จะซิ่ว2ปี เปลี่ยนมหาลัย ตั้งกระทู้ใหม่ ตั้งกระทู้ใหม่ · · · · · · ตอนนี้กำลังเรียน ปี2 มอ ไกลบ้าน เราเป็น homesick/ ชอบคิดมาก ตอนนี้รูสึกอยากซิ่วมากกก ไปใกล้บ้าน ปี1 เราคิดว่าเราจะปรับตัวได้ แต่มันยังไม่ได้ พอก่อนจะขึ้นปี2 เลยคิดว่ามาลองดูก่อนว่าจะยังอยู่ได้ไหม ปรากฏ ตอนนี้ down มากๆ อยากกลับบ้าน อยากไปใช้ชีวิตอยู่กทม เหมือนเดิมที่คุ้นชิน กินข้าวกับพ่อแม่ทุกเย็น เจอหน้ากัน อยู่นี่รู้สึกเหงา เคว้งคว้าง ถึงแม้จะมีเพื่อนสนิทสนุกสนาน แต่มันเทียบกับการที่ได้อยู่กับครอบครัวไม่ได้ เราเป็นคนติดบ้าน ติดแม่มาก เลยแบบ กลัวว่าถ้าเราเลือกที่จะเรียนต่อ เราจะรับสภาพจิตใจตัวเองไม่ได้ ออกกลางคัน (คณะ6ปี) แต่ในใจตอนนี้คืออยากไปลาออก สอบใหม่ ผล.ปรึกษา อ ที่ปรึกษา และ ครอบครัวแล้ว เขาอยากให้ทำอะไรแล้วเราสบายใจถ้าดันทุรังเรียนต่อ ใจไม่ไป มันทำอะไรก็ไม่ขึ้น คือจริงๆก็ปรึกษามาเยอะนะ เรื่องลาออกมันก็เป็นเรื่องใหญ่มาก หลายๆคนเขาก็บอกทำนองเดียวกันว่า อดทนๆๆๆๆ ฝึกบินเอง ฝึกอยู่คนเดียวจะได้โตเป็นผู้ใหญ่ซะที แต่เราก้คิดว่า ถึงเราไม่ฝึกตอนนี้ เราก็เป็นผู้ใหญ่ได้เองโดยไม่ต้องฝึกตั้งแต่นี้ก็ได้มั้งงง เราไม่อยากทนกับการเรียนถ้าใจเราไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย เปิดเทอมมานี้เรียนอะไรไม่เข้าหัว ไม่มีกำลังใจอ่าน หนังสือ อ่านไปก็ไม่มีสมาธิ จิตใจวอกแวกเหม่อลอย #ทันตะ #เภสัช #แพทย์ #คณะแพทยศาสตร์ #เด็กซิ่ว ช่วยตอบหน่อยค่ะ 21 ส.ค. 61 เวลา 20:13 น. 0 like 1,362 views Facebook Twitter รายชื่อผู้ถูกใจกระทู้นี้ คน
เบื่อจังเลย 21 ส.ค. 61 เวลา 21:11 น. 1 สวัสดีค่ะ เราก็เคยเป็นอาการเดียวกันกับคุณเลยค่ะ เราอยู่กรุงเทพมาก่อนแต่ไปได้มหาลัยต่างจังหวัดซึ่งไกลมาก เดือนหนึ่งหมดค่าหมดค่าเครื่องบินเป็นหมื่นเพราะคิดถึงแม่มาก ผลสุดท้ายเราตั้งใจเรียนให้ผลการเรียนแย่แล้วก็ต้องออกอ้างเหตุผลต่างๆนาๆกับที่บ้าน ในที่สุดเราก็ได้ซิ่วกับมาเรียนที่กรุงเทพสมใจอยาก แต่รู้ไหมคะเราเจอเหตุการณ์อะไร เราต้องเจอเหตุการณืรถติดต่างๆหมดเวลาเฉพาะไปกลับบ้านเป็นเวลา 5 ชั่วโมง ยิ่งถ้าช่วงสอบเราไม่มีเวลากลับบ้านเลยเพราะต้องอ่านหนังสือและเคลียรายการงานต่างๆแล้วยิ่งถ้าซิ่วตอนปี2 