Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

นิเทศจุฬา จบมาตกงานจริงไหม? #Dek 65

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่ะ หนูกำลังอยู่ม.5 แล้วส่วนตัวเนี่ยชอบด้านนิเทศค่ะ ด้านงานแสดง,ด้านภาพยนตร์ ต่างๆนาๆที่มีอยู่ในนิเทศ คือหนูอยากรู้ว่ามันจริงอย่างที่คนอื่นว่าไหมว่าจบมาตกงานอะค่ะ บ้านหนูไม่รวยค่ะ คือเป็นความหวังและเป็นที่พึ่งของบ้านเลยอะค่ะ แต่หนูไม่ได้ชอบไปทางหมอ วิศวะ หรืออาชีพใดๆที่ผู้ใหญ่เขาภูมิใจกัน คือหนูเล็งไว้สองสาขาคือ ภาพยนตร์กับการแสดงอะค่ะ อยากถามคนที่คลุกคลีกับสายงานนี้จริงๆหรือรุ่นพี่นิเทศจุฬามาตอบเลยจะดีมากค่ะ หนูอยากเรียนสิ่งที่ชอบแต่ในขณะเดียวกันก็มีเงินพอที่จะทำให้ครอบครัวสบายได้อะค่ะ ผู้ใหญ่ชอบบอกว่าคณะลูกคนรวยเขาเรียนกัน เพราะเรียนเอาสนุกจบมาไม่ได้จริงจัง แบบเขาคิดว่ามันตกงานอะค่ะ แต่หนูอยากเป็นwinnerค่ะ อยากประสบความสำเร็จกับทางที่ชอบ มันมีแพชชั่นมากๆเลยค่ะ คือตอนนี้หนูคิดว่า ถ้าหนูพยายามซะอย่างทำไมมันจะหางานไม่ได้เลยหรอถ้าเราตั้งใจมากๆเราต้องเป็นคนที่ประสบความสำเร็จสิ คนตกงานคือคนที่ไม่พยายามรึป่าวถึงตกงาน ความคิดนี้มันถูกต้องไหมอะค่ะ สรุปหนูจะถามเป็นข้อๆนะคะ

1.จบมาตกงานจริงไหม หางานยากจริงหรอ

2.จบมาเป็นอาชีพอะไรได้บ้าง

3..อยากรู้เรทเงินเดือนค่ะ ว่าประมาณเท่าไร

4.แนะนำวิธีการสอบเข้า




ปล.คนที่จะมาคอมเมนท์บั่นทอนไม่เอานะคะ ประเภทที่ว่า มีปัญญาสอบให้ได้ก่อนอะไรแบบนี้คือเห็นมาหลายกระทู้มาก อยากจะบอกว่าถ้าหนูมุ่งมั่นแล้วหนูต้องทำได้ค่ะ หนูเชื่อแบบนี้ตลอดมาว่าความพยายามไม่เคยทำร้ายคน




ขอบคุณล่วงหน้านะคะ

แสดงความคิดเห็น

>

7 ความคิดเห็น

roonyai 18 ก.ค. 63 เวลา 19:29 น. 1

จริงง เบื่อมากเวลาเจอคำตอบแบบสอบให้ได้ก่อนเถอะ ถ้าคนที่เรียนจริงๆเค้าจะไม่พูดแบบนี้กัน เค้าจะพูดแนะแนวเราแบบopenhouseเลย

1
nonnnnnpang 18 ก.ค. 63 เวลา 23:02 น. 1-1

ใช่ค่า​ แบบถ้าไม่คิดจะแนะนำอะไรก็อย่ามาพิมพ์แบบนั้นเลย มันไม่ได้มีประโยชน์​ต่อใครเลย

0
... 18 ก.ค. 63 เวลา 23:02 น. 2

นิเทศต่อให้จะมหาลัยดี มหาลัยดังแค่ไหน ถ้าคนมันจะไม่มีงานมันก็ไม่มีจริงๆ นิเทศเป็นสาขาที่คนตกงานเยอะมาก ถ้าใจจะเข้าทางนี้ก็ควรหาลู่ทางให้ตัวเองล่วงหน้า

