Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รีวิวสอบ TOEIC 2020 ครั้งแรกแล้วได้ 845/990 แบบไม่เรียนพิเศษ พร้อมบอกทริค ฉบับเด็ก ม.ปลาย

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

สวัสดีจ้าาา ทุกคน เราชื่อไตเติ้ล กำลังขึ้น ม6 เป็น dek64 อันนี้เป็น content แรก ของเราเลยนะ ก็คือเราจะมารีวิวการสอบ Toeic ให้ทุกคนฟัง
‍ก่อนอื่นเราขอเกริ่นก่อนเลยนะว่าการสอบครั้งนี้คือเราไม่ได้เตรียมตัว ไม่ได้อ่านอะไรไปเลย แบบปุบปับต้องใช้คะแนน เลยแบบรีบสมัครตอนนั้นละวันต่อมาเราก็ไปสอบเลย  คือเราจะสมัครโครงการไปแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยที่ประเทศญี่ปุ่นกับทางโรงเรียน  และเราผ่านด้วยแต่ตอนนี้โครงการถูกเลื่อนเนื่องจากสถานการณ์ covid-19 แต่ถ้าได้ไปเมื่อไหร่เราสัญญาว่าจะมาตั้งกระทู้แชร์ประสบการณ์นะ
หลายคนคง งง ว่า อ่าว แล้วเราจะแนะนำยังไงได้ทั้งๆที่ไม่ได้เตรียมตัว เราขอบอกเลยว่า จริงๆแล้วเราเป็นคนชอบเรียนภาษามากๆ เลยพยายามทำให้ภาษาอังกฤษมาอยู่ในชีวิตประจำวันของเรา (เราไม่ได้เรียนนานาชาติ/English Program นะ  และ เราไม่เคยไปแลกเปลี่ยนหรือไปเรียนที่ต่างประเทศ  ) และเราเชื่อว่า ทุกคนก็ทำได้ แต่ก่อนจะไปที่ เรื่องของ Trick เราขอ อธิบายเกี่ยวกับข้อสอบก่อนเนอะ

อะเค เริ่ม !!!! เกริ่นมาเยอะละ
ข้อสอบ Toeic หรือมีชื่อเต็มๆว่า “ Test of english for international communication “
-การสมัครสอบ
เราสามารถโทรไปจองล่วงหน้าได้ที่เบอร์ 02-260 7061 , 02 664 3131
หรือ
จะ Walk In ไปที่ศูนย์สอบเลยก็ได้ แต่อันนี้คืออาจจะไม่ได้รอบที่เราต้องการอะนะ
-สถานที่สอบ
@กรุงเทพ สอบที่ อาคาร BB building อโศก อยู่ติดกับตึก GMM Grammy เลย ใครสอบเสร็จอยากไปกรี้ดดารานักร้อง หรือ ก่อนสอบไปหากำลังใจที่ตึก grammy ก่อนก็ได้นะ5555
@เชียงใหม่ Toeic มีศูนย์สอบที่เชียงใหม่ด้วยนะ เผื่อใครสะดวกไปสอบที่เชียงใหม่
ที่ตั้งศูนย์สอบ TOEIC (สาขา เชียงใหม่)
ชั้น 3 อาคารนวรัตน์ 4/6 ถนนแก้วนวรัตน์ ซอย 3 เชียงใหม่ 50000
โทรศัพท์ (53) 248-208, (53) 306-600 โทรสาร (53) 248-208
*ค่าสอบจะอยู่ที่ 1,800 บาทนะ 
*นำเงินไปพอดี อย่าลืมนำบัตรประชาชน หรือ หนังสือเดินทางไปในวันสอบด้วยนะ

Partของข้อสอบ
ข้อสอบจะแบ่งเป็น 2 Part คือ
Listening กับ Reading
-คะแนนเต็มของแต่ละ Part คือ 495
-คะแนนเต็มรวมของข้อสอบคือ 990
ใช้เวลาสอบทั้งหมด 3 ชั่วโมง   ก็ Part ละ 1.30 ชม.

