Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

วิบากชีวิตเด็กแอนิเมชัน ปี 2564 สายงานในฝันของเด็กชอบการ์ตูน

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

สวัสดีครับทุกคน

ขอแนะนำตัวสักนิดครับ ผมเป็นนักศึกษาคณะแอนิเมชันครับ ว่างหลังจากรอเกรด ก็เลยอยากจะมาเล่าประสบการณ์ของตัวเองครับ เอาไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับเด็ก ๆ หนู ๆ ที่ใฝ่อยากเป็นแอนิเมเตอร์ครับ
ภาษาที่ใช้จะเป็นกันเองสักหน่อย อาจหยาบเล็กน้อยครับ

ขอเริ่มเล่าเลยละกันครับ

 *ตอน เด็กกระสันใคร่ให้การ์ตูนตัวเองขยับได้*

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เด็กสายวิทย์คณิตคนหนึ่งมีงานอดิเรกเป็นนักวาดการ์ตูนที่เว็บอ่านการ์ตูน
มีเพื่อนเป็นรุ่นพี่ทั้ง 7

แนะนำตัวละครที่มีบทบาทแปปครับ

พี่เงิน <- ปัจจุบันเข้าดิจิทัลอาร์ตครับ

ไอดอล <- ตามมาทีหลัง จะมีบทบาทต่อไปในอนาคต

จุดที่อยากเรียนแอนิเมชัน เกิดมาจากวาดการ์ตูนในเว็บอ่านการ์ตูนเจ้าหนึ่ง
(ตอนนี้ทิ้งร้างไว้ครับ เทรนด์คนอ่านปัจจุบันชอบอ่านอะไรลามก ๆ ครับ)

แล้วอยากให้การ์ตูนตัวเองขยับได้ครับ

ว่ากันว่านักรบที่ดีต้องศึกษากลยุทธ์ข้าศึกล่วงหน้า

นี่ก็เหมือนกันครับคุยกับพี่ ๆ กัน ก็เมาท์แตกกันว่า

พี่เงิน “พี่อยากเข้าดิจิอาร์ตอะ ว่าจะไปเข้าที่ ม.รัฐคล้าย เอ้ มันมีแอนิชันด้วยนะ”

นี่ก็ตอบ“ใช่ ๆ นี่ว่าจะเข้า 2 ที่ ม.รัฐคล้าย เอ้ กับ ม.ดอกบัว อะ แต่ว่าจะเล็งชิงทุน เพชรของ ม.รัฐคล้าย เอ้ อะ”

ผ่านไป 1  ปี พี่เงิน เข้าเรียนดิจิอาร์ตได้ตามที่ต้องการ ไอดอลแป้ก ม.รัฐคล้าย  เอ้ เข้าเรียน แอนิเมชัน  ม.ดอกบัว แทน

หลังจากพี่เงินเรียนไปเรื่อย  ๆ   ผมก็เก็บผลงานไปเรื่อย  ๆ  ครับเก็งทุนเพชรฯ เต็มที่ คิดว่าต้องได้แน่  ๆ  พี่เงินก็มาเล่าชีวิตหลังจากเรียนไปครับ

หนีไปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปป

กี้ดด ผมนี่แบบ นะ น้า นี๊

พี่เงินก็เล่าว่า เจอเรื่องประเภทการล่วงละเมิด และเรื่องยิบย่อยหลายอย่าง แนะให้ไปชิงทุน 100% ที่ ม.ดอกบัวแทน
 โอโหความ... นะ

แต่ตัวเองก็ค่อนข้างมีใจให้ ม.คล้าย เอ้ มากกว่าครับ เพราะมีความเชื่อว่า  ม.รัฐ  ดูน่าเชื่อกว่า  ม.เอกชน

ก็เผื่อใจไว้แล้วว่า การแข่งขันชิงทุนค่อนข้างสูง ก็เลยทำผลงานตัวเองออกมาให้ดีที่สุดครับ

