Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รีวิว! 4 ปี เด็กท่องเที่ยว ในรั้ว FHT ม.อ. ภูเก็ต

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
   สวัสดีน้องๆ  ชาว Dek-D ทุกคนนะคะ   ใกล้เข้าสู่โค้งสุดท้ายของ TCAS63 แล้ว  พี่เป็นนศ. ชั้นปีที่4   
คณะการบริการและการท่องเที่ยว ม.อ. ภูเก็ต เรียกสั้นๆ ว่า FHT สาขาการจัดการการท่องเที่ยว(TRM) 
วันนี้พี่อยากแชร์เรื่องราวและประสบการณ์ดีๆ ตลอดเวลา 4 ปี ที่ใช้ชีวิตใน คณะนี้ให้น้องๆ ฟังหน่อย 
เผื่อจะเป็นข้อมูลที่ดี และเป็นตัวเลือกให้กับน้องๆ หลายคนที่กำลังสับสนกับการจัดอันดับ
และน้องๆ ที่มีความสนใจจะเรียนคณะฯ นี้ด้วยนะคะ
 

 
1. Admission
 
พี่ขอเกริ่นก่อนว่า... พี่จบมาจากโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย สายวิทย์-คณิต  ด้วยเกรดที่ไม่ดีและไม่แย่ 55
ทุกคนอาจจะสงสัยว่าทำไมพี่ไม่ต่อยอดความรู้ที่พี่เรียนมา เดี๋ยวพี่จะคลายความสงสัยให้น้องเข้าใจนะคะ    
          หลังจากที่พี่ได้รู้ผลคะแนนจากการสอบตรงรอบ  14  จังหวัดภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  ต่อมาก็จะเป็นสัปดาห์เลือกอันดับ ซึ่งพี่ก็เครียด มืดไปหมด ไม่รู้จะปรึกษาใครดี เนื่องด้วยสายวิชาที่พี่เรียนมาตลอด 3 ปี ตอนม.ปลายคือ วิทย์-คณิต มันก็ทำให้พี่ก่ำกึ่งระหว่างต่อยอดสิ่งที่เคยเรียนมา หรือควรเลือกทางที่เรารู้สึกสนใจและชอบเป็นพิเศษ  และพี่ก็ตัดสินใจเลือก...
 
อันดับที่หนึ่ง:    คณะการบริการและการท่องเที่ยว สาขาการจัดการการท่องเที่ยว (TRM)
อันดับที่สอง: คณะการบริการและการท่องเที่ยว สาขาการจัดการการบริการ (HPM)

 
เพราะทางครอบครัวของพี่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการบริการและการท่องเที่ยว จึงได้เล็งเห็นความสำคัญ และสนใจอยากให้พี่เรียนเกี่ยวกับด้านพวกนี้

และ
.
.
.
สองอันดับสุดท้ายเกี่ยวกับสายวิชาที่พี่เรียนมา   ถึงแม้ว่าพี่จะไม่เก่งอะไรพวกนี้เลย แต่ก็ตัดสินใจเลือกไว้ เผื่อฟลุ๊คได้ขึ้นมา แม้ผลคะแนนสอบอาจจะไม่ดีเท่าไหร่   laughlaughlaugh
 
จนถึงวันประกาศผลผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ พี่ตื่นเต้นมาก และผลก็คือ....
พี่ได้อันดับที่หนึ่ง มีสิทธิ์สัมภาษณ์คณะการบริการและการท่องเที่ยว
สาขาการจัดการการท่องเที่ยว (TRM)

 
          ตอนนั้นคือดีใจมาก เพราะเหนื่อยกับการหาที่เรียนต่อ ทำให้พี่ตัดสินใจยืนยันสิทธิ์ที่จะลองไปสัมภาษณ์ 
พี่จำได้ว่า สอบสัมภาษณ์เสร็จก็รู้ผลทันที ในที่สุดพี่ก็มีที่เรียนสักที...

