Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

7 บทเรียนที่ทำให้ผมหยุดพัฒนาและไม่เก่งภาษาอังกฤษสักที

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่


เล่าก่อนนะครับว่าในสมัยก่อนผมเป็นคนที่พยายามหลบหลีกการใช้ภาษาอังกฤษมากตั้งแต่สมัยเรียนประถม
ทำให้มันฝังรากลึก ลงไปในจิตใจว่า
"ชาตินี้ผมคงไม่มีทางเรียนภาษาอังกฤษได้ดี"

ผมพยายามหนีภาษาอังกฤษมาตลอด แกล้งหลบครูฝรั่งในคาบอังกฤษ หาโรงเรียนที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษสอบ
เรียกได้ว่าผมกับภาษาอังกฤษเนี่ยไม่ต้องพบต้องเจอกันเลย

จนกระทั่งวันหนึ่งผมเห็นความสำคัญของมันและตั้งคำถามว่า "ทำไมผมถึงไม่เก่ง และทำอย่างไรถึงจะเก่งภาษาอังกฤษได้เหมือนเพื่อน "
ผมก็รีบทำการบ้านอย่างจริงจัง พร้อมๆไปกับการหาคำตอบ จนกระทั่งปลายชีวิตการเรียนมัธยมปลายผมทำคะแนน GAT อีกข้อเดียวผมได้เต็ม 300 คะแนน
ไม่ใช่แค่นั้น ชีวิตผมเปลี่ยนไปมากๆฟังภาษาอังกฤษรู้เรื่องแบบฝรั่งฟังกัน ไม่ว่าจะเป็นเพลง หรือ speech ผมฟังได้เข้าใจเกิน 95% เขียนและพูดภาษาอังกฤษจนมีเพื่อนต่างชาติ
ท้ายที่สุดผมจึงเข้าใจว่า จากการพูดอังกฤษไม่ได้จนพูดอังกฤษอย่างเชี่ยวชาญนั้นเริ่มจากเหตุผลไม่กี่ข้อจริงๆ 1 ในนั้นคือการไม่รู้ว่าทำไมเราถึงไม่เก่งอังกฤษ

ซึ่งวันนี้ผมจะลองเอาสิ่งที่ผมผิดพลาดมาเล่าให้ฟัง อย่าทำตามผมนะครับ 555
--------------------------------------------------

1 เชี่ยวชาญที่เปลือกมากกว่าแก่น เวลาที่เราเรียนหนังสือ

เรามักจะพบเจอกับมหาสมุทรของเนื้อหา เราเรียนอะไรก็เหมือนจะไม่รู้ไปซะหมดและพยายามจำเนื้อหาส่วนเล็กส่วนน้อย จนกระทั่งเราลืมไปว่าจริงๆแล้วแก่นของวิชาอยู่ตรงไหน ภาษาอังกฤษก็เช่นกัน เราพบเจอกับการใช้ grammar การท่องจำประโยคที่ใช้บ่อย จนเราลืมเรื่องสำคัญ เช่น " พูดแบบไหน คนถึงจะเข้าใจ" " การเรียงคำ ให้เป็น วลี ให้เป็นประโยค" โดยทั่วไปตอนผมเรียนจะคิดว่าการพูดภาษาอังกฤษเหมือนการเติมคำในข้อสอบปรนัย ซึ่งผิดอย่างแรงใครคิดแบบนี้ควรเลิกด่วน

--------------------------------------------------

2 เอาใจใส่ใน grammar จนให้ความสำคัญกับส่วนอื่นน้อยลง

จากการสอบถามคนที่ใช้ภาษาอังกฤษยังไม่เป็น ส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับ grammar , grammar และ grammar เพราะโรงเรียนประถม มัธยมสอนเรามาเช่นนั้นเป็นบทเรียนๆ มีข้อ 1-10 ให้ท่องจำ

แต่เราลองถามตัวเองดูว่า แล้วไวยากรณ์ในภาษาไทยเป็นอย่างไร ? ผมก็ตอบได้อย่างงงๆ ไม่รู้ถูกหรือเปล่า ทั้งๆที่เราพูดภาษาไทยเป็นกันทุกคน น่าแปลกใช่ไหมครับ