ต้องถามตัวเองเยอะๆค่ะว่าเราสามารถหารายจ่ายมาชดเชยนั้นในส่วนได้ไหมเพราะรู้สึกผิดกับแม่มากๆที่ย้ายกลับมาแถมผลการเรียนก็ไม่ได้ดีอะไร แถมกลายเป็นว่าแทนที่เราจะรีบเรียนจบมาหางานทำให้แม่สบาย กลายเป็นว่าต้องยืดเวลาเพิ่มภาระให้ท่านเพิ่มอีก หอในกทม. ราคาก็โหด นึกว่าย้ายมาจะดีแต่กับเคว้งยิ่งกว่าตอนอยู่ต่างจังหวัดอีกค่ะ ขนาดเรามีเพื่อนดีเรายังอดรู้สึกแบบนั้นไม่ได้เลยค่ะ อีกเรื่องที่กวนใจเราก็คือคนแถวบ้านชอบมาถามแม่เราว่าลูกยังเรียนไม่จบอีกหรอ เมื่อไหร่จะจบ มีแอบเอาไปนินทาด้วยนะคะว่าที่ย้ายกลับบ้านมาเพราะสงสัยจะเรียนที่เดิมไม่รอด เรามองหน้าแม่แล้วรู้สึกผิดมากๆเลยค่ะ พูดแล้วเศร้า เป็นกำลังใจให้นะคะ เรารู้ว่าคุณมีคำตอบในใจคุณอยู่แล้ว ตอนเราเพื่อนเก่าพยายามพูดชักแม่ทั้งห้ายังไงผลสุดท้ายเราก็เลือกเดินหันหลังให้อยู่ดี 0 1 ถูกใจ ตอบกลับ 1 เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
เบื่อจังเลย 21 ส.ค. 61 เวลา 21:20 น. 1-1 สุดท้ายเราก็อยู่หออยู่ดีเพราะทนรถติดไม่ไหว มันก็ไม่แตกต่างจากเดิมเท่าไหร่ 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ
หมอแก่ 21 ส.ค. 61 เวลา 22:15 น. 2 ต้องมองปัญหาแบบใช้ความเป็นจริงที่ควรจะเป็นมาคิดวิเคราะห์ให้เยอะๆ แยกประเด็นปัญหาออกว่าจริงๆแล้วอยู่ตรงไหน แล้วแก้ให้ตรงจุดที่สุด เช่น 1.อยากเป็นแพทย์จริงไม๊ เป็นแพทย์ต้องอดทนไม๊ ถ้าต้องไปทำงานที่ไกลๆทำได้ไม๊ 2.คิดถึงบ้านมาก คิดถึงแม่มาก แล้วชีวิตนี้เราจะไม่มีวันจากกับท่านเลยหรือ 3.สอบใหม่ง่ายไม๊ สถาบันต่างๆในกรุงเทพคะแนนสูงไม๊ ต้องเตรียมตัวอย่างไรถึงจะสู้กับน้องๆที่จะสอบปีนี้ได้ 4.ถ้าผิดสัญญาการชดใช้ทุนจะเกิดอะไรขึ้นไม๊ 5.ทำไม๊ทำไมทุกคนอยากให้อดทนเรียนต่อไป 6.ลองปรับตัวได้ไม๊ โทรคุยกับแม่บ่อยๆ ใช้วีดิโอคอลล์ มุ่งมั่นตั้งใจเรียนทดแทนอาการคิดถึงบ้าน หาแฟนหล่อๆจะได้คิดถึงแฟนแทนคิดถึงแม่ 7.เรียนแพทย์6ปี เรียนมาแล้วเกือบ2ปี เท่ากับ1/3 กั้นใจอีกนิดได้ไม๊ 8.ปรึกษาจิตแพทย์รักษาอาการโฮมซิก ดรอปไปบำบัดก่อน แล้วค่อยกลับมาเรียน 9.เพื่อนๆหลายคนก็มาไกลเหมือนๆกับเรา ทำไมเค้าปรับตัวได้ เราผิดเพี้ยนตรงไหน 10.บรา...บรา...บรา...อีกมากมาย 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
