Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

แพทย์พระมงกุฎ ดีจริงไหม ขอโปรดรุ่นพี่ๆเข้ามาเล่าประสบการณ์หน่อยครับ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่


ผมเป็นDek67ครับ มีเวลาเตรียมตัวอีกหนึ่งปีกว่า ซึ่งผมก็แน่วแน่ว่าจะไปแพทย์แล้ว ผมมั่นใจว่าคะแนนถึงคณะแพทย์สักที่ ตอนแรกที่ผมเล็งก็ มช. มข. มอ. มธ แต่สัปดาห์ที่แล้วผมไปสะดุดกับคลิปนึง 

‎https://youtu.be/rj_RAPRhwio‎
ซึ่งเป็นคลิปงานฉลองกระบี่นักเรียนแพทย์ทหาร วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า หลังจากนั้นผมก็หาดูคลิปย้อนหลังและหาข้อมูลมาเยอะมาก จนตอนนี้รู้สึกสนใจมากๆครับ เรื่องการ2-3เดือนตอนปิดเทอมผมรับได้ครับ

1. หอพักเป็นยังไงบ้าง นอนกันกี่คนต่อห้อง มีข้อจำกัดหรือกฏอะไรไหมครับ?
2. หอในนี่รวมรุ่นพี่รุ่นน้องหรือเฉพาะรุ่นตัวเองครับ การจะไปอยู่หอนอกได้ต้องเป็นปีไหนขึ้นไป?
3. บรรยากาศการเรียนเพื่อนในห้องเป็นไงบ้างครับ?
5. รุ่นพี่รุ่นน้องสนิทกันจริงไหมครับ? อยู่กันแบบพี่น้องเหมือนในคลิปไหมครับ? ซึ่งถ้าตามคลิปมันหาที่อื่นไม่ได้แล้วมันอบอุ่นมากๆเลยครับ
6. ตอนปี1เทอม2 นักเรียน20คนถูกเลือกทุนทบ. อันนี้เขาเลือกจากหลักเกณฑ์อะไรบ้าง?(ขอแบบละเอียดนะครับ ผมสนใจมากๆ) และได้บรรจุราชการตั้งแต่ตอนที่เลือกหรือบรรจุหลังจบปี6?
7. แล้วคนที่ไม่ได้ถูกคัดเลือกทุนทบ. จบปี6ไป สามารถขอใช้ทุน กองทัพได้ไหม หรือต้องใช้ทุนสธ.สถานเดียว?
8. ในตอนที่ใช้ทุนกองทัพเราสามารถเลือกลงโรงพยาบาลไหม หรือจับฉลากเหมือนทุนสธ.?
9. มีการโยกย้ายโรงพยาบาลบ่อยไหม? 
10. ระหว่างใช้ทุนสามารถเรียนต่อเฉพาะทางได้ไหมครับ?
11. เงินเดือนและค่าต่างๆได้เหมือนสธ.ไหมครับ? สามารถเปิดคลินิกได้รึเปล่า?
12. ตันที่ยศอะไรครับ?
13. ข้อดีและข้อเสียแพทย์ทหารที่พี่ๆสัมผัสครับ

ขอบคุณมากๆเลยครับ ที่พี่ๆกรุณามาตอบ

แสดงความคิดเห็น

>

18 ความคิดเห็น

bfda 18 ต.ค. 65 เวลา 18:01 น. 1-1

หาข้อมูลตั้งแต่เนิ่นๆครับ จะได้ตัดสินใจไวๆ

0
I11uminnati 21 ต.ค. 65 เวลา 14:41 น. 1-2

ถึง จข เม้น หาข้อมูลเพื่อที่จะเลือกน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่หลับหูหลับตาเลือก ส่วนที่ตั้งใจสอบให้ได้คะแนนเยอะๆนี่คือ จข เม้นเคยสอบแล้วคะแนนไม่ถึง?