ดังนั้นอาจจะไม่ใช่ grammar ที่เป็นสิ่งสำคัญในการสนทนา หลังจากผมเรียนอังกฤษมาสักระยะผมก็เข้าใจว่าความจริงไม่ใช่กฎของ grammar ที่สำคัญ แต่เป็น "ความเคยชินและสมเหตุสมผลของ grammar ต่างหากที่สำคัญ "
ซึ่งจุดนี้ผมว่าเป็นจุดที่คนอยากเก่งอังกฤษทุกคนควรมีเป็นพื้นฐาน การพูดจริงๆแล้วเราไม่ได้สร้างประโยคจากกฎของไวยากรณ์แต่พูดจากความเคยชินที่เราใช้มาในแต่ละวัน

--------------------------------------------------

3 ไม่ได้นำมาใช้ในชีวิตประจำวัน

ข้อนี้เป็นเหตุผลรองลงมาจากข้อข้างบน เราคงเคยได้ยินว่าความรู้มีความเสื่อมถอย ถ้าเราไม่ได้ใช้งาน ภาษาก็เช่นกัน เพราะเราอยู่ในสังคมที่มีภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง ถ้าเราไม่ได้ฝึกฝนอย่างมีวินัย ใช้งานเป็นประจำ ไม่เพียงเราจะไม่พัฒนาแต่กลับรู้น้อยลงเสียอีก !

บางคนบอกว่า "ก็ไม่มีใครพูดภาษาอังกฤษด้วยนี่นา" คนที่อยากเก่งจริงๆมักจะหาสังคมที่พูดภาษาอังกฤษเช่น หาเพื่อนต่างชาติ หา chat หรือ หา community ฝึกฝนภาษาอังกฤษ สำหรับตอนนี้ผมก็มีอยู่บ้าง ถ้าใครสนใจถามมาได้เลยครับ

--------------------------------------------------

4 ไม่มีการเรียนที่ถูกต้อง

ผมเชื่อว่าหลายคนรวมถึงผมด้วยเรียนหนังสือแบบ"ถูกบังคับให้เรียน" "เรียนเพราะต้องเอาเกรด" " พ่อแม่อยากให้เรียน" ทำให้พอมีอะไรมาถึง เราก็เรียนๆไปโดยไม่ได้ศึกษาว่าการเรียนที่ถูกต้องนั้นทำอย่างไร ภาษาอังกฤษก็เช่นกัน เป็นวิชาที่บรรจุในหลักสูตรบังคับ มีมาทั้งอังกฤษธรรมดา อังกฤษเพิ่มพูนทักษะ อังกฤษพิเศษ ยิ่งกว่านั้นคือโปรแกรม Eng lab , Sound Lab การบรรจุข้อมูลเยอะๆไม่ใช่การเรียนที่ดีเสมอไป เราต้องเรียนรู้วิธีเรียนถูกต้องด้วย

--------------------------------------------------

5 ไม่รู้คำศัพท์

ข้อนี้เป็นปัญหายอดฮิตของคนที่เรียนภาษาอังกฤษ เวลาถามว่าทำไมพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ คนไทยมักใช้ช้อนี้เป็นคำตอบ 555 ทำให้คนมักลงเรียนภาษาเพราะเรื่องนี้เป็นหลัก
แต่ข่าวดีก็คือ ข้อนี้เป็นปัญหาที่แก้ง่ายที่สุด เพราะ แค่เราจำได้ก็จบ (ง่ายตรงไหน555) ด้วยความที่ผมสอบมาหลายสนามแรกๆนี่มีปัญหาเรื่องนี่เยอะเลย จึงมีเทคนิคการจำหลายวิธี เช่นพูดคำไทยคำ ใช้จินตนาการรูปภาพ เปลี่ยนสิ่งรอบตัวให้เป็นภาษาอังกฤษ ฯลฯ พอลองดูใหม่ก็ไม่ยากอย่างที่คิด

