Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ประสบการณ์สัมภาษณ์ BECON KU + BE TU

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่ะ เราได้ไปสัมภาษณ์ BECON KU(เศรษฐศาสตร์ หลักสูตรภาษาอังกฤษ) + BE TU(เศรษฐศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติมาอยากจะมาแชร์ให้ทุกคนน้า

à BECON KU
  
รอบที่เรายื่นคือรอบแรก ใช้ SAT+IELTS+PORT 10 หน้ายื่นไปค่ะ ที่นี่คือเรียกสัมภาษณ์ 100 คน รับ 60 คนนะคะ ก็พอไปถึงก็จะมีโต๊ะลงทะเบียนแล้วก็จะได้บัตรคิวมา แล้วก็เข้าไปนั่งรอในห้องที่เขาจัดไว้ให้ แล้วพี่เขาก็จะมาเรียกตามคิวให้ไปสัมภาษณ์ค่ะ ของเราได้อาจารย์ผู้ชายสองท่านเลยค่ะ

1.Please introduce yourself and your family

เราก็แนะนำตัวไปแล้วพูดเรื่องธุรกิจครอบครัวไปนิดหน่อยค่ะ แล้วเหมือนอาจารย์เขาก็สนใจก็เลยให้เราพูดเกี่ยวกับธุรกิจครอบครัวต่อไปสักพักเลยค่ะ

2.Why not go to study in business?

 สำหรับเราคือ เราอยากเรียนเป็นภาพใหญ่ๆก่อนค่ะ แล้วก็บอกว่า master degree ของเราจะไปต่อ business

3.วันนี้มาสัมภาษณ์ที่นี่คนเดียวเหรอ แล้วเพื่อนๆที่ รร. เข้ามหาลัยไหนกัน

เรามาคนเดียวค่ะ เพื่อนที่ รร. เข้าที่อื่นกัน

4.Why you choose to study here?

5.In high school,What you have learned about economy?

เราพูดเรื่อง demand supply ไปเลยค่ะ

6.คะแนน SAT MATH ค่อนข้างดี ชอบเรียนคณิตเหรอ

เราตอบไปว่าเราชอบคณิตมากๆค่ะ แต่ชอบแนวการคำนวณมากกว่า

7.What about Calculus?

เราก็บอกว่าเราถนัดคำนวณมากกว่า แคลคูลัสค่อนข้างยากแต่เราเรียนได้(เราแนะนำว่าถ้าไม่ถนัดอย่าบอกว่าถนัดเลยค่ะ ให้ตอบความจริงไปดีกว่า เพราะถ้าเราบอกว่าเราชอบ เราถนัด แล้วอาจารย์ให้โจทย์มาแล้วตอบไม่ได้ เราจะแย่เองค่ะ)

8.ได้ยื่นที่ไหนไปอีกรึเปล่า ถ้ายื่นแล้วติดทั้งสองที่จะเลือกที่ไหน

9.มีคำถามอะไรอยากถามมั้ย

คร่าวๆประมาณนี้ค่ะที่เป็นคำถามใหญ่ๆ แต่คำถามใหญ่ๆนี้ก็ยังมีคำถามย่อยๆอีก เช่นเรื่องธุรกิจครอบครัวของเราก็มีคำถามยิบย่อยอีกเป็นสิบเลย 55555 ทางที่ดีก็พยายามเตรียมตัวให้ดีค่ะ อย่าตื่นสถานที่+อาจารย์ค่ะ สัมภาษณ์ให้เป็นตัวเราที่สุด

-à BE TU

มีแต่คนบอกว่าขึ้นชื่อว่าสัมภาษณ์โหด ของที่นี่เรียกสัมภาษณ์ 427 คนเลยค่ะ เยอะจนกลัวไปหมด แต่เราเตรียมตัวไปเยอะมากๆ  เราไปอ่านแนวสัมของพี่แอดมินที่เขาทำไว้ให้ในเพจ Learning café ศูนย์รวมข้อมูลการสอบอินเตอร์ เลยค่ะ ค่อนข้างตรงมาก เราไปหัดพูดหน้ากระจกเลยค่ะเนื่องจากเราค่อนข้าวไม่มั่นใจในตัวเอง+ตื่นคนมาก 