0
Marcha-marchy 18 ต.ค. 65 เวลา 22:15 น. 2

ระหว่างรอพี่ๆที่เคยเรียนมาตอบ ขออนุญาตแนะนำให้ลองไปดูใน youtube ช่อง Titi Teatime ค่ะ ในคลิปพี่เขาก็มีพูดข้อมูลบ้างนะคะ หรือไม่ก็ลองทักไปใน ig ที่พี่เขาแปะไว้ใน Description ก่อนก็ได้ค่ะ เผื่อได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากในกระทู้นี้ค่า >_<

3
bfda 19 ต.ค. 65 เวลา 00:30 น. 2-1

ขอบคุณมากๆเลยค้าบบบ คือผมก็ไม่รู้จะถามใครเหมือนกัน ก็เลยโพสต์ซะยาวเลย

0
Marcha-marchy 19 ต.ค. 65 เวลา 22:48 น. 2-2

ยินดีค่าา dek67 เหมือนกันค่ะ มีอะไรมาคุยแลกเปลี่ยนกันได้นะคะ

0
นนน 23 ต.ค. 65 เวลา 09:13 น. 3

แพทย์เจ้าของไข้ปัจจุบันเป็นพันเอก


รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า (ของทัพเรือ) แพทย์ที่นั่นก็ติดยศเหมือนกัน แต่ไม่รู้สมัครยังไง

0
แกงฮังเล 23 ต.ค. 65 เวลา 19:01 น. 4

1.หอพักน่าอยู่ครับ ห้องจริงๆก็ไม่ได้ใหญ่มากแต่จัดตู้ เตียงได้เข้ามุมลงตัวครับ จะดูค่อนข้างโล่ง ถ้าเป็นผู้ชายก็ 2 คนต่อห้อง(อาจจะเป็น 3 ได้ถ้าจำนวนผู้ชายในรุ่นเป็นเลขคี่) ส่วนผู้หญิงก็ 2-3 คน ครับ ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมครับ มีห้องอาบน้ำ(มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ด้วยนะ) กฎไม่มีอะไรมากครับ คือผู้ชายอยู่ชั้น 2-3 ผู้หญิงอยู่ชั้น 4-6 ก็ห้ามข้ามชั้นกันแค่นั้นครับ แล้วก็อย่าเอาเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟหนักเข้ามาก็พอครับ(มันจะกระชากไฟหอจนดับน่ะสิ) อันนี้คร่าวๆนะครับ จริงๆน่าจะมีมากกว่านี้

2.รวมครับ จริงๆมีอีกหอนึงที่ให้พี่ปี 4-6 ชายพักด้วยครับ ส่วนหอนอก ถ้าตามกฎจริงๆก็ไม่น่าจะไปอยู่ได้ครับ เพราะที่นี่ก็เป็นลักษณะของรร.ทหารเป็นรร.ประจำครับ ปล่อยกลับบ้าน เข้าหอ เป็นเวลาครับ ปี 2-3 ต้องอยู่ข้างในอย่างเดียวอยู่แล้วครับ แต่สำหรับปี 4-6 ก็อาจจะไปอยู่ได้ครับ(กลับบ้านยังได้เลยแค่มาราววอร์ดให้ตรงเวลาครับ) แต่จริงๆก็ไม่มีใครไปอยู่หรอกครับหอนอก ที่นี่ค่าแอร์ฟรีตั้ง 50 ยูนิต สำหรับทุนสธ. ส่วนอย่างอื่นที่ไม่ใช่ค่าแอร์ พวกค่าน้ำ ค่าไฟฟรีหมดครับ

3.อันนี้ไม่แน่ใจครับ แต่ก็ช่วยกันเรียนแหละครับ ห้องเรียนแอร์เย็น ที่นั่งนุ่มสบายครับ พี่ๆก็ช่วยน้องเต็มที่ แล้วเดี๋ยวนี้เห็นว่าหลักสูตรใหม่ได้ขึ้นวอร์ดไปดูคนไข้ตั้งแต่ปี 2 เลยครับ (ยังไม่ได้แบบสุดๆแบบปี 4-6 นะครับ แต่ก็ได้ไปเจอคนไข้จริงๆแล้ว แบบสัมผัสบรรยากาศบนวอร์ด อะไรงี้ แล้วก็แบบเอาเลือดคนไข้มาทำแลป ได้ยินมาประมาณนี้ครับ)