--------------------------------------------------

6 ไม่ได้ฝึกฟังก่อนเริ่มเรียนภาษา

ผมมีความเชื่อว่า การใช้ภาษาต้องประกอบด้วยผู้รับสารและผู้ส่งสารจึงจะครบสมบูรณ์ ผมจึงคิดว่าถ้าเราจะใช้ภาษาได้อย่างมืออาชีพเราต้องเริ่มจากการฝึกฟังก่อน แต่สมัยก่อนการเรียนภาษามักจะให้เราฟังด้วยความไม่รู้เช่น ฟังอาจารย์ฝรั่ง ฟุดฟิดฟอไฟ เราฟังออกแค่ How are you ? 555
แต่การฟังภาษาที่ถูกต้อง ต้องเชื่อมโยงกับความรู้สึก เพราะการฟังจะช่วยเชื่อม grammar , vocabulary เข้าด้วยกัน มำให้เราสามารถสร้างประโยคในหัวเองได้
--------------------------------------------------

7 ไม่รู้จัก Pattern Blank Space

ข้อนี้ผมว่าเป็นเรื่องสำคัญมากในการเรียนภาษาอังกฤษเพราะเกี่ยวกับโครงสร้างของประโยค ซึ่งเป็น pattern ที่ผมคิดขึ้นเอง มีที่มาว่าในประโยคพื้นฐานทั่วไปบนโลกนี้ประกอบด้วย พื้นที่ว่างของประธาน กริยา กรรม เป็นหลัก เหมือนกับช่อง 3 ช่อง (ยกเว้น imperative , หรือซ้ำซ้อนกว่าเช่น if clause)

การเรียนภาษาคือการเติม vocabulary ลงในช่องว่างเหล่านี้ให้สมบูรณ์ และเชื่อมด้วย grammar หรือพูดง่ายๆคือ การสร้างประโยค ปัญหาคือถ้าคนที่ไม่เข้าใจ จะงงว่าสิ่งที่เราเรียนอยู่นำไปใช้อย่างไร ประยุกต์อย่างไร ก็คือไม่เข้าใจวิธีเติม pattern blank space อันนี้ เสมือนมีปลั๊กไฟแต่ใส่ไม่ถูกช่องเสียบ
ดังนั้นถ้าใครที่ไม่เข้าใจยังเรียนภาษาอังกฤษโดยคิดถึง grammar จะไม่เข้าใจบริบทของประโยคทำให้ speaking หรือ writing ไม่คล่องเท่าที่ควร จึงควรทำความเข้าใจใหม่ก่อนเรียน

---------------------------------------

ปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาที่พบได้ทั่วไปสำหรับคนที่เริ่มเรียนอังกฤษ โดยบางคนอาจรู้ตัวแต่บางคนไม่รู้ว่ามันแทรกอยู่ ซึ่งทำให้เราไม่เข้าใจการใช้ภาษาจริงๆและเป็นสาเหตุที่ว่า "ทำไมเรียนยังไงๆ ก็พูดไม่ได้สักที"

ผมขอแนะนำว่าถ้าเรากำจัดปัญหาเหล่านี้ได้ การเรียนของเราจะไวขึ้นอีกเท่าตัวเลยครับ เพื่อนๆคนไหนสนใจอ่านบทความต่อที่ผมเรียบเรียงเช่น " ที่ว่าแพงคือแค่ไหน ? เปิดใจนักเรียนทุ่มทุนเรียนภาษาอังกฤษ 3 แนว 3 สไตล์"

ติดตามได้ที่เพจ https://m.facebook.com/EnglishKNOWNOW/

หรืออ่านกระทู้รีวิวฝึกฝนภาษาอังกฤษตั้งแต่เริ่มต้น
https://pantip.com/topic/37117138

7 วิชาที่ต้องรู้ก่อนเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ
https://www.dek-d.com/board/view/3813749/