0
111 21 ก.ค. 63 เวลา 08:13 น. 3

จบเมื่อ ประมาณ 57 นะครับ ขอตอบคือ


ถ้ากลัวตกงาน น้องต้องตั้งใจให้ได้ว่าจะทำงานตำแหน่งอะไร ในบริษัทอะไร และคอยหางานตั้งแต่ปีสามปลายๆ พอเริ่มปีสี่ก็เริ่มร่อนใบสมัครได้แล้วครับ


ตัวอย่าง ที่ต้องคอยไปดู

นักข่าว ที่ไทยพีบีเอส

นักข่าว หนังสือพิมพ์ หัวดังๆ

ครีเอทีฟ โฆษณา บริษัท ข้ามชาติ ถ้าเข้าไปได้น้องต้องเริ่มถามพี่ๆฝั่งโฆษณาแล้วว่ามีชื่ออะไรบ้าง สายนี้จะเครียดแต่เงิดดีสุดสำหรับจบใหม่ แต่ส่วนใหญ่มักจะมีเด็กนอกเยอะนะครับ

พีอาร์ บริษัทใหญ่ๆ เช่น ปตท. การท่า หรือ อื่นๆ

ถ้าไม่เตรียมไว้แต่เนิ่นๆ ลำบากแน่ๆ


เริ่มต้นประมาณ หมื่นห้าครับ บางที่ให้เยอะกว่า มีค่าเกียรตินิยมกับค่าภาษาให้ด้วย (ซึ่งได้ยินมาเท่านั้น)

ประสบการณ์พี่เอง คือ ตกงานครับ ๕๕๕ แต่สาเหตุเพราะไม่ได้เตรียมตัวมากกว่า ๆม่มีใครบอก คิดว่าจบแล้ว ชิลล์แล้ว เลยนอนเล่นอยู่บ้านพักผ่อน ปีนึง ซึ่ง ไม่ดีนะ เพราะจะตอบคำถามยาก ตอนสัมภาษณ์ว่าไปทำอะไรทำไมว่าง จะตอบว่านอนเล่นอยู่บ้านก็คือไม่ดีเนอะ ๕๕๕๕๕


พี่คือขนาดได้เกียรตินิยม และภาษาดีประมาณหนึ่ง โทอิค สอบไว้คะแนนเกิน 900 ประสบการณ์ไปแลกเปลี่ยน สองครั้ง ยังยากเลยครับ


เพื่อนๆโอตาคุในกลุ่มเดี่ยวกันก็ซัดเซพเนจรมาก ๕๕๕๕๕ คือไม่มีใครอยากทำงานในองค์กรใหญ่ๆนะ พอรับงานฟรีแลนซ์เลยก็ลำบากมาก


พวกที่โอเคมี ไปทำที่ไลน์ บ้าง บางคนทำงาน ไปเรียนต่อเมืองนอก แล้วมาทำบริษัทแอปเปิ้ลสาขาประเทศไทยก็มี งานการคือดีนะ พวกทำเอเจนซีโฆษณาต่างชาติจะเครียดๆหน่อย แต่ตังค์เยอะ


ส่วนพี่ไปทำสายข่าว นสพ. แล้วพบว่าไม่ชอบเลยยยยยยยย เกลียดการสัมภาษณ์แบบทำข่าวครับ แต่ทำตอนเรียนคือทำได้ไง แล้วก็ไปทำพาร์ทไทม์บ้างฟรีแลนซ์บ้าง ล่าสุดก็ทำแบคออฟฟิซ สายการบิน ซึ่งพี่รู้สึกว่าดีกว่าที่ผ่านมามากๆละครับ ได้ทำงานที่ลงตัวประมาณนึงซะที