5.สนิทจริงๆครับ เพราะก็เจอหน้ากันทุกวัน แถมพี่ๆก็คอยดูแลน้องๆเป็นอย่างดี มาหาที่ห้องบ่อยๆ :) คุยเล่น บางทีก็มีของกินมาให้ด้วย น่ารักจริงๆครับ ส่วนพี่ๆที่จบไปแล้ว ก็อยากจะทำความรู้จักน้องๆที่เข้ามาใหม่มากๆเลยด้วยครับ

6.มีเกรดครับ แล้วก็ทดสอบร่างกายเป็นดันพื้น > 32 ครั้งใน 2 นาที ซิทอัพ > 42 ครั้งใน 2 นาที วิ่ง 2 กิโล ใน 11 นาที และว่ายน้ำ 25 เมตร ไม่จับเวลา เอาให้ถึงอีกฝั่งก็พอครับ แล้วก็จะมีแบบทดสอบพวกทัศนคติที่เป็นพวกข้อเขียนมาด้วยครับ ซึ่งปีก่อนๆจะยังไม่มี สำหรับการบรรจุราชการ จะนับอายุราชการตั้งแต่ปี 2 ในกรณีที่ไม่เรียนรด.จนจบปี 3 และขึ้นทะเบียนทหารกองเกินครับ หากจบรด.ปี 3 แล้ว ก็จะนับตั้งแต่จบมาแล้วบรรจุเป็นร้อยตรี(เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงครับ อายุราชการเดี๋ยวมันก็ทันกัน มันมีเวลาทวีคูณอยู่) สำหรับทุนสธ.ก็นับตั้งแต่เป็นร้อยตรีทั้งชายและหญิงครับ

7.ได้ครับ และได้ทั้ง 3 เหล่าทัพเลยครับ(ทุนทบ.บังคับว่าไปทัพบกอย่างเดียวครับ) แต่ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนที่เขาเปิดรับด้วยครับ แต่หากเข้ามาแล้วไม่อยากเป็นทหาร ก็ใช้ทุนสธ.ได้เหมือนกันครับ

8.น่าจะตามคะแนนครับ เกรดเยอะกว่าได้เลือกก่อนครับ

9.ไม่ทราบครับ

10.ได้ครับ แต่ถ้าทุนทบ.ก็ชดใช้ทุน 2 เท่า ตามระยะเวลาที่เรียนครับ

11.น่าจะเหมือนกันครับ ส่วนเรื่องคลินิก ไม่ทราบครับ

12.พลเอก ครับ ถ้ามีตำแหน่งก็พลโทครับ(เจ้ากรมแพทย์ทหารบก)

13.ไม่ทราบครับ ไม่ใช่คนใน ได้รับข้อมูลที่กรองแล้วค่อนข้างถูกต้องมาอีกทีหนึ่งครับ

หากผิดพลาดประการไหน ก็ขออนุญาตพี่ๆนักเรียนแพทย์ทหารตัวจริงให้เข้ามาแก้ไขได้เลยนะครับ ขอบคุณครับ

