รีวิว9วิชาสามัญ+ความถนัดแพทย์ [แนวทางการอ่านหนังสือ+ข้อผิดพลาด] ฉบับคะแนน 80+
ตั้งกระทู้ใหม่
ต้องบอกก่อนว่าข้อสอบกสพท.เนี่ยเป็นข้อสอบที่ต้องใช้ทั้งความเร็วและความแม่นยำ (ให้เวลาวิชาละ 90 นาทีส่วนความถนัดวิชาละ 75 นาที) ดังนั้นความรู้พื้นฐานจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก การอ่านหนังสือของเราจึงเน้นไปที่การอ่านให้แน่นแล้วจึงค่อยเริ่มทำโจทย์จับเวลาโดยเรามีแผนการอ่านหนังสือคร่าวๆดังนี้
เมษายน - กันยายน = เก็บเนื้อหาทุกวิชายกเว้นสังคม
ตุลาคม - ธันวาคม = ความถนัดแพทย์, คอร์สตะลุยโจทย์ และไล่เผาหนังสือโจทย์ที่ซื้อมา
มกราคม - มีนาคม = ทำข้อสอบเก่าจับเวลาย้อนหลังตั้งแต่ปี 55-63, อ่านสังคม
กลางมีนาคม - สอบ = อ่านทวนแล้วยัดมันเข้าไปถ้ามันออกมาก็ยัดเข้าไปใหม่, กินสังคมเป็นอาหาร
อ้อ อีกอย่าง คือเราเป็นคนที่ไม่ชอบจัดตารางการอ่านหนังสือที่แน่นอนเช่น เวลานี้ต้องทำอะไร ต้องอ่านวิชาอะไร ดังนั้นเราจึงใช้วิธีการสร้างเป้าหมายทีละ 2-3 วันแล้วถ้าเราทำเสร็จก็ถือว่าเราสำเร็จแล้วเวลาที่เหลือก็เอาไปพักผ่อน เราว่าการอ่านหนังสือที่สม่ำเสมอมันดีกว่าการหักโหมเป็นบางวัน (เราเคยลองอ่านโต้รุ่งแล้ว สรุปคือวันถัดมาเรานอนทั้งวันเลย5555) ส่วนจำนวนชั่วโมงในการอ่านหนังสือเราว่ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญแต่ว่าการอ่านแล้วได้คุณภาพนี่แหละที่สำคัญที่สุด ส่วนใหญ่เราอ่านวันละ 6-7 ชั่วโมง ถ้าขี้เกียจก็ 2-4 ชั่วโมงแต่ถ้าขยันก็ 10-12 แล้วแต่อารมณ์
ต่อมาเราจะลองอธิบายการเรียนแต่ละวิชาละกัน เราบอกแค่ที่เราเรียนจริงๆนะ คือบางวิชามีหลายที่ที่สอนดีแต่เราคงเรียนทุกที่ไม่ไหวอะ
ปล. ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.chulabook.com/th นะครับ
1.ไทย-สังคม (อย่างละ 7%)
เรียนพิเศษ
-พี่ต้นคูน class online เราว่าพี่เค้าสอนสนุกดี อธิบายทุกเรื่องแบบถ่องแท้และครอบคลุมซึ่งมันทำให้การกินสังคมเข้าไปในหัวเป็นเรื่องง่ายขึ้น ส่วนภาษาไทยก็มีหลักการทำข้อสอบ
หนังสือ
-สังคมแมวส้ม เราว่าเล่มนี้อ่านเข้าใจง่าย ขมวดปมได้ดีมากและสรุป concept ได้ค่อนข้างจะครบถ้วนรวมถึงเล่มโจทย์แยกบท ทำให้เรารู้ว่าเราลืมตรงไหน หรือต้องอ่านตรงไหนเพิ่มบ้าง