พอเราทำงานๆไป เราจะเริ่มเทียบว่าการดูแลพนักงานแต่ละที่เป็นยังไงด้วย ทั้งเงินเดือน โบนัส ค่ารักษาพยาบาล


ซึ่งสำหรับพี่ แรกๆนี่ไม่ได้คิดอะไรเลย ก็ค่อยๆเริ่มสังเกตว่า เวลาเจ็บป่วย นอกจากวันลาที่บริษัทเล็กๆจะไม่ค่อยมีระบบที่ดีแล้ว บริษัทใหญ่ยังดูค่ารักษาพยาบาลอีก ถ้าเรามีลูก มีครอบครัว ตรงนี้จะเริ่มเป็นประเด็นครับ


นอกนั้นก็มีเรื่องความมั่นคง คือ บริษัทไม่เจ๊งง่ายๆ หรือไม่ไล่คนออกง่ายๆ บางที่ก็มีส่วนนะ


อ้าวร่ายมาซะยาว สรุปคือ ถ้าเตรียมตัวดีๆโอกาสได้งานเร็วหลังจบมีเยอะครับ แต่ต้องดูทั้งตำแหน่ง ทั้งบริษัทเลยล่ะ


ส่วนงานพี่ตอนนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับที่เรียนมา แต่ก็พอได้


เพิ่มเติมให้สำหรับน้องๆที่อยากไปเที่ยวต่างประเทศราคาถูก ไม่เน้นเงินเดือนเยอะ

เวลาทำ โรงแรม หรือสายการบินที่อยู่ในเครือใหญ่ๆ เราจะไปเที่ยวได้ถูกลงครับ

ถ้าสายโรงแรม จะได้พวกจองที่พักถูก หรืออาจจะฟรี


ส่วนสายการบินสายการบินตัวเองจะมีส่วนลดเยอะหน่อย ตามนโยบายของสายการบิน เรียกว่า Industrial Discount ticket ถ้าน้องๆไปสมัครเป็นแอร์ พวกสิงคโปรแอร์ไลน์ กาต้าร์ ออลนิปปอน หรือพนักงานภาคพื้นของเขา ก็จะได้สิทธิ์พวกนี้ บินไปกลับญี่ปุ่น ก็ประมาณ สิบถึง ยี่สิบเปอร์เซ็นของเงินเดือนน้องจบใหม่ น่าจะได้ปีละครั้งครับ ค่อนข้างฟินอยู่นะสำหรับสายเที่ยว


แต่ข้อเสียคือต้องมีที่ว่างครับ เราต้องให้ลูกค้าไปก่อนเสมอ อาจจะตกเครื่องได้นะเวลาเครื่องแน่นๆ ถ้าน้องคนไหนจบมหาวิทยาลัยแล้วยังไม่แน่ใจ แต่อยากลองเที่ยวต่างประเทศ จะลองไปทำงานสายการบินเก็บประสปการณ์ทำงานไปด้วยซัก ปีสองปี ได้ไปเที่ยเก็บประสบการณ์ชีวิต และหาลู่ทางว่าจะไปทำงานอะไรต่อไปดี พี่ว่าโอเคอยู่ แต่ต้องระวังบางตำแหน่งที่สนามบินนะครับ คือไม่น่าทำอย่างแรงงงงงง เตือนไว้ก่อนแบบแย่มากๆเลยล่ะ

2
111 21 ก.ค. 63 เวลา 09:30 น. 3-1

อ้อ พี่มีบล๊อคอยู่ตอนไป แลกเปลี่ยนที่เกียวโต ด้วยครับ ไปค้นๆในเน็ตได้ เขียนไว้ที่เวิร์ดเพรส แต่ไม่ขอเอ่ยชื่อเน่อ ไม่ได้จะมาโปรโมท แต่น้องๆที่อยากไปแลกเปลี่ยนอาจจะมีแรงบันดาลใจอยากเข้า มหาวิทยาลัยมากขึ้น