D'ont wait to break through

English English KNOW NOW

แสดงความคิดเห็น

>

11 ความคิดเห็น

silly fools 30 ธ.ค. 60 เวลา 19:35 น. 2

ผมว่าที่พูดมาจริงหมดเลยครับ บ้านเราเน้นแกรมมามากกว่าพูดมากกว่ารู้vocab สุดท้ายก็พูดไม่ได้

0
p.t.12 30 ธ.ค. 60 เวลา 20:20 น. 3

ผมอยากมีเพื่อนชาวต่างชาติ ไว้คอยฝึกภาษาอ่ะครับ พี่พอมีช่องทางแนะนำป่าวครับ


0
Sora Hiroki 30 ธ.ค. 60 เวลา 23:57 น. 4

เป็นแบบพี่เลยอ่ะ พยายามหลบตลอด แต่ตอนนี้จะสอบgatแล้ว อังกฤษก็ยังแย่เหมือนเดิมเลยอ่ะพี่ พูดก็ไม่ได้ เวลาเรียนก็ไม่อยากเรียนรู้สึกแย่ตลอดเลยค่ะ T T จะไปตามอ่านที่พี่เคยเขียนไว้นะะ ขอบคุณที่มาแบ่งปันค่ะะ อยากขอช่องทางคุยติดต่อเพื่อนต่างชาติด้วย แต่ตอนนี้ก็คงตอบเขาไม่ค่อยได้อยู่ดี ; ;

0
1111 31 ธ.ค. 60 เวลา 10:13 น. 5

เรียนไปแต่จำไม่ได้ ไม่เข้าใจว่าต้องใช้ยังไง ส่วนใหญ่ที่จำได้คือประโยคสนทนาในชีวิตประจำวันง่ายๆที่ใช้บ่อย นี่คือปัญหาของเรา บางทีเรียนเยอะๆก็ไม่ช่วยอะไรเลย

0
ISNANG 31 ธ.ค. 60 เวลา 15:28 น. 7

แแนะนำเพื่อน หรือแอปที่ได้มีเพื่อนต่าชาติไว้คุยหน่อยค่ะ อยากเก่งภาษา อยากพูด เขียน สื่อสารกับชาวต่างชาติรู้เรื่องอ่ะค่ะ

0
ชั้นอยากLnw 31 ธ.ค. 60 เวลา 17:32 น. 8

พี่พอจะแนะนำช่องทางที่จะพูดคุยกับคนต่างชาติได้มั้ยคะ ส่วนตัวเราชอบดูยูทูบมาก ก็เลยอาศัยเม้นในยูทูบเป็นภาษาอังกฤษเอา ก็จะมีคนมาเม้นตอบมาคุยกัน สนุกดี

0
Nyxjeung112 1 ม.ค. 61 เวลา 00:21 น. 9

เวลาเจอภาษาเบื้องต้นต้องเดา(ตีความ)ครับ เดาจากบริบทเรื่องราว อารมณ์ในขณะนั้น ภาษาใช้แล้วเรียนรู้แล้วต้องเกิดการสื่อสาร เกิดความเข้าใจครับมากหรือน้อยก็แล้วแต่บุคคล ไม่มีใครเข้าใจอะไรไปซะทุกอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์แน่นอน (ตรงๆว่าแอบเหน็บเรื่องเรียนไปจำทำสอบสอบอยู่หน่อยๆ 5555)


อ่านให้เยอะ ฟังให้เยอะ แกรมม่าแปลเป็นไทยมันก็คือหลักภาษาไวยากรณ์สำคัญครับ แต่ไม่สำคัญที่สุด ยกตัวอย่างนะครับ ตั้งแต่เกิดมาเราพูดภาษาพ่อภาษาแม่ตัวเองได้เชื่อเลยว่าร้อยทั้งร้อยพ่อแม่ไม่มานั่งสอน กขค คำนามประโยคอะไรหรอก เราเริ่มฟัง ทำตาม เลียนแบบจากสภาพแวดล้อม สุดท้ายก็พูดได้ฟังรู้เรื่อง