 
2. คณะการบริการและการท่องเที่ยว
 
          คณะการบริการและการท่องเที่ยว เรียกสั้นๆ ว่า FHT  เป็นหลักสูตรนานาชาติ 100% หมายถึง การเรียน    การสอน ENG รัวๆ ไปเลยจ่ะ  รวมทั้งบรรยากาศในห้องเรียนแบบนานาชาติที่แท้ทรู เนื่องจากมีเพื่อนๆ ต่างชาติเรียนด้วย บางคนเป็นอาหารตาชั้นดี ทำให้เรามีกำลังใจเรียนด้วยนะ อิอิ   
ตอนที่พี่เริ่มเข้ามาเรียน ทางคณะฯ มีเพียง 2 สาขา  
          1)   สาขาการจัดการการบริการ  (HPM)     เกี่ยวกับด้านอุตสาหกรรมการโรงแรมและการบริการ   มีการแบ่งกลุ่มเฉพาะตามความสนใจของนักศึกษา  3  กลุ่มวิชา  ดังนี้
                   1.1)   การจัดการการโรงแรม
                   1.2)  การจัดการการบริการอาหารและเครื่องดื่ม
                   1.3)  การจัดการงานประชุมและกิจกรรมพิเศษ 
 
          2) สาขาการจัดการการท่องเที่ยว (TRM)   เกี่ยวกับด้านการจัดการธุรกิจการท่องที่ยว การนำเที่ยว 
และการขนส่งเพื่อการท่องเที่ยว  มีการแบ่งกลุ่มเฉพาะตามความสนใจของนักศึกษา 3 กลุ่มวิชาเช่นกัน
                    2.1)  ธุรกิจสายการบิน 
                     2.2)  ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยว 
                  2.3)  การจัดการการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

ตอนนี้ทางคณะฯ  ได้คลอดสาขาน้องใหม่เพิ่มมาหนึ่งสาขาอีกด้วย ชื่อว่า...
 
"สาขาการจัดการนวัตกรรมการบริการ SIM" 
สำหรับคนที่อยากเป็นเจ้าของกิจการ โตเป็นผู้บริหาร เรียนด้านนวัตกรรมต่างๆ
 
ตอนนี้น้องๆ   อาจจะสงสัยว่า กลุ่มวิชาเฉพาะเนี่ย เราจะรู้ได้ไงว่าเราจะเลือกกลุ่มไหน? เลือกยังไง?  
 คำตอบก็คือ...
 
โดยปกติ นักศึกษาชั้นปีที่1 จะเรียนวิชาที่เป็นพื้นฐาน
ยังไม่มีการลงลึกและเจาะจง คล้ายๆ ว่าทางคณะฯ
จะให้เวลาเด็กๆ ปี1 เรียนรู้ว่าชอบ/ไม่ชอบอะไร
และก่อนจบชั้นปีที่1 จะมีการเลือกกลุ่มวิชานั้นๆ
ตามความสนใจของน้องๆ
แต่ถ้าน้องๆ รู้สึกยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกกลุ่มวิชาเฉพาะอะไร ทางอาจารย์ในคณะฯ ก็จะช่วยซัพพอร์ต และอธิบายเกี่ยวกับกลุ่มวิชานั้นๆ อย่างละเอียด  เพื่อเป็นข้อมูลให้กับนศ.ปี1  ได้ตัดสินใจเลือกสิ่งที่ตัวเองชอบ 
 
***ส่วนตัวพี่นั้น ก่อนจบปี1 พี่ได้ตัดสินใจเลือกกลุ่มวิชาผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวค่ะ เพราะพี่ชอบแนวการทำงานแบบไม่จำเจ  คิดนอกกรอบได้ตลอดเวลา   แต่เพื่อนๆ   TRM  ส่วนใหญ่ประมาณ  70%   จะเลือกกลุ่มวิชาธุรกิจสายการบิน  มันขึ้นอยู่กับความสนใจและความชอบค่ะ
 