-เล่มโจทย์ของดาว้องก์ เราว่าเล่มนี้มีการจำลองแนวข้อสอบที่ค่อนข้างเหมือนจริง
แนวทาง
-ภาษาไทย เราเน้นการทำโจทย์บ่อยๆทั้งโจทย์ในหนังสือและข้อสอบเก่าจับเวลา เพราะภาษาไทยเป็นวิชาที่เนื้อหาที่นำมาออกมีไม่เยอะ และการฝึกโจทย์ทำให้เรามีความชำนาญมากขึ้นด้วยนะ
-สังคม เราอ่านชีทเรียนของพี่ต้นคูนและสังคมแมวส้มรวมประมาณ 4-5 รอบแต่เราไม่ได้อ่านใหม่หมดทุกรอบนะ คือรอบ1-2 เราอ่านเพื่อทำสรุปความคิดและ concept รอบ 3-4 เป็นการเก็บรายละเอียดที่ตกหล่น และรอบสุดท้ายเป็นการอ่านทวนก่อนเข้าห้องสอบ
เพิ่มเติม
-วิชาสังคม เราไม่มีพื้นฐานเลย (วันสำคัญทางพุทธศาสนายังไล่ไม่ครบเลย) เราจึงอ่านมันค่อนข้างเยอะ แต่สำหรับคนที่พอมีพื้นฐานบ้าง เราว่าไม่จำเป็นต้องทุ่มมากขนาดนี้ก็ได้ เพราะเป็นวิชาที่มีคะแนนค่อนข้างน้อย
-ภาษาไทย เราว่าการทำโจทย์ค่อนข้างสำคัญนะ วิชานี้เราว่าควรเน้นไปที่การทำโจทย์เยอะๆ
3.อังกฤษ (14%)
เรียนพิเศษ
-Dr.Ov English ตอนนี้ย้ายจากวรรณสรณ์ไปมาบุญครอง เราว่าเนื้อหาอัดแน่น ศัพท์เยอะ แถมมีจับเวลาทำข้อสอบและเฉลยละเอียดด้วย เป็นที่เรียนที่เหมาะสำหรับสายถึกและทนอย่างมาก
-พี่แน้ต สอนสดที่ศูนย์หนังสือจุฬาและมีเป็นเรียนออนไลน์ด้วย เราว่าที่นี่สอนเฮฮามาก มีเทคนิคการท่องศัพท์ด้วยทำนองอะ มันดูเหมือนจะไม่ช่วยแต่มันช่วยนะ ช่วยเยอะเลยแหละ เราว่าที่นี่ใส่ใจเด็กค่อนข้างมากนะ แบบมีการติดตามคะแนน มีการบังคับท่องศัพท์ สอบศัพท์
-พี่ปาล์ม อันนี้เราเรียนเป็นกลุ่มย่อยกับเพื่อนๆ พิกัดอยู่ตรงที่ตึกจอดรถโรงแรมเอเชีย Bts ราชเทวี เราเรียนคอร์สตะลุยโจทย์ ซึ่งโจทย์ที่พี่เค้าเอามามีความหลากหลายมาก ทำให้เราได้เจอโจทย์หลายๆแนวมาก อีกทั้งยังสอนสนุกด้วยมีความเป็นกันเองมากๆๆ
-CUTEP practice test ทำให้เราได้เจอโจทย์ที่ยากกว่าข้อสอบจริงและเป็นการเพิ่มแนวข้อสอบที่เราเจอ
-อ่านขาด เล่มนี้มีการจำลองโจทย์เป็นชุดๆ ไว้สำหรับทำจับเวลาได้ ส่วนความยากก็กำลังดี
-จับตาย!!!! เล่มนี้มีข้อสอบจำลองเช่นเดียวกัน แต่เราว่ามันง่ายนะ เหมาะในการทำเป็นเล่มแรกๆในช่วงทำโจทย์อะ
