Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เบื้องหลังของอาจารย์พยาบาล

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

     สวัสดีค่ะ พวกเรา Bonnielight.s เพจที่ให้ความรู้และแชร์สิ่งที่มีประโยชน์ให้เพื่อนๆที่กำลังตามความฝันในการเรียนต่อสายวิทย์สุขภาพ ให้พวกเขารู้สึกไม่โดดเดี่ยว และมีเพื่อนที่จะพร้อมเดินไปด้วยกัน รวมถึงสร้างคอมมูนิตี้ให้ทุกคนได้แลกเปลี่ยนข่าวสารในการเรียนต่อให้คนที่สนใจ ให้พวกเขาเห็นความฝันชัดเจนขึ้นและเดินไปยังความฝันพร้อมกันกับพวกเรา

     สำหรับหัวข้อวันนี้พบกับการสัมภาษณ์อาจารย์ดอกเตอร์ณัฐนันท์ วรสุทธิ์ ปัจจุบันเป็นอาจารย์พยาบาล ตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ ด้านการสอนทำงานอยู่ที่วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จังหวัดนนทบุรี สาขาการพยาบาลและอนามัยชุมชน 

Interviewer: แล้วก่อนที่อาจารย์จะมารับหน้าที่เป็นอาจารย์จนถึงทุกวันนี้ ไม่ทราบว่าอาจารย์ได้ผ่านการศึกษาที่ไหนมาบ้างคะ

