Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

How to GAT 297.5 ฉบับคนไม่เรียนพิเศษและขี้เกียจ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

 
กระทู้ยาวมากกก เลือกอ่านส่วนที่สนใจเอานะครับ เพราะตั้งใจเขียนมากจริงๆ ใช้พลังเยอะมากเลย5555555 ขอบคุณที่ให้ความสนใจครับ

แนะนำตัว     (ใครขี้เกียจก็ข้ามได้นะ)
                 สวัสดีครับ   เราชื่อนนท์นะ เป็นdek64 ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง5555555 ปัจจุบันเรียนอยู่คณะบัญชีจุฬา ปี1  ก็จะมาแนะนำแนวทาง วิธี และแหล่งข้อมูลต่างๆที่ใช้ในการเตรียมสอบวิชาสุดสำคัญ นั้นก็คืออ คณิตและอังกฤษนั้นเองง เกริ่นก่อนว่าไม่ได้เรียนเก่งขนาดนั้น ไม่เรียนพิเศษ เพราะขี้เกียจตื่นเช้าเดินทางไปเรียน วันหยุดเราควรได้นอนตื่นสาย! รวมถึงไม่อยากเสียเงิน เพราะมันก็หลายตังค์จริงๆ และการไม่เรียนพิเศษก็ทำให้เรามีอิสระมากๆ แต่ก็ต้องรับผิดชอบในตัวเองด้วยเหมือนกัน ส่วนขี้เกียจก็คือขี้เกียจจริงๆ555555 ถึงขนาดที่ว่าถ้าคำนวณแล้ววิชานี้ไม่ตกแน่ๆ ก็เทการบ้านทิ้งเลย ไม่ควรทำเป็นแบบอย่างน้า แล้วก็นอนพักผ่อนเก่งมากก ตอนแรกว่าจะเขียนกระทู้นี้ตั้งแต่คะแนนออกใหม่ๆแล้ว แต่ก็นั้นแหละขี้เกียจ ขอโทษด้วยน้า อาจจะลืมหลายๆข้อมูลไป เพราะเว้นช่วงห่างไปนานมากก แต่จะพยายามนึกให้ได้มากที่สุดค้าบ น่าจะยาวพอตัว โอเคมาเริ่มกันดีกว่า

การเตรียมสอบเข้าคณะบัญชีของจุฬา   (ใครที่ไม่อยากเข้าคณะนี้ไม่ต้องอ่านก็ได้นะ)
                    เราเข้ารอบ3 ซึ่งก็ใช้คะแนนGat 40% Pat1 60% ในการยื่น เห็นได้ว่ามีอยู่แค่สองวิชา เราก็เลยแอบได้เปรียบหน่อยๆ เราเลยทุ่มไปแค่สองวิชานี้เลยจริงๆ แล้วคณิตกับอังกฤษเป็นวิชาที่สำคัญมากกก ในการยื่นคะแนนสอบ น้ำหนักของคะแนนมันเยอะจริิงๆในคณะส่วนใหญ่ ทุ่มไปเถอะครับ เหมือนแอบเห็นปีนี้ว่ามธก็มีเกณฑ์gat pat1เหมือนกัน ฉะนั้นอ่านวนไปครับ อ่านจนเก็บไปฝัน(อันนี้ปสก.ส่วนตัว555555) ส่วนเรื่องคะแนน แนะนำให้ลองคำนวณแล้วเทียบกับปีเก่าๆดูครับ จะได้รู้ว่าเราควรทำgatและpatได้คะแนนสักเท่าไหร่ดี

การเตรียมสอบวิชาอังกฤษและคณิต
                  เป็นวิชาที่สำคัญมากก และก็เป็นวิชาที่ใช้เวลามากด้วยเช่นกัน ขอโทษที่เขียนกระทู้ช้าไปหน่อย แต่ใครที่เพิ่งมาอ่านก็ยังทันนะ! เป็นสองวิชาที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ ต้องใช้ความเคยชิน เพราะเนื้อหามันก็เดิมๆวนอยู่นั้นแหละ แต่จะไปพลิกแพลงกันที่โจทย์ การยิ่งทำโจทย์เยอะจะช่วยในเรื่องของเทคนิคและเข้าใจโจทย์ได้เยอะมาก

GAT (General Aptitude Test)
                     วิชาแกทหรือความถนัดทั่วไป แบ่งเป็นสองพาร์ทคือ แกทเชื่อมโยง และแกทอิ้ง พาร์ทละ 150 คะแนน รวมเป็น300คะแนน  จากภาพช่วงคะแนนของปี64 จะเห็นได้ว่าGat250+ จะมีคนที่ทำได้อยู่แค่ประมาณ5%เท่านั้น ส่วนคนที่ทำแกทอิ้งได้100+จะมีอยู่ประมาณ10% ต่างจากแกทไทยที่มีคนได้130+ถึง26% สรุปได้ว่าแกทอิ้งเป็นตัวตัดคะแนนเลยก็ว่าได้ แต่ถึงอย่างนั้นแกทไทยก็ยังสำคัญอยู่ดี จึงแนะนำให้ได้แกทไทยเต็ม150 ส่วนแกทอิ้ง100+ก็โอเคแล้วครับ เก่งมากๆแล้ว  ทำให้มีโอกาศที่ดีในการเลือกที่เรียนครับ


Gat เชื่อมโยง
                    เป็นการสอบอ่านบทความ 2บทความ และโยงความเชื่อมโยงของแต่ละข้อความที่เขาจะเลือกมา จะไม่ลงลึกแล้วกันครับ เป็นข้อสอบที่ถ้าเข้าไปแบบไม่เคยรู้เรื่องเกี่ยวกับข้อสอบนี้บอกได้เลยว่าตายแน่ๆ เป็นข้อสอบที่ต้องเข้าใจวิถีของคนออกข้อสอบจริงๆครับ การทำข้อสอบเก่าสำคัญมากกกกกกกกกก เพราะเราต้องรู้ว่าการตอบแบบไหนถึงจะได้คะแนน จุดที่ชอบหลอก แพทเทิร์นของข้อความ บทความ แพทเทิร์นของการตอบ และการเข้าใจสัญลักษณ์ต่างๆด้วยเช่นกัน