-หนังสือของ ดร.ศุภวัฒน์ พุกเจริญ เราว่าดีทุกเล่มเลย แต่เราทำไม่ครบเองแหละ55 ส่วนใหญ่ที่เราทำคือจะทำเป็นเล่มโจทย์อะ สำหรับภาษาอังกฤษเราแนะนำหนังสือทุกเล่มของเค้าเลย เพราะมีตั้งแต่เนื้อหาพื้นฐานจนถึงข้อสอบจับเวลา ส่วนเรื่องความยากในเล่ม 9 วิชาสามัญ เราว่ากำลังดีนะ อาจจะมี conversation ที่เรารู้สึกยากอะ ส่วนเล่มอื่นๆเราว่าดีมากๆๆเลย (ปล.เราไม่ค่อยเก่งอังกฤษ เราเลยไม่แน่ใจในวิธีการเตรียมตัวของเราเท่าไหร่ ถ้าใครเก่งๆมาช่วยแชร์ได้นะครับ)
แนวทาง
ในข้อสอบจะมี 3 ส่วนหลักๆ คือ conversation, reading และ grammar
-conversation เราไม่ได้ฝึกอะ แต่สำหรับคนที่อยากฝึกก็มีหนังสือขายนะ
-reading เราเน้นไปกับการฝึกหลายๆแบบ ซื้อหนังสือมาทำเยอะๆ รวมถึงพยายามท่องศัพท์ด้วย
-grammar เราชอบทำพวก error แล้วตอนทำก็แก้คำที่ผิดด้วย มันเป็นการเช็คได้ว่าเราแม่น grammar จริงๆหรือไม่
-ก็คือรวมๆแล้ววิชานี้เน้นการฝึกฝนบ่อยๆ ต้องทำทุกวัน ท่องศัพท์ทุกวัน แล้วมันจะดีขึ้นเรื่อยๆเอง
เพิ่มเติม
-อังกฤษเป็นวิชาที่ใช้ skill ดังนั้นการฝึกฝนจะช่วยมากๆนะจ๊ะ
4.คณิตศาสตร์(14%)
เรียนพิเศษ
- คอร์สกสพท.พี่ตุ้ย tutor (เรียนในแอพ AT HOME) เป็นคอร์สที่รวบรวมแนวโจทย์มาให้ทำ ซึ่งเราว่าดีมาก เป็นการเพิ่ม pool ข้อสอบได้อะ
-คอร์ส upskill เลข ondemand มีทั้งสรุปเนื้อหาและจำลองข้อสอบ ถือว่าดีมากๆ ทำให้เรารู้ขอบเขตของเนื้อหาเลขที่นำมาออกได้และได้ฝึกโจทย์ไปในตัว
หนังสือ
-เนื้อหา: หัวใจคณิตศาสตร์ ม.ปลาย และ A-point admission edition
-โจทย์: 25 พ.ศ.,syntax, crack, vaccine, ตะลุยโจทย์เทพคณิตพิชิต 7 วิชาสามัญ
ตอนทำเราทำเรียงตามลำดับความยากได้แก่ 25 พ.ศ., syntax, crack, vaccine ส่วนตะลุยโจทย์เทพคณิตพิชิต 7 วิชาสามัญความยากจะประมาณเล่ม crack
-โจทย์จับเวลาทำ:
-แนวข้อสอบ PAT1, 9 วิชาสามัญ ของ ณัฐ อุดมพาณิชย์ 2 เล่มนี้ดีมากระดับความยากเท่ากับข้อสอบจริงเลย
-Hack โจทย์ 9 วิชาสามัญของ Ganbatte เราว่าเล่มนี้ก็น่าทำ แต่ชุดท้ายๆค่อนข้างยากนะ
-ข้อสอบเก่าและเฉลยจากเว็บ http://www.rathcenter.com/
แนวทาง
-วิชานี้เราอ่านเนื้อหาเองนะ
-วิชานี้ควรเริ่มจากลองทำข้อสอบ 25 พ.ศ.ก่อนแล้วค่อยไล่ระดับความยากขึ้นไปเรื่อยๆ และเมื่อเราทำเสร็จชุดนึงก็ดูข้อผิดพลาดของเราและไปอ่านทวนเพื่อให้แม่นยำมากขึ้น เล่มนี้ไม่ควรพลาดนะสำหรับคนที่พื้นฐานยังไม่แน่น แต่ถ้าพื้นฐานดีแล้วก็สามารถข้ามได้