 
3. การเรียน
 
          การเข้ามาเรียนที่คณะฯ นี้ และเป็นหลักสูตรอินเตอร์ สำหรับพี่มันค่อนข้างปรับตัวยากหน่อย ยิ่งพี่จบจากโรงเรียนรัฐ สายวิทย์-คณิตคุ้นชินกับ Sin Cos Tan เป็นส่วนใหญ่ มันจึงค่อนข้างใช้เวลา แต่ก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถค่ะ

          ก่อนที่จะเข้ามาเรียนรายวิชาปี1 ทางคณะฯ    ใจดี และเห็นใจนักศึกษาทุกคน ก็จะมีการจัดการเรียนปรับพื้นฐาน (Intensive) 1 เดือนเต็ม  เพื่อให้ทุกคนได้คุ้นชินกับบรรยากาศการเรียน การสอน อาจารย์ รวมไปถึงได้รู้จักเพื่อนๆจากหลากหลายที่ด้วยค่ะ

          แน่นอนว่า พี่จบสายวิทย์-คณิตมา ภาษาอังกฤษก็คงไม่ง่ายกับพี่เท่าไหร่ เอาจริงๆ คือ 0 เลยแหละ เหมือนเริ่มนับ 1 ใหม่ ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีมากๆ สำหรับพี่ ณ ตอนนั้น มีแต่อาจารย์ชาวต่างชาติที่เข้ามาสอนพี่กันรัวๆ เพื่อนที่เก่งก็พูดรัวๆ ค่ะ ส่วนพี่นั้น... นั่งเก็บประสบการณ์ มีตอบบ้าง เพราะส่วนใหญ่อาจารย์ทุกคนจะเน้นถามและตอบแบบแสดงความคิดเห็น มันก็ตื่นเต้นไปอีกแบบว่าเราจะตอบได้มั้ย จะพูดได้รึป่าว เขินเพื่อนๆด้วย >_<

 
เมื่อถึงเวลา... ต้องเรียนแบบจริงๆ จังๆ พี่จะมาเล่าประสบการณ์การเรียนในแต่ละปีให้น้องๆ ฟังว่ายากง่ายแค่ไหนสำหรับเด็กสายวิทย์อ่อนENG อย่างพี่

 
ช่วงปี1 เฟรชชี่ ใสใส
 
          พี่จำได้ว่า วิชาแรกที่พี่เรียนคือ   Professionalism and life skill   อาจารย์สอนมาจากฟิลิปปินส์ วันแรกคือมึนๆ    ฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง แต่ส่วนใหญ่ฟังไม่ออกเลย และฟังไม่ทันด้วยอาจารย์พูดเร็วเกินไป 55   

          ส่วนวิชาที่พี่รู้สึกว่ายากมากตอนนั้นคือ Thai history    ใช่ค่ะ! อ่านไม่ผิดค่ะ! ประวัติศาสตร์ไทยนั่นเอง
แต่เรียนเป็นภาษาอังกฤษ เนื้อหาทุกอย่างคืออังกฤษหมด!!! เข้าเรียนวันแรกคือฟุบหลับไปเลยค่ะ ไม่ชอบวิชาสังคมและประวัติศาสตร์เป็นการส่วนตัว ทำให้รู้สึกง่วงมากๆ ค่ะ ต้องขอโทษอาจารย์ด้วยนะคะ อิอิ  

 
มันคือช่วงปรับตัวค่ะถามว่ากดดันรึป่าว ก็มีบ้างค่ะ แต่พยายาม เรียนเสร็จปุ๊บก็กลับบ้านไปอ่านทบทวนอีกรอบ แปลคำศัพท์ที่ไม่รู้ความหมายค่ะ ต้องขยันเป็นพิเศษเดี๋ยวก็ชินและผ่อนคลายขึ้น ส่วนใหญ่วิชาเรียนตอนปี1 จะเป็นวิชาพื้นฐานหมดเลยค่ะไม่เน้นเชิงลึกมาก 