1
bfda 24 ต.ค. 65 เวลา 14:31 น. 4-1

ขอบคุณมากๆครับ ละเอียดเพียงพอละครับ แต่ดูเหมือนจะตอบซ้ำ5555

0
ไชโป้วผัดไข่ 23 ต.ค. 65 เวลา 19:03 น. 5

1.หอพักน่าอยู่ครับ ห้องจริงๆก็ไม่ได้ใหญ่มากแต่จัดตู้ เตียงได้เข้ามุมลงตัวครับ จะดูค่อนข้างโล่ง ถ้าเป็นผู้ชายก็ 2 คนต่อห้อง(อาจจะเป็น 3 ได้ถ้าจำนวนผู้ชายในรุ่นเป็นเลขคี่) ส่วนผู้หญิงก็ 2-3 คน ครับ ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมครับ มีห้องอาบน้ำ(มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ด้วยนะ) กฎไม่มีอะไรมากครับ คือผู้ชายอยู่ชั้น 2-3 ผู้หญิงอยู่ชั้น 4-6 ก็ห้ามข้ามชั้นกันแค่นั้นครับ แล้วก็อย่าเอาเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟหนักเข้ามาก็พอครับ(มันจะกระชากไฟหอจนดับน่ะสิ) อันนี้คร่าวๆนะครับ จริงๆน่าจะมีมากกว่านี้

2.รวมครับ จริงๆมีอีกหอนึงที่ให้พี่ปี 4-6 ชายพักด้วยครับ ส่วนหอนอก ถ้าตามกฎจริงๆก็ไม่น่าจะไปอยู่ได้ครับ เพราะที่นี่ก็เป็นลักษณะของรร.ทหารเป็นรร.ประจำครับ ปล่อยกลับบ้าน เข้าหอ เป็นเวลาครับ ปี 2-3 ต้องอยู่ข้างในอย่างเดียวอยู่แล้วครับ แต่สำหรับปี 4-6 ก็อาจจะไปอยู่ได้ครับ(กลับบ้านยังได้เลยแค่มาราววอร์ดให้ตรงเวลาครับ) แต่จริงๆก็ไม่มีใครไปอยู่หรอกครับหอนอก ที่นี่ค่าแอร์ฟรีตั้ง 50 ยูนิต สำหรับทุนสธ. ส่วนอย่างอื่นที่ไม่ใช่ค่าแอร์ พวกค่าน้ำ ค่าไฟฟรีหมดครับ

3.อันนี้ไม่แน่ใจครับ แต่ก็ช่วยกันเรียนแหละครับ ห้องเรียนแอร์เย็น ที่นั่งนุ่มสบายครับ พี่ๆก็ช่วยน้องเต็มที่ แล้วเดี๋ยวนี้เห็นว่าหลักสูตรใหม่ได้ขึ้นวอร์ดไปดูคนไข้ตั้งแต่ปี 2 เลยครับ (ยังไม่ได้แบบสุดๆแบบปี 4-6 นะครับ แต่ก็ได้ไปเจอคนไข้จริงๆแล้ว แบบสัมผัสบรรยากาศบนวอร์ด อะไรงี้ แล้วก็แบบเอาเลือดคนไข้มาทำแลป ได้ยินมาประมาณนี้ครับ)

5.สนิทจริงๆครับ เพราะก็เจอหน้ากันทุกวัน แถมพี่ๆก็คอยดูแลน้องๆเป็นอย่างดี มาหาที่ห้องบ่อยๆ :) คุยเล่น บางทีก็มีของกินมาให้ด้วย น่ารักจริงๆครับ ส่วนพี่ๆที่จบไปแล้ว ก็อยากจะทำความรู้จักน้องๆที่เข้ามาใหม่มากๆเลยด้วยครับ

6.มีเกรดครับ แล้วก็ทดสอบร่างกายเป็นดันพื้น > 32 ครั้งใน 2 นาที ซิทอัพ > 42 ครั้งใน 2 นาที วิ่ง 2 กิโล ใน 11 นาที และว่ายน้ำ 25 เมตร ไม่จับเวลา เอาให้ถึงอีกฝั่งก็พอครับ แล้วก็จะมีแบบทดสอบพวกทัศนคติที่เป็นพวกข้อเขียนมาด้วยครับ ซึ่งปีก่อนๆจะยังไม่มี สำหรับการบรรจุราชการ จะนับอายุราชการตั้งแต่ปี 2 ในกรณีที่ไม่เรียนรด.จนจบปี 3 และขึ้นทะเบียนทหารกองเกินครับ หากจบรด.ปี 3 แล้ว ก็จะนับตั้งแต่จบมาแล้วบรรจุเป็นร้อยตรี(เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงครับ อายุราชการเดี๋ยวมันก็ทันกัน มันมีเวลาทวีคูณอยู่) สำหรับทุนสธ.ก็นับตั้งแต่เป็นร้อยตรีทั้งชายและหญิงครับ