ดอกเตอร์ณัฐนันท์: ก่อนที่อาจารย์จะมาเป็นอาจารย์นะคะ เริ่มต้นเลยเนี่ยตั้งแต่ประถมใช่ไหมคะ ระดับปฐมศึกษาอาจารย์จบจากโรงเรียนจังหวัดชลบุรีแล้วก็มัธยมอาจจะเป็นต่อที่ระยองจังหวัดระยอง เนื่องจากว่าคุณแม่ของอาจารย์ย้ายไปอยู่ที่ระยองนะคะ แล้วหลังจากนั้นพอจะจบจะเข้าสู่อาชีพได้มีการประกาศว่ามีทุนเป็นนักศึกษาทุนที่เรียนพยาบาลนะคะ ซึ่งตอนนั้นน่ะเราเป็นนักศึกษาที่ว่ากำลังจะเลือกเรียนสอบเข้ามหาวิทยาลัย ก็ได้เกิดการสงสัยว่าเราจะเริ่มเรียนอาชีพใดดี ครั้งแรกเลยเนี่ยชอบอาชีพครูนะคะ แล้วทีนี้ก็ไปสอบหลายที่สอบทุกที่เลยนะคะ อาชีพพยาบาลก็เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่ครอบครัวสนับสนุนและตัวคุณแม่เองก็อยากให้เรียนพยาบาล แต่เราก็คิดว่าถ้าสอบอะไรได้ก็ดีหมดเพราะถือว่าสามารถเป็นอาชีพได้นะคะอาจารย์ก็ไปสอบตอนนั้นเนี่ยสมัยรุ่นของอาจารย์จะมีสอบ Entrance คือการสอบ Entrance เนี่ยจะเป็นการสอบทั่วประเทศพร้อมกันนะคะ ทีนี้อาจารย์เป็นสอบเนี่ย สอบ Entrance นี้อาจารย์ติดด้วยนะคะติดสาขาที่อาจารย์ชอบก็คือวิทยาศาสตร์แล้วก็คิดว่าจะเรียนวิทยาศาสตร์ถ้าเป็นนักวิทยาศาสตร์แล้วก็จะเป็นครูสอนวิชาวิทยาศาสตร์ ทีนี้อาจารย์ก็สอบได้ สมัยปี พ.ศ. ที่อาจารย์สอบเนี่ยสามารถสอบวิชาชีพอื่นได้อีกนอกจาก Entrance เพราะฉะนั้นอาจารย์ก็จะสอบพยาบาลนะคะ สอบติดหมดเลยค่ะของเกื้อการุร ของวชิระนะคะแล้วก็ของศิริราช ทีนี้ตอนเลือกว่าจะเข้าเรียนอะไรดีเพราะเราสอบติดเยอะเกือบทุกที่เพราะสมัยก่อนเปิดโอกาสให้เราสอบได้ อาจารย์ก็คิดว่าอยากจะไปเรียนที่สอบเอนทรานซ์ได้เพราะพี่ชายที่จะไปทำงานต่างประเทศได้บอกกับคุณแม่ว่า“ถ้าน้องสอบเอนทรานซ์ได้ให้ไปเรียนเลยนะ เพราะจะเข้ามหาวิทยาลัย อย่างไรก็ตาม เขาได้ให้ทองอาจารย์มา 1 สลึง” แต่เราไม่ได้เลือกกรุงเทพฯเลยเพราะเราเป็นเด็กต่างจังหวัดนะคะ อาจารย์ก็ปรึกษาคุณแม่ ทีนี้บังเอิญอาจารย์ก็สอบได้ทุนของจังหวัดระยองแยกกันอยู่ด้วยว่าข้อสอบได้แล้วเนี่ยเราเรียนทุนจบออกมาแล้วบรรจุราชการเลยและมีอาชีพเป็นพยาบาล ซึ่งแม่ก็สนับสนุน เราก็ปรึกษากันนะ งั้นก็ได้เพราะอยู่ใกล้บ้านจะไปไกล แม่ก็เป็นห่วง ก็เลยตัดสินใจเลือกรับทุนที่จะเรียนวิชาชีพพยาบาลนะคะซึ่งเราก็มีก่อนที่เราจะเลือกรับทุนนี้ ครั้งแรกเราบอกแล้วว่าเราชอบครูใช่ไหมคะ แต่วันนึงไปเดินที่ตลาดไปเจอรูปปั้นพยาบาลที่จะเป็นออมสิน อาจารย์ซื้อมาแล้วก็มองทุกวันนะคะ เออ…พยาบาลก็ดีนะ ช่วยคนอื่นได้เยอะเหนาะเป็นอาชีพที่มีประโยชน์ อาจารย์จะมองอย่างนั้น เพราะฉะนั้นเวลาที่เราสอบได้แล้วเวลาที่เราจะเลือกเข้าสู่อาชีพเราก็ทำให้เรารักได้เราก็ชอบได้เราศรัทธาในอาชีพนั้น เราถึงเลือกเรียน เพราะฉะนั้นอาจารย์ก็เลยเลือกเรียนพยาบาล พอเลือกเรียนพยาบาล อาจารย์จบออกมาก็เป็นวิชาชีพพยาบาล ทีนี้พอเราทำงานได้สักพักหนึ่งก็อาจจะเป็นด้วยใจที่เราชอบอยู่กับความเป็นครูอยู่ลึก ๆ นะคะ เวลาที่เรามาเป็นพยาบาลแล้วก็จะมีการสอนอาจารย์ประจำอยู่ห้องอุบัติเหตุและฉุกเฉินจะมีงานสอนมูลนิธิที่จะช่วยคน สอน nurse aide หรือผู้ช่วยพยาบาลแล้วก็สอนพยาบาลนะคะที่อยู่ในโรงพยาบาลเกี่ยวกับเรื่องปฐมพยาบาล ทีนี้วันหนึ่งก็มีสอนวิศวกรด้วยที่เป็นฝรั่งด้วยนะคะเพราะตอนนั้นเขามาเปิดนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด แล้วเราก็ได้นึกในใจว่า “เอ๊ะ แล้วเราจะสอนได้เหรอ ฝรั่งแล้วก็วิศวกร” ซึ่ง ณ ตอนนั้นเองเราก็เพิ่งมาเป็นพยาบาลจบใหม่ก็แค่ 2 ปีเองนะ มีพี่พยาบาลอยู่คนนึงบอกว่าถ้าเราเป็นพยาบาลเราเป็นวิชาชีพพยาบาลแล้วเราจะเก่งที่สุดในเรื่องพยาบาลซึ่งอาจารย์จะไปกับคุณหมอ ไม่ว่าจะเป็นคุณหมอศัลยกรรม คุณหมออายุรกรรม คุณหมอห้องฉุกเฉินนะคะ แล้วก็รองแพทย์ซึ่งต้องไปสอนวิศวกรของโรงกลั่นน้ำมันที่ไปนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดคาลเท็กซ์กับเซลล์นะคะตอนนั้นที่เข้ามาขอให้สอน อาจารย์ก็สอนได้ พอสอนเสร็จแล้วหลังจากนั้นอาจารย์ก็ไปอบรมเรื่องการสอนการช่วยชีวิตขั้นสูง อาจารย์ก็มาสอนพยาบาลทั้งโรงพยาบาลเลยนะคะแล้วก็สอนโรงพยาบาลชุมชนด้วย ซึ่งพอเรามาดูแล้วคุณหมอ อาจารย์เนี่ยสอนเก่งเพราะว่าเข้าใจง่ายน่าจะไปเป็นอาจารย์พยาบาลจะได้ช่วยให้คนที่จะเข้าสู่อาชีพได้มีความรู้แล้วก็เป็นพยาบาลที่ดีที่เก่งนะคะแล้วก็รักในอาชีพอาจารย์ก็เลยย้ายมาเป็นอาจารย์พยาบาล พอตอนนี้เข้าสู่อาชีพอาจารย์พยาบาลนะซึ่งก็ไม่ได้แตกต่างกันมากเนื่องจากว่าพยาบาลปกติแล้วเนี่ยเราก็จะสอนคนไข้อยู่แล้ว แล้วเมื่อสอนคนไข้แล้วเรายังสอนน้อง ๆ อีก แล้วก็เหมือนที่พูดอื่น ๆ สอนผู้ช่วยเหลือคนไข้และเรายังสอนประชาชนให้รู้จักการช่วยชีวิต ทีนี้พอเรามาเป็นครูพยาบาลหรืออาจารย์พยาบาลเราก็ใช้แนวทางเดียวกันนะคะแต่จะต่างกันนิดนึง ถ้าเราเป็นพยาบาลเราจะใช้ทักษะการปฏิบัติมากกว่าทักษะการสอน แต่ถ้าเข้าสู่อาชีพพยาบาลทักษะการปฏิบัติพยาบาลจะเป็นพื้นฐานที่แข็งแกร่งของการที่เราจะสอนพยาบาลนะคะ ก็จะเป็นข้อดีของอาจารย์ที่มาเป็นอาจารย์พยาบาลเพราะว่าเราได้เป็นพยาบาลวิชาชีพมาก่อนแล้วทำให้เรารู้ว่าเวลาเราจบไปแล้วเนี่ยเราต้องมีหน้าที่อะไรและปฏิบัติงานแบบไหน ทีนี้พอเข้าสู่วิชาชีพพยาบาลนะคะหรืออาจารย์พยาบาลแรงจูงใจแต่สิ่งที่บอกแล้วก็คือว่าลึก ๆ อยากเป็นครู แล้วพอเราจบมาเราก็มาเป็นพยาบาล เสร็จแล้วเราได้เข้าสู่การเป็นอาจารย์พยาบาลซึ่งก็ตรงกับความรู้สึกที่เราอยากทำเป็นสิ่งที่เราชอบอยู่แล้วนะคะ

