How to อัพคะแนน SAT ENG 150 คะแนน

สวัสดีค่าทุกคนนน นี้ก็ใกล้ช่วงที่น้องๆหลายๆคน ต้องเริ่มยื่นคะแนนสอบเข้าต่างๆกันแล้วใช่มั้ยคะซึ่งสำหรับน้องๆสายสอบอินเตอร์หลายๆคนก็คงต้องยื่นคะแนน SAT ด้วยย ซึ่งสำหรับใครที่ยังได้คะแนนไม่ถึง หรือยังไม่ดีพอที่เราต้องการ ก็ยังไม่ต้องเครียด หรือกังวลกันไปนะคะ วันนี้เรามีเทคนิคในการอัพคะแนนส่วนของ SAT ENG ให้เพิ่มขึ้น 150 คะแนนมาแชร์ค่าา  

ก่อนอื่นเลยย เรามาดูกันที่ภาพรวมก่อนเลยนะคะ หลักๆแล้ว SAT ก็จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ENG 800 MATH 800 --> Total 1600  ในส่วนของพาร์ท ENG มันก็จะมี  2 ส่วน เป็นส่วนของ Reading และก็ส่วนของที่เค้าเรียกว่า Writing and Language ซึ่งส่วนตัวเรามองว่ามันคือพาร์ท grammar เลยก็ว่าได้ค่า 

เรามาเริ่มที่พาร์ท Reading กันก่อนเลยนะคะ Key หลักของการทำ reading ให้ได้คะแนนเยอะๆ ก็คือการที่เรารู้แล้วก็เข้าใจคำศัพท์เยอะๆค่า ซึ่งแน่นอนว่าในส่วนนี้น้องๆทุกคนต้องท่องคำศัพท์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ค่า

--> ตัวช่วยหลักของเราในอันนี้ก็คือการจดคำศัพท์ที่เวลาเราทำ practice test แล้วเราไม่รู้ความหมายค่ะ ส่วนตัวเรารู้สึกว่าคำที่เราเจอใน practice test เนี่ย ถูกเอามาออกใหม่อีกครั้งในข้อสอบจริงๆบ่อยมากๆค่า  คือเวลาเราทำ practice เนี่ยค่ะ เรามองว่าเราไม่ควรหยุดมาหาคำศัพท์ก่อนค่ะ เพราะว่าเราจะไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว เราใช้เวลาทำเท่าไหร่ ทันมั้ย คะแนนจริงๆสำหรับความรู้ที่เรามีตอนนี้เนี่ย มันจะได้คะแนนเท่าไหร่กันแน่  เพราะงั้นเราจะจดเก็บไว้ก่อน แล้วค่อยหาหลังทำเสร็จค่า โดยเราจะจดใส่สมุดท่องศัพท์เล่มที่มันเล็กๆค่า (ตอนนั้นเราใช้ของ muji ค่า) คืออันนี้ต้องบอกว่ามันดือมากก เพราะว่าเวลาเราอยู่บนรถ หรือว่าง เราสามารถหยิบมันขึ้นมาอ่านได้แบบง่ายๆเลยค่า

อย่างต่อมาในส่วนนี้เราจะพูดถึงทริคในการทำส่วนของพาร์ท Reading นะคะ

1. เราต้องรู้ก่อนว่าเราถนัดอะไร ในพาร์ท Reading เนี่ยมันจะมีอยู่ประมาณ 5 passages ซึ่งโดยปกติมันก็จะเป็นเรื่องแบบ literature นิยายนู้นนี้, economics, science, history แล้วก็พวก politics ซึ่งเราจะมีเวลาทำแค่ 1 ชั่วโมงนิดๆ ซึ่งถือว่าน้อยมากๆๆๆ T-T ดังนั้นเราจึงต้องเลือกทำ passage ที่เรามีความถนัดมากที่สุดมาทำก่อน แล้วอันยากไว้ทีหลัง เพราะแบบถ้าอันที่เราถนัดมาทำตอนจะหมดเวลาอ่ะ เราก็จะรีบจนแทบจะไม่ได้คิดเลยย เพราะงั้นเอาอันที่ทำได้มาทำก่อน จะได้เก็บคะแนนตรงนี้ไปเยอะๆค่า ส่วนอันยากทิ้งไว้หลังสุด (คือคิดยังไงมันก็ต้องมั่ว ก็มั่วตอนจะหมดเวลาเลยจ้าา555555) ส่วนตัวเราเนี่ยไม่ถนัดพวก history-politics อันนี้ก็จะไปอยู่หลังสุดเลยค่าา ทำไปก็มั่วอยู่ดี T-T 5555