       ของที่นี่จะมี 4 รอบนะคะ ของเราได้รอบ 7:45 ค่ะ เช้าตรู่กันเลยทีเดียว พอไปถึงห้องลงทะเบียนก็จะมีพี่ๆตรวจสอบข้อมูลค่ะ อันนี้สำคัญมาก คือถ้าใครที่ใช้  IELTS,TU GET  ยื่น ให้นำตัวจริงไปด้วยนะคะสำคัญมากๆๆๆๆๆ TU-GET ปกติจะส่งทางไปรษณีย์มาแต่ถ้าไม่ได้รับสามารถไปขอได้ที่สถาบันภาษาที่ ท่าพระจันทร์นะคะ 50 บาท เพราะถ้าเอกสารไม่ครบอาจจะมีปัญหาได้(ตอนประกาศสัมเขาจะบอกแล้วว่าต้องนำอะไรไปบ้างให้ดูให้ดีนะคะ)

      พอตรวจเอกสารเสร็จแล้วจะได้กระดาษสองใบนะคะ ใบที่หนึ่งให้กรอกประวัติส่วนตัวเราแบบว่า hobbies,ประเทศที่เคยไป, movies, books แล้วก็จะมีถามว่าคิดว่าจะยื่นคะแนน GAT PAT ไหม สุดท้ายถามว่ายื่นคณะอะไรไปอีกรึเปล่านอกจากนี้ค่ะ ส่วนใบที่สองให้เขียน  essay ค่ะ ปีเราได้เป็นเขียนเกี่ยวกับตัวเอง บางปีเห็นได้เขียนเกี่ยวกับข่าวต่างๆในช่วงนั้นด้วย เตรียมไปดีๆนะคะ เพราะเราไม่รู้หรอกว่าเขาจะให้เราเขียนเรื่องอะไร