จากใจพ่อคนหนึ่ง 23 ส.ค. 61 เวลา 11:34 น. 3 ใจคอไม่คิดว่าซักวันจะต้องจากครอบครัวไปทำงานใช้ทุนที่ไกลๆกว่าที่เรียนหรือครับ สังคมตอนทำงานมันหนักกว่าตอนเรียนอีกนะ หรือกะว่าถ้าทำไม่ไหวก็ชดใช้ทุน-ลาออกมาทำคลีนิคแทนจะได้ไม่ห่างบ้าน ลูกผมก็เรียนที่คณะคะแนนต่ำสุด66.XX บ้านอยู่ห่างจากม.20กม.เอง ลงทางด่วนถึงข้างม.เลย ลูกดีใจที่ติดใกล้บ้านแต่ผมให้ไปอยู่หอในกับเพื่อนในคณะเพื่อให้รู้จักการอยู่ร่วมกันในสังคม ปีนี้ขึ้นปี2แล้วความคิด-รับผิดชอบดีขึ้นมาก ปรับตัวได้คิดว่าถึงเวลาไปทำงานใช้ทุนถึงจะไปอยู่ในที่ลำบากก็คงเอาตัวรอด 1 0 ถูกใจ 1 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
maimak 17 ก.ย. 61 เวลา 17:38 น. 4 สู้เถอะครับ ยังงัยคุณก้อต้องออกจากอกพ่อแม่ไปทำงานนอกบ้านอยู่ดี ปรับตัว ใช้ชีวิตให้สนุกคุ้มค่าดีกว่ามานั่งคิดซิ่วครับ 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
4 ความคิดเห็น
สวัสดีค่ะ เราก็เคยเป็นอาการเดียวกันกับคุณเลยค่ะ เราอยู่กรุงเทพมาก่อนแต่ไปได้มหาลัยต่างจังหวัด
ซึ่งไกลมาก เดือนหนึ่งหมดค่าหมดค่าเครื่องบินเป็นหมื่นเพราะคิดถึงแม่มาก ผลสุดท้ายเราตั้งใจเรียน
ให้ผลการเรียนแย่แล้วก็ต้องออกอ้างเหตุผลต่างๆนาๆกับที่บ้าน ในที่สุดเราก็ได้ซิ่วกับมาเรียนที่กรุงเทพ
สมใจอยาก แต่รู้ไหมคะเราเจอเหตุการณ์อะไร เราต้องเจอเหตุการณืรถติดต่างๆหมดเวลาเฉพาะไปกลับบ้าน
เป็นเวลา 5 ชั่วโมง ยิ่งถ้าช่วงสอบเราไม่มีเวลากลับบ้านเลยเพราะต้องอ่านหนังสือและเคลียรายการงานต่างๆ
แล้วยิ่งถ้าซิ่วตอนปี2 ต้องถามตัวเองเยอะๆค่ะว่าเราสามารถหารายจ่ายมาชดเชยนั้นในส่วนได้ไหม
เพราะรู้สึกผิดกับแม่มากๆที่ย้ายกลับมาแถมผลการเรียนก็ไม่ได้ดีอะไร แถมกลายเป็นว่าแทนที่เราจะรีบเรียนจบมาหางานทำให้แม่สบาย กลายเป็นว่าต้องยืดเวลาเพิ่มภาระให้ท่านเพิ่มอีก หอในกทม. ราคาก็โหด นึกว่าย้ายมาจะดีแต่กับเคว้งยิ่งกว่าตอนอยู่ต่างจังหวัดอีกค่ะ ขนาดเรามีเพื่อนดีเรายังอดรู้สึกแบบนั้นไม่ได้เลยค่ะ อีกเรื่องที่กวนใจเราก็คือคนแถวบ้านชอบมาถามแม่เราว่าลูกยังเรียนไม่จบอีกหรอ เมื่อไหร่จะจบ มีแอบเอาไปนินทาด้วยนะคะว่า