7.ได้ครับ และได้ทั้ง 3 เหล่าทัพเลยครับ(ทุนทบ.บังคับว่าไปทัพบกอย่างเดียวครับ) แต่ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนที่เขาเปิดรับด้วยครับ แต่หากเข้ามาแล้วไม่อยากเป็นทหาร ก็ใช้ทุนสธ.ได้เหมือนกันครับ

8.น่าจะตามคะแนนครับ เกรดเยอะกว่าได้เลือกก่อนครับ

9.ไม่ทราบครับ

10.ได้ครับ แต่ถ้าทุนทบ.ก็ชดใช้ทุน 2 เท่า ตามระยะเวลาที่เรียนครับ

11.น่าจะเหมือนกันครับ ส่วนเรื่องคลินิก ไม่ทราบครับ

12.พลเอก ครับ ถ้ามีตำแหน่งก็พลโทครับ(เจ้ากรมแพทย์ทหารบก)

13.ไม่ทราบครับ ไม่ใช่คนใน ได้รับข้อมูลที่กรองแล้วค่อนข้างถูกต้องมาอีกทีหนึ่งครับ

หากผิดพลาดประการไหน ก็ขออนุญาตพี่ๆนักเรียนแพทย์ทหารตัวจริงให้เข้ามาแก้ไขได้เลยนะครับ ขอบคุณครับ

0
โคมไฟหน้าระเบียง 23 ต.ค. 65 เวลา 19:11 น. 6

1.หอพักน่าอยู่ครับ ห้องจริงๆก็ไม่ได้ใหญ่มากแต่จัดตู้ เตียงได้เข้ามุมลงตัวครับ จะดูค่อนข้างโล่ง ถ้าเป็นผู้ชายก็ 2 คนต่อห้อง(อาจจะเป็น 3 ได้ถ้าจำนวนผู้ชายในรุ่นเป็นเลขคี่) ส่วนผู้หญิงก็ 2-3 คน ครับ ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมครับ มีห้องอาบน้ำ(มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ด้วยนะ) กฎไม่มีอะไรมากครับ คือผู้ชายอยู่ชั้น 2-3 ผู้หญิงอยู่ชั้น 4-6 ก็ห้ามข้ามชั้นกันแค่นั้นครับ แล้วก็อย่าเอาเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟหนักเข้ามาก็พอครับ(มันจะกระชากไฟหอจนดับน่ะสิ) อันนี้คร่าวๆนะครับ จริงๆน่าจะมีมากกว่านี้

2.รวมครับ จริงๆมีอีกหอนึงที่ให้พี่ปี 4-6 ชายพักด้วยครับ ส่วนหอนอก ถ้าตามกฎจริงๆก็ไม่น่าจะไปอยู่ได้ครับ เพราะที่นี่ก็เป็นลักษณะของรร.ทหารเป็นรร.ประจำครับ ปล่อยกลับบ้าน เข้าหอ เป็นเวลาครับ ปี 2-3 ต้องอยู่ข้างในอย่างเดียวอยู่แล้วครับ แต่สำหรับปี 4-6 ก็อาจจะไปอยู่ได้ครับ(กลับบ้านยังได้เลยแค่มาราววอร์ดให้ตรงเวลาครับ) แต่จริงๆก็ไม่มีใครไปอยู่หรอกครับหอนอก ที่นี่ค่าแอร์ฟรีตั้ง 50 ยูนิต สำหรับทุนสธ. ส่วนอย่างอื่นที่ไม่ใช่ค่าแอร์ พวกค่าน้ำ ค่าไฟฟรีหมดครับ

