เล่าและรีวิวสัมภาษณ์ มศว (ไม่มีจุด) COSCI ฉบับถามใช่ตอบไม่ถามได้ตอบไม่ได้
ตั้งกระทู้ใหม่
วันนี้เราขอมารีวิวการสอบสัมภาษณ์เข้ามหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ฉบับที่ เพื่อนและแม้แต่พ่อแม่ของเราก็ต่างพูดว่า "ตอบแบบนี้ไม่น่าติดนะ เตรียมใจไว้เลยละกัน"
เราเป็นเด็ก TCASุ63 โดยเรานั้น ยื่น portfolio มหาลัยเดียว คณะเดียว และสาขาเดียว คือ
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคมภาพยนตร์และภาพนิ่ง สาขาวิชาภาพยนตร์และสื่อดิจิทัล วิชาเอกการออกแบบเพื่องานภาพยนตร์และสื่อดิจิทัล (หลักสูตร 2 ภาษา) โครงการผู้มีทักษะพิเศษทางด้านนวัตกรรมสื่อสาร โดยเราติดรอบ portfolio และได้ผ่านการสัมภาษณ์เรียบร้อย
ขอรีวิวความรู้สึกก่อนเลย
เราก็ได้อ่านรีวิวการสัมภาษณ์ของคนอื่นๆมาบ้าง แต่เราไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย รวมถึงข้อมูลของคณะ ของมหาลัย เราทำตัวสบายๆ ไม่ท่องจำอะไรเข้าไป เพราะเราเชื่อว่า เป็นตัวของตัวเองจะดีที่สุด ในการสัมภาษณ์ มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยเราเลือกที่จะพูดทั้ง 2 ภาษา เพราะเราอยากนำเสนอตัวเองให้กับคณะอาจารย์เห็นให้ได้มากที่สุด
มีกรรมการ 3 ท่าน (คำถามไม่ได้เรียงกันนะคะ เราจำได้บ้างไม่ได้บ้าง)
กรรมการ1: สวัสดีค่ะ
กรรมการ2: มาจากอัสสัมหรอ อัสสัมชัญไหน
เรา: อัสสัมชัญระยองค่ะ
กรรกการ1: แนะนำตัวค่ะ
เรา: พูดภาษาอังกฤษด้วยมั้ยคะ
กรรมการ2: ได้เลย โชว์เลย เต็มที่
เรา: //แนะนำตัวปกติ ทั้งไทย และ อังกฤษ บอกชื่อ โรงเรียน จังหวัด//
กรรมการ3: Tell me about your province?
เรา: Sure, well, my province is not that good. It has a lot of factories, do not live here, it's full of pollutions,
กรรมการ: //ตอนเราพูดจบกรรมการเดดแอร์ไปพักนึงเลยค่ะ เราเลยพูดต่อว่า//
เรา: but you should visit there somehow
กรรมการ2: ไหนบอกแย่
กรรมการ3: หนังเรื่องล่าสุดที่ดูคืออะไร
เราและกรรมการ: //นั่งยิ้มนั่งขำ5555555555//
เรา: Parasite ค่ะ
กรรมการ3: รู้สึกยังไง ไหนเล่า
เรา: ชอบนะคะ ชอบมาก สื่อความหมายของหนังชัดเจนดี ไม่ต้องตีความก็เข้าใจได้เลย คือหนังมันบอกอยู่แล้วอะค่ะ แล้วก็รู้สึกว่าจะเป็นหนังเอเชียที่ได้รางวัลลูกโลกทองคำด้วยนะคะ speech ของผู้กำกับก็แซ่บค่ะ แรงอยู่