ดอกเตอร์ณัฐนันท์: ทีนี้ถ้าพูดถึงรายได้หรือสวัสดิการวันหยุดนะคะถ้าเป็นอาจารย์พยาบาลเราจะได้หยุดวันหยุดนักขัตฤกษ์ และก็วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ แต่ถ้าเป็นพยาบาลปกติเราจะขึ้นตามเวร แต่ถ้าเรามาเป็น sub head หรือมาเป็นผู้บริหารเราจะขึ้นเหมือนกับอาจารย์พยาบาลก็จะมีวันหยุดแต่เนื่องวิชาที่พยาบาลเราขาดแคลนเราก็จะต้องขึ้นเวรเสาร์อาทิตย์หรือนอกเวลาช่วยคนอื่นด้วย แต่พอมาเป็นอาจารย์พยาบาลนะคะสิ่งที่เราต้องขึ้นเวรก็คือขึ้นเวรดูแลนักศึกษาไม่ได้ขึ้นเวรดูแลคนไข้เปลี่ยนกันแค่ตรงนี้ แต่ทำงานเนี่ยก็จะเป็นด้านการสอนมากกว่า ทีนี้ในเรื่องของอาจารย์พยาบาลจะประกอบด้วยการสอน 2 แบบ ได้แก่การสอนภาคทฤษฎีและการสอนภาคปฏิบัติ การสอนภาคทฤษฎีเนี่ยเราก็จะสอนตามหลักสูตรที่เขากำหนดมาเราถนัดวิชาไหน เขาก็จะกำหนดแล้วแบ่งกันสอนเป็นบท ๆ เป็นหัวข้อ เป็นรายวิชา  พอเสร็จแล้วเราก็จะมีภาคปฏิบัติเมื่อนักศึกษาจะต้องฝึกภาคปฏิบัติเราก็จะไปฝึกภาคปฏิบัติในหอผู้ป่วยในโรงพยาบาลหรือในรคสต. แหล่งที่ให้บริการ เพราะฉะนั้นอาชีพนี้พิเศษอย่างคือได้เป็นอาจารย์ด้วยและได้ปฏิบัติการพยาบาลกับผู้ป่วยด้วยนะคะ  