Part Listening
มี ทั้งหมด 100 ข้อ 4 ตอน
Part นี้คือ ต้องฟังแบบตั้งใจฟังจริงๆ คือ ในตัวข้อสอบไม่มีโจทย์เลยด้วย5555 ต้องฟังโจทย์จากที่เทปพูดดีๆนะทุกคน
1.Photograph 6 ข้อ
อันนี้คือ ให้ choice มาเป็นรูป แล้วเราฟังสิ่งที่เขาพูด แล้วเลือกรูปที่ตรงกับสิ่งที่เขาพูดมากที่สุด
2.Question & Response 25 ข้อ
อันนี้ให้ฟังสิ่งที่เขาคุยกัน ละเลือก choice ที่ตรงที่สุด ตัวนี้แม้แต่ choice ก็ต้องฟังนะทุกคน
3.Short Conversation 39 ข้อ
อันนี้ก็ฟังบทสนทนาที่เขาคุยกัน 13 บทสนทนา ถ้าเราจำไม่ผิด อันนี้ choice มีในตัวข้อสอบละ แต่ก็ต้องฟังจับใจความให้ดีๆนะ
4.Short Talk 30 ข้อ
อันนี้เขาจะให้เราฟัง 10 บทความ อาจจะเป็นแบบประกาศที่สนามบิน หรือ สุนทรพจน์
Trick 
-เรื่องการฟัง เราว่า ให้ทุกคนลองหัดฟังเพลงภาษาอังกฤษแล้วลองจับใจความดูเพราะเพลงคือเร็วกว่าที่พูดอยู่แล้ว อาจจะเริ่มจากเพลงช้าๆก่อน อย่างเราเริ่มหัดจากเพลงของ M2M เพราะสำเนียงเขาฟังง่ายและจับใจความไม่ยาก หรือ เพลงสากลหลายๆเพลงเราว่าเป็นแหล่งฝึกภาษาที่ดีเลย หรือจะฝึกจากซีรียส์ของ Netflix ก็ได้หรือจะหาตัวอย่างข้อสอบ part นี้ตาม internet จริงๆก็มีเยอะเหมือนกันนะ ไปลองฝึกทำกันได้เลย

ต่อมา Part Reading มี 100 ข้อเหมือนกัน
มี 3 Part
1.Incomplete Sentence 30 ข้อ
อันนี้ให้เติมคำลงในประโยค คหสต คือเขาจะวัด grammar เรา ละก็พวก vocabulary
2.Text Completion 16 ข้อ
อันนี้ให้เติมทั้งคำ/ประโยค ลงเนื้อเรื่อง แบบ มีเนื้อเรื่องมาละมีช่องว่าง ให้เราเลือกข้อที่ถูกที่สุดเติมในช่องว่าง
3.Reading Comprehension 54 ข้อ
ก็จะเป็น บทความตั้งแต่สั้น จนยาว กันไปเลย อ่านตาแตก (หลายๆคนทำไม่ทัน) ก็จะมีพวก แบบ Email Journal ประมาณนี้
*Trick
-Text Completion/Incomplete Sentence
แนะนำให้ไปทบทวนหลัก grammar เช่น Subject Verb Agreement,Part of Speech,Sentence,Tense
-Reading Comprehension
แนะนำให้ไปลองอ่าน บทความ/ข่าวต่างๆตาม BBC อะไรประมาณนี้ และลองจับใจความเร็ว เพราะข้อสอบค่อนข้างจะเป็น speed test
-สำคัญสุดใน part นี้ คือทบทวน Vocabulary ลองไปแบบดู series จาก Netflix หรือ พยายามทำความเข้าใจคำศัพท์ให้ได้มากที่สุด หรือ พยายามทำให้ภาษาอังกฤษมาอยู่ในชีวิตเราให้ได้มากที่สุด เดี๋ยวเราจะเพิ่มพูนคำศัพท์ได้เอง เราว่าอย่าเน้นจำ แต่ให้ทำความเข้าใจกับ คำศัพท์ดีกว่า
ในส่วนของหนังสือ ส่วนตัวแล้วเราเป็นคนไม่ชอบอ่านหนังสือเลย เราเลยพยายามทำให้ภาษาอังกฤษเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวัน

เวลาในการสอบ คือ 3 ชม
มีให้เลือก 2 รอบ
1 เช้า 9.00-12.00
2.บ่าย 13.00-16.00
สอบได้ จันทร์-เสาร์ ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์


การรับผล
มีให้เลือก 2 ทาง
1.ทางไปรษณีย์ (มีค่าใช้จ่าย)
2.ไปรับเองที่ศูนย์สอบ 1 วันหลังจากวันสอบ
ตัวคะแนนใช้ได้ 2 ปีนะ