3.อันนี้ไม่แน่ใจครับ แต่ก็ช่วยกันเรียนแหละครับ ห้องเรียนแอร์เย็น ที่นั่งนุ่มสบายครับ พี่ๆก็ช่วยน้องเต็มที่ แล้วเดี๋ยวนี้เห็นว่าหลักสูตรใหม่ได้ขึ้นวอร์ดไปดูคนไข้ตั้งแต่ปี 2 เลยครับ (ยังไม่ได้แบบสุดๆแบบปี 4-6 นะครับ แต่ก็ได้ไปเจอคนไข้จริงๆแล้ว แบบสัมผัสบรรยากาศบนวอร์ด อะไรงี้ แล้วก็แบบเอาเลือดคนไข้มาทำแลป ได้ยินมาประมาณนี้ครับ)

5.สนิทจริงๆครับ เพราะก็เจอหน้ากันทุกวัน แถมพี่ๆก็คอยดูแลน้องๆเป็นอย่างดี มาหาที่ห้องบ่อยๆ :) คุยเล่น บางทีก็มีของกินมาให้ด้วย น่ารักจริงๆครับ ส่วนพี่ๆที่จบไปแล้ว ก็อยากจะทำความรู้จักน้องๆที่เข้ามาใหม่มากๆเลยด้วยครับ

6.มีเกรดครับ แล้วก็ทดสอบร่างกายเป็นดันพื้น > 32 ครั้งใน 2 นาที ซิทอัพ > 42 ครั้งใน 2 นาที วิ่ง 2 กิโล ใน 11 นาที และว่ายน้ำ 25 เมตร ไม่จับเวลา เอาให้ถึงอีกฝั่งก็พอครับ แล้วก็จะมีแบบทดสอบพวกทัศนคติที่เป็นพวกข้อเขียนมาด้วยครับ ซึ่งปีก่อนๆจะยังไม่มี สำหรับการบรรจุราชการ จะนับอายุราชการตั้งแต่ปี 2 ในกรณีที่ไม่เรียนรด.จนจบปี 3 และขึ้นทะเบียนทหารกองเกินครับ หากจบรด.ปี 3 แล้ว ก็จะนับตั้งแต่จบมาแล้วบรรจุเป็นร้อยตรี(เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงครับ อายุราชการเดี๋ยวมันก็ทันกัน มันมีเวลาทวีคูณอยู่) สำหรับทุนสธ.ก็นับตั้งแต่เป็นร้อยตรีทั้งชายและหญิงครับ

7.ได้ครับ และได้ทั้ง 3 เหล่าทัพเลยครับ(ทุนทบ.บังคับว่าไปทัพบกอย่างเดียวครับ) แต่ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนที่เขาเปิดรับด้วยครับ แต่หากเข้ามาแล้วไม่อยากเป็นทหาร ก็ใช้ทุนสธ.ได้เหมือนกันครับ

8.น่าจะตามคะแนนครับ เกรดเยอะกว่าได้เลือกก่อนครับ

9.ไม่ทราบครับ

10.ได้ครับ แต่ถ้าทุนทบ.ก็ชดใช้ทุน 2 เท่า ตามระยะเวลาที่เรียนครับ

11.น่าจะเหมือนกันครับ ส่วนเรื่องคลินิก ไม่ทราบครับ

12.พลเอก ครับ ถ้ามีตำแหน่งก็พลโทครับ(เจ้ากรมแพทย์ทหารบก)

13.ไม่ทราบครับ ไม่ใช่คนใน ได้รับข้อมูลที่กรองแล้วค่อนข้างถูกต้องมาอีกทีหนึ่งครับ

หากผิดพลาดประการไหน ก็ขออนุญาตพี่ๆนักเรียนแพทย์ทหารตัวจริงให้เข้ามาแก้ไขได้เลยนะครับ ขอบคุณครับ