ดอกเตอร์ณัฐนันท์: ส่วนในเรื่องของรายได้ ถ้าเป็นพยาบาลปกติแล้วเราก็จะมีขึ้นเวรพิเศษนะคะหรือไปทำงานจ๊อบพิเศษรับ OT รับจ้างอยู่โรงงานหรือไปเข้าเวรที่คลินิกหรือโรงพยาบาลเอกชน แต่ถ้าเป็นอาจารย์พยาบาลเราสามารถสอนพิเศษกับนักศึกษาที่ต้องซ่อมหรือว่าต้องเรียนซ้ำ หรือเรียนเพิ่มนะคะ

ดอกเตอร์ณัฐนันท์: ในส่วนของรายได้ที่เป็นอาจารย์พยาบาลเนี่ย เราก็สามารถสอนหลักสูตรพิเศษที่เพิ่มขึ้นมาอย่างเช่นหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล หลักสูตร care giver ที่กำลังจะมีมานี่ก็คือจะมีหลักสูตรของ care manager ซึ่งเอาพยาบาลไปอบรม care giverก็คือเอาประชาชนหรืออสมอบรมเพื่อที่จะดูแลครอบครัว หรือดูแลคนในชุมชนซึ่งอันนี้ก็เป็นรายได้พิเศษ อีกส่วนหนึ่งการทำผลงานวิชาการเช่นการทำวิจัยเราสามารถเขียนโครงการไปขอรับทุนวิจัยแล้วมาทำการวิจัยเราก็จะได้ส่วนของในกระบวนการทุนวิจัยได้ด้วย อันนี้ก็คือเป็นรายได้ที่ต่างกันนิดนึงของครูพยาบาลหรืออาจารย์พยาบาลกับพยาบาลวิชาชีพปกติ

Interviewer: เรื่องการบรรจุราชการเป็นอาจารย์ ไม่ทราบว่าตอนนี้เขามีระเบียบหรือการคัดเลือกอย่างไรบ้าง สำหรับคนที่อยากจะมาเป็นอาจารย์ค่ะ

ดอกเตอร์ณัฐนันท์: ก็จะมี 2 ส่วนนะคะ ณ เบื้องต้นเขาจะมีประกาศรับทุนนักศึกษาที่กำลังจะจบแล้วมาเป็นอาจารย์พยาบาลเพราะฉะนั้นการที่เข้าเป็นนักศึกษาพยาบาลก็จะมี 2 ส่วนคือส่วนของทุนพยาบาลจบออกมาแล้วเป็นพยาบาลเลยหรือถ้าเป็นทุนส่วนตัวก็ไม่ต้องใช้ทุน ถ้าเป็นทุนของโรงพยาบาลอย่างเช่นพระนั่งเกล้าเราก็ต้องใช้ทุนพระนั่งเกล้าซึ่งเขาจะออกค่าเล่าเรียนให้เรา อีกส่วนหนึ่งจะเป็นทุนของอาจารย์ ทุนของอาจารย์ก็อย่างเช่น สบช.(สถาบันพระบรมราชชนก) เขาก็จะมีทุนให้เราเลือกตอนที่เราเป็นนักศึกษาพยาบาล จะมี 2 ส่วนเมื่อเข้ามาเรียนพยาบาลแล้วเลือกรับทุน กับอีกส่วนหนึ่งเจาะจงมาเลยว่าเราจะรับทุนอาจารย์แล้วก็มาสอบก็จะมี 2 ส่วนนะคะ

 

Interviewer: แล้วสำหรับอาชีพอาจารย์พยาบาลแล้ว จะต้องสอนหรือว่าทำงานเกี่ยวกับอะไร และคิดว่าจะต้องรับผิดชอบอะไรในโรงเรียนพยาบาลบ้างคะ