-ต่อมาเป็น syntax crack vaccine 3 เล่มนี้ถ้าเราทำเสร็จแล้ว นั่นคือเราเจอโจทย์ทั้งระดับง่าย กลางและยากแล้ว สำหรับใครที่อ่านไม่ทัน แนะนำให้ทำ syntax กับ crack เพราะว่า vaccine จะยากกว่าข้อสอบจริงไปหน่อยอะ แต่ทางที่ดีก็ทำหมดเลยนั่นแหละ ส่วนตะลุยโจทย์เทพคณิตพิชิต 7 วิชาสามัญความยากจะประมาณเล่ม crack
-โจทย์จับเวลา อันนี้เราว่าก็ควรทำ เพราะว่าเราจะรู้ว่าเราพลาดตรงไหน จะได้แก้ไขได้ถูกจุดก่อนที่จะทำข้อสอบเก่าจับเวลา
-ถึงแม้ข้อสอบปีนี้ข้อสอบจะเปลี่ยนแนว แต่การทำข้อสอบเก่าย้อนหลังก็ยังคงมีประโยชน์ เพราะการทำข้อสอบเก่าทำให้เราแม่นมากขึ้น และถ้าเราแม่นแล้วข้อสอบจะมาแนวไหน เราก็จะสามารถพลิกแพลงได้อยู่ดี
เพิ่มเติม
-เลขสามัญสามารถทำ 100 เต็มได้ถ้าเราใส่ใจและตั้งใจจริง เพราะข้อสอบเน้นความรอบคอบและแม่นยำในเนื้อหามากกว่าความยาก
5.ฟิสิกส์ (9.33%)
เรียนพิเศษ
- คอร์ส V-series Ondemand เป็นคอร์สที่เนื้อหาครอบคลุมมาก อีกทั้งยังมีโจทย์ท้ายเล่มเยอะพอสมควร ทำหมดก็คือบรรลุในระดับนึงอะ
- ฟิสิกส์ อ.ธวัชชัย Eureka อันนี้เราชอบเพราะว่าแกสอนฟิสิกส์ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้มากกว่าการจำสูตรอะ แต่สำหรับการสอบเข้าเราว่าเนื้อหาค่อนข้างยากเลยแหละ เหมาะสำหรับคนที่อยากเข้าใจฟิสิกส์จริงๆ
- ติวติดจอ the final call Ondemand เป็นคอร์สติวฟรีก่อนสอบอะ พี่เค้าช่วยเราไว้หลายคะแนนเลยแหละเพราะฟิสิกส์ปีนี้เปลี่ยนแนวข้อสอบบางส่วน เลยมีพวกเนื้อหาใหม่เข้ามาเช่น เรื่องอนุภาคต่างๆ นิวตริโน โฟตอน กลูออน พวกนี้
- Upskill Ondemand เป็นคอร์สทำโจทย์และสรุปเนื้อหา
หนังสือ
-แนวข้อสอบฟิสิกส์ 9 วิชาสามัญ(กสพท.) เราว่าเล่มนี้ดีมาก ความยากกำลังพอฟัดพอเหวี่ยง ไม่ยากเกินไป ไม่ง่ายเกินไป โจทย์ทุกชุดเฉลี่ยความยาก
-หนังสือของทีมงาน Superposition มีทั้งเนื้อหาและโจทย์ สำหรับเรา เราว่าโจทย์ยากไปอะ แต่เราก็ทำไปประมาณครึ่งเล่มอะ เผื่อข้อสอบออกยากแล้วจะได้พอคลำๆได้บ้าง
แนวทาง
-เราทำเหมือนเลขอะคือทำไล่ระดับความยากขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วก็หาจุดผิดของตัวเองแล้วจัดการมันซะ
