Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

จากรุ่นพี่สู่รุ่นน้อง

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
พอจะมีเวลาว่างสัก 2-3 ชั่วโมงไหม ?
วันนี้พี่จะมาเล่าประสบการณ์จริงที่เจอกับตัวที่พี่ไม่เคยบอกใครที่ไหนมาก่อนเลย อย่าไปบอกใครนะ (อย่าไปบอกใครนะ = บอกสิ ป่าวประกาศเลยจ้ะ)
.
น้อง ๆ เคยคิดไหมว่าชีวิตการเรียนหลังจากขึ้นมหาวิทยาลัยของตัวเองจะเป็นยังไง ? พี่ผ่านมาแล้ว อย่าให้พูด! พี่เข้าใจดี  เพราะตอนนั้นพี่ก็กังวลมาก ขนาดเรียนมัธยมปลายยังเหนื่อยขนาดนี้ เชื่อปะ ตอนพี่สอบติดพี่คิดในใจก่อนเลยว่า "รอดแล้วโว้ย ไม่ต้องอ่านหนังสือเยอะ ๆ อีกแล้ว คราวนี้อยากทำอะไรจะไปทำให้หมดเลย" หารู้ไม่ว่านั่นมันคือจุดเริ่มต้นไม่ใช่จุดจบ....
.
เพราะการเรียนมหาวิทยาลัยมันไม่ง่ายเลย ถ้าน้อง ๆ ไม่จัดสรรเวลาเรียนและเวลาเล่นให้ดี สิ่งที่อยากทำก็จะไม่ได้ทำ การเรียนก็จะเรียนไม่ดี ทุกอย่างคือจบเลยนะ ไม่ใช่เรียนจบนะจ๊ะ แต่จบอนาคตที่สวยงามจ้าาา 
.
อย่างแรกเลย น้องต้องเข้าใจก่อนว่าสังคมมหาวิทยาลัยจะไม่เหมือนกับตอนเรียนในโรงเรียน เพราะสังคมจะเริ่มกว้างขึ้น ได้เจอทั้งคนใหม่ ๆ สิ่งใหม่ ๆ และการเรียนการสอนที่ไม่คุ้นเคย ดังนั้นเราจะต้องจัดสรรเวลาในชีวิตให้เป็น แต่พี่คิดว่าน้อง ๆ อาจจะพอรู้กันอยู่แล้วแหละ เพราะฉะนั้นข้ามเรื่องนี้ไปก่อน รอเจอของจริงกันเลย จะได้ลุ้น  เราไปฟังคำแนะนำเกี่ยวกับการเรียนของพี่ ๆ กันแทนดีกว่า ไม่เคยบอกใครเลยนะเนี่ยยย
.
ก็คือว่าาา อย่างตอนที่พี่เรียน พี่แนะนำให้น้อง ๆ จดเนื้อหาที่เรียนตามอาจารย์ให้ทัน แม้ว่าอาจารย์จะสอนเร็วแบบสวมวิญญาณแรปเปอร์ขั้นเทพขนาดไหนก็ตาม อีกทั้งอาจารย์บางท่านในมหาวิทยาลัยจะสอนรอบเดียวแล้วไปต่อเลย ไม่มีทวน ดังนั้นต้องตามให้ทัน (จดแบบผสมความเข้าใจลงไปด้วยน้า มาอ่านอีกรอบจะได้ไม่งง) แล้วก็ถ้าสงสัยในบทเรียนตรงไหนให้ยกมือขออนุญาตและถามอาจารย์ตอนนั้นได้เลย เว้นแต่ในวิชานั้น ๆ อาจารย์จะเปิดให้ถามคำถามตอนท้ายคาบ
.
ส่วนตอนทำงานส่ง ควรดูเวลาส่งงานให้ดี อย่าให้กลายเป็นงานค้าง การดูแผนการเรียนที่อาจารย์ให้ไว้ก็จะช่วยให้วางแผนการทำงานได้ดียิ่งขึ้น และถ้าอาจารย์สั่งงานมาปุ๊บ พี่แนะนำให้น้อง ๆ ทำทันที หรือทำตารางการบ้านไว้ ว่าวิชาไหนต้องส่งก่อน หรือวิชาไหนต้องใช้เวลาทำนานก็ให้ทำก่อนงานอื่น  (พี่เคยทำงานไฟลนก้นมาแล้ว เตือนแล้วนะ  ไม่ควรทำเป็นเยี่ยงอย่าง ! )