2.  มันจะมีบางข้อที่ชอบถามว่าคำตอบของข้อก่อนหน้าเนี่ย เราเอามาจากไหน ตรงนี้เนี่ย เราสามารถเดาได้เลยว่ามันคือข้อไหนโดยเราดูข้อหน้าๆว่าเค้ามีอ้างถึง lines ไหนไว้แล้ว โดยส่วนใหญ่ประมาณ 85% คำตอบจะหลัง lines นั้นๆ และก็จะอยู่หน้า lines ที่คำถามมีถามไว้ในข้อหลังๆเช่นเดียวกันค่า เพราะฉะนั้นเวลาเราทำเนี่ย ลองตัดchoice ข้อที่มันอ้างถึง lines ก่อนหน้า และหลังไปแล้วออก แล้วไป focus lines ที่มันอยู่ระหว่างทั้ง 2 อย่างนั้นแทนค่าา และเมื่อเราได้ 2 ines นั้นแล้ว คำตอบของเราสำหรับคำถามข้อที่เค้าถามแล้วให้อ้าง evidence ในข้อต่อไปเนี่ย ก็จะหาคำตอบได้ง่ายขึ้นนั้นเองค่ะ แต่เราข้อเน้นอีกครั้งนะคะ ว่าไม่ใช่ทุกข้อจะเป็นแบบนี้น้าา ต้องเช็คอีกทีค่า

3. สำหรับคำถามที่เค้ามีอ้าง lines มาให้ ถามถึงว่าอันนี้คืออะไรบลาๆๆ วิธีการหาคำตอบอย่างนึงของเราเลยก็คือการอ่านขึ้นไป 2 sentences แล้วอ่านลงมาอีก 2 sentences หลังจาก lines หลังจากที่โจทย์ระบุมาค่า โดยส่วนใหญ่คำตอบจะอยู่่ไม่เกินนี้น้าา

4. ข้อที่ถามถึง graph สถิติต่างๆ ต้องทำห้ามพลาดเลยค่า มันจะถามง่ายๆ เพราะงั้นข้อแบบนี้คือห้ามพลาดเด็ดขาดเลยค่า บางข้อไม่ต้องอ่าน passage อ่านแค่ตัว graph ก็พอสำหรับการทำข้อนี้แล้วด้วยค่า เรียกได้ว่าเป็นข้อที่กินเวลาน้อยที่สุดค่า

5. การทำแบบฝึกหัดเยอะๆค่า คือต่อให้เรามีเทคนิคมากมาย แต่เราไม่ฝึกทำโจทย์บ่อยๆ คะแนนก็จะขึ้นได้ไม่ค่อยเยอะนะคะ แนะนำว่าตอนทำให้จับเวลาไปด้วยค่า ตอนสอบจริง เราจะได้กะเวลาถูก อย่างตอนเราฝึกทำ เราจะหักเวลาออกสัก 5 นาทีนะคะ อย่างพาร์ท reading ปกติให้เวลา 1 ชม 5 นาที ตอนเราฝึกทำก็ลดเหลือแค่ 1 ชมค่า เพราะตอนสอบจริงเนี่ยค่ะ เราต้องเผื่อเวลามาเช็คด้วยนะคะ ว่าตอบครบทุกข้อมั้ย มีข้อไหนไม่มั่นใจอีกมั้ยด้วยยน้าา

6. หลังจากทำข้อสอบเก่า/practice เสร็จเนี่ย อย่าลืมมาอ่านเฉลยกันด้วยนะคะ ส่วนตัวเราเองเนี่ยค่ะ จะซื้อหนังสือที่มีเฉลยอย่างละเอียดอยู่ เพื่อให้เวลาเราทำผิด เราจะได้เปิดไปอ่านว่าจริงๆมันต้องเป็นแบบไหน  เพราะอะไร เพื่อให้ครั้งหน้าไม่ผิดแบบเดิมนะคะ

ต่อมาสำหรับพาร์ท Writing and Languages

เทคนิคในการทำพาร์ท Writing and Languages

1. ทำสรุป grammar ฉบับตัวเราเองค่า ไม่มีหนังสือเล่มไหนอ่านเข้าใจเท่ากับหนังสือที่เราเขียน คือเราจะจดอันไหน จะจดซ้ำกี่รอบก็ได้ เอาให้อ่านรู้เรื่องเป็นโอเคค่า ตอนเราสอบเราจะมีทำสรุปไว้มีแค่ประมาณ 15 หน้าเองค่า อันนี้มีประโยชน์จริงๆนะ แบบก่อนเราเริ่มทำโจทย์แต่ละวันก็เอาขึ้นมา ให้มันจำได้ขึ้นไจเลยย ยิ่งวันก่อนสอบคือเอามาอ่านได้ชิวๆเลยย