Toeic ทำอะไรได้บ้างสำหรับเด็กม.ปลาย
-เก็บใส่ portfolio ยื่นเข้ามหาวิทยาลัย แล้วบางมหาวิทยาลัย จะพิจารณาเป็นพิเศษด้วยนะในการใช้ผลสอบ toeic หรือบางที่ อาจจะใช้เป็นเกณฑ์เลย ส่วนใหญ่ที่ใช้เป็นเกณฑ์จะมีการกำหนดขั้นต่ำที่ 600++ คะแนน
-ยกตัวอย่างคณะที่สามารถใช้คะแนน toeic ในรอบ portfolio หรือ TCAS รอบ 1 (อ้างอิงจากปี 63)
1.คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล 
2.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 
3.คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี  สาขา พยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
4.คณะศิลปศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษ  สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
และมีอีกมากมายหลายโครงการ/คณะ 

จาก  Trick ที่เราบอกไปจะเห็นว่าเราไม่เคยเรียนพิเศษเลย  เพราะเรามองว่าการเรียนภาษาอังกฤษไม่จำเป็นต้องเรียนในห้องเรียนอย่างเดียว เพราะถ้าเราเรียนจากโรงเรียนอย่างเดียวแต่เราไม่นำไปทบทวน หรือ ไม่นำไปฝึกฝนเลย การเรียนก็ไม่เกิดประโยชน์ และเรามองว่าในยุคปัจจุบันเรามีช่องทางในการฝึกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น youtube หรือ google ซึ่งบางอย่างก็ไม่มีค่าใช้จ่ายด้วยนะ 

ขอบคุณทุกคนที่อ่านนะ เราเขียนรีวิวครั้งแรก ถ้ามีอะไรผิดพลาด/สงสัยอะไร comment บอกเราได้เลยนะ
•เราเชื่อว่าถ้าเราทำได้ทุกคนก็ทำได้️️

ขอบคุณข้อมูลต่างๆที่อ่านก่อนสอบ + ประกอบการเขียนกระทู้ ด้วยนะครับ
https://www.opendurian.com/news/newtoeic/
http://www.2btopic.com/inter/toeic1.html
 

แสดงความคิดเห็น

>

6 ความคิดเห็น

Mstr-Title 13 พ.ค. 63 เวลา 09:24 น. 3-1

คือเราเป็นคนไม่ชอบอ่านหนังสือมากๆ55 แทบไม่อ่านเลย ส่วนใหญ่เราจะอ่านจากหนังสือที่เราเรียนที่โรงเรียนเรา แต่ถ้าให้เราแนะนำ เราว่าหนังสือของ Barron's น่าจะโอเคนะ เพราะเราเห็นหลายๆคนที่จะสอบ IELTS ก็เลือกซื้อหนังสือของ Barron's หรือจะซื้อหนังสือของ ETS เลยก็ได้นะ (ETS คือคนออกข้อสอบ) ทั้งของ Barron กะ ETS เราว่าหาซื้อที่ kikunoniya ได้เลยยย

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น

ApJoe 15 มิ.ย. 64 เวลา 15:17 น. 6

ยินดีด้วยครับ พวกภาษาอังกฤษเนี่ยเป็นอะไรที่ขึ้นกะต้นทุนพื้นฐานของแต่ละคนมากๆเลย การมาอ่านเร่งๆก่อนสอบเนี่ยช่วยได้แต่ไม่มาก สำหรับ TOEIC เนี่ยใครยังไม่สอบแนะนำให้ลองจับเวลาทำข้อสอบเองดูก่อนจะได้กะเวลาถูกเพราะข้อสอบไม่ยากแต่เยอะ เพราะผมก็เป็นคนนึงที่ลองไปสอบเล่นๆ(ได้คูปองฟรีจากงาน job fair มหาลัย) ก็พบว่าง่ายแต่ทำไม่ทัน คะแนนไม่ดีเลย

จากนั้นลองติวสอบ กับ Tutor ครับ เค้ามีเทคนิคที่เสริมในส่วนที่เราขาดไปคือ เรื่องเวลา ได้ดีเลยทีเดียว ตอนั้นลงเรียนกับ จุฬาติวเตอร์ไป แต่เรียนไม่จบคอร์ส เพราะ ติดกับการสอบที่ มหาลัยพอดี แต่ก็ยังดีคะแนนออกมา ก็โอเคเลยสำหรับเด็กภาคไทย แนะนำให้ หาเทคนิคเตรียมไว้เยอะๆ ครับ New Toeic นี่ น่ากลัวมาก!!!!!!!

0