ที่ย้ายกลับบ้านมาเพราะสงสัยจะเรียนที่เดิมไม่รอด เรามองหน้าแม่แล้วรู้สึกผิดมากๆเลยค่ะ พูดแล้วเศร้า
เป็นกำลังใจให้นะคะ เรารู้ว่าคุณมีคำตอบในใจคุณอยู่แล้ว ตอนเราเพื่อนเก่าพยายามพูดชักแม่ทั้งห้ายังไง
ผลสุดท้ายเราก็เลือกเดินหันหลังให้อยู่ดี
สุดท้ายเราก็อยู่หออยู่ดีเพราะทนรถติดไม่ไหว มันก็ไม่แตกต่างจากเดิมเท่าไหร่
ต้องมองปัญหาแบบใช้ความเป็นจริงที่ควรจะเป็นมาคิดวิเคราะห์ให้เยอะๆ แยกประเด็นปัญหาออกว่าจริงๆแล้วอยู่ตรงไหน แล้วแก้ให้ตรงจุดที่สุด เช่น 1.อยากเป็นแพทย์จริงไม๊ เป็นแพทย์ต้องอดทนไม๊ ถ้าต้องไปทำงานที่ไกลๆทำได้ไม๊ 2.คิดถึงบ้านมาก คิดถึงแม่มาก แล้วชีวิตนี้เราจะไม่มีวันจากกับท่านเลยหรือ 3.สอบใหม่ง่ายไม๊ สถาบันต่างๆในกรุงเทพคะแนนสูงไม๊ ต้องเตรียมตัวอย่างไรถึงจะสู้กับน้องๆที่จะสอบปีนี้ได้ 4.ถ้าผิดสัญญาการชดใช้ทุนจะเกิดอะไรขึ้นไม๊ 5.ทำไม๊ทำไมทุกคนอยากให้อดทนเรียนต่อไป 6.ลองปรับตัวได้ไม๊ โทรคุยกับแม่บ่อยๆ ใช้วีดิโอคอลล์ มุ่งมั่นตั้งใจเรียนทดแทนอาการคิดถึงบ้าน หาแฟนหล่อๆจะได้คิดถึงแฟนแทนคิดถึงแม่ 7.เรียนแพทย์6ปี เรียนมาแล้วเกือบ2ปี เท่ากับ1/3 กั้นใจอีกนิดได้ไม๊ 8.ปรึกษาจิตแพทย์รักษาอาการโฮมซิก ดรอปไปบำบัดก่อน แล้วค่อยกลับมาเรียน 9.เพื่อนๆหลายคนก็มาไกลเหมือนๆกับเรา ทำไมเค้าปรับตัวได้ เราผิดเพี้ยนตรงไหน 10.บรา...บรา...บรา...อีกมากมาย
ใจคอไม่คิดว่าซักวันจะต้องจากครอบครัวไปทำงานใช้ทุนที่ไกลๆกว่าที่เรียนหรือครับ สังคมตอนทำงานมันหนักกว่าตอนเรียนอีกนะ หรือกะว่าถ้าทำไม่ไหวก็ชดใช้ทุน-ลาออกมาทำคลีนิคแทนจะได้ไม่ห่างบ้าน
ลูกผมก็เรียนที่คณะคะแนนต่ำสุด66.XX บ้านอยู่ห่างจากม.20กม.เอง ลงทางด่วนถึงข้างม.เลย ลูกดีใจที่ติดใกล้บ้านแต่ผมให้ไปอยู่หอในกับเพื่อนในคณะเพื่อให้รู้จักการอยู่ร่วมกันในสังคม ปีนี้ขึ้นปี2แล้วความคิด-รับผิดชอบดีขึ้นมาก ปรับตัวได้คิดว่าถึงเวลาไปทำงานใช้ทุนถึงจะไปอยู่ในที่ลำบากก็คงเอาตัวรอด
สู้เถอะครับ ยังงัยคุณก้อต้องออกจากอกพ่อแม่ไปทำงานนอกบ้านอยู่ดี ปรับตัว ใช้ชีวิตให้สนุกคุ้มค่าดีกว่ามานั่งคิดซิ่วครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?