.
สุดท้ายยย ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดก็คือ การสอบนั่นเอง น้อง ๆ ต้องทบทวนเนื้อหาที่สอบให้ดีเลยนะ เพราะการสอบโดยเฉพาะวิชาที่เป็นของสาขาวิชาภาษาไทยจะต้องใช้ความเข้าใจเพื่อเอามาใช้วิเคราะห์และสังเคราะห์ในการทำข้อสอบ ซึ่งช่วงปี 2 ขึ้นไปจะเป็นข้อสอบอัตนัยล้วน !! โบกมือลาปรนัยหรือการจำคำตอบแล้วออกสอบแบบที่เรียนมาเป๊ะ ๆ ไปได้เลย 
.
ก่อนจะจบการเล่าสู่กันฟังวันนี้ไป พี่มีอีกเรื่องที่ถึงจะเล็กน้อยแต่พี่ว่ามันก็สำคัญมากมาฝากไว้อีกอย่าง นั่นคือเรื่องการเข้าเรียนให้ตรงเวลา เพราะการเรียนในมหาวิทยาลัยไม่ได้มีห้องเรียนประจำให้น้อง ๆ นั่งประจำที่แล้วรอคุณครูแต่ละวิชาเดินเข้ามาสอน แต่น้อง ๆ จะต้องเดินเรียนไปตามห้องที่แต่ละวิชากำหนดไว้ ซึ่งบางวิชาก็ต้องเปลี่ยนตึกเรียนที่อยู่ไกลกันมาก ถ้าเราไม่เข้าเรียนหรือมาสาย อาจารย์ในมหาวิทยาลัยบางท่านเขาไม่มาตามหรือตักเตือนเรานะ เราต้องมีความรับผิดชอบและตรงต่อเวลาด้วยตนเอง ! โตแล้วต้องอดทน ถ้าซุกซนพี่ตีนะ แซวววว 
.
- พี่ขอเป็นกำลังใจให้น้อง ๆ มัธยมปลายทุกคนที่กำลังจะเข้ามาใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยทุกคนเลยนะคะ รุ่นพี่สาขาวิชาภาษาไทยรอต้อนรับรุ่นน้องทุกคนอยู่นะ -
 

แสดงความคิดเห็น

2 ความคิดเห็น

Wlut 15 มี.ค. 64 เวลา 19:20 น. 1

อยากถามเรื่องเพื่อนๆในมหาลัยหน่อยค่ะ แบบเพื่อนที่รู้จักกันใหม่ๆ สนิทกันแค่ไหนเหมือนตอนเรียนมัธยมไหมค่ะ หรือว่าเราต้องเอาตัวรอด ใช้ชีวิตของเราคะ

1
KU HUM Thai 16 มี.ค. 64 เวลา 11:15 น. 1-1

สวัสดีค่ะ

สังคมมหาวิทยาลัยเป็นสังคมกว้าง ๆ มีเพื่อน ๆ หลากหลายรูปแบบเลยค่ะ น้องเป็นตัวของตัวเอง เข้าหาแล้วก็ปรับตัวกับเพื่อน ๆ วางตัวให้ดี พี่เชื่อว่าน้องต้องได้เจอเพื่อน ๆ ที่น่ารักและจริงใจแน่นอนค่ะ พี่ขอเป็นกำลังใจในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยและสังคมใหม่ของน้องนะคะ ^^

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น