ทั้งประโยชน์เเล้วก็มิตรภาพระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้อง ดีกว่ามานั่งว้ากๆด่าๆมันช่วยอะไรกัน?

0