 *****สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดนะคะ*******

     พอเขียนเสร็จก็ได้เวลาเราต้องไปสัมภาษณ์พอดี  เข้าไปสวัสดีค่ะ ถามก่อนเลยว่ามาจากโรงเรียนอะไร แล้วก็ introduce yourself ค่ะ เนื่องจากว่าเราไม่แข็งข่าวเศรษฐกิจขนาดนั้น เราเลยพูดเรื่องธุรกิจครอบครัวของเราดักไปตั้งแต่ท่านยังไม่ถามเลยค่ะ แล้วก็คุยกันยาวมากๆเรื่องธุรกิจของเราค่ะ(ซึ่งปกติก็มีคนโดนกันเยอะนะคะที่ถามธุรกิจครอบครัว แนะนำให้ไปศึกษาดีๆเลยเพราะเขาถามละเอียดๆเลยค่ะ)  แล้วก็ในใบ essay เราเขียนไปว่าเราอยากเปิด café ที่ adapt กับธุรกิจที่มีอยู่ตอนนี้  ท่านก็เลยถามว่า แล้วทำไมต้องมาเรียนเศรษฐศาสตร์ ทำไมไม่ไปเรียน BBA ละ เราก็ตอบว่าเราอยากจะเรียนเป็น big picture ก่อน เราอยากเรียนรู้ behavior of people อะไรประมาณนี้ ท่านก็บอกว่าสาขาอื่นก็มีนี่นา แล้วชอบเพลงเกาหลีเกี่ยวยังไงกับการทำธุรกิจของเรา เราก็ตอบไปค่ะ แล้วท่านก็ถามว่าแบบนี้ไปเรียน marketing ก็ทำได้ ทำไมไม่ไปเรียน marketing ละ(ถึงตอนนี้แล้วใจแข็งสู้เข้าไว้นะคะ 555555 ตอบไปค่ะ ให้เขารู้ว่าเราอยากเรียนที่นี่ อยากเรียนคณะนี้แล้วมันต่อยอดกับเราได้ขนาดไหนท่านก็ถามว่า แล้วจะเลือก  minor อะไรที่คิดไว้ เราก็บอกว่า finance ค่ะ ซึ่งเขาก็ทำหน้าสงสัยนิดนึงค่ะว่ามันจะเกี่ยวกับการทำ café ยังไง แล้วก็ถามว่าไม่ชอบวิชาอะไรมากที่สุด เราตอบไปว่า thai language เลยค่ะ เกรดเราห่วยมาก5555555 อาจารย์ท่านก็ขำกันค่ะ แล้วถามว่าชอบวิชาอะไร เราตอบว่า math ค่ะ อาจารย์ท่านนึงเลยถามว่าชอบเรื่องไหนเป็นพิเศษ เราก็ตอบคำนวณค่ะ ท่านถามว่าพวก linear graph อะไรแบบนี้เราก็ตอบไปว่าก็ทำได้ค่ะ แล้ว Calculus ละ เราก็บอกว่ามันยากค่ะ ท่านก็เลยถามว่าแล้วรู้ใช่มั้ยว่า calculus ต้องเรียนทั้งหมด เราตอบว่ารู้ค่ะ เราไม่ได้ไม่ชอบน้า เราเรียนได้แน่นอนเพราะเราชอบคณิตแค่ไม่ได้ถนัดเป็นพิเศษเฉยๆค่ะ 55555 แล้วก็เข้าช่วงคำถามเศรษฐกิจค่ะ ให้บอกข่าวเศรษฐกิจช่วงนี้ที่รู้มา พอเราบอกไปก็เหมือนว่าจะซ้ำกับคนอื่นเยอะแล้วค่ะ ก็เลยให้หาเรื่องใหม่มาพูด (เตรียมข่าวใหญ่ๆไว้หลายๆเรื่องก็จะดีมากๆค่ะแล้วก็ถามว่าแล้วเศรษฐกิจตอนนี้ส่งผลกับธุรกิจที่บ้านมั้ย ยังไง สุดท้ายแล้วค่ะ ถามว่ามีคำถามอะไรมั้ย เราก็ถามเกี่ยวกับการเรียนแลกเปลี่ยน  ท่านตอบยาวมากค่ะ แต่พอเหมือนจะเสร็จท่านก็เหลือบไปเห็นว่าเราเขียนว่ายื่นที่อื่นไปด้วย ท่านก็เลย I have a question ,You said that you have applied to other university?  If you accepted both , which one you will choose? แล้วก็จบค่ะ

 

    เสริม :ของเพื่อนเราโดนคำถามเศรษฐกิจเยอะมากๆค่ะ แล้วแต่คนจริงๆ ของเพื่อนเราคือโดนถามหลายประเทศเลย+เศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก แนะนำให้ดูข่าวอัดไปเยอะๆเลยค่ะ ว่างก็ฟังข่าวเลย BBC/Bangkok post

BE TU เราไม่ได้เอา PORT  ไปสัมภาษณ์นะคะ (แนะนำว่าใครที่กิจกรรมเด่นๆให้เอาไปนะคะ แต่เราไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไรเด่นๆเท่าไรเลย)

     

แนะนำ : พูดความจริงและเป็นตัวเรามากที่สุดค่ะ เพราะถ้าโกหกอาจารย์ท่านดูออกและอาจต้อนเราจนจนมุมได้ อ่านข่าวไปเยอะๆ ความรู้รอบตัว ความรู้เกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์ขั้นพื้นฐาน อย่าหวั่นไหวกับคำถามลองใจค่ะ แสดงความแน่วแน่ให้มากที่สุด 

ถ้ามีคำถาม ถามเราได้เลยน้า หรือจะถามใน ASK FM : @dreamdipp นะคะ 

แสดงความคิดเห็น

>