*ตอน ยื่นเข้าสมัคร ม. ในฝัน*

ก่อนอื่น บอกก่อนว่า ตัวเองมีเพื่อนแล้วก็รุ่นพี่ที่ได้เข้าเรียนดิจิอาร์ตและแอนิเมชันในเขตภาคกลางครับ มี ม.ดอกบัว  ม.คล้าย เอ้  ม.พิฆเนศเพชรบุรี และแพทย์แผนจีนที่  ม. Nest สิต  ครับ เลยได้ความเป็นอยู่มาบ้างครับ

มา ๆ เข้าเรื่อง

เป้าหมายของตัวเองคือ ส่ง ม.คล้าย เอ้  และ ม.เอ้ ครับครับ วางแผนว่าถ้าไม่ติดรอบทุนเพชรก็เอารอบที่ 1 portfolio ครับ

พร้อมลงสอบ gatpat เพื่อวางแผนกันเหนียวครับ

ตอนยื่นส่งคิดอย่างดีว่ามีโอกาสติด ถึงหลุดก็ติดรอบ port แหละวะ

แหมก็แบบว่า อุตส่าห์ไปแข่งศิลปหัตถกรรมระดับประเทศได้ แถมมีผลงานวาดฉากละครคุณธรรมต่าง ๆ แถมมีงาน render 3d อีกป้าด ไม่พลิกโผไปหรอก

นี่ก็เลยส่งแบบรีบ ๆ ด้วย เพราะเรื่องการทำเรื่องสมัครในเว็บและการส่งเอกสารครับ ม.คล้าย เอ้ นี่ส่งทันครับ เป็นไปตามแผน

แต่ม.เอ้ ต้องทำใบรับรองแพทย์ก่อนครับ

คือ ม.เอ้  แอนิมชัน จะไปอยู่ในคณะภาพยนตร์ครับ จำชื่อที่ถูกไม่ชัด จะมีวิชาที่เป็นแอนิเมชันไว้อยู่ครับ

ทีนี้ก็ทำใบรับรองแพทย์เสร็จ ก็ไปติดต่อสอบถามทางม.ครับ เพราะเอกสารที่ต้องส่งระบุว่า ส่งใบรับรองแพทย์ คือจะให้ส่งตัวจริงหรือสำเนาละค้าบบบบ

ก็กดเบอร์ ม. ไป ก็เป็นโอเปอเรเตอร์ต่าง ๆ ก็กด ๆ ไป รอเพลง พอมีคนรับ

“ไม่ทราบว่าต้องการติดต่อคณะไหนค่ะ” ก็พูดชื่อคณะไป นางก็บอก รอสักครู่นะคะ

มีคนรับต่อ ผมก็ถามใช่คณะ… ใช่ไหมครับ

“นี่คณะศิลปะศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษค่ะ”

.

.

.

สรุปไม่ได้อะไรเลยครับ ก็เลยคิดว่าส่งสำเนาไปนั่นแหละ ม. เขาจะเอาตัวจริงไปทำไม กลับบ้านก็เตรียมจะสมัครพร้อมส่งเพราะวันนี้ส่งวันสุดท้าย

วันสุดท้ายที่รับสมัคร คือ ก่อนวันส่งเอกสารวันสุดท้าย 1 วัน

แสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส

แป้กเลยครับ แพ้ตั้งแต่ตอนสมัคร

ต่อ ๆ

คือ รอบทุนเพชร  ม.คล้าย  เอ้  นี่ จะมี  2   รอบ  รอบแรก ส่งแค่ port ไป  ถ้างานดูมีอนาคต ก็จะผ่านเข้ารอบต่อไป
รอบสอง เหมือน  Miss universe  เป็นรอบสัมภาษณ์วัดปฏิภาณไหวพริบ  ถ้าสัมถูกใจ จารย์ประจำคณะ ก็มงลงไปเลยยยย

ขอให้กำลังใจสำหรับน้องไว้ก่อนว่า  เวลาจะยื่นสมัคร  ยื่นไปก่อน เพราะยื่นก็มีโอกาสได้  แต่ถ้าไม่ยื่น
เพราะคิดว่าตัวเองไม่เก่งพอ ก็ไม่มีโอกาสได้เลยนะ