0
COMARTCU 22 ก.ค. 63 เวลา 21:37 น. 4

โอกาสตกงานสูงมากครับถ้าตอบตามตรงเพราะพี่เองเรียนที่นี่ ถ้าทางบ้านไม่มีธุรกิจของตัวเองไม่เเนะนำให้เรียน ถ้าจะทำงานสายนี้มันจะมีพรสวรรค์มาตั้งเเต่เด็กๆเเล้วเช่นได้เป็นดาราตั้งเเต่เด็กอันนี้เอามาเรียนต่อยอดได้ ถ้าเกิดเป็นคนธรรมดาๆเลย โอกาสตกงาน พี่ให้เปอร์เซ็นต์เลย คือ 97%

1
_G_ 25 ก.ค. 63 เวลา 14:16 น. 5

เค้าได้ไป workshop ของรุ่นพี่ที่จุฬามา เค้าก็สงสัยมากว่าจบมาเเล้วตกงานมั้ย พี่เค้าบอกว่ามันขึ้นอยู่กับเราด้วยง่ะเเบบไม่เลือกไม่ยากจน555555 เค้าบอกด้วยนะว่าจุฬาcontact เยอะ เเบบพวกพี่ๆถ้าเค้าเห็นเเววเค้าจะให้งานเราอะไรเเบบนี้อ่ะเตง

0
ตั้งใจ 12 ส.ค. 63 เวลา 08:51 น. 6

มันขึ้นอยู่กับความพยายามและความสามารถของเราเองค่ะ มันขึ้นอยู่กับความพยายามและความสามารถของเราเองค่ะถ้าเราตั้งใจมีความพยายาม และมองหาลู่ทางการทำงานตั้งแต่ตอนที่เรายังเรียนอยู่ แน่นอนว่าเราจะไม่มีทางตกงานค่ะ การหวังพึ่งคอนเนคชั่นนั้นเป็นเรื่องที่คิดก็ได้แต่ไม่จำเป็นต้องคิดถึงว่าจะมีคนมารับเราไปทำงานด้วยทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเองทั้งนั้น

.

เรายังเรียนอยู่และยังเรียนไม่จบ เราไม่สามารถคอนเฟิร์มได้ว่าพอจบแล้วจะตกงานหรือไม่ตกงาน แต่คิดว่าการจะตั้งใจเรียนและพยายามทำให้มันดีที่สุด คงพอส่งผลดีบ้างในอนาคต

0
น ต้ โ 26 ส.ค. 64 เวลา 06:02 น. 7

นี่เรียนอยู่นะ เอาสิ่งที่ตัวเองเข้าใจก่อนแล้วกัน คือจริง ๆ สายงานนิเทศนี่มันมีมาเรื่อย ๆ นั่นแหละแต่ตลกร้ายคือมันเป็นงานที่คณะอื่นก็ทำได้อ่ะครับ คือเรียกว่ามันแทบไม่มีงานไหนเขียนว่า "รับเฉพาะเด็กนิเทศ" เลย ไหนจะที่ทำงานข้ามสาขากันได้อีก เราเองเรียนยังหวั่น ๆ เลยว่าจะตกงานในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ แล้วพูดตรง ๆ อีกเรื่องคือวงการภาพยนตร์นี่ไม่ได้กว้างเลย มันไม่ได้มีการเปิดรับเรื่อย ๆ ยิ่งกว่างานนิเทศทั่วไป (แบบ Content Creator เอย หรือ Editor เอย) คือเราต้องมีรางวัลจากการประกวดภาพยนตร์พวกนี้อ่ะถึงจะมีหวัง เราเองก็พยายามอยู่ แต่จะอะไรก็ตามนะถ้าแกรักในสิ่งนี้จริง ๆ แกต้องพยายามเอาไว้ก่อน อนาคตมันต้องดีขึ้นแน่ ๆ ความฝันมันต้องพิสูจน์มันถึงจะเห็น ถึงเราจะเรียนอยู่คนละสถาบันที่แกหวังแต่ขออวยพรให้แกได้เรียนในสิ่งที่ชอบนะ




0