รีวิวการเรียนISE (วิศวะอินเตอร์จุฬา) เทอมแรก

     บทความนี้เป็นการอธิบายคร่าวๆถึงประสบการณ์การเรียนในISEหรือวิศวกรรมศาสตร์อินเตอร์ของจุฬาของผมในเทอมแรกตั้งแต่ในเรื่องของรีวิวการเรียนในเทอมแรกแล้วก็เปรียบเทียบการเรียนกับของวิศวภาคปกนะครับ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับน้องๆที่กำลังตัดสินใจจะเข้าเรียนนะครับ

*ในบทความนี้จะมีความเห็นส่วนตัวของผมไปผสมอยู่พอสมควรถ้าเขียนส่วนไหนแล้วไปขัดใจใครก็ขอโทษนะค้าบ

การเรียนในเทอมแรก

การเรียนของISEเนี่ยจะแบ่งเป็น5สายนะครับก็คือ ADME,AERO,ICE,NANO,AI โดยรายละเอียดของแต่ละสายเนี่ยน้องก็สามารถดูได้จากเว็บนี้เลยครับ โดยดูที่หัวข้อacademicsนะครับ

http://www.ise.eng.chula.ac.th

ที่พี่จะมารีวิวเนี่ยเป็นวิชาที่สายADMEกับICEต้องเรียนทั้งหมดนะครับเพราะในเทอม1ยังเรียนเหมือนกันอยู่ครับแต่ของภาคอื่นๆเนี่ยจะมีบางวิชาที่เปลี่ยนไปครับเช่นของAEROก็จะมีวิชาIntro to aero มาแทนวิชา Materialเป็นต้นครับ

1 Calculus 1 (3หน่วยกิต)

เนื้อหาที่เรียนก็คือ calculus 1 ทั่วๆไปเลยครับตั้งแต่การดิฟพื้นฐานไปจนอินทิเกรตแล้วก็อินทิเกรตหาปริมาตรเป็นต้นครับถ้าพื้นฐานแคลตอนม.ปลายน้องดีน้องก็น่าจะไม่รู้สึกยากมากครับ แต่ถ้าไม่เคยเรียนมาเลยก็จะบันเทิงหน่อยนะครับ555 การเรียนก็จะเป็นlectureเลยครับ *ไม่เช็คชื่อ มีการบ้านให้ทำบ้างนิดเดียวครับ(ลอกประมาณ10นาทีต่อชุด555) คะแนนเกือบทั้งหมดจะมาจากสอบกลางภาคกับสอบไฟนอลครับ แม้ตอนม.ปลายน้องจะไม่เคยเรียนแคลคูลัสมาเลยแต่น้องก็สามารถเก็บเกรดดีๆได้ครับๆ วิชานี้เค้าจะแบ่งเป็นประมาณ5กลุ่มครับโดยแต่ละกลุ่มก็จะสอนโดยอาจารย์คนละคนกันครับ แต่น้องก็สามารถเนียนไปเรียนของกลุ่มอื่นได้นะครับ โดยอาจารย์จะมีrecordของตอนสอนไว้ให้ดูย้อนหลังด้วยครับ ตอนพี่เรียนพี่ก็จะเนียนไปดูrecordของsecที่จารสอนดีๆอะครับสอนละเอียดดีครับ โดยถ้าน้องมั่นใจว่าน้องไหว น้องจะไม่เข้าเรียนวิชานี้เลยก็ได้ครับแล้วน้องค่อยมาเรียนย้อนหลังเป็นแบบเปิดx2แล้วรีบๆเรียนจบใน2วันได้ครับ โดยเด็กที่เคยเรียนมาแล้วเช่นพวกเด็กสอวน.เนี่ยไม่เรียนเลยแล้วเข้าสอบก็สามารถเก็บAได้ไม่ยากเลยครับ

2 Physics (3หน่วยกิต)

น้องสามารถไปดูเนื้อหาที่ต้องเรียนในtextbook ชื่อว่าserwayได้เลยครับก่อนมิดเทอมก็จะเป็นพวกกลศาสตร์ทั้งหมดอะครับและหลังมิดเทอมก็จะเป็นพวกfluidไปจนถึงเรื่องthermoอะครับ เนื้อหาที่เรียนจะไม่ได้ยากกว่าตอนม.ปลายมากครับ(ส่วนตัวพี่ว่าpat3ยากกว่าอีก)แต่จะมีcalculusมาแทรกอยู่บ้างครับและถึงตอนม.ปลายน้องจะไม่ได้เรียนphysicsมาเลยน้องก็ไปเรียนพิเศษก็ได้ครับมีสอนอยู่หลายที่เลยครับ. ตอนเรียนแรกๆก็จะงงพอสมควรครับเพราะต้องใช้การอินทิเกรตในการเรียนด้วยแต่เค้าไม่ได้สอนการอินทิเกรตให้เราครับแต่พอcalculus1สอนอินทิเกรตแล้วเราก็จะพอเรียนรู้เรื่องละครับ วิชานี้พี่ไม่ได้เข้าเรียนเลยอะเลยไม่ทราบว่าจารเค้าสอนโอเคมั้ย คะแนนวิชานี้มาจากการสอบ100%ครับความยากก็จะไม่เกินข้อสีฟ้าในserwayครับ ตอนจะสอบน้องก็ทำโจทย์ท้ายบทในserwayนั่นแหละครับ ตอนเรียนจะมีลิสข้อที่ใกล้เคียงกับแนวข้อสอบจากรุ่นพี่ให้มาอยู่ครับ(ราวๆบทละ15ข้อครับ)น้องก็ทำตามลิสข้อพวกนั้นไปอะครับถ้าทำได้ซัก70%น้องก็น่าจะได้เกรดดีๆละครับ