-ปีนี้ข้อสอบเปลี่ยนแนวจากตัวเเปรมาเป็นตัวเลข แต่ก็ไม่ได้เพิ่มความยากนะ ถ้าคนเตรียมตัวดีๆก็น่าจะโอเค แต่ปีนี้มีเนื้อหาที่ตัดออกและเพิ่มเข้ามาบางส่วน ซึ่งจะแจ้งออกมาปีต่อปีอะ ทางที่ดีเราควรเตรียมตามปีเก่าๆไปก่อนแล้วเนื้อหาที่เปลี่ยนไปก็ค่อยไปอ่านเพิ่มตอนใกล้ๆสอบ ไม่ก็เรียนติวติดจอก็ได้นะ
เพิ่มเติม
-ปีนี้ฟิสิกส์ปรับการออกข้อสอบโดยการเพิ่มข้อเขียนอีก 5 ข้อ 25 คะแนนโดยข้อเขียนไม่ได้ออกยากมากแต่เน้นความรอบคอบในการคิดเลขมากกว่า
6.เคมี (9.33%)
เรียนพิเศษ
-TCAS Ondemand ของพี่เคน เนื้อหาครบ สอนละเอียดมากแถมมีหนังสือโจทย์มาให้อีก 1000 ข้อเราเรียนแค่คอร์สเดียวเนื้อหาครบเลย
-Upskill Ondemand เป็นคอร์สทำโจทย์เก่าอะ เราชอบมากเพราะว่าอธิบายละเอียด
หนังสือ
-มูเตลู Ondemand อันนี้เป็นโจทย์ 1000 ข้อที่แถมมาพร้อมเฉลยหยาบ ได้โจทย์หลายแนวมากแต่เราหาเฉลยละเอียดไม่ได้อะ เราเลยใช้วิธีถามเพื่อน
-คัมภีร์โจทย์เคมีขั้นเทพพิชิต 9 วิชาสามัญ+PAT2 เล่มนี้เป็นโจทย์ทั้งเล่มเลย ทำให้เราแม่นยำมากขึ้น
แนวทาง
-เราใช้วิธีเดียวกับเลข คือเรียนเนื้อหาให้จบ ทำโจทย์เพิ่มความชำนาญแล้วค่อยจับเวลา เพื่อปิดจุดพลาดของเราไปเรื่อยๆ
-เคมีจะมีทั้งจำและคำนวณ ในส่วนคำนวณ เราพยายามทำบ่อยๆจนได้ ส่วนจำเรามาจำช่วงใกล้ๆสอบเพราะจะได้ไม่ลืม
เพิ่มเติม
-ปีนี้มีเพิ่มข้อเขียนมา 20 คะแนนช้อยส์เลยเหลือ 80 คะแนน ในส่วนของช้อยส์ข้อสอบจะง่ายควรเก็บคะแนนให้ได้ แต่ข้อเขียนเน้นความแม่นยำในการคำนวณมากๆ ชอบมีจุดหลอก มีเลขแปลกๆแต่ตัดกันได้พอดี
7.ชีวะ (9.33%)
เรียนพิเศษ
-Bio TCAS Ondemand เนื้อหาและโจทย์ในคอร์สเยอะมากๆ และมี biomap เป็นสรุปด้วย
-Upskill Ondemand ตะลุยโจทย์กสพท. ย้อนหลังพร้อมอธิบายละเอียดถือว่าชอบมากๆ
-ชีวะพี่หมูแดง ที่นี่สอนโจทย์เน้นการคิดวิเคราะห์ โจทย์ยากและซับซ้อน
-BIOOUI สวนหลวงสแควร์ อันนี้เราเคยเรียนแค่คอร์ส สอวน.แต่เราก็ชอบมาก เพราะว่าอาจารย์อธิบายละเอียดมากๆ(คอร์สเอนท์ก็มีนะ แต่เราไม่ได้เรียน เรียนไม่ทัน55)
-Bio Beam อันนี้เคยเรียนแค่ไม่กี่คอร์สแต่ชอบการจดเป็นภาพอะช่วยให้จำเป็นภาพได้มากขึ้น
หนังสือ
-Bio map
-หมึก ปู และสหายทั้งหลาย
-อ่านขาดชีววิทยา
-ชีทในค่ายสอวน.ค่าย 1 และ 2
แนวทาง