กรรมการ1: ชอบดูหนังแนวไหน
เรา: แนวแอคชั่นค่ะ บู๊ๆไปเลย ตูนรู้สึกว่าหนังแนวนี้ไม่ต้องตีความอะไรมาก เราสนุกกับฉากการต่อสู้ อลังการ สามารถดูได้แบบไม่เครียด แต่ก็ไม่ใช่ทุกเรื่องหรอกค่ะ แต่เท่าที่ดูก็เจอแบบนั้นเป็นส่วนใหญ๋
กรรมการ3: เป็นเด็กดีมั้ย
เรา: ตอบไลน์แม่บ่อยนะคะ แม่โทรมาก็รับ ไม่ค่อยเที่ยวกลางคืน แม้ว่าอัสสัมจะถูกมองว่าดังเรื่องนี้ก็ตาม
กรรมการ3: จริงหรอ
เรา: ก็ ประมาณนั้นค่ะ แล้วก็ชอบกิน ชอบดูหนัง ชอบเทียนหอม ไม่ค่อยออกไปไหน
กรรมการ3: สรุปเป็นเด็กดีมั้ย
เรา: ดีค่ะ
กรรมการ1: เห็นในพอร์ตชอบแต่งหน้าแนวเอฟเฟ็ค มีศิลปินช่างแต่งหน้าคนไหนที่ชอบมั้ย
เรา: ชอบเมลินดาค่ะ ผู้เข้าแข่งขันจากรายการ Glow up เป็นรายการเกี่ยวกับแต่งหน้า สัญชาติยูเค ตูนชอบมาก
กรรมการ2: You seem really like make up?
เรา: yes, I really do love make up, my passion for make up is countless.
กรรมการ3: ถ้าไม่ติดจะไปต่อไหน
เรา: ก็คงไปต่อจีนค่ะ
กรรมการ1: เรียนอะไร
เรา: คุณแม่อยากให้เรียนบริหารระหว่างประเทศค่ะ มหาลัยอินเตอร์ เพราะเรียนเป็นภาษาอังกฤษ ตูนก็อยากเรียนนพวกนิเทศศาสตร์ที่จีนนะคะ แต่มันไม่ค่อยมีอินเตอร์เท่าไหร่ ส่วนมากเรียนเป็นภาษาจีน ก็คิดว่า เรียนจบจากจีนก็จะกลับมาต่อโทที่นี่แหละค่ะ
กรรมการ2: เอ้า แบบนั้นไม่ดีกว่าหรอ มาสมัครทำไม
เรา: ตูนอยากเข้าที่นี่ค่ะ อยากเข้ามาก แต่ถ้าทำสุดความสามาถแล้วไม่ติด ก็ต้องยอมรับว่าไม่ได้ คนเราก็ต้องมูฟออนค่ะ ตูนก็วางแพลนไว้ แต่ถ้าติด ก็คงจะเข้าที่นี่ ถ้าไม่ก็ไปต่อตปท. เป็นเหมือน second plan ค่ะ คนเราก็ต้องวางแผนไว้บ้าง ไม่มีอะไรแน่นอนหรอกค่ะ
กรรมการ1: คิดว่าข้อเสียของเราคืออะไร
เรา: ตรงๆเลยนะคะ คือตูนเป็นคนที่ ถ้ามีงานกลุ่ม ตูนเสนอไอเดียไป แล้วBก็เสนอไอเดียมา ปรากฏมติคือใช้ของ B แบบ100% แล้วไม่ใช้ของตูนเลย ไม่มีการแชร์ไอเดียร่วมกัน ไม่ฟังกัน ตูนจะลงแรงช่วยงานกลุ่มแค่ 50% มากสุด 80% ค่ะ จะไม่ช่วยถึง 100% แน่นอน แต่ก็ไม่เอาเท้าราน้ำนะคะไม่ขัดขวาง ไม่เป็นอุปสรรค แต่ไม่ช่วยค่ะ
กรรมการ1: เอ้า แต่นี้สาขาภาพยนตร์นะ งานกลุ่มต้องมีอยู่แล้ว
เรา: ทราบค่ะ ตอนนี้ก็หัดคุมอารมณ์อยู่