3 Physics lab (1หน่วยกิต)

ทั้งเทอมก็จะต้องเข้าlabราว2อาทิตย์ครั้งครับทั้งเทอมทำอยู่ราว10labแล้วก็มีสอบไฟนอล ตอนทำlabถึงน้องจะไม่เข้าใจเลยแต่น้องก็ถามๆเพื่อนที่ทำlabด้วยกันได้ครับ ส่วนไฟนอลก็อ่านสรุปของรุ่นพี่ไปอะครับน้องน่าจะเอาตัวรอดได้

4 Computer programming (3หน่วยกิต)

เทอมนี้ก็จะเรียนjavaเบื้องต้นครับเนื้อหาตาม textbook javaของ คุณAtiwong Suchatoเลยครับจุฬามีให้โหลดฟรีครับลองsearchดูน่าจะเจอ น้องไม่ต้องมีพื้นฐานมาเลยก็จะพอเข้าใจได้ครับเพราะอาจารย์สอนค่อนข้างดีเลยครับ วิชานี้มีคะแนนเช็คชื่อนะครับ ปีพี่มีโควิดเลยเรียนออนไลน์ ตอนเช็คชื่อก็จะให้เพื่อนส่งลิงค์เช็คชื่อมาให้ครับ แล้วก็มีการบ้านให้ทำเยอะพอสมควรทุกสัปดาห์ครับ วิชานี้จะเก็บเกรดค่อยข้างยากเพราะตัดเกรดAคือ85ขึ้นไปครับแล้วก็ลดมาเกรดละ5เช่นB+ที่80Bที่75เป็นต้นครับแล้วเป็นคะแนนสอบ80%(มิดเทอม40ไฟนอล40)การบ้าน15%เช็คชื่อ5%ครับ ข้อสอบจะเป็นแบบกระดาษเลยครับน้องเลยจะไม่สามารถลองrun codeของน้องได้ครับ แล้วก็ตอนสอบแม้พี่จะทำการบ้านได้เกือบหมดแล้วก็อ่านtextมาแล้วพี่ก็ยังทำไม่ค่อยทันครับ(พี่ไม่เคยเรียนjavaมาก่อนนะครับ)

5 Computer programming lab (1หน่วยกิต)

คำว่าlabในที่นี้ก็คือห้องคอมทั่วๆไปอะแหละครับ วิชานี้จะใช้arduinoกับm5stackเป็นหลักมาทำlabในแต่ละครั้งครับ โดยตอนเริ่มคาบเค้าก็จะมีlab sheetมาให้เราอ่านๆแล้วก็ทำตามครับ เอาจริงๆเรียนจนจบคอร์สมาแล้วพี่ก็ยังงงๆอยู่เลยครับ555 ตอนlabแรกๆน้องจะทำตามlab sheetไปเรื่อยๆแบบไม่ต้องคิดไรมากได้อยู่ครับเป็นพวกการเขียนภาษาcใส่arduinoครับ แต่พอlabหลังๆจะเริ่มมี Internet of Things มาผสมละครับซึ่งพอเป็นpartหลังเนี่ยทั้งคลาสจะเริ่มทำได้ไม่กี่คนละครับพวกพี่ก็จะเริ่มมีการcopy pasteมากขึ้นเรื่อยๆ555 แล้วตอนท้ายสุดก็จะมีproject3คนให้ทำแบบไม่ยากมากแล้วไปpresentครับ มีสอบแค่มิดเทอมครับไม่ยากมากส่วนไฟนอลมีแต่projectนี่แหละครับ