เคยมีครูฝรั่งท่านนึงที่เคยสอนผม เค้าถามผมว่า ‘รู้มั๊ย ทำไมในห้องเรียนถึงสอนแต่แกรมม่า’ เค้าบอกว่า ‘เพราะห้องเรียนไม่มีอะไรจะสอน’ จริงครับ ตั้งแต่ผมเริ่มเรียนภาษาอังกฤษซัก ป.1 ยันปัจจุบันอายุเข้าเลข2 กว่าๆแล้ว ในห้องเรียนภาษาอังกฤษ สอนแต่ไวยากรณ์เดิมๆครับ tense p.o.speech บลาๆๆ วนอยู่นั่นแหละ คือจะบอกว่าถ้าเราเก่งภาษาอังกฤษแต่ชุดความรู้เดิมๆ แบบนี้ เราคงเก่งกันหมดตั้งแต่ตอนนั้นแล้วมั้งครับ ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าไม่เลย


อีกอย่างทิ้งท้าย เด๋วนี้แทบทุกคนใช้สมาร์ทโฟนหรือเข้าถึงเทคโนโลยีกันแล้ว ที่มาเม้นนี่ก็วันแรกของปี 2018 พอดี จงใช้เทคโนโลยีและความเพียรเรียนรู้ของตัวเองให้เป็นประโยชน์ครับ เจอคำศัพท์ที่ไม่รู้ เปิดหาทันที อย่าใช้เทคโนโลยีแบบสิ้นเปลืองครับผม อย่างผมนั่งเล่นเกม พูดๆกันเจอคำศัพท์แปลกๆผมหาทันที ตัวผมเองไม่ใช่คนเก่งภาษาอังกฤษแบบขั้นเทพอะไรเลย อาศัยเดา ตีความ เห็นภาษาเยอะๆเห็นบ่อยๆ มันจะนำไปใช้ได้ครับ


0
Rattanawan61148 1 ม.ค. 61 เวลา 13:27 น. 10

หนูคิดว่าอังกฤษเป็นอะไรมี่ง่ายกว่าคณิตตั้งงงงงงงเยอะ หนูชอบที่จะได้พูดคุยเป็นภาษาอังกฤษ อยากมีเพื่อนเป็นชาวต่างชาติ เมื่อก่อนหนูได้1.5เอง แต่ตอนนี้ได้เกรด4ค่ะ งานอดิเรกของหนูคือหารได้หาคำศัพท์ภาษาอังกฤษค่ะ

0
time_mada 1 ม.ค. 61 เวลา 17:41 น. 11

ขออนุญาตตอบรวมทุกคอมเม้นนะครับ


เชื่อไหมครับว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่เรียนภาษาอังกฤษเยอะมาก แต่เราสอบภาษาอังกฤษได้ท้ายๆของอาเซียน ผมจึงสงสัยว่าอาจมีบางอย่างผิดในการสอบภาษาอังกฤษ


หนึ่งในนั้นคือการมองภาษาเป็นแบบฝึกหัด เป็นข้อ เป็นบทเรียน

ลองถามเพื่อนๆดุว่าลองบอกภาษาไทยมีไวยากรณ์อะไรบ้าง ... คิดว่าทุกคนคงคิดนาน 555

นั่นเพราะภาษาไม่ใช่การทำถูกผิดอย่างเดียว แต่เป็นธรรมชาติของการใช้ภาษา ที่ประกอบไปด้วย

ความคุ้นเคย ความเข้าใจ ความรู้สึก

เราลองมองหาระบบการสอนที่ดีจริงๆ เขาจะโฟกัสกับเรื่องพวกนี้แทนครับ (แต่อาจต้องใช้เงินเยอะหน่อย)


แหล่งฝึกภาษา มีทั่วไปตามเวบไซต์ครับ ขอแนะนำให้อ่านกระทู้รีวิวแบบละเอียด อันแรก https://pantip.com/topic/37117138 หรือในเพจของผมมีกลุ่มส่วนตัวที่ตั้งขึ้นมาเพื่อฝึกฝนอยู่ สนใจลองอ่านรายละเอียดได้ครับ :)

0