ดอกเตอร์ณัฐนันท์: การสอนของเราจะรับผิดชอบในส่วนของทฤษฏีในเรื่องที่เราเป็นสาขาของเรา อย่างเช่นของอาจารย์สาขาการพยาบาลอนามัยชุมชนอาจารย์ก็จะสอนในเรื่องของหลักการและทฤษฎีของการพยาบาลอนามัยชุมชนนะคะ ที่นี้อย่างที่บอกนะคะการสอนของเราจะมีภาคทฤษฎีกับภาคปฏิบัติ พอภาคปฏิบัติอาจารย์ก็จะต้องไปสอนวิชาการพยาบาลอนามัยชุมชนซึ่งประกอบด้วยวิชา CHN 1 ก็คือการออกชุมชนแล้วก็ไปสอนนักศึกษาพยาบาลเกี่ยวกับเรื่องอนามัยโรงเรียน อนามัยโรงงานแล้วก็การเยี่ยมบ้าน การดูแลครอบครัวที่บ้าน(Home healthcare) ส่วนวิชาของ CHN 2 ก็คือการพยาบาลอนามัยชุมชน 2 จะเป็นการวิเคราะห์ชุมชนนะคะใช้กระบวนการเครื่องมือ 7 ชิ้นวิเคราะห์ชุมชนแล้วก็ศึกษาปัญหาของชุมชนแล้วก็ทำโครงการพัฒนาชุมชนโดยการดูแลประชาชนที่อยู่ในชุมชนตั้งแต่กลุ่มโรคต่าง ๆ รวมถึงช่วงวัยต่าง ๆ ตั้งแต่วัยเด็กไปจนถึงวัยผู้สูงอายุนะคะ อันนี้ก็คือเป็นภาคปฏิบัติที่เราจะต้องไปสอนนักศึกษาในแหล่งฝึกนะคะ อีกวิชานึงของภาคพยาบาลอนามัยชุมชนก็คือวิชาการรักษาพยาบาลเบื้องต้นหรือเวชบริบาลเบื้องต้นเราก็จะไปสอนนักศึกษาในเรื่องของการประเมินคนไข้ในภาวะฉุกเฉินแล้วก็ส่งต่อคนไข้ไปยังโรงพยาบาลที่เหมาะสม อย่างเช่น เราอยู่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลถ้าคนไข้ปวดท้องมากและวินิจฉัยเบื้องต้นว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบหรือ “Appendicitis” เราจะต้องส่งไปโรงพยาบาลที่สามารถผ่าตัดได้ก็อย่างเช่นโรงพยาบาลชุมชนหรือโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ทีนี้อีกส่วนหนึ่งวิชาที่สอนของเวชบริบาลเบื้องต้นก็คือการปฐมพยาบาลนะคะ การผ่าฝีการเย็บแผลให้ง่ายนะคะ การ remove foreign Body นะคะ คือการเอาสิ่งแปลกปลอมออกจากอวัยวะ เช่นฝุ่นเข้าตาค่ะ แล้วก็อีกอันนึงนะคะก็คือการตรวจร่างกายเริ่มต้นในทุกโรค ถ้าเราตรวจแล้วเราก็ต้องวินิจฉัยเบื้องต้นได้ว่าคนไข้มาหาเรา 1 คนมีไข้มีน้ำมูกเราก็ต้องดูว่าเป็นหวัดไหม ถ้าเป็นหวัดแล้วก็ต้องดูว่าเป็นหวัดประเภทไหน เป็นโควิค-19 หรือไม่ และเราก็จะได้ให้การดูแลเบื้องต้นถูก แล้วก็ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลที่คนไข้ควรที่จะได้รับถูกนะคะ ซึ่งอันนี้ก็คือการดูแลแบบรคสต.นะคะ ทำให้เราสามารถที่จะผลิตพยาบาลได้แล้วเนี่ย หลักสูตรที่เรากำหนดไว้ทั้ง 3 วิชานี้เนี่ย เขาสามารถดูแลประชาชนในพื้นที่เขาได้นะคะ สามารถคัดกรองแยกโรคได้แล้วก็ส่งต่อได้แล้วก็ทำพัฒนาชุมชนเข้มแข็งได้

Interviewer: แล้วสำหรับอาชีพนี้ในหลักสูตรที่อาจารย์สอนอยู่ ไม่ทราบว่านักศึกษาจะได้อะไรบ้างเหรอคะ