          ช่วงปี1 เทอม2 วิชามันเริ่มหนักขึ้นมานิดนึง 555 อย่างเช่น   Principles of Marketing, Principles of Management  ยากขึ้นมาอีกระดับนึงค่ะ คำทับศัพท์เยอะมาก เวลาเรียนก็ควรตั้งใจฟังอาจารย์ดีๆ นะคะ 
เพราะอาจารย์จะอธิบายให้เราแบบง่ายที่สุด และพยายามยกตัวอย่างในชีวิตประจำวันให้เราเห็นภาพได้ชัดเจนที่สุด    แนะนำว่าตั้งใจฟังอาจารย์สอนจะได้เข้าใจ
 
 
ช่วงปี2     (วิชาเรียนเริ่มเข้มข้นขึ้นมากๆ แบ่งไปตามความสนใจกลุ่มวิชาเฉพาะของแต่ละคน)
 
           ส่วนตัวพี่เองได้เลือกกลุ่มวิชาผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว วิชาเฉพาะวิชาแรกของพี่คือ   Creative Tourism   เป็นวิชาที่น่าสนใจและสนุกมากๆ อาจารย์สอนสนุกมากๆ    และมีอีกหนึ่งวิชาที่เราต้องเรียนการใช้ Amadeus แน่นอนว่า ตอนสอบก็ไม่ใช่เล่นๆ เลย เพราะพี่กดดันกับเวลาด้วย ตื่นเต้นไปหมด วิชานี้สามารถนำไปใช้ในเวลาฝึกงานและทำงานได้จริงค่ะ
 
ช่วงปี3
 
รายวิชาปีนี้มีความพิเศษมากคือ    มีวิชา   Free elective   ให้เราสามารถเลือกเรียนวิชาไหนก็ได้
 สามารถข้ามไปเรียนวิชาของอีกสาขานึงก็ได้   เรียนภาษาที่สามเพิ่มเติมก็ได้   หรือจะลงเรียน
วิชากลุ่มเฉพาะของเพื่อนก็ได้ค่ะ
   แต่ต้องเช็คให้ดีว่าเขาเปิดสอนรึป่าว
 
***ส่วนของพี่ พี่ได้ตัดสินใจเรียนวิชา  Knowledge of Beverages   เป็นรายวิชาของน้องปี1 สาขา HPM 
เป็นวิชาที่สนุกมากค่ะ มีทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ ชิมเหล้า ชิมไวน์ (แอบเมานิดๆ)    ไปทัศนศึกษาที่โรงกลั่นเหล้า    Chalong Bay Rum และมีสอบโปรเจคทำคอกเทลกับมอกเทลด้วย เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ เลยค่ะ อาจารย์สอนใจดีมาก
 
 
 

ช่วงปี4
          
          ปีนี้เครียดพอสมควรค่ะ 55 เนื่องจากต้องทำโปรเจคที่ใหญ่ขึ้น  ซึ่งวิชานี้เป็นวิชาในตำนาน!!!   ชื่อว่า   Tour Operation Project   เป็นวิชาที่เราต้องนำความรู้ที่สั่งสมตั้งแต่ปี1 มาประยุกต์ใช้ในการทำโปรเจคนี้ เหมือนเราจะเปิดบริษัททัวร์จะต้องทำอย่างไรบ้าง จนถึงรายได้ที่เราจะได้ จะคืนทุนจากการขายแพ็คเกจทัวร์ภายในกี่ปี   (เกริ่นแค่นี้ก่อนเดี๋ยวน้องจะเป็นลม >_<) แต่วิชานี้เป็นประสบการณ์ที่ดีมากค่ะ มันสามารถนำไปใช้ได้จริงเมื่อเราอยากเป็นเจ้าของกิจการอะไรสักอย่าง จากรูปคือพรีเซนต์โปรเจคจบแล้วเหมือนยกภูเขาออกจากอก 555
 