0
โคมไฟหน้าระเบียง 23 ต.ค. 65 เวลา 19:12 น. 7

1.หอพักน่าอยู่ครับ ห้องจริงๆก็ไม่ได้ใหญ่มากแต่จัดตู้ เตียงได้เข้ามุมลงตัวครับ จะดูค่อนข้างโล่ง ถ้าเป็นผู้ชายก็ 2 คนต่อห้อง(อาจจะเป็น 3 ได้ถ้าจำนวนผู้ชายในรุ่นเป็นเลขคี่) ส่วนผู้หญิงก็ 2-3 คน ครับ ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมครับ มีห้องอาบน้ำ(มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ด้วยนะ) กฎไม่มีอะไรมากครับ คือผู้ชายอยู่ชั้น 2-3 ผู้หญิงอยู่ชั้น 4-6 ก็ห้ามข้ามชั้นกันแค่นั้นครับ แล้วก็อย่าเอาเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟหนักเข้ามาก็พอครับ(มันจะกระชากไฟหอจนดับน่ะสิ) อันนี้คร่าวๆนะครับ จริงๆน่าจะมีมากกว่านี้

2.รวมครับ จริงๆมีอีกหอนึงที่ให้พี่ปี 4-6 ชายพักด้วยครับ ส่วนหอนอก ถ้าตามกฎจริงๆก็ไม่น่าจะไปอยู่ได้ครับ เพราะที่นี่ก็เป็นลักษณะของรร.ทหารเป็นรร.ประจำครับ ปล่อยกลับบ้าน เข้าหอ เป็นเวลาครับ ปี 2-3 ต้องอยู่ข้างในอย่างเดียวอยู่แล้วครับ แต่สำหรับปี 4-6 ก็อาจจะไปอยู่ได้ครับ(กลับบ้านยังได้เลยแค่มาราววอร์ดให้ตรงเวลาครับ) แต่จริงๆก็ไม่มีใครไปอยู่หรอกครับหอนอก ที่นี่ค่าแอร์ฟรีตั้ง 50 ยูนิต สำหรับทุนสธ. ส่วนอย่างอื่นที่ไม่ใช่ค่าแอร์ พวกค่าน้ำ ค่าไฟฟรีหมดครับ

3.อันนี้ไม่แน่ใจครับ แต่ก็ช่วยกันเรียนแหละครับ ห้องเรียนแอร์เย็น ที่นั่งนุ่มสบายครับ พี่ๆก็ช่วยน้องเต็มที่ แล้วเดี๋ยวนี้เห็นว่าหลักสูตรใหม่ได้ขึ้นวอร์ดไปดูคนไข้ตั้งแต่ปี 2 เลยครับ (ยังไม่ได้แบบสุดๆแบบปี 4-6 นะครับ แต่ก็ได้ไปเจอคนไข้จริงๆแล้ว แบบสัมผัสบรรยากาศบนวอร์ด อะไรงี้ แล้วก็แบบเอาเลือดคนไข้มาทำแลป ได้ยินมาประมาณนี้ครับ)

5.สนิทจริงๆครับ เพราะก็เจอหน้ากันทุกวัน แถมพี่ๆก็คอยดูแลน้องๆเป็นอย่างดี มาหาที่ห้องบ่อยๆ :) คุยเล่น บางทีก็มีของกินมาให้ด้วย น่ารักจริงๆครับ ส่วนพี่ๆที่จบไปแล้ว ก็อยากจะทำความรู้จักน้องๆที่เข้ามาใหม่มากๆเลยด้วยครับ