6 English (3หน่วยกิต)

วิชานี้งานเยอะสุดละครับคาบนึง3ชั่วโมงคือทำงานยาวๆไปเลยครับแล้วบางทีก็มีการบ้านอีก เค้าแบ่งเป็น9secหรือ9กลุ่มครับเรียนแยกกันหมด secพี่ก็ทั้งเทอมไม่สอนเลยครับมีงานในหนังสือมาให้ทำ(หนังสือก็จะไม่ยากมากครับแต่มีvocabพวกวิศวะที่ไม่เคยเจอค่อนข้างเยอะครับ)แล้วก็เขียนessayส่งบ้างนานๆครั้งครับ มีสอบแค่ตอนไฟนอล ที่จะยากก็คือตัดเกรดแบบอิงกลุ่มอะครับ ถ้าengน้องไม่ได้เทพมากก็จะได้Aค่อนข้างยากครับเพราะISEจะมีเด็กเก่งอังกฤษเยอะพอสมควรครับ

วิชานี้พี่ว่ายากสุดละเอาจริงๆ5555 เนื้อหาจะเกี่ยวกับพวกmaterial propertiesแล้วก็พวกfractureซึ่ีงมีพื้นฐานมากจากเรื่องstress,strainครับ คะแนนมาจากสอบเกือบทั้งหมดครับ เรียนเป็นlecture onlineทุกอาทิตย์ บางครั้งไม่มีrecordแล้วแต่อารมณ์อาจารย์ จริงๆจะมีtextbookสำหรับอ่านด้วยแต่อ่านยากพอสมควรครับส่วนมากเลยเน้นเข้าเรียนและอ่านจากสไลด์เป็นหลัก ซึ่งเนื้อหาก็จะค่อนข้างเยอะด้วยครับ ถ้าเป็นคนชอบอ่านๆจำๆก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ

เปรียบเทียบ ISE กับวิศวภาคปก

การเรียน

ถ้าเอาเรื่องการเรียนเนี่ยบอกตรงๆว่าเทียบกับของภาคปกติแทบไม่ติดครับ55555 ตัวอย่างที่ชัดเลยก็คืออย่างวิชาphysicsเนี่ยครับเรียนเนื้อหาแทบไม่ต่างกันเลยครับแต่โจทย์ในtextbook serwayที่ต้องทำเพื่อเตรียมสอบเนี่ยของISEจะไม่เกินข้อสีฟ้า(ระดับกลางๆ)แต่ของภาคปกติแม้จะทำข้อแดง(ข้อยาก)แล้วบางทีก็ยังไม่พอสอบเป็นต้นครับ 

ค่าเทอม

แน่นอนครับว่าISEเป็นแบบอินเตอร์ค่าเทอมจึงจะแพงกว่าของภาคปกครับอยู่ที่ราวๆ1แสนต่อเทอมครับแต่ของISEเนี่ยจะมีทุนให้ด้วยครับ2แบบคือทุนISE100(ลดไปราว80000)กับทุนISE50(ลดไปราว40000)ซึ่งถ้าตอนสมัครเข้าISEมาอยู่อันดับต้นๆน้องก็จะได้ทุนนี้ในเทอมแรกครับโดยถ้าเป็นรอบแรกจะเป็นทุน100ถ้าเป็นรอบสองจะได้ทุน50ครับ แต่ทุนนี้จะอยู่แค่เทอมแรกนะครับแล้วในเทอมต่อไปทางISEก็จะมอบทุนนี้ให้กับคนที่เรียนได้เกรดท็อปๆผ่านเกณฑ์ครับ

กิจกรรม

เด็กISEกับภาคปกกิจกรรมทำร่วมกันเกือบหมดครับแต่มีบางกิจกรรม(ซึ่งน้อยมากๆ)ที่มีแต่เด็กISEครับ

การใช้ชีวิต

ส่วนตัวพี่มองว่าเด็กISEจะมีเวลาใช้ชีวิตมากกว่าเด็กวิศวะภาคปกนะครับเนื่องจากเรียนไม่หนักเท่าภาคปกครับ อย่างเช่นวิชาcalculusเนี่ยของISEคือสอบแค่มิดเทอมกับไฟนอลแต่ถ้าเป็นของภาคปกพี่จะเห็นเพื่อนพี่ที่อยู่ภาคปกแบบเอะอะก็สอบอะน้อง555 นอกจากนี้ของวิศวะภาคปกเนี่ยส่วนมากเลยจะแบ่งภาคตอนปี2ครับหลายๆคนที่อยากเข้าภาคที่แข่งขันสูงเช่นวิศวะคอมเนี่ยก็ต้องเก็บเกรดดีๆครับเลยต้องเรียนหนักขึ้นไปอีกแต่ของISEเนี่ยแบ่งภาคตั้งแต่เข้ามาเลยครับการเก็บเกรดของISEเลยอาจจะไม่ได้โหดเท่าภาคปกครับ

สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคับ เน้นนะครับว่ามีความเห็นผมไปผสมค่อนข้างเยอะฉะนั้นก็ถ้าผิดพลาดอะไรหรือเขียนอะไรไม่ตรงใจใครก็ขออภัยด้วยครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับน้องๆที่กำลังตัดสินใจเลือกที่เรียนนะครับ