และตอนส่ง ไม่ต้องคิดไกล ว่า ถ้าได้แล้วจะทำไงต่อ  จะบอกให้ว่า

“ติดให้ได้ก่อน แล้วค่อยคิด”  (ไม่แรงนะครับ สำหรับปลุกใจ)  

ตอนส่งก็ส่ง port ไปครับ  พร้อมใบshort memo เล็กน้อย  (อาชีพเสริมของผมคือ ทำ portfolio  ให้ คนอื่น ก็ได้ดิบได้ดีกันไป ก็หวังว่าผลบุญนั้นจะส่งมากับตัวเองบ้าง)

อันนี้ของผมครับ

เอาไปใส่ได้นะครับ แต่งานไม่ถึงเกณฑ์ของนะครับ โดนปัดตก แต่ถ้ายื่นเข้าม. ที่ผมเรียน เสร็จแน่  ๆ  อ. คณะผมเป็นอะไรไม่รู้ตาดีชิหัย(เดี๋ยวเล่าวีรกรรมอีกทีครับ)

เห้ย ติดรอบสัมภาษณ์ว่ะ กี้ดดดดด  ตอนนั้นดีใจใหญ่ ก็เรียนต่อไปรอวันสัมภาษณ์ครับ

วันสัมภาษณ์ ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยครับ(ข้อเสียห้ามเลียนแบบ) เตรียมไฟล์ภาพต่าง ๆ 
แต่งตัวอยู่บ้าน
ใช่ครับ 555

ผมอยู่คิวรองท้ายครับ พอถึงคิวก็สัมภาษณ์ครับ ก็ขายตัวเองไป พอเสร็จ อาจารย์ก็แนะว่า 
“งานคุณ น่าจะไปนิเทศศิลป์นะ”  ว้าวไปไม่เป็นเลยครับ

หลังจากสัมภาษณ์เสร็จ เพื่อนที่อยู่คิวสุดท้ายก็มาถามครับว่าสัมฯ เสร็จแล้วหรือยัง ก็คุยกันไปพร้อมต่างอวยพรกันและกันครับ

วันประกาศผลทุน  เพื่อนคิวสุดท้ายที่คุยกันได้ไปครับ  ยินดีด้วย

ชวดไปหนึ่งเหลืออีก  2  ครับ  คือ ยื่นรอบ 1 tcas  และ ยื่นทุน 100% ม.ดอกบัว ไปครับ

นี่คิดแล้วครับ ได้รอบ  1  แน่  ๆ  ไม่น่าพลาด

ยื่นรอบ port ไป  เห้ยติดรอบสัมภาษณ์อีกแล้ววววว  ใจมันมาแล้วเริ่มฟู
พอถึงวันสัมภาษณ์ ก็เตรียมตัวแต่งชุดนักเรียนอย่างดี  รอหน้าคอมอย่างใจจดใจจ่อ  พอถึงคิวก็สัมภาษณ์ พร้อมเผยงานเพิ่มเติม

แต่รอบนี้ขายตัวเองไวมากครับ ไวจนรู้สึกว่าไวไปหรือเปล่า  หวังไว้ว่าติดแน่ๆ 

ประกาศผล tcas รอบ 1 ตอนเช้าครับ เรียนไปครับเช็คดูหาชื่อ

“แป้ก”ครับผม

หูยรอบนี้ กังวลกว่าเดิมมากครับ รอบ port ไม่ติดได้ไงเนี้ยยยยย
แต่ตอนบ่าย ก็มีประกาศผลคนติดสัมภาษณ์ ทุน100% ม.ดอกบัว มาเหมือนรู้เวลา

ป้าด ติดสัมภาษณ์อีกแล้วครับท่านครับ แต่รอบสัมภาษณ์ของ ม. ดอกบัว ต้องไปสัมภาษณ์ที่ม. ครับ

สาระ: การสัมภาษณ์ที่ ม.คล้าย  เอ้  หลังจากติดรอบสัมจะต้องไปที่ม.  เพื่อไปสัมภาษณ์ หลังจากสัมภาษณ์เสร็จ ก็จะมีสอบวาดภาพดรออิ้งครับ 