4. บรรยากาศการเรียนและการสอน
 
          บรรยากาศในการเรียน การสอนอย่างที่พี่เคยบอกนั้นคือ เรียนแบบENGล้วนๆ พูดENG    เขียนENG    
พรีเซนต์งานก็เป็นภาษาอังกฤษ และที่ตื่นเต้นกว่านั้นคือ เพื่อนๆ ชาวต่างชาติจากจีน ญี่ปุ่น 
และเกาหลีมาร่วมเรียนด้วย ซึ่งให้บรรยากาศของการเรียนแบบนานาชาติที่สุดๆ   
         
          อีกทั้งเมื่อวิชากลุ่มเฉพาะอย่างเช่น วิชาที่เกี่ยวกับธุรกิจสายการบิน ทางคณะฯ จะมีห้องปฏิบัติการ    PSU Airlines  จะได้เรียนห้องนั้น และใช้เป็นการสอบปฏิบัติที่สมจริงค่ะ
 
***ส่วนของพี่ ช่วงปี3 ได้เรียนวิชา Knowledge of Beverages ซึ่งมี 1 คลาส ที่พี่จะได้เข้าไปเรียนในห้อง Kitchen Lab เพื่อเข้าไปเรียนการปั่นน้ำผลไม้ สนุกมากๆค่ะ อิ่มกลับบ้าน แถมสุขภาพดีด้วย
 


 
 5. การฝึกงาน
 
เรื่องประสบการณ์การฝึกงาน ในหลักสูตรปี59ของพี่นั้นจะมีการฝึกงาน 2  ครั้งคือ

          ครั้งที่1 ตอนปี2 ช่วงซัมเมอร์ ระยะเวลา  2  เดือน 
             ครั้งที่2 ตอนปี4 เทอมสอง  ระยะเวลา 4 เดือน 

ช่วงการฝึกงานปี2 
          พี่ได้หาที่ฝึกงานและตัดสินใจเลือกฝึกงานที่ Elephant Jungle Sanctuary Phuket ในตำแหน่งผู้ช่วยไกด์กับเพื่อนๆอีก3คน ลักษณะงานจะเป็นการต้อนรับลูกค้า อธิบายข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับน้องช้าง และตอบคำถามที่ลูกค้าสงสัย ดูแลลูกค้าตลอดกิจกรรม มีการป้อนอาหารช้าง เล่นโคลนกับช้าง และอาบน้ำกับช้าง บางครั้งถ้าลูกค้ามีโปรแกรมเดินป่า ก็จะมีการเดินขึ้นเขาไปเดินป่าด้วยกัน เป็นระยะเวลา 2 เดือนที่สั้นมากๆ เวลาผ่านไปเร็วมาก พี่ๆ ทุกคนช่วยสอนงานดีมาก และดูแลพวกพี่ดีมากเหมือนกัน อ้วนกันไปตามๆ กัน งานที่ทำคือ สนุกมากซึ่งแน่นอนว่าเรียนรู้งานแบบของจริง ลงมือปฏิบัติจริง มันก็มีกดดันกันบ้าง สภาพอากาศไม่เป็นใจให้ทำงานเท่าไหร่ แรกๆ ก็เครียด หลังๆ ก็ชินและผ่อนคลายไปกับการทำงานรู้สึกสนุกกับการทำงาน ประสบการณ์การฝึกงานเป็นกำไรในชีวิตเลยแหละทำให้พี่รู้ว่าเราชอบหรือไม่ชอบอะไร อยากทำอะไรหรือไม่อยากทำอะไร มันคุ้มมากๆ เลยค่ะ yes





ช่วงการฝึกงานปี4
          เดิมพี่ได้ทุนไปแลกเปลี่ยนหนึ่งเทอมที่ประเทศเกาหลี แต่ด้วยเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด โคโรน่าไวรัสได้แพร่กระจายไปทั่วโลก ทำให้โครงการแลกเปลี่ยนได้ถูกยกเลิกไปค่ะ เสียดายมากๆเลยค่ะ TT