ดอกเตอร์ณัฐนันท์: การเรียนของวิชาชีพพยาบาลของเราเป็นวิชาชีพคือ Professional หมายถึง จบแล้วไม่มีคนอื่นทำแทนเราได้เพราะว่าเป็นวิชาชีพ อย่างเช่นคุณหมอก็เป็นวิชาชีพ เภสัชกรรมเป็นวิชาชีพ พยาบาลก็เป็นวิชาชีพนะคะเพราะฉะนั้นเมื่อเราเรียนแล้วเนี่ยนักศึกษาของเราจะได้ประโยชน์คือเราจะได้ความรู้ที่ดูแลสุขภาพนะคะตั้งแต่ช่วงวัยตั้งแต่เกิดจนถึงเสียชีวิตเลยก็ได้เพราะว่าจะมีการวิชาการพยาบาลเด็กอ่อนใช่ไหมคะเด็กแรกคลอดไปจนถึงเด็กเล็กนะคะ แล้วก็เด็กโตจนถึงวัยรุ่นวัยผู้ใหญ่แล้วก็วัยผู้สูงอายุนะคะ แล้วก็โรคเรื้อรังต่าง ๆ ทั้งนั้นการเรียนวิชาชีพพยาบาลจะได้กำไรตรงนี้คือได้ความรู้ทางด้านสุขภาพไปดูแลตนเองและดูแลคนที่เรารัก ครอบครัวของเราและเราก็ยังช่วยประชาชนอื่น ๆ ได้อีก และเราก็สามารถช่วยประเทศชาติได้ในเรื่องของสุขภาพ อย่างไรก็ตาม อาจารย์มองว่าทุกวิชามันสามารถช่วยประเทศชาติได้หมดแต่วิชาชีพพยาบาลเนี่ยจะเน้นเรื่องแน่ชัดก็คือดูแลสุขภาพของเราซึ่งเป็นความต้องการพื้นฐานของคนนะในเรื่องของสุขภาพที่ดีเราจึงจะสามารถสร้างผลงานหรือไปทำผลประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้โดยเริ่มต้นที่ตัวเราเองด้านสุขภาพค่ะ 

Interviewer: สำหรับอาชีพอาจารย์พยาบาลที่อาจารย์ได้เจอมา ไม่ทราบว่าอาจารย์คิดว่าความท้าทายในอาชีพนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ

ดอกเตอร์ณัฐนันท์: อาชีพนี้มีความท้าทายมากเพราะว่าของเราเนี่ยอันดับแรกก่อนถ้าเราจะเป็นครู ครูทุกสาขาอาชีพจะมีหลักการคือเราต้องสร้างคนให้เป็นคนเก่งคนดีและมีความสุขอยู่ในสังคมและช่วยประเทศชาติได้ อันนี้เป็นหลักสำคัญของความเป็นครู แต่ถ้าเป็นครูพยาบาลเราสอนให้เขาเป็นคนดีคนเก่งนะคะแล้วก็เป็นคนที่มีความสุขช่วยประเทศชาติได้แล้วในเรื่องของสุขภาพเนี่ยมันเป็นเรื่องสำคัญเป็นแกนกลางของมนุษย์ทุกคนที่จะต้องมีสุขภาพที่ดีเมื่อเราสุขภาพดีแล้ว เราถึงจะสามารถไปผลิตผลงานหรือเป็นสร้างอาชีพอื่น ๆได้เหมาะสมและดียิ่งขึ้นเพราะว่าถ้าสมมุติเราจะเป็นวิศวกร ถึงแม้ว่าจะเป็นวิศวกรที่เก่งขนาดไหนก็ตามนะคะ เป็นคนดีแค่ไหนก็ตามแต่ถ้าสุขภาพไม่ดีก็ทำงานนั้น ๆ ไม่ได้นั้นเองค่ะ เพราะฉะนั้นอาชีพของพยาบาลหรือทางด้านสุขภาพเนี่ยเป็นอาชีพที่เรียกว่ามีคุณประโยชน์แล้วเป็นอาชีพที่ประเสริฐมากกับตนเองและครอบครัว และเราก็จะเหมือนกับว่าเราได้ทำงานไปด้วย เราได้สร้างความดีได้ทำบุญด้วยเพราะว่าเราดูแลตัวเราแล้วเราดูแลคนที่เรารักแล้วเราก็ยังสามารถดูแลประชาชนคนอื่นได้ให้เขามีสุขภาพดีแล้วเรายังสามารถช่วยเหลือเขาถ้าเขาเจ็บป่วยให้เขารอดชีวิต มนุษย์การช่วยชีวิตนี้นะคะถ้าเราช่วยได้เร็วทันเวลาเขารอดชีวิต คนหนึ่งคนก็มีคนที่รักตั้งหลายคนแล้วถ้าคนนั้นเป็นญาติของเราเป็นน้องเราแม่เราครอบครัวของเรา เราจะรู้สึกว่าถ้าอาชีพพยาบาลเก่งเนาะช่วยญาติเรารอดชีวิตหายจากโรค ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าอาชีพนี้สามารถทำประโยชน์ให้อีกหลาย ๆ คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องเลยค่ะ นอกจากคนป่วยแล้วนะคะ