กรรมการ3: สิ่งสำคัญอะไรที่ิคิดว่าให้เราเป็นมนุษย์
เรา: เพศค่ะ คนเราเกิดมา physical เรามี vergina และเอ่อ สิ่งนั้น แต่นั่นเป็นเพียงภายนอก แต่ข้างในเรา ในจิตใจเรา เราสามาถเป็นอะไรก็ได้ เพศไหนก็ได้ ตูนเชื่อว่า ถ้าเราเริ่มเคารพเพศคนอืน สิ่งที่คนอื่นเป็น สิ่งอื่นๆก็จะตามมาเอง นั่นทำให้เราเป็นมนุษย์ในความคิดตูนค่ะ
กรรมการ1: ในพอร์ตไม่มีวาดเลย
เรา: วาดรูปไม่ค่อยเป็นน่ะค่ะ
กรรมการ1: แต่ในสาขานี้ต้องมีบ้างนะ
เรา: พอเรียนมาบ้างค่ะ ลายเส้นนิดๆหน่อยๆ
กรรมการ1: ไหนลองวาดซิ
เรา: //วาดดอกไม้สไตล์เด็กป.4 ใครอยากดู หลังไมค์มาเลยค่ะ 5555555//
กรรมการ1: วาดเสร็จบอกหน่อย คือออะไร คิดยังไง เอาไปทำอะไรได้บาง
เรา: ตูนวาดดอกไม้นี้ เพราะมีเพื่อนตูนคนนึง ชอบสักมาก ซักวันมันคงเป็นช่างสัก ตูนออกแบบลายนี้ให้มัน เป็นลายที่ก็เอ่อ ที่เห็นแหละค่ะ มินิมอลหน่อยๆละมั้ง แล้วชื่อของมันแปลว่าดอกไม้ซักดอกที่ตูนก็จำชื่อไม่ได้ เลยทำให้ตูนวาดดอกไม้ออกมา ถ้าถามว่าเอาไปมำไรได้บ้าง ก็คงเอาไปวาดใส่กรอบ แล้วทำเป็นพร๊อบในหนังอินดี้ซักเรื่องค่ะ
กรรมการ2: ช่างเม้าท์นะเรา ค่ะ ขอบคุณมาก ขอให้โชคดี
เรา: //ไหว้// ขอบคุณ //หยิบกระเป๋ากำลังจะเดินออก//
กรรมการ1: อ้าว ใช้กระเป๋าโชคดีด้วย สายมูหรอเรา
เรา: นิดหน่อยค่ะ มีบ้าง //ไหว้// สวัสดีค่ะ ขอบคุณค่ะ
แล้วเราก็เดินออกจากห้อง เอาบทสนทนาโทรไปเล่าให้เพื่อนกับแม่ฟัง แล้วก็เป็นอย่างตอนต้นบทความเลยค่ะ
" ตอบแบบนี้จะติดหรอ- เตรียมใจไว้หน่อยละกัน "
" ตอบคำถามได้แปลกมากลูก ไปจีนละกันเนอะ "
ตอนฟังเราก็ชะงักไปแวบนึง แต่เราก็ยังเชื่อว่า ตอบในแบบของเรา จะดีที่สุด แล้วตอนตอบ เรามั่นใจมาก เราไม่คิดเลย เพราะเราตอบออกมาจากในความคิดเราจริงๆ ผลคือ เราติดค่ะ เพื่อนกับแม่ก็งง เราก็งงค่ะ 5555555555555
3 ความคิดเห็น
พี่คะคือว่าถ้าแบบพูดอิ้งไม่ค่อยได้โอกาสติดเราจะน้อยลงมั้ยคะ
ไม่ค่ะ เราก็พูดไทย
พี่คะ หนูขอไอจีได้มั้ยคะ หนูอยากทักไปดูพอร์ตพี่อะค่ะ
เค้าสัมเป็นภาษาอังกฤษแค่นี้เองหรอคะไปอ่านมานึกว่าจะให้พูดอิ้งล้วนเลย สรุปเค้าก็ถามเราเป็นภาษาไทยส่วนใหญ่แล้วเราก็ตอบเป็นภาษาไทยส่วนใหญ่เหมือนกันใช่มั้ยคะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?