 
6. โครงการแลกเปลี่ยน
 
          ทางคณะฯ มีโครงการแลกเปลี่ยนหลายประเทศมากๆ เช่น ญี่ปุ่น มาเลเซีย อินโดนิเซีย ฟินแลนด์ ออสเตรีย เยอรมัน ฯลฯ เยอะแยะไปหมด  
 
มันเป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับเราทุกคนเลยที่สนใจลองเปลี่ยนบรรยากาศการเรียนในไทยไปเรียนที่อื่นๆ
ไปเจอประสบการณ์ใหม่ๆ เรียนรู้วัฒนธรรม ประเพณี เจอเพื่อนใหม่ๆหลากหลายสัญชาติ

  ตอนแรกพี่ได้ทุนไปเรียนเกาหลีเช่นกัน แต่ติดตรงโควิดนี่แหละทุนก็ถูกยกเลิกไป   (แอบเสียใจเล็กน้อย)  T_T


 
7. การใช้ชีวิตในภูเก็ต
 
***ภูเก็ตค่าครองชีพค่อนข้างสูงนะคะ***
 
         ง่ายๆ เลยคือ ค่าอาหารค่อนข้างเเพงกว่าจังหวัดไหนๆ อารมณ์ประมาณอยู่เกาะ มันจะเเพงหน่อย แต่ก็ไม่ได้แพงเว่อวังอลังการค่ะ ถ้าน้องๆ   จะมาเรียนเเนะนำให้นำรถส่วนตัวมาค่ะ  เพราะที่นี่ไม่มีรถโดยสารตามทางที่จะโบกเเล้วขึ้น หรือเเม้เเต่มอไซด์รับจ้างยังหายากเลยค่ะ คนที่นี่ส่วนใหญ่มีรถเองใช้ค่ะ ค่อนข้างลำบาก
 
          ส่วนมหาลัยจะอยู่ในอำเภอกะทู้ ซึ่งห่างจากเซนทรัลภูเก็ตเพียงแค่ 2 กิโลเมตรค่ะ ถือว่าเป็นบ้านหลังที่สองของเด็กๆม.อ.เลยก็ว่าได้ บางคนถือโอกาสหารายได้เสริมช่วงเสาร์-อาทิตย์ก็มีค่ะ และมหาลัยห่างจากป่าตองเพียง  10 กิโลเมตรเท่านั้น ถือว่า    ม.อ.ภูเก็ต อยู่ในจุดศูนย์กลางของสถานที่สำคัญๆ   ก็ว่าได้
 
          ส่วนเรื่องเที่ยว พี่ก็ไม่แพ้ใครเช่นกัน อิอิ ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีสถานที่เที่ยวที่ครบครันมีทั้งทะเล ภูเขา น้ำตก เกาะ และสถานบันเทิง สนุกมากๆ ค่ะ ไม่เคยเบื่อกับการเที่ยวในภูเก็ต ว่างเมื่อไหร่ไปเมื่อนั้นเลยค่ะ บางครั้งเลิกเรียนปุ๊บ ก็ชวนเพื่อนๆ ในก๊วน และเพื่อนต่างชาติเที่ยวปั๊บ 
 