คำแนะนำในวันสอบจริง
                     ในวันสอบจริงแนะนำให้มีสติดีๆครับ สติสำคัญมากๆ นอน ให้เต็มที่ด้วย  การสอบวิชาGat จะแบ่งเป็นสองช่วง ช่วงละ1.30 ชั่วโมง โดยแจกพาร์ทเชื่อมโยงก่อนในช่วงแรก ขอให้จัดเวลาในการทำให้ดี พกนาฬิกาไปด้วยจะดีมาก ฝึกฝนคำตอบไปด้วยก็ดีครับ เพราะการทำข้อสอบก็ต้องฝนด้วย ซึ่งบางทีก็ใช้เวลาอยู่พอตัว ต้องเผื่อเวลาในการตรวจทานและฝนด้วยครับ มีจริงๆนะคนที่ฝนไม่ทัน 
                   ในหลายๆปีจะมีอยู่สักจุดที่จะเป็นจุดแบ่งแยกการตอบ ปี64ก็เช่นกัน ตอนนั่งทำเราต้องตัดสินใจว่าเราจะไปทางไหนดี ในเมื่อมีการแบ่งแยกก็จะมีทั้งคนตอบถูกและผิด  เป็นธรรมดาครับที่เราอาจตอบผิดเพราะพลาด หรือเหตุผลอย่างอื่น เพราะเราก็ไม่ได้คุ้นชินข้อสอบนี้จากการเรียนในรร.อยู่แล้ว ขอให้เราทำเต็มที่กับมันก็พอแล้ว ปล่อยมันไปครับ แก้อะไรไม่ได้แล้ว ยิ่งเก็บมาคิดจะยิ่งแย่

การนับคะแนน
                  เผื่อบางคนไม่ทราบในการนับคะแนนของแกทเชื่อมโยง จะอธิบายในการนับให้ครับ วิชาแกทเชื่อมโยงมีคะแนนรวม150 คะแนน จำนวนคำตอบในแต่ละข้อสอบก็จะแตกต่างกันไป ส่วนใหญ่จะประมาณ40คำตอบ การคำนวณคะแนน จะนำ150คะแนนมาหารด้วยจำนวนคำตอบทั้งหมด เช่นในข้อสอบมีทั้งหมด40คำตอบ จะได้ว่าแต่ละคำตอบมีอยู่ 150/40 คะแนน หรือ คำตอบละ 3.75 คะแนนนั้นเอง ทีนี้การนับคะแนนของวิชาแกทเชื่อมโยงยังมีอีก1จุด นั้นก็คือหากตอบผิดจะโดนหักคะแนน  กล่าวคือหากตอบผิด1จุด จะโดนหัก3คะแนนนั้นเองครับ ใครอยากทราบรายละเอียดและตัวอย่างมากกว่านี้ ศึกษาได้จากกระทู้นี้ได้เลยครับ 
วิธีการคิดคะแนน GAT เชื่อมโยง! ข้อสอบที่ตอบผิด หรือตอบเกิน "คะแนนติดลบ" ทันที! 
 
การเตรียมสอบ
                  ก่อนจะเริ่มทำสิ่งใดเราต้องทำความเข้าใจข้อสอบก่อนครับ เข้าใจการตอบ เข้าใจสัญลักษณ์ต่างๆ พูดถึงแกทเชื่อมโยง พลาดไม่ได้ที่จะต้องนึกถึงอ.ขลุ่ย  นี่เป็นวิดีโอที่อ.แกอธิบายไว้อย่างละเอียดเลยครับ สำหรับใครที่ต้องการความละเอียด
ติว GAT ไทย โดย อ.ขลุ่ย (ตอนที่ 1)
แต่ส่วนตัวดูคลิปนี้ครับ เพราะขี้เกียจมาก55555 แต่ต้องมีพื้นฐานอยู่แล้วด้วยนะะ
ติวสรุป GATไทย GATเชื่อมโยง ใน 5 นาทีจบ!!!

               หลายๆคนจะแนะนำให้ซื้อนส.ของอ.ขลุ่ย เรียกได้ว่าเป็นนส.ในตำนานก็ว่าได้  เพราะเป็นทั้งพื้นฐานและง่ายในการเริ่ม แต่ส่วนตัวไม่ได้ซื้อครับ55555555555 เพราะไม่อยากเสียเงิน รวมถึงมีคนแนะนำว่าให้ลองทำข้อสอบจริงเลย ก็เลยลุยข้อสอบจริงเลยครับ ไม่ได้แตะนส.ไหนเลยที่เกี่ยวกับแกทเชื่อมโยง แต่สำหรับคนที่อยากเริ่มก็คิดว่าเป็นตัวเริ่มที่ดีครับสำหรับนส.เล่มนี้ แต่ก็พูดเยอะไม่ได้เพราะไม่เคยซื้อ555555


                สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเตรียมสอบวิชาแกทเชื่อมโยง คือข้อสอบเก่าครับ ส่วนตัวคือทำครบทุกปี ทำไปเรื่อยๆครับ วันละชุดก็ได้ แล้วก็จับเวลาดู ยิ่งทำจะยิ่งเห็นแพทเทิร์นครับ และมันต้องมีพลาดบ้างแหละ เราก็รู้ต้องเรียนรู้จากจุดที่ผิดพลาด และจำไว้ ถึงจะพูดแบบนี้แต่ก็ไม่ได้ให้โหมไปแกทไทยอย่างเดียวเลย บางคนก็เริ่มแค่3สัปดาห์ก่อนสอบก็ได้150เต็มเหมือนกัน เอาที่เหมาะสมกับตัวเราและคิดว่าดีครับ แต่อย่าลืมทำข้อสอบเก่านะ ขอล่ะ ไหว้เลย
                นี่เป็นลิ้งก์ข้อสอบเก่า+เฉลยครับ เอาไปลองทำกันนะ ขอบคุณเพจGat Community สำหรับการแบ่งปันครับ 
ข้อสอบ GAT เชื่อมโยง ปี 52-64 พร้อมเฉลยครบทุกปี รวมทั้งหมด 42 บทความ

Gat Eng
                มาถึงวิชาที่สำคัญมากๆ และใครหลายคนก็น่าจะเกลียด เป็นตัวตัดคะแนนสำหรับGatเลยก็ว่าได้ โดยข้อสอบมีทั้งหมด4พาร์ทได้แก่
1. Conversation 15 ข้อ
2. Vocabulary 15 ข้อ
3. Reading 15 ข้อ
4. Structure and Writing 15 ข้อ
รวมทั้งหมด 60 ข้อ ข้อละ 2.5 คะแนน รวมเป็น 150 คะแนน

การฝึกสกิลภาษาอังกฤษส่วนตัวในชีวิตประจำวัน  (ไม่จำเป็นต้องอ่านก็ได้)
               จริงๆคือเขียนวิธีส่วนตัวไว้แล้ว แต่แอบไปเห็นกระทู้นึงที่มีแนวทางคล้ายกัน และน่าจะอ่านง่ายกว่าเยอะ ใครสนใจลองไปดูกระทู้นี้ได้ครับ
ทำตามง่ายมาก! รวม 6 เคล็ด(ไม่)ลับอัปสกิลภาษาอังกฤษ ‘ฉบับเด็กขี้เกียจ’ ทำเรื่องเล่นให้เป็นเรื่องเรียน
               แต่ถ้าให้แนะนำเพิ่มเติมจากกระทู้ จะเป็นเรื่องการดูหนังแบบซับไทยครับ สำหรับใครที่ชอบดูซับไทยแบบผม ปกติผมจะชอบอ่านซับแล้วคิดแปลเป็นภาษาอังกฤษไปด้วย และฟังว่าตัวละครในเรื่องเขาพูดตามที่เราคิดรึป่าว จุดสำคัญคือฟังเขาให้ออกก็พอแล้ว เพราะแอบเห็นว่าบางคนโฟกัสแค่อ่านซับ เขาเลยคิดว่าไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการดูซับไทย แต่สุดท้ายก็อยู่ที่เราชอบและเหมาะกับตัวเราที่สุดแหละครับ ไม่ได้บังคับว่าต้องทำน้าา

การเตรียมสอบ
              มาถึงจุดสำคัญซึ่งน่าจะยาวมากๆ จะพยายามเขียนให้ดีที่สุดครับ ส่วนตัวเป็นคนที่ไม่ได้เก่งขนาดนั้น ลองทำครั้งแรกได้คะแนนแค่85เองครับ555555 แต่คนเราสามารถพัฒนากันได้ คุณที่อ่านอยู่ก็เช่นกัน! เริ่มดีกว่า

  • Page Facebook และ ลิ้งก์ข้อสอบพร้อมเฉลย
GAT ENG Thailand

              เป็นเพจที่ดีมากๆครับ มีทั้งข้อสอบจำลอง เทคนิคต่างๆ ข้อสอบให้ลองทำเล่นๆเป็นประจำ และที่ดีที่สุดก็คือเฉลยสุดละเอียด
               
               นี่เป็นลิ้งก์ข้อสอบจำลอง และแบบฝึกหัดอีกมายมาย พร้อมเฉลย ขอบคุณเพจGat Eng Thailandสำหรับการแบ่งปันครับ
รวมไฟล์/โพสต์สำหรับเตรียมสอบ GAT

Gat Community

              เป็นอีกเพจที่ก็ดีเช่นกันครับ มีทั้งข้อสอบแกทไทยและแกทอิ้งพร้อมเฉลย ขอไม่ลงลิ้งก์ข้อสอบแล้วกันเนอะเพราะเขาแยกกัน ไม่งั้นมันจะเยอะเกินครับ ถ้าสนใจลองหาดูเองได้ครับ

MonkeyEveryday

                 ปกติข้อสอบแกทอิ้งปีเก่าๆจะหาข้อสอบ และเฉลยยากมากครับ (แอบบอกว่าเว็บผลไม้เขียวๆบางทีเขาก็เฉลยผิดนะ แล้วก็ไม่มีบอกเฉลยด้วยเลยไม่แนะนำเท่าไหร่ เราเริ่มทำครั้งแรกก็เว็บเขียวๆนั้นแหละ ได้85คะแนน ไม่รู้ว่าเขาเฉลยผิดหรือโง่เอง5555555)  โชคไม่ค่อยดีได้เห็นเว็บนี้ก่อนสอบแปปเดียว มีข้อสอบเก่าเยอะมากครับบ จำไม่ได้ว่าเฉลยเป็นไงละเอียดมากไหม ลองไปทำกันดูได้ สมัครฟรี

                                               
               ทำเสร็จแล้วก็จะได้หน้าตาประมาณนี้ครับ ไม่ได้จะอวดคะแนนอะไรนะ แค่อยากบอกว่าก็ไม่ได้เก่งขนาดนั้นจริงๆ ไอที่ได้147.5นั้นน่ะ ฟลุค5555555 อันนี้คือข้อสอบgat engสุดท้ายที่ได้ทำก่อนสอบจริง และก็เป็นครั้งเดียวในmonkeyด้วย ก็เลยพูดเยอะไม่ได้ว่าเป็นไงบ้าง แต่ถ้าสนใจก็ลองไปทำกันดูได้ครับ