Interviewer: แล้วอาชีพอาจารย์พยาบาลก็เหมือนอาชีพที่ทำงานยิ่งใหญ่มาก แต่ว่าเราก็จะต้องแบ่งเวลาไปใช้ชีวิตด้วย อยากทราบว่าอาจารย์แบ่งเวลาในการใช้ชีวิตแบบครอบครัว งาน เพื่อน และเวลาในการพักผ่อนอย่างไรบ้างคะ

ดอกเตอร์ณัฐนันท์: การทำงานเนี่ยนะคะ มันมีความจำเป็นอย่างมากเลยค่ะ ที่จะต้องแบ่งเวลาให้เป็นและถูกต้องเพราะว่าตอนที่อาจารย์จบมาใหม่ ๆ อาจารย์อายุยังน้อยมีกำลังเยอะใช่ไหมคะ อาจารย์ทำงานบางครั้งควงเวรเช้าต่อบ่าย หรือพอเราเข้าเวรเสร็จแล้วก็จะไปหารายได้พิเศษเพราะว่าเราก็มีกำลังเยอะเราก็ไปดุคลินิกหรือไปอยู่โรงงานนะคะ ทีนี้พอเราอายุมากขึ้นแล้วเนี่ย เรามามองว่าชีวิตของคนเราไม่จำเป็นจะต้องให้ได้เงินอย่างเดียวโดยการทำงานหนัก แต่เราจะต้อง Balance ชีวิตของเราให้มีความสุขโดยเราต้องแบ่งเวลาตอนนี้อาจารย์ก็จะแบ่งเวลาว่าถ้าอาจารย์จะสอนทฤษฎี อาจารย์ก็จะสอนตามทฤษฎีที่กำหนดให้ และในตอนเย็นอาจารย์ก็จะต้องไปออกกำลังกายแล้วก็ทำอาหารทานเองด้วยเพราะว่าอาจารย์เป็นพยาบาลแล้วรู้สึกว่าถ้าซื้ออาหารเขากินเนี่ยมันทำให้เกิดโรคเรื้อรังได้ง่ายกว่า เช่น เบาหวาน ความดัน เพราะว่าเวลาที่เราไปซื้อกินเนี่ย เราก็อาจจะได้อาหารที่มีรสหวาน รสมัน รสเค็มหรือวัตถุดิบที่ปรุงเนี่ย เราไม่สามารถเลือกได้เลย แต่ถ้าเราอยู่วิชาชีพนี้แล้วเราสามารถเอาวิชาชีพของเรามาดูแลสุขภาพของเราเองให้แข็งแรงและแบ่งเวลาที่จะออกกำลังกายด้วย โดยมีเรื่องอาหาร การออกกำลังกายและการพักผ่อนเพราะฉะนั้น เมื่อก่อนเนี่ยอาจารย์จะทำงานถึงดึก ราว ๆ ตีสามถึงตีสี่ แต่ต่อไปนี้เราจะต้องแบ่งเวลา ยิ่งเราอายุมากขึ้นพอเที่ยงคืนเราก็จะต้องรีบนอนได้แล้ว เพราะพอเช้าแล้วเราก็จะต้องตื่นประมาณ 6 โมง นอนประมาณ 6-7 ชั่วโมงต่อวัน แล้วเราก็ต้องรีบมาทำงานตั้งแต่ 8 โมงถึง 8 โมงครึ่งนะคะ เพราะฉะนั้นก้จะแบ่งเวลานะคะ อย่างเช่น ตอนนี้เป็นช่วงเวลาของราชการ ตอนเย็นเราออกกำลังกายและทำอาหารบ้างเพื่อทานเอง แล้วก็ในวันหยุดเราก็จะไปเยี่ยมครอบครัว ไปไหว้พ่อแม่ที่อยู่ต่างจังหวัด ซึ่งแม่ของอาจารย์ป่วย อาจารย์ก็ติดต่อให้มารักษาที่พระนั่งเกล้าแหล่งที่อาจารย์ฝึก ซึ่งตรงนี้ก็เป็นข้อดีที่เราเป็นพยาบาลและอาจารย์พยาบาล ถ้าเราอยู่ในแหล่งฝึกที่อยู่ในส่วนของการรักษาเราก็สามารถดูแลครอบครัวเราได้ เท่ากับว่าเราได้ทำงานไปด้วยดูแลคุณพ่อคุณแม่เมื่อยามเจ็บป่วยไปด้วย ทั้งนี้ก็ยังมีเพื่อนๆพี่ๆพยาบาลคนอื่น ๆ ที่คอยช่วยเหลือให้การดูแลครอบครัวหรือคนอื่น ๆ ที่เรารัก เพราะฉะนั้นการทำอาชีพนี้ทำให้เราสามารถทำงานไปด้วยและดูแลคนที่เรารักในยามที่พวกเขาเจ็บป่วยไปด้วยได้นั้นเองค่ะ และในวันหยุดอาจารย์ก็จะไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือกลับบ้านที่ต่างจังหวัด