-ต้องบอกก่อนว่าเราเป็นคนชอบวิชานี้และเราเคยเข้าค่ายสอวน. เราเลยพอจับจุดได้ ดังนั้นการอ่านชีวะของเราคือการอ่าน,ทำความเข้าใจ concept, จดสรุปแล้วค่อยจำ อ่านวนไปเรื่อยๆจนกว่าจะจำได้ ถ้านับทั้งหมดก็น่าจะประมาณ 5-6 รอบ
-แต่ช่วงใกล้ๆสอบ เราจะอ่านสรุปของตัวเองที่จดไว้โดยไม่อ่านหนังสือแล้ว เพราะว่าการอ่านสรุปทำให้เราอ่านเนื้อหาเท่าเดิมในเวลาที่น้อยลงเป็นการประหยัดเวลาภายในตัว
เพิ่มเติม
-ปีนี้ชีวะปรับเหลือ 50 ข้อ ข้อสอบจำพวกถามตอบก็ลดลงเปลี่ยนเป็นแนววิเคราะห์มากขึ้น เราแนะนำว่าการอ่านชีวะควรเข้าใจก่อนจะจำนะ เพราะการท่องๆโดยไม่เข้าใจไม่กี่วันมันก็ลืม
8.ความถนัดแพทย์ (30%: เชาว์ 10% จริยธรรม 10% เชื่อมโยง 10%)
เรียนพิเศษ
-Pack ความถนัดแพทย์ออนดีมานด์ที่มี Upskill ด้วย เราว่าแค่คอร์สเดียวก็ทำโจทย์ท้ายเล่มเกือบจะไม่หมดละ55
หนังสือ
-ความถนัดแพทย์ Think Beyond สำหรับคนที่อยากฝึกเพิ่ม
แนวทาง
-เราว่าพาร์ทเชื่อมโยงเป็นพาร์ทที่ต้องฝึกบ่อยถ้าอยากได้ 100 (เเต่เราก็พลาด)
-จริยธรรมและเชาว์เราแทบจะปล่อยไปตามยถากรรมเลยจนถึง 5 วันก่อนสอบ
-เราเริ่มเรียนคอร์สความถนัดช่วงพฤศจิกายนจากนั้นก็ปล่อยมันไปก่อนแล้วมาเริ่มอ่านช่วงหลังสอบ 9 วิชาสามัญเสร็จ ซึ่งมีเวลา 5 วันถ้วน เอาจริงๆเราไม่แนะนำให้ทำอย่างนี้เลยเพราะมันเสี่ยงมาก แต่เราอ่าน 9 วิชาไม่ทันแล้ว
- 5 วันนั้นเราให้เชื่อมโยง 2 วันครึ่ง เชาว์และจริยธรรม 2 วันอีกครึ่งวันนอนพัก ส่วนโจทย์ที่ทำก็คือในเล่ม Ondemand กับ 2 เล่มที่บอกนั่นแหละ
จุดพลาดที่ไม่น่าพลาดเเต่พลาดไปเเล้ว
-พลาด1 พลาดที่ไปยื่นรอบ1 ทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้มี portfolio ดีขนาดนั้น เรายอมเสี่ยงเพื่อเสียเวลา 1 เดือนครึ่งในการสอบ IELTS BMAT เพื่อไปยื่นหมอรามาฯ สุดท้ายก็ไม่ติด55 ไม่ใช่ว่ารอบนี้ไม่ดีนะ รอบนี้ดีเลยแหละแต่ดีสำหรับคนที่มีผลงานและแรงจูงใจในการเป็นหมออันแรงกล้า
-พลาด2 พลาดวันสอบ 9 วิชาสามัญ ก่อนสอบ 1 ชม. นาฬิกาหยุดเดินจ้าหยุดแบบไม่มีอะไรมากั้น อยู่ดีๆก็หยุด
-พลาด3 พลาดตอนสอบ ต้องบอกก่อนว่าเราคาดหวังกับอังกฤษกับชีวะไว้พอสมควรนะ แต่ผลที่ออกมาดันกลับตาลปัตรไปหมดเลย เราหลุด 2 วิชานี้เเต่ดันทำเลขได้ (งงกับตัวเอง)
