Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ลังเลในความเป็นตัวเอง ว่าจะเลือกเรียนอักษรศาสตร์ นิติศาสตร์ หรือรัฐศาสตร์

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

สวัสดีค่ะ ขอบคุณนะคะที่เข้ามาอ่านเเละตอนนี้ต้องการความช่วยเหลือมากๆเลยค่ะ คือตอนนี้อยู่ม.6เเล้วค่ะจะเทอมสองเเล้วด้วย ยังลังเลอยู่เลยว่าจะเรียนคณะอะไร ตอนนี้อยู่ห้องสายวิทย์-คณิตค่ะ เเต่ค้นพบว่าตัวเองไปทางสายศิลป์มากกว่า ช่วงนี้ก็หนักมากกับการเรียน เรื่องเกรดไม่ต้องห่วงค่ะ ยังโอเค 3.5 อัพ เเต่ที่น่าเป็นห่วงมากกว่าคือจะเรียนอะไรดีนี่สิคะ ความฝันตอนนี้ของเราคือ อยากเป็นนักการทูต เเต่ถ้าไม่ได้จริงๆก็คิดเเผนสำรองไว้คืองานที่ได้ใช้ทักษะภาษาในกระทรวงการต่างประเทศค่ะ เพราะมันได้เเลกเปลี่ยน ได้คิดหาเเนวทางความเป็นกลางระหว่างประเทศ ซึ่งต้องใช้ทักษะการพูดการติดต่อ การใช้คำเเละเจรจาต่อรองโน้มน้าวค่อนข้างมาก เเล้วตัวเราเองก็มีทักษะด้านนี้ค่ะ ขอเเจ้งเหตุผลก่อนนะคะว่าทำไมต้องสามคณะนี้ 

      ในส่วนของอักษรศาสตร์ นี่เป็นคณะเเรกที่เล็งไว้เลยค่ะ เพราะส่วนตัวเเล้วชอบภาษาอังกฤษมาก ชอบเรียนภาษาชอบเรียนประวัติความเป็นมา เเละวัฒนธรรม ความเป็นมนุษย์ที่เเฝงอยู่ในตัวอักษร มันก็มีผลต่อภาษาเหมือนกันก็เลยชอบภาษาเเละทำมันได้ดีค่ะ 

      ส่วนรัฐศาสตร์ สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อย่างที่บอกชอบเกี่ยวกับการเมืองของต่างประเทศ ชอบเรื่องราวของต่างประเทศ ความเป็นมาตั้งเเต่อดีตเเละความเป็นไปในอนาคต อย่างเรื่องของคนผิวสีในอเมริกา อันนั้นก็น่าสนใจมากเลยค่ะ ว่าทำไมต้องมีการกระทำเช่นนั้นเกิดขึ้นในประเทศเเล้วเราควรหาทางความเป็นกลางยังไงดี อีกอย่างคณะนี้ได้ทักษะด้านภาษาที่ค่อนข้างมาก เเถมภาษาที่ก็อาจะพ่วงมาได้ด้วยเลยสนใจค่ะ 

      ในส่วนของนิติศาสตร์ โดยส่วนตัวมองว่าเป็นวิชาเรียนที่น่าสนใจเหมือนกันค่ะ เนื่องจากเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเป็นอยู่บ้านเมือง ปกติชอบเรียนทฤษฎีมากกว่าคำนวณม๊ากกกกกกกกกก เลยคิดว่าทั้งน่าสนใจเเละน่าจะเข้าทางเราเองเหมือนกันเเต่ก็กลัวไปไม่รอดนิดนึงค่ะเพราะเราความจำสั้นไปนิดนึง เเละอีกอย่างเป็นวิชาชีพเฉพาะด้วยค่ะเลยสนใจเป็นอย่างมาก

    