2. ทำแบบฝึกหัดบ่อยๆค่า แต่ขอแนะนำว่าอย่าเพิ่งวงหรือกามันลงไปนะคะ เพราะว่าบางครั้งเนี่ยเราทำไม่ถูกหมด เพื่อเอากลับมาทำซ้ำด้วยน้าา อาจจะทำใส่สมุด หรือกระดาษไว้ก็ได้ค่ะ แต่อย่าลืมเก็บไว้ด้วยนะคะ อย่างส่วนตัวเราเนี่ยจะเอากลับมาเอามาทำซ้ำหลังจากที่เราทำมาสักอาทิตย์สองอาทิตย์แล้วค่ะ แล้วก็เอามาเทียบกับที่เคยทำรอบที่แล้วว่ามันมีข้อไหนที่เราผิดซ้ำหรือทำผิดในรอบนี้แทนรึป่าวค่าา

3. ข้อไหนมั่วมา อย่าลืมวง คือตอนเราฝึกทำโจทย์เนี่ยย ยิ่งช่วงแรกๆเราจะต้องมีข้อที่ทำไม่ได้จริงๆจนต้องมั่วแล้ะ แบบนี้เราอยากให้น้องๆลองวงข้อนั้นไว้ แล้วตอนตรวจต่อให้ข้อนั้นถู เราก็ต้องอ่านเฉลยด้วยย เพื่อตอนสอบจริงมันออกอีกนะคะ

ต่อมาเป็นช่วงแนะนำหนังสือนะคะ55555 เราจะมีหนังสือค่อนข้างเยอะนิดนึงนะคะ  โดยเฉพาะพาร์ทของ SAT ENG เพราะว่าเราไม่ได้เรียนพิเศษเพิ่มในพาร์ทนี้น้าา เพราะงั้นไม่ต้องซื้อครบทั้งหมดก็ได้นะคะ (แต่ของคุน Erica นี้ ซื้อเถอะ เล่มอื่นชั่งมันได้ไม่เป็นไร555)

SAT ENG

1. SAT Reading (Erica L. Meltzer) 

2. SAT Grammar (Erica L. Meltzer) 

3. SAT Grammar Workbook  (Erica L. Meltzer)

4. SAT Vocabulary  (Erica L. Meltzer)

5. New SAT Reading (ies Test Prep)

6. New SAT  Writing (ies Test Prep)

7. New SAT Reading: World literature (ies Test Prep) -- สำหรับใครที่ไม่ค่อยถนัดพาร์ท literature เล่มนี้คือดีมากๆค่าา ฝึกวนๆไป มีหลาย passages มากกก  ทำจนถนัดกันไปเลยค่าา 555555

8. New SAT Reading: Viceand Virtue in the Exploration of Democracy  (ies Test Prep) -- อันนี้ก็มีให้ทำหลาย passages มากกก มีเยอะจนจากทำไม่ได้ก็คือทำได้เลยเช่นกันค่ะ 5555555

9. application / website uworld อันนี้จะดีมากกกกก  โจทย์เยอะ โจทย์ใหม่ ที่สำคัญคือค่อนข้างตรงเลยค่า เหมาะสำหรับน้องๆที่เนื้อหาได้พอสมควรแล้ว อันนี้ก็คือห้ามพลาดเลยค่า

เล่มที่มีทั้ง SAT ENG-MATH เลยค่า

1.  New SAT Practice   (ies Test Prep)

2. 10 Practice Tests for the SAT (The Princeton Review)

3. SAT Practice Tests (COllege Board) --> อันนี้มีให้โหลดฟรีด้วยนะคะ

หนังสือก็จะประมาณนี้นะค้าา สุดท้ายเราก็อยากฝากถึงน้องๆทุกคนว่าอย่าเครียดเยอะ ไม่ต้องสนใจคนอื่นว่าเค้าได้คะแนนเท่าไหร่ เค้าได้เยอะกว่าแล้วเค้ายังจะมาเข้าคณะเดียวกันกับเราอีก แล้วเราจะติดมั้ย เรามาเตรียมตัวตอนนี้มาจะสายไปมั้ยย คือเราอยากบอกว่าถ้าวันนี้ไม่ใช่วันสอบ ยังไงเราก็เตรียมตัวทันค่ะ สู้ๆๆๆ จริงๆในการสอบรอบต่อไปเราอาจจะได้คะแนนที่ดีขึ้น หรือถึงเกณฑ์ที่ใช้ยื่นแล้วก็เป็นไปได้ค่ะ อยู่ที่ความตั้งใจ ความขยัน ความพยายามของเราเองเลยย คะแนนเราไม่จำเป็นจะต้องได้เยอะที่สุด แค่ให้ยื่นแล้วติดก็พอแล้วค่ะ ได้ไม่เยอะเท่าอีกคน แต่เราติดคณะเดียวกันที่เดียวกันก็พอแล้วค่าา ยังไงขอให้น้องๆทุกคน ติดคณะที่ตั้งใจไว้ให้ได้นะคะ สู้ๆๆๆค่าา