 
8. กิจกรรมต่างๆ
 
          นอกจากเรื่องเรียน ก็มีกิจกรรมมากมายให้น้องๆ ได้มีส่วนร่วม อย่างเช่น กิจกรรมBuddy Budder เป็นการจับบัดดี้กับนักศึกษาแลกเปลี่ยนและดูแลเพื่อนๆ นักศึกษาแลกปลี่ยน กิจกรรมนี้ดีมากๆ  ทำให้เพื่อนๆ คนไทยกล้าที่จะพูดกับเพื่อนต่างชาติมากขึ้น ไปแฮงเอาท์ด้วยกัน ปาร์ตี้จัดหนักจัดเต็มแบบสุดๆ ค่ะ และก็มีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับรายวิชา Incentive Events เป็นการจัดกิจกรรมที่พี่ๆ ชั้นปีที่4ต้องบริหารจัดการกันเองโดยมีงบมาให้เพื่อให้น้องๆ มาร่วมกิจกรรม เหนื่อยไม่เบาเหมือนกันค่ะ เนื่องจากพี่ๆ เป็นคนจัดกิจกรรมและดำเนินการทุกอย่าง มันก็จะมีปัญหาบ้างเล็กน้อยแต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ
 


          น้องๆ ที่มีความฝันจะทำงานโรงแรม เป็นไกด์นำเที่ยว แอร์โฮสเตส หรืออยากจะเป็นเจ้าของกิจการเกี่ยวกับการบริการและการท่องเที่ยว  พี่ขอแนะนำว่าคณะฯ นี้ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของน้องๆ ได้ชัดเจนอย่างมากค่ะ เนื่องจากรายวิชาเรียนทั้งหมดแบบทฤษฎีและปฏิบัติมันตรงกับอาชีพที่น้องๆ ใฝ่ฝันแน่นอนค่ะ เรียนลงลึกกันเลยทีเดียว ปฏิบัติกันอย่างจริงจัง เวลาสอบคือต้องเป๊ะและถูกต้อง 

          แต่น้องๆ บางคนอาจจะมีคำถามในใจว่า ช่วงสถานการณ์โควิด-19 แบบนี้ งานสายบริการและการท่องเที่ยวอาจจะไม่บูมเหมือนก่อนๆ และใช้เวลาในการฟื้นฟูอย่างมาก พี่จะบอกว่าเรียนคณะฯ นี้ น้องๆ ไม่จำเป็นจะต้องเลือกอาชีพที่เกี่ยวกับการบริการและการท่องเที่ยวก็ได้นะคะ   รุ่นพี่ที่จบไปบางคนก็ข้าไปทำงานเกี่ยวกับ HR บ้าง Sales and Marketing บ้าง มีหลากหลายอาชีพให้น้องได้เลือกค่ะ และพี่หวังว่าเรื่องราวและประสบการณ์ทั้งหมดที่พี่ได้นำมาแชร์ให้น้องๆ จะมีประโยชน์และสามารถเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจของน้องๆทุกคนในช่วงการเลือกอันดับและน้องๆที่กำลังเริ่มเรียนในคณะฯ ด้วยนะคะ


 เผื่อน้องๆ สนใจและมีคำถามที่ตัวเองสงสัยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้เลยที่

Facebook: Faculty of Hospitality and Tourism, PSU(Phuket)
และ
.
.
.
ถ้าน้องๆ มีคำถามสงสัยเล็กๆ น้อยก็สามารถคอมเม้นไว้ด้านล่างได้เลยนะคะ เดี๋ยวพี่จะมาตอบให้  
 

แสดงความคิดเห็น

3 ความคิดเห็น

star11 14 พ.ค. 63 เวลา 15:02 น. 1-1

เรียนได้ค่ะ ตอนเริ่มเข้าปี1 ใหม่ๆ พี่ก็ไม่เก่งอิ้งค่ะ แต่พอนานๆ ไปพี่ก็เริ่มคุ้นชิน และเข้าใจมากขึ้นค่ะ แค่ต้องพยายามกว่าเพื่อนคนอื่นนิดนึงนะคะ

0
star11 9 ต.ค. 63 เวลา 16:44 น. 2-1

ค่าเทอม เทอมละ 48000 ค่ะ

แต่เทอมแรกมีบวกเพิ่มค่าแรกเข้าด้วยนะคะ

ถ้าสนใจยังไงติดต่อสอบถาม https://www.facebook.com/fht.psu.hkt/ นี้ได้เลยน้า

0