      มาต่อด้วยเหตุผลว่าทำไมยังลังเลอยู่ อย่างที่ได้กล่าวไปค่ะว่าอยากเป็นนักการทูต อยากเจรจาต่อรองเเละโน้มน้าวด้วยภาษาค่ะ ถ้าจะเรียนก็คงรัฐศาสตร์นี่ตรงสุดใช่มั้ยคะ เเต่ที่กังวลเลยคือ รัฐศาสตร์ตอนนี้อาจจะโดนเเย่งงานโดยนิติเเละอักษรได้ คือตำเเหน่งนักการทูต อักษรหรือนิติก็เข้าไปทำงานได้ค่ะ หรือในส่วนของล่าม(เราก็อยากทำเหมือนกันอักษรนี่ยิ่งได้เปรียบเลยค่ะ ตอนเเรกคิดไว้ว่าถ้าเรียนอักษรเเล้วไปสอบทูตดีมั้ย ถ้าสอบเเล้วไม่ได้ก็ยังมีภาษาเป็นเครื่องมือสำรองในการไต่เต้าไปเป็นล่ามในกระทรวงได้นะ หรือนิติก็ยังเป็นทูตได้นะ เป็นที่ปรึกษากฎหมายระหว่างประเทศในกระทรวงได้นะ เเต่รัฐศาสตร์ ตอนนี้ยังนึกไม่ออกเลยค่ะว่าถ้าไม่ได้เป็นทูตเเล้วจิเป็นอะไรดี เเต่เราไม่ได้ดูถูกนะคะ เราทราบว่าเเต่ละคณะก็มีจุดประสงค์ในการสอนเพื่อไปเป็นอาชีพที่ต่างกันส่วนตัวก็ชอบวิชาเรียนของรัฐศาสตร์มากๆเลยค่ะ เเต่ถ้าคิดในส่วนของความก้าวหน้าในอาชีพเเละในอนาคต ตอนนี้เลยสับสนมาก เพราะนิติกับอักษรเราก็ชอบเราก็เรียนได้เหมือนกันอ่ะค่ะ เเถมงานของนิติ รัฐศาสตร์เองก็เข้าไปทำหน้าที่นั้นเองไม่ได้ เช่น ทนายความ ผู้พิพากษา เป็นต้น ส่วนอักษรก็มีโอกาสได้ใช้ภาษามากกกกก ก็เลยสนใจเหมือนกันค่ะ ขอโทษนะคะ อาจจะยาวไปนิดนึง โชคดีที่สามคณะนี้มีวิชาสอบที่คล้ายๆกัน เราเลยยังพอเตรียมตัวรอตัวเองตัดสินใจได้บ้างง ยังไงก็รบกวนช่วยเเสดงความคิดเห็นด้วยนะคะว่าเราควรเลือกคณะไหนดีคะ หรือมีอะไรที่เราเข้าใจผิดหรือใช้คำผิดก็ขอโทษเเละช่วยเเนะนำเราทีนะคะ ขอบคุณค่ะ ^^

แสดงความคิดเห็น

8 ความคิดเห็น

MuHuMMaD 4 ต.ค. 63 เวลา 11:40 น. 1

ถ้าให้แนะนำคือเรียนในสิ่งที่ชอบแต่ถ้ามีองค์กรทางวิชาชีพรองรับก็จะดี นักการทูตเรียนจบอะไรมาก็สอบได้ขอแค่ภาษาดีครับ ไม่ได้รับเฉพาะคนที่จบรัฐศาสตร์


สิ่งที่อยากให้คิดต่อนอกจากความชอบ คือเคยคิดหรือไม่ว่าเรียนจบไปแล้วอยากประกอบอาชีพอะไร ทำงานด้านไหน เอาแบบที่ไม่ต้องสนใจเลยว่าน้องจะเรียนอะไร คือมันต้องมีการเทียบเคียงระหว่างความฝันกับความถนัดว่าไปด้วยกันได้มั้ยด้วยครับ


ยกตัวอย่างของพี่ เดิมเคยอยากเรียนแพทย์ กับบัญชี แต่วิชาสายวิทย์คือแย่มาก ชอบจริงๆคือคณิตกับภาษาไทย ก็เลยเลือกบัญชี แบบนี้อ่ะครับ