Conversation
             เป็นพาร์ทที่ต้องใช้ความคุ้นชินกับภาษาอังกฤษมากๆครับ เป็นพาร์ทที่ให้ดีก็ควรเก็บคะแนนให้ได้เต็มเลย เพราะเป็นพาร์ทที่ง่ายที่สุดแล้ว การทำข้อสอบเก่าอาจจะช่วยได้นิดหน่อย แต่ความคุ้นชินกับภาษาจะช่วยได้มากจริงๆ แอบรู้สำนวนไว้นิดหน่อยก็ดี พวกI couldn't agree more แต่มันก็ไม่ได้มีเยอะเท่าพวกวิชาสามัญ ส่วนใหญ่จะให้ดูตามบริบทมากกว่าครับ

Vocabulary
            เป็นพาร์ทที่สำคัญมากๆๆๆ ส่วนตัวคิดว่าเผลอๆสำคัญที่สุด เป็นพาร์ทตัดคะแนนของข้อสอบแกทอิ้ง และสำหรับใครหลายๆคนเลย  เป็นพาร์ทที่ต้องใช้ทั้งความเก่ง และก็ดวง5555555 เพราะเราไม่รู้ว่ามันจะออกอะไรบ้าง แต่จะแนะนำครับว่าควรรับมือกับมันยังไงดี
             พาร์ทนี้ต้องอาศัยการดูบริบทประโยชน์ จะช่วยได้เยอะ แต่เท่านั้นก็ยังไม่พอ ต้องรู้ความหมายของคำในแต่ละช้อยส์อีก เอาจริงๆแค่นั้นก็ยังไม่พอครับ ต้องรู้การใช้คำพวกนั้นด้วย เพราะเขาก็ชอบเอามาหลอกเช่นกัน ยกตัวอย่างของปี  64  เช่น recognized ในความหมายทั่วๆไปที่หลายคนน่าจะรู้ก็คือ นึกได้ แต่บางทีก็สามารถใช้ในความหมายว่า  รู้จักหรือถูกเรียกว่า ได้เช่นกัน  ขออนุญาตนำข้อสอบจากGat Communityมาอธิบายครับ

           จากภาพจะเห็นได้ว่าในช้อยส์มีทั้ง recalled, considered ที่่ดูน่าจะเกี่ยวข้องกับ recognized ทีนี้บางคนอาจจะไม่ได้ดูบริบทของโจทย์ และนึกได้ว่าrecognized = นึกขึ้นได้ = recalled  แต่พอเรานำไปใช้ในประโยคมันจะผิดความหมาย ต่างจาก considered ที่เป็นคำตอบที่ถูกต้อง ดังนั้นการรู้บริบทของประโยคและคำจึงสำคัญด้วยไม่ต่างกัน
            การสังเกตศัพท์ ตัวเสริม และแตกศัพท์ก็สำคัญเหมือนกัน(พวกroot, prefix, suffix) เราไม่สามารถรู้ได้ทุกคำบนโลก วันสอบจริงอาจจะเจอคำที่ไม่รู้ หมดหนทางจริงๆวิธีนี้จะช่วยได้ดีในบางกรณีนะ สังเกตศัพท์ที่ว่าคือ ลองดูศัพท์แล้วสังเกตว่ามันมีตัวไหนที่มันคุ้นๆกับที่เรารู้จักรึป่าว เช่น  assumption บางคนเห็นคำนี้ก็อาจจะไม่รู้ แต่ส่วนตัวผมจำว่ามันมาจาก assume ซึ่งแปลว่า สมมติ ดังนั้น assumption ต้องเป็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับสมมติ สังเกตในคำจะมีคำว่าtion ก็แปลได้ว่าการสมมตินั้นเอง  และpresumption ก็มาจาก presume ได้เช่นกัน วิธีนี้อาจจะช่วยจำและเข้าใจศัพท์ได้มากขึ้น  หรืออย่างเช่น capability  ก็มาจาก capable, normal และ norm คำเหล่านี้มีความหมายที่คล้ายกัน แค่หน้าที่ของคำไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง ถ้าเจอบ่อยๆจะเข้าใจมากขึ้นครับ เรียนรู้ไว้้ก็ไม่เสียหายนะ