Interviewer: ก็คือมันเป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ให้กับเราได้ นอกจากนี้ เราก็จะได้รับความรู้ในการดูแลตนเองและผู้อื่นด้วยใช่มั้ยคะ และก็มีเวลาให้เราได้พักผ่อนด้วยใช่มั้ยคะ

ดอกเตอร์ณัฐนันท์: นอกจากนี้ เราก็ยังได้สร้างคนที่สำคัญนั้นก็คือ เราได้สร้างคนให้เป็นคนดีเข้าสู่สังคมเพราะว่าเราเป็นอาจารย์
 

Interviewer: มาถึงคำถามสุดท้ายแล้วนะคะ เชื่อว่าคนที่นั่งฟังหรือว่าอ่านบทความนี้อยู่ก็มีความสนใจในอาชีพพยาบาล หรือกำลังมองหาทุนพยาบาลที่จะสามารถสนับสนุนไปเป็นอาจารย์พยาบาลต่อได้ในอนาคตด้วย ไม่ทราบว่าอาจารย์อยากจะฝากอะไรถึงพวกเขาไหมคะ

ดอกเตอร์ณัฐนันท์: คือถ้าเรามองถึงอนาคตนะคะ อาชีพพยาบาลหรืออาจารย์พยาบาลเนี่ยนะคะ ก็จะเป็นไปในด้านสุขภาพเพราะฉะนั้น ณ “ตอนนี้สาขาพยาบาลเป็นสาขาอาชีพที่ขาดแคลน” อันดับแรกถ้าหนูอยากจะเป็นอาจารย์พยาบาล หนูจะต้องไปเป็นพยาบาลก่อนถูกไหมคะ เพราะงั้นถ้าเราจบมาอาชีพนี้นะคะไม่ตกงานค่ะและหางานได้แน่นอน แต่เราอาจจะติดอยู่นิดนึงว่าเราไม่กลัวเราไม่กล้าหรือเราคิดว่าเราไม่สามารถดูแลคนไข้ได้ แต่จริงๆแล้วอาชีพนี้เนี่ยถ้าเรามีใจรักหรือเรามีความอดทนมีความพยายาม มีเป้าหมายนะคะเราสามารถปรับตัวเองให้รักและชอบและเราเห็นคุณค่าของวิชาชีพนี้แล้วเนี่ยเราสามารถเรียนได้และเราก็อยู่กับอาชีพนี้ได้อย่างมีความสุขด้วยเพราะฉะนั้นครุอยากฝากไว้ว่า ถ้าคนรุ่นใหม่หรือนักศึกษาที่กำลังจะเข้าสู่อาชีพ ถ้าเราคิดว่าเราอยากมีอาชีพที่มีเกียรติมีการที่จะช่วยเหลือคนไข้หรือครอบครัวตัวเราเองได้ อาชีพพยาบาลเป็นอาชีพนึงที่เราควรจะเลือก แต่เราจะต้องปรับมุมมองของตนเองให้รักและศรัทธาในอาชีพ แล้วก็ทำให้ดีที่สุดเพราะคนเราสามารถทำอะไรก็ได้ถ้าเรารักและเราต้องการอยากจะทำ แต่บนพื้นฐานของเรา วิชาชีพนี้สอนให้เราเป็นคนดีด้วย มีคุรธรรมด้วย มีจิตอาสา เผื่อแผ่ความรู้ ความสุข สุขภาพที่ดีให้กับคนอื่น ๆ หรือประชาชนนะคะ ทำให้เราเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนโยน กตัญญูรู้คุณแล้วก็อาชีพของเราเนี่ย เป็นอาชีพที่มีคุณค่า มีศักดิ์ มีศรี มีเกียรตินะคะ ครูก็อยากเสนอว่า ถ้านักศึกษาอยากเข้าอาชีพนี้ ก็ยินดีต้อนรับนะคะ แล้วอยู่ที่ตัวเราเองไม่ได้อยู่ที่ใครเลย เราสามารถพัฒนาจิตวิญญาณของเราได้ค่ะ

แสดงความคิดเห็น

1 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น