0
neko 6 ต.ค. 63 เวลา 14:24 น. 2

ตอบแบบคนที่สอบติดรัฐศาสตร์ แต่เลือกมนุษยศาสตร์เอกภาษา(ญี่ปุ่น) ทำงานล่าม และกำลังเรียนป.ตรีกฎหมายของมสธ. ถ้าใน 3 คณะนี้ ไม่ถามว่าชอบอะไร แนะนำให้เลือกอักษร และถ้าน้องไหว ก็เรียนนิติควบไป


แต่ถ้ามั่นใจว่าชอบทางสังคมมากกว่าภาษา ให้เลือกนิติ (พยายามให้ติดมหาลัยดัง เพราะสายนี้ความดังของมหาลัยมีผล) แล้วทำภาษาให้เก่งๆเข้าไว้

0
ECHANG 6 ต.ค. 63 เวลา 19:12 น. 3

น่าอิจฉาที่มีตัวเลือกให้ตั้ง 3 ตัว เลือกตัวที่จะกลายเป็นนักการฑูตได้ง่ายที่สุด ดูว่าพวกฑูตเขามักจะจบคณะอะไรมา ก็เลือกตัวนั้น

0
Bbb 7 ต.ค. 63 เวลา 16:55 น. 4

ดูจากความฝันของน้องที่อยากเป็นนักการทูตอย่างชัดเจนแล้ว พี่ว่ามุ่งเรียนรัฐศาสตร์ไปเลยดีกว่าค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าจะสอบเป็นนัักการทูตไม่ได้ ฝันให้ไกลไปให้ถึง ถ้าขยันหน่อยก็เรียนนิติ ม.รามควบคู่ไปเปนปริญญาตรีใบที่ 2 ด้วยก็ได้ แต่ถ้าสมมติวันนึงข้างหน้าเป็นนักการทูตไม่ได้ น้องก็สามารถนำวุฒินี้ไปสอบเข้าราชการเป็นแนววิเคราะห์วางแผนนโยบายให้กับองค์กรก็ได้ หรือถ้าทำงานภาคเอกชนน้องก็ไปเปน HR ของบริษัทก็ได้นะคะ

ย้ำอีกครั้งว่า "ฝันให้ไกลไปให้ถึง" ความฝันน้องชัดเจนกว่าความฝันพี่ตอนม.6 อีกค่ะ5555

และอีกอย่างที่อยากฝากไว้ "เสียใจที่ทำแล้วไม่ได้ ดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ลองทำ" นะคะ สู้ๆค่ะ️

0
Chyu 12 ต.ค. 63 เวลา 18:46 น. 6

ไม่อยากแนะนำให้เรียนเกี่ยวกับการแปลเลย คิดดูในอนาคตเดี๋ยวก็โดนแทนที่ด้วยAIหมด ยิ่งภาษาอังกฤษที่ใครๆก็พูดได้แล้วนี่ไม่ต้องพูดถึง ภาษาที่3 4 5 ยังว่าไปอย่าง เรียนรัฐศาสตร์หรือนิติดีกว่าค่ะ

0
พัฟ 6 ม.ค. 64 เวลา 09:41 น. 7

เธอแบบเหมือนเรามากกกก เรานึกว่าเรามาเขียนกระทู้ซะเองเลยอะ แบบเราอยากเป็นนักการฑู๖เหมือนกัน แต่ตอนนี้เรายังสับสนว่าเราจะไปไหนเหมือนเธอเลย เราเด็ก64นะ แงงงง

0
แพแพ 9 ส.ค. 64 เวลา 20:45 น. 8

คือจขกทเหมือนเรา เหมือนจนงง ตัวเราลังเลมากๆระหว่าง3คณะนี้ และอักษรเป็นตัวเลือกแรกเหมือนกัน แต่ยิ่งหาข้อมูล ยิ่งได้ลองอ่านลองดูคลิปประกอบการตัดสินใจ ใจยิ่งเอนไปทางนิติ แต่ค่อนข้างกลัวเรียนไม่ไหว เพราะเราก็ไม่ใช่คนขยันขนาดนั้น

1
แพแพ 9 ส.ค. 64 เวลา 20:46 น. 8-1

ปล.เราdek66นะ อยากให้จขกทมาแชร์ปสก.ว่าสุดท้ายแล้วเลือกคณะไหน แล้วเป็นยังไงบ้างมากๆเลย

0