วิธีในการจำคำศัพท์
          มันไม่มีวิธีตายตัวจริงๆ แต่ละคนก็ชอบไม่เหมือนกันเนอะ จะแนะนำตามที่ใช้จริงแล้วกัน
1. ท่องจำ               
           วืธีสุดคลาสสิกก คงไม่ได้ต้องอธิบายอะไร555555
2. ทำข้อสอบ
         อันนี้ก็ตามตัวเลยครับ ทำข้อสอบบ่อยๆก็จะเจอคำศัพท์บ่อย ยิ่งเจอบ่อยจะยิ่งคุ้นเคย และรู้บริบทการใช้ด้วย
3. Root/Prefix/Suffix
         คิดว่าอันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเป็นวิธีที่เป็นประโยชน์  และหลายคนก็อาจจะมองข้ามไป    ส่วนวิธีก็ตามที่กล่าวไปข้างบนในเรื่องการสังเกตศัพท์เลยครับ  ถ้าให้ขยายความเพิ่มก็เช่น   Vengeful  บางคนอาจจะไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร  แต่ถ้าพูดถึงAvengerล่ะ  หลายๆคนน่าจะคุ้นๆกันแล้ว  แต่คิดว่าคงมีใครหลายคนที่ไม่รู้ความหมายคำนี้เหมือนกันแน่ๆ55555555   เมื่อก่อนผมก็ไม่รู้เหมือนกัน  คือคำว่า Vengeful เนี้ยเราลองแยกมันออกมาครับ  ก็จะได้เป็นVengeกับfulใช่ม้ะ  จะเห็นแล้วว่าคำว่า  Vengeful กับ Avenger   มีอะไรที่คล้ายกันอยู่   ซึ่งความหมายมันก็ไม่ต่างกันมากครับ ก็เป็นเรื่องการล้างแค้นนี่แหละ  แค่บริบทและหน้าที่การใช้มันต่างกัน  อย่างAvenger     ก็แปลว่าผู้ล้างแค้นนั้นเองง   (จะสังเกตได้จากการเพิ่มตัวr(Suffix)  ก็จะกลายร่างศัพท์ให้เป็นคน  เช่น  Teacher,    Hacker)    ถ้าให้เชื่อมเพิ่มก็จะมี   Revenge  คำที่หลายๆคนคงคุ้นๆกัน ก็จะเป็นประมาณนี้ครับ  ศึกษาไว้มีประโยชน์แน่นอน
4.  โยงเก่งง
         อันนี้สำหรับคนครีเอท  โยงเก่ง  มโนเก่ง ขอให้ได้โยง  ส่วนตัวก็ใช้บ้างครับ  เช่น  Culprit  แปลว่า   ผู้ร้าย   ส่วนตัวก็จะจำไว้ว่าเขาผิด  ตามคำอ่านเลย   ง่ายดี555555 .  Superb แปลว่า  ยอดเยี่ยม  ส่วนตัวจะจำว่ามาจากSuper  เพิ่มbเข้าไปก็คือยิ่งกว่าSuperไปเลย
  • นี่เป็นแหล่งคำศัพท์ที่เหมาะในการใช้สอบครับ สำคัญมากๆนะ
คำศัพท์ 4 หน้าต้นฉบับจากคุณครูสมศรี
            ศัพท์ 4 หน้าในตำนาน เป็นสิ่งที่จำเป็นโคตรๆสำหรับวิชาอังกฤษ ออกสอบแน่นอน ออกทุกปี ปี64ก็ออก เป็นคำศัพท์ที่ทั้งพื้นฐาน และก็แอดวานซ์ขึ้นมานิดนึงในระดับบทความ ซึ่งข้อสอบจะใช้บ่อยมาก และยังช่วยให้สกิลภาษาอังกฤษของเราเก่งขึ้นมากอีกด้วย เพราะมีการใช้คำเหล่านี้จริง เรียนรู้ไว้ไม่เสียดายแน่นอน
3000 most common words in English
            3000 คำที่เขาเครมว่า ถ้าเรารู็จะสามารถเข้าใจภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันได้ถึง 90% เหมาะกับคนเริ่มต้น เพราะเป็นศัพท์ที่พื้นฐานมากๆ 3000 อาจจะดูเยอะ แต่โดยปกติเราจะรู้จักอยุ่หลายคำอยู่แล้ว เช่น  about, red
ชุดศัพท์ GAT ENG จากข้อสอบจริงย้อนหลัง 12 ศักราช (ปี 2552-2563) ⁣
            เป็นชุดศัพท์จากข้อสอบจริง เพราะข้อสอบแกทก็ชอบนำศัพท์เก่ามาใช้บ่อยๆ สำหรับใครว่างๆก็ลองไปดูได้ครับ 
 
Reading
            เป็นพาร์ทที่บางคนก็อาจจะไม่ชอบพอกัน    วิธีการทำในพาร์ทของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน  ส่วนตัวที่คิดว่าสำคัญที่สุด คือ   อ่านให้เข้าใจ   แต่จริงๆก็มีเทคนิคแหละครับ  หลายๆที่เรียนพิเศษคงจะสอนกัน    ผมขอแนะนำวิธีของตัวเองที่พอนึกได้แล้วกัน

การเลือกคำตอบที่ถูกต้อง
          เป็นสิ่งที่สำคัญมากกก เพราะบางคนอาจจะอ่านบทความเข้าใจ  แต่พอต้องตอบดันผิดเฉย  แนะนำที่สุดคือทำข้อสอบและอ่านเฉลยว่าทำไมถึงตอบข้อนี้ครับ  การสอบGAT ENGจะมีสิ่งที่สำคัญมากๆๆๆๆๆอย่างหนึ่งคือการทำข้อสอบเก่า  พวกข้อสอบReadingเนี้ย  มันจะชอบมีแพทเทิร์นที่เขาให้ต้องการให้ตอบครับ  เช่น

        1.การตอบ Title, Main Idea, Summary
ต้องตอบครอบครุมบทความ  ไม่เฉพาะเกินไป  ไม่ฟันธงเกินไป  และไม่กว้างไป  เช่น  ไม่ใช้ All,  Everyone เป็นต้น  แต่ก็ไม่เสมอไปครับ ต้องดูบริบทอีกที

        จริงๆเทคนิคมีอีกมากมายเลยครับ แต่ลืมแล้วTT  ขออภัยจริงๆ   แต่แนะนำสุดคือ อ่านเฉลย!  สำคัญมากก เราจะเข้าใจแนวทางและแพทเทิร์นการตอบมากขึ้น จริงๆ   (โดยเฉพาะของเพจ Gat Eng Thailand  เฉลยดีมากจริงๆ  ช่วยในการตอบครั้งต่อๆไปได้ดีมาก)

การอ่านบทความให้เข้าใจ
        ไม่พูดเยอะแล้วกัน เพราะก็คงรู้ๆกันอยู่แล้ว  การคุ้นชินกับภาษาอังกฤษนั้นแหละ ส่วนคำศัพท์ก็พอกัน  แนะนำคือ4หน้าของครูสมศรี  เจอในบทความตลอดดด ช่วยได้จริง

Structure and Writing    
        หรืออีกชื่อก็คือ Grammar  พาร์ทที่หลายๆคนแสนเกลียด ผมก็ไม่ต่างกัน55555555  แต่เป็นพาร์ทที่ถ้าเข้าใจจะช่วยได้มากจริงๆครับ

หัวใจสำคัญของแกรมม่า
       ก็นะเรียนกันมาตั้งแต่ประถม อนุบาล เรื่องเดิมๆวนไปครับการศึกษาไทย  แต่มันก็ยังไม่เข้าใจและไม่ชอบอยู่ดีอะ  ทำไงดี  ส่วนตัวพอเข้าใจเรื่องพวกนี้มันช่วยได้มากจริงๆ  เพราะเมื่อก่อนก็มองข้ามไปเหมือนกัน เช่น

 1. หน้าที่ของคำต่างๆ
         อันนี้สำคัญจริงๆนะ เราต้องแยก V.แท้, Participle, ตัวเชื่อมไรพวกนี้ให้ออก  เพราะมันใช้อยู่ตลอดจริงๆ
2. 1 ประโยคมีV.แท้ได้แค่ 1 verb
       อันนี้ส่วนตัวไม่เคยรู้เหมือนกัน  โง่มาก555555  แต่สำคัญจริงๆนะหัวใจนี้  ข้อสอบออกประจำ  เช่น  ในประโยคมีคำว่า  see ที่เป็นV.แท้แล้ว เราจะใส่คำว่า  walk ที่เป็นV.แท้อีกไม่ด้ายย  ถ้าไม่มีตัวเชื่อม  
       ดังนั้นการจะใส่V.เพิ่ม  จะเป็นพวกV.ไม่แท้ เช่น Participle  เรื่องนี้นี่แหละ ออกบ่อยโคตรๆๆๆ
3. หน้าที่ของคำหน้าตัวเชื่อมและหลังตัวเชื่อมต้องเหมือนกัน
      ตัวเชื่อม เช่น and, but, or เนี้ย ก็ออกบ่อยพอกัน  เช่น  คำหน้าทำหน้าที่เป็น  V แท้  คำหลังก็ต้องเป็น V แท้ ยกตัวอย่างข้อสอบปีล่าสุด ขออนุญาตนำเฉลยของGat Communityมาให้เข้าใจครับ 

 มีมากกว่านี้ครับ แต่ลืมอีกแล้ว555555 ใครสนใจเพิ่มสามารถดูจากนี่ได้เลยย
15 แกรมม่าที่ข้อสอบออกบ่อย
รีวิว/เทคนิคที่ต้องรู้ก่อนสอบGAT จากประสบการณ์สอบ 10 รอบ!

รีวิวหนังสือ

GAT ENGLISH COMPLETE

       เล่มระดับ God จากเพจคู่ใจ Gat Eng Thailandนั้นเองง อวยหนักมากเล่มนี้ แม้จะไม่ได้ค่าโฆษณา เล่มนี้มีครบทุกพาร์ทเลย คำศัพท์ก็มีให้เยอะ และดีมากๆๆ ระดับเดียวกับ4หน้าของครูสมศรีเลย  สรุปแกรมม่าก็คือดีมากจริงง   และที่ดีที่สุดก็คือเฉลยสุดละเอียด เป็นประโยชน์มากๆ  ข้อสอบในเล่มนี้ก็ระดับเดียวๆกับข้อสอบจริงเลย ไม่ง่าย ไม่ยากไป ใครไม่รู้จะเริ่มยังไงดี เล่มนี้คือคำตอบครับ ผมก็เริ่มเล่มนี้แหละ จริงๆเล่มนี้เล่มเดียวก็เพียงพอนะ

แนวข้อสอบ GAT ภาษาอังกฤษ

          เล่มในตำนานน มองไปที่ไหนก็เห็นแต่หน้าเขา ส่วนตัวคิดว่าแอบยากกว่าข้อสอบจริงนิดนึงครับ ใครทำเล่มนี้แล้วได้คะแนนน้อยไม่ต้องเสียใจนะ เป็นเรื่องปกติ  ใครที่อยากหาข้อสอบทำเพิ่มก็ลองทำได้ครับ 

ตะลุยโจทย์ VOCAB 1,000 ข้อ

          เล่มนี้ก็ดีอยู่  มีคำศัพท์หลากหลาย ใครมีเวลาก็แนะนำให้ทำครับ แต่ไม่ต้องโฟกัสขนาดนั้น เพราะก็มีหลายคำที่ไม่ค่อยเจอ แนะนำให้หลังจากได้คำพวกครูสมศรีและจากGat Eng Complete มาแล้ว ค่อยทำเล่มนี้ครับ  จะได้ใช้คำที่จำมา และเจอที่คำแอบแอดวานซ์มากขึ้น

ตะลุยโจทย์ ERROR 500 ข้อ

         พลาดไม่ได้กับเล่มนี้  พาร์ทGrammarสุดเกลียดของเราๆ ดีเหมือนกันครับเล่มนี้  บางแนวเขาก็ชอบออกซ้ำๆ
ไว้ย้ำตัวเรา เฉลยอาจจะไม่ค่อยละเอียดมาก แต่ก็ดีสำหรับคนอยากฝึกเยอะๆ

ตะลุยโจทย์ Grammar 1,500 ข้อ

           ส่วนตัวทำเล่มนี้เล่มแรกเลยย  ทำไปเรื่อยๆเริ่มขี้เกียจ เพราะข้อเยอะมาก สุดท้ายก็เลิกทำเพราะขก5555555
ถ้าใครอยากแม่นๆก็ทำได้ (มั้ง) เพราะในแต่ละหัวข้อก็มีโจทย์เยอะมากก

แอบแนะนำเพิ่มเติม ใครจะซื้อนส.พวกนี้ก็ซื้อจากพวกshopeeได้นะ ส่วนตัวซื้อจากshopeeและได้โค้ดลดมาเยอะเลย 

เริ่มอ่านตอนไหน
        ส่วนตัวเริ่มอ่านตั้งแต่ช่วงปิดเทอมขึ้นม.6ครับ  แอบมีพักยาวช่วงจะขึ้นปีใหม่หน่อยนึง555555 ไม่แนะนำให้ห่างยาว ทำนิดๆหน่อยๆก็ดี เริ่มเร็วๆจะยิ่งไม่เครียดครับ แต่เร็วตั้งแต่ม.1นี่ก็คงจะไม่ไหว 
หมดไฟ ขี้เกียจมากก ทำไงดี
         ตามที่กล่าวไว้ว่าส่วนตัวเป็นคนขี้เกียจ  มันก็จะมีที่หลายๆครั้ง ขี้เกียจ อยากนอนเหมือนกัน แนะนำให้ทำเท่าที่ไหวครับ อย่าหักโหมไป พักผ่อนบ้าง  ขอแค่ทำอย่างสม่ำเสมอ ส่วนตัวจะอ่านวันละ2-3ชม. หรือทำข้อสอบวันละชุดก็ดี อย่างน้อยก็ได้ทำอะไร จะได้นอนแล้วไม่รู้สึกผิด  คิดว่าสิ่งที่ทำให้มีไฟคือ เราเห็นว่าตัวเองเก่งขึ้นครับ ทำไปเรื่อยๆเราจะเริ่มเห็นความแตกต่างของตัวเองจากจุดเริ่มต้น แสดงว่าที่ผ่านมาเราทำไม่ได้ทำอย่างเสียเปล่านะ!, อยากลองเอาจริงสักครั้ง  อาจจะตลกดี   หลายๆคนคงเคยแบบเห้ย เทอมนี้กูจะเอาจริงละ เทอมที่แล้วแค่เล่นๆเฉยๆ แต่พอเวลาผ่านไปก็ช่างมันซะได้ ผมก็ไม่ต่างกัน5555555 งั้นเรามาลองเอาจริงในสนามนี้ดีกว่าเถอะ สักครั้งเถอะนะ แล้วค่อยมาดูกันว่าผลเป็นไง,  ติดตามติวเตอร์ที่มีทัศนคติที่เราชอบ แต่ละคนก็มีการให้ไฟที่แตกต่างกัน บางคนเราอาจจะมองว่าเขาบั่นทอนเรา บางคนเราอาจเห็นแล้วก็อยากลุกจากเตียง ก็เลือกที่เหมาะกับเรา และเราสบายใจดีที่สุดด

จบแล้วววว  
        เย้ ขอบคุณสำหรับทุกคนที่ให้ความสนใจครับ สำหรับข้อมูลไหนที่ผิดพลาดและใครไม่ชอบก็ขออภัยด้วย สามารถโต้แย้งได้ พยายามแนะนำเท่าที่นึกได้ และก็ไม่อยากให้ยาวเกินไป   หวังว่าจะเป็นประโยชน์แค่นิดนึงก็ยังดี 
       สุดท้ายนี้ขอเป็นกำลังใจให้dek65,66,... ที่บังเอิญเข้ามาอ่านทุกคนครับ เข้าใจว่ามันท้อและเหนื่อย ขอให้ใครตั้งใจสิ่งใดก็สมหวัง  หรือถ้ามันผิดหวังจริงๆก็ขอให้มันผิดหวังน้อยที่สุด   ได้เรียนสิ่งที่ชอบจริงๆ   ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีครับบ

ใครมีข้อสงสัย อยากถามอะไรเพิ่มเติมสามารถคอมเม้น หรือทักมาได้น้า
IG : @morhmae
 

แสดงความคิดเห็น

>

15 ความคิดเห็น

Varanon 27 พ.ย. 64 เวลา 16:24 น. 2-1

ถ้าสำหรับGATอย่่างเดียว สบายๆครับ ไม่ต้องกังวล แต่ก็อย่าชะล่าใจไปนะ เนื้อหาจะไม่เยอะ จะเป็นเรื่องการคุ้นเคยกับข้อสอบมากกว่าครับ

0
AvocadoQuizzes 28 พ.ย. 64 เวลา 07:46 น. 2-2

ขออนุญาตแนะนำ ให้ดู Youtube ช่อง Avocado Quizzes แอนมินเป็นติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษเด็กๆมาหลายรุ่น ตั้งใจรวบรวมคำศัพท์ที่เจอบ่อยใน GAT และ เทคนิคทำซ้ำด้วยเวลาที่จำกัด เหมาะมากสำหรับคนขี้เกียจ คลิปนึงมีความยาวไม่เกิน10นาทีค่ะ ทำซ้ำๆ จำศัพท์ ได้แน่นอน

3เดือนก็ทันค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ

0
Varanon 27 พ.ย. 64 เวลา 16:37 น. 3

เพิ่งมาได้นึกได้ว่าลืมผู้กรุณาธิคุณไปคนนึงนั้นก็คือ พี่เกม GAT ENG COOL COOL สำหรับใครที่ชอบการดูคลิป และอาจจะกินข้าวไปด้วย คลิปพี่เกมก็ดีเหมือนกัน มีอธิบายแกรมม่า เทคนิกต่างๆ รวมถึงแตกศัพท์ให้อีกด้วย ลองดูกันได้นะhttps://image.dek-d.com/27/0912/7225/132515872

0
AvocadoQuizzes 28 พ.ย. 64 เวลา 07:44 น. 5

ขออนุญาตแนะนำ ให้ดู Youtube ช่อง Avocado Quizzes แอนมินเป็นติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษเด็กๆมาหลายรุ่น ตั้งใจรวบรวมคำศัพท์ที่เจอบ่อยใน GAT และ เทคนิคทำซ้ำด้วยเวลาที่จำกัด เหมาะมากสำหรับคนขี้เกียจ คลิปนึงมีความยาวไม่เกิน10นาทีค่ะ ทำซ้ำๆ จำศัพท์ ได้แน่นอน


3เดือนก็ทันค่ะ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น

P'Zircon 2 ธ.ค. 64 เวลา 12:23 น. 8

สุดยอดค่ะ อีก 2.5 คะแนน แสดงว่าน่าจะพลาดไป 1 ข้อ ไม่งั้นคงได้เต็มแล้ว

สมัยพี่สอบเข้าก็ทุ่มเทกับแค่เลขกับอังกฤษเหมือนกันค่ะ นี่ก็จบบัญชี ฬมาได้น่าจะ 4 ปีแล้ว

0
Varanon 6 ธ.ค. 64 เวลา 19:59 น. 9-1

เพิ่งนึกได้ว่าแนะนำแค่แต่ละพาร์ทไม่ได้แนะนำภาพรวม ขอเพิ่มเติมในนี้แทนแล้วกันครับ

แกทไทย ตามที่แนะนำในกระทู้เลยครับ ยังไงก็ทัน แต่ก็อย่าชะล่าใจไปนะ คิดว่าก่อนสอบเดือนนึงก็ยังโอเคอยู่ แต่ยังไงยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งดี

แกทอิ้ง

ถ้ามีพื้นฐานอยู่แล้วแนะนำให้เริ่มจาก

1.ลองทำข้อสอบแกทจริงสักชุดแล้วดูคะแนนแต่ละพาร์ทว่าเป็นยังไง คะแนนโอเครึป่าว ต้องปรับตรงไหนบ้าง

2.ถ้าคะแนนไม่โอเค คิดว่าส่วนที่จะเพิ่มคะแนนได้จริงๆคือศัพท์เลย ส่วนตัวจากที่เคยทำครั้งแรกได้85คะแนน ก็อ่านศัพท์จากGat Eng Completeเสร็จแล้วก็ลองทำข้อสอบใหม่ได้120คะแนนเลยครับ ศัพท์สำคัญมากๆ ต้องทำสม่ำเสมอ ส่วนตัวคิดว่าหลังได้ศัพท์4หน้า หรือศัพท์ของGat Eng Complete แล้วก็ลองทำข้อสอบใหม่ดูครับว่าคะแนนเป็นยังไง หลังจากนั้นก็ค่อยๆเสริมพาร์ทที่ยังไม่โอเค

3.เสริมพาร์ทต่างๆ ก็ตามที่แนะนำในกระทู้เลยครับ ถ้าเพิ่มเติมก็จะมี

1. Conversation ถ้าคิดว่ายังไม่โอเค ก็อาจจะเสริมพวกidiom แต่ถ้าคิดว่าidiomโอเคแล้วก็คงต้องอ่านเฉลยดูครับว่าเราพลาดตรงไหนไป

2. Vocabulary สำคัญคือต้องท่องศัพท์สม่ำเสมอ ไม่ต้องหักโหมก็ได้ ขอแค่สม่ำเสมอก็พอ (แต่ถ้าไม่ทันจริงๆก็คงไปห้ามไม่ได้) ถ้าได้ศัพท์4หน้า กับของGat Eng Completeเสร็จแล้วให้ทำนสVOCAB 1000ข้อ(คิดว่าถ้าได้ตามนี้แล้วคะแนนน่าจะโอเคมากๆแล้วครับ) แต่ถ้าเวลาเหลือก็ทำแบบฝึกหัดต่างๆตามเพจ หรือตามที่ให้ในกระทู้ และก็ท่องศัพท์อันอื่นที่ให้ไว้ในกระทู้เพิ่มเติมก็ได้ครับ

3. Reading อ่านและทำความเข้าใจเฉลยสำคํญมากๆ

4. Structure and Writing Gat Eng Complete, ERROR 500 ข้อ ช่วยได้มาก อ่านสรุปแกรมม่าของGAT ENG COMPLETEเสร็จแล้วทำข้อสอบ แล้วอ่านและทำความเข้าใจเฉลยครับ นี่คือสิ่งที่สำคัญสุดในการฝึกแกรมม่าเลย ส่วนWriting อ่านเฉลยเหมือนกันครับ


สรุปสั้นๆ คุ้นชินกับภาษา ท่องศัพท์สม่ำเสมอ ทำข้อสอบเยอะๆ และอ่านกับทำความเข้าใจเฉลยครับ หัวใจสำคัญของแกทอิ้งมีเท่านี้


ส่วนถ้าไม่ค่อยมีพื้นฐานและคะแนนไม่โอเคมากๆ คิดว่าที่คงขาดไปคือความคุ้นชินกับภาษาอังกฤษครับ ส่วนนี้มันแล้วแต่ละคนเลย แต่ละคนก็ถนัดไม่เหมือนกัน ถ้าจะท่องศัพท์ ก็แนะนำให้ควรเริ่มจาก3000 essential wordที่ให้ไว้ในกระทู้ จากนั้นก็ตามที่อธิบายไว้เลยครับ


เป็นกำลังให้ทุกคนค้าบ สู้ๆนะ

0
Varanon 6 ธ.ค. 64 เวลา 20:06 น. 12

ถ้าใครอยากได้ข้อสอบเก่าๆและเฉลยละเอียดจากเช่น gat communityเพิ่มเติม ก็ดูจากกระทู้นี้ก็ได้ครับ https://www.dek-d.com/board/tcas/4017097/ รวบรวมไว้เยอะมาก หรือจะทำจากmonkeyeverydayก็ได้นะ เยอะเหมือนกัน

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น

bigeatergirl 23 ก.พ. 65 เวลา 20:17 น. 15

ขอบคุณมากๆเลยค่า แนะนำได้ดีมากเลยค่ะ กำลังเตรียมตัวพอดีเลย อยากเข้าบัญชีจุฬาฯมากๆค่ะ

0