-พลาด4 ตอนสอบชีวะ วิชาที่เราถนัด เราเลยกดดันเป็นพิเศษจนเราลืมเนื้อหาที่เราคิดว่าเราควรจะได้ เช่นหมู่เลือด A B O ตอนสอบเราลืมทุกอย่างไปเลย ดังนั้นจึงเกิด ข้อแนะนำ1 คือ อย่ากดดัน
-พลาด5 พลาดตอนสอบเคมี ข้อสอบช้อยง่ายลง เราก็เลยคิดว่ายังไงก็ทำทัน ไปๆมาๆเจอข้อเขียนกินเวลา เกือบจะไม่ทันเลย แบบมันทันตอนวางดินสอพอดีเลยทำให้เราผิดข้อเขียนเคมีไป 1 ข้อเพราะความรีบด้วย(แอบเสียดาย) ส่งผลให้เกิดข้อแนะนำ2 อย่าประมาทข้อสอบ
-พลาด6 แก้ข้อถูกเป็นผิดก่อนส่ง ซึ่งเกิดกับวิชา ชีวะกับอังกฤษเช่นเคย เราแก้ถูกเป็นผิดหลายข้ออยู่เพราะความลังเล และไม่เชื่อความคิดตัวเอง ข้อแนะนำ3 จงเชื่อมั่นในตัวเอง คิดว่าเวลานั้นตัวเองเก่งที่สุด
สิ่งที่อยากบอกเพิ่ม
-อย่ากดดัน อย่าประมาท จงเชื่อมั่นในตัวเอง
-ถ้าปีน้องๆ เปลี่ยนเนื้อหาที่ออกก็ควรดูๆไว้ด้วย เดี๋ยวจะมาเสียดายทีหลัง
-ข้อสอบเปลี่ยนแนวจะไม่มีผลต่อเรา ถ้าเนื้อหาเป๊ะ แน่น ดังนั้นอย่า panic
-ตอนจับเวลาทำข้อสอบเผื่อเวลาไว้ด้วยก็ดี เช่นสอบ 1ชม. 30 นาที เราก็ควรจับเวลาแค่ 1ชม. 25 นาที
เพราะในห้องสอบจะเกิดอาการลนหรืออาการวิตกจริตขึ้นได้
-แนะนำให้สอบ mock exam ด้วยเพราะว่าจะช่วยให้เราวัดตัวเองได้ว่าเราอยู่ระดับไหนแล้ว อย่างน้อยก็สัก 1 สนาม
-ขอให้น้องๆที่อ่านจบสอบติดนะคร้าบบ
จบบ….. เขียนรีวิวก็เหนื่อยนะเนี่ย555
20 ความคิดเห็น
ขยันและเก่งมากๆๆค่ะขอให้เป็นแพทย์ที่ดีมีคุณภาพ
ขอบคุณมากๆนะคะที่มารีวิว มีประโยชน์มากๆค่ะ
เก่งมากๆเลยค่ะ
เก่งมากค่ะ น้องมีความตั้งใจและมุ่งมั่นมาก ผลคือทำให้ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ ขอให้มีความสุข ความเจริญ และความสำเร็จยิ่งๆขึ้นไปนะคะ
ขอบคุณมากๆเลยนะค้า
พี่คะ น้องขอถามเพิ่มเติมว่าพี่เรียน dr.ov ,P’nat คอร์สไหนบ้างเหรอคะ แง
Dr ov เรียน level 1 2A 2B 3A 3B พี่เเน้ตเรียนคอร์สเเรกกับ rising star คับ^-^
ขอบคุณค่าบบ
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆนะครับ️️️
พี่เก่งมากเลยย
ขอบคุณสำหรับแนวทางนะคะ
ขอบคุณสำหรับรีวิวน่ะครับตั้งใจอ่านมากเยย ว่าจะเอาไปปรับใช้ด้วย DEK66
พี่คะ หนังสือสสวทควรนำมาอ่านเพิ่มเติมไหมคะ
พี่เห็นเพื่อนบางคนอ่าน บางคนก็ไม่ เเต่พี่ไม่ได้อ่านนะ อ่านไม่ทัน55 สำหรับพี่ พี่ว่าเอาไว้อ่านถ้าเวลาเหลือดีกว่า เพราะเนี้อหาในหนังสือ สสวท.ก็เหมือนกับหนังสือตามท้องตลาดเลย
ชีวะเล่มปลากระเบน กับเล่มปู มีอะไรที่แตกต่างกันไหมครับ
เล่มกระเบนน่าจะเป็นเล่มปู version ปรับปรุง เท่าที่อ่านมาก็ต่างกันที่รายละเอียดบางส่วน เเต่ระดับความลึกของเนื้อหาก็เท่าๆกัน เลือกอ่านสักเล่มก็ได้นะ
พอจะบอกได้มั้ยครับ ielts และbmat ได้เท่าไรครับ และสาเหตุที่ไม่ได้รอบportเพราะอะไรครับ ขอบคุณครับ
ได้ 6.5 กับ 14.3B คับ ส่วนที่ไม่ได้รอบเเรกก็ไม่เเน่ใจเหมือนกันเเต่คิดว่าเป็นเพราะมีเวลาทำน้อยเเละก็ เขียน personal statement ไม่ดีเท่าที่ควร เหมือนประมาณว่าเขายังไม่เห็นถึง passion ในตัวเราอะ
พี่คะพี่อ่านวันละกี่วิชาหรอคะแล้วช่วงพี่เก็บเนื้อหาพี่เก็บก่อนแล้วค่อยมาทำโจทย์หรือว่าเรียนจบบทนึงแล้วก็ทำเลย
ถ้าตอนเก็บเนื้อหาจะอ่านประมาณวันละ 2 วิชาถ้ามีการบ้านที่โรงเรียนก็อาจจะได้เเค่วิชาเดียว เเต่ถ้าทำโจทย์จับเวลาก็จะทำประมาณ 4-5 ชุดต่อวัน ถ้ามีการบ้านโรงเรียนก็ 1-2 ชุดเเละตอนที่เก็บเนื้อหาพี่เรียนให้จบเป็นเล่มๆไป เล่มละประมาณ 3-5 บทเเล้วค่อยทำโจทย์ท้ายบททีเดียว
วิธีเตรียมตัวดีมากๆเลยครับ มีstudygramมั้ยครับ
ไม่ได้ทำ studygram ครับบ
ขอบคุณที่มาแชร์ประสบการณ์ให้นะคะ
เก็บเนื้อหาจบเดือนตุลายังทันไหมคะ
ยังทันคับๆ บางทีเก็บเนื้อหาเร็วก็ทำให้เราลืมได้เหมือนกัน55 ก็เวลาที่เหลือให้ทำโจทย์เเล้วกลับไปทบทวนที่ลืมเเล้วจดในจุดที่คิดว่าสำคัญๆไว้ดูช่วงใกล้ๆสอบ ถ้าเวลาไม่เหลือจริงๆก็อาจจะไม่ต้องทำข้อสอบปีเก่ามากๆเช่น 55 56 57ก็ได้
โอเคคับบ กำลังเครียดๆกลัวเก็บเนื้อหาช้า สบายใจขึ้นเยอะเลย
อ้อ ผมลืมไป เรื่องเวลาอ่านหนังสืออะคับ ในวันที่มีการบ้านโรงเรียนผมก็อ่านเเค่ 1-2 ชม.นะเผลอๆไม่อ่านด้วยถ้างานเยอะจัดๆ เเต่ที่เขียนในบทความ ผมหมายถึงวันที่ว่างทั้งวันอะ ใครจะอ่านได้ 6 ชั่วโมงทั้งๆที่มีการบ้านโรงเรียนกองโตๆได้ใช่มั้ยหล่ะ ^-^
พี่ทำโจทย์ในหนังสือก่อนหรือหลังเรียน upskill หรอคะ
กระทู้ของพี่ช่วยสร้างกำลังใจให้ผมมากๆเลยครับ ตอนนี้ผมอยู่หมอปี2แล้ว อยากซิ่วไปสอบใหม่อีกปีเลย
เอาผมไปด้วยคน
พี่มีหวานใจอะยางงง
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?