ปีพี่เงิน ได้โจทย์เป็นที่หนีบกระดาษครับ  แต่ตอนปีผมโควิดมา  เลยสัมภาษณ์ที่ zoom  แทนครับ

มารอบนี้ ชิงทุน 100% ม. ดอกบัว เตรียมตัวอย่างดี สวมลายนาตาชา สืบความภายในม. ผ่านรุ่นพี่ครับ
คือ ไอดอล ครับ

(ที่เรียกพี่คนนี้ว่า ไอดอล เพราะพี่เขามีการวาดการ์ตูนแนวเดียวกับผมครับ) ซึ่งเรียน ม. ดอกบัวพอดีครับ
เลยไปสืบสาย

แถมพี่เขาก็เล่าชีวิตหลังจากเข้าเรียนด้วยครับ

โฮ่ ๆ ๆ ๆ ๆ รอบนี้ ไอ จะ ขยี้ ยู ให้ แหลกคึ

เนื่องจากใกล้วันสัมภาษณ์ พี่เขาทำชิ้นงานออกแบบชิ้นงานอะคริลิกพอดี ธีม ฤดูร้อน เลยอยากจะทำงานชิ้นนี้ยื่นส่งด้วย 

ตอนใกล้วันสัมภาษณ์ ขออาจารย์โดดวิชาอังกฤษไปเลยสิครับ!!!

ไม่ได้ขิงนะครับ แต่อังกฤษโรงเรียนผมมันง่าย ก็เพราะสายวิทย์คณิตด้วยแหละ ก็เลยโดดครับ แต่แอบเสียใจเหมือนกันครับ ONET ได้แค่  67.** เองครับ (ดันง่วงตอนทำข้อสอบ reading !!!)

พอไปสัมภาษณ์ นึกถึงเด็กแนว  ๆ  เด็กเบียวที่คิดว่าเป็นตัวเองเป็นพระเอกอนิเมะครับ

ไปกรุงเทพคนเดียว เพื่อเข้าม. สัมภาษณ์ครับ ลงรถที่บางหว้าแล้วก็ต่อ BTS ไปบางบัวโลด 
เออBTS จอดที่หน้าม. จริงแฮะ 

แล้วก็สัมภาษณ์ครับ

การสัมภาษณ์นี้ แค่ส่งพอร์ต แล้วก็ขายตัวเองกันต่อได้เลยครับ

การสัมภาษณ์ครั้งนี้รู้สึกว่า ชิลเป็นพิเศษครับดูไหลลื่นไปหมดครับ

ตอนปลาย ๆ เทอมก็ทำงานทาสีที่โรงเรียนกับเพื่อน ๆ ครับ

ทำ ๆ ไป ผลประกาศทุนก็ออกมา

.

.

.

ได้ทุนแล้วครับบบบบบบบบบบบบบบ กี้ด ๆๆๆๆๆๆๆ

โอ้ย โล่งแล้วครับ ที่เหลือก็แค่ไปรายงานตัวครับ และเก็บเกรดปลายเทอมให้เสร็จสิ้นครับ

เล่ามาค่อนข้างยาวแล้ว ใครที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้ก็ขอขอบคุณมาก ๆ ครับ

เดี๋ยวต่อไป จะเล่าการสัมภาษณ์ที่ ม. ดอกบัว แบบละเอียดกันครับ

เป็นมือใหม่ใน เว็บเด็กดีครับ  ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ การเล่าเรื่องอาจจะไม่ชวนอ่านสักเท่าไร แต่จะพยายามให้คนอ่านมีอารมณ์ร่วมให้มากที่สุดครับ
ปล. มีลงกระทู้ไว้ที่อื่นบ้าง ขอให้ทราบไว้ว่า  เป็นของผมเองครับ เพราะปีผม หาเกี่ยวกับม. เรียนแอนิเมชัน มีแต่ชื่อ แต่ไม่มีความเป็นอยู่เลย 

แสดงความคิดเห็น

>