6.มีเกรดครับ แล้วก็ทดสอบร่างกายเป็นดันพื้น > 32 ครั้งใน 2 นาที ซิทอัพ > 42 ครั้งใน 2 นาที วิ่ง 2 กิโล ใน 11 นาที และว่ายน้ำ 25 เมตร ไม่จับเวลา เอาให้ถึงอีกฝั่งก็พอครับ แล้วก็จะมีแบบทดสอบพวกทัศนคติที่เป็นพวกข้อเขียนมาด้วยครับ ซึ่งปีก่อนๆจะยังไม่มี สำหรับการบรรจุราชการ จะนับอายุราชการตั้งแต่ปี 2 ในกรณีที่ไม่เรียนรด.จนจบปี 3 และขึ้นทะเบียนทหารกองเกินครับ หากจบรด.ปี 3 แล้ว ก็จะนับตั้งแต่จบมาแล้วบรรจุเป็นร้อยตรี(เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงครับ อายุราชการเดี๋ยวมันก็ทันกัน มันมีเวลาทวีคูณอยู่) สำหรับทุนสธ.ก็นับตั้งแต่เป็นร้อยตรีทั้งชายและหญิงครับ

7.ได้ครับ และได้ทั้ง 3 เหล่าทัพเลยครับ(ทุนทบ.บังคับว่าไปทัพบกอย่างเดียวครับ) แต่ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนที่เขาเปิดรับด้วยครับ แต่หากเข้ามาแล้วไม่อยากเป็นทหาร ก็ใช้ทุนสธ.ได้เหมือนกันครับ

8.น่าจะตามคะแนนครับ เกรดเยอะกว่าได้เลือกก่อนครับ

9.ไม่ทราบครับ

10.ได้ครับ แต่ถ้าทุนทบ.ก็ชดใช้ทุน 2 เท่า ตามระยะเวลาที่เรียนครับ

11.น่าจะเหมือนกันครับ ส่วนเรื่องคลินิก ไม่ทราบครับ

12.พลเอก ครับ ถ้ามีตำแหน่งก็พลโทครับ(เจ้ากรมแพทย์ทหารบก)

13.ไม่ทราบครับ ไม่ใช่คนใน ได้รับข้อมูลที่กรองแล้วค่อนข้างถูกต้องมาอีกทีหนึ่งครับ

หากผิดพลาดประการไหน ก็ขออนุญาตพี่ๆนักเรียนแพทย์ทหารตัวจริงให้เข้ามาแก้ไขได้เลยนะครับ ขอบคุณครับ

0
โคมไฟหน้าระเบียง 23 ต.ค. 65 เวลา 19:12 น. 8

1.หอพักน่าอยู่ครับ ห้องจริงๆก็ไม่ได้ใหญ่มากแต่จัดตู้ เตียงได้เข้ามุมลงตัวครับ จะดูค่อนข้างโล่ง ถ้าเป็นผู้ชายก็ 2 คนต่อห้อง(อาจจะเป็น 3 ได้ถ้าจำนวนผู้ชายในรุ่นเป็นเลขคี่) ส่วนผู้หญิงก็ 2-3 คน ครับ ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมครับ มีห้องอาบน้ำ(มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ด้วยนะ) กฎไม่มีอะไรมากครับ คือผู้ชายอยู่ชั้น 2-3 ผู้หญิงอยู่ชั้น 4-6 ก็ห้ามข้ามชั้นกันแค่นั้นครับ แล้วก็อย่าเอาเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟหนักเข้ามาก็พอครับ(มันจะกระชากไฟหอจนดับน่ะสิ) อันนี้คร่าวๆนะครับ จริงๆน่าจะมีมากกว่านี้

2.รวมครับ จริงๆมีอีกหอนึงที่ให้พี่ปี 4-6 ชายพักด้วยครับ ส่วนหอนอก ถ้าตามกฎจริงๆก็ไม่น่าจะไปอยู่ได้ครับ เพราะที่นี่ก็เป็นลักษณะของรร.ทหารเป็นรร.ประจำครับ ปล่อยกลับบ้าน เข้าหอ เป็นเวลาครับ ปี 2-3 ต้องอยู่ข้างในอย่างเดียวอยู่แล้วครับ แต่สำหรับปี 4-6 ก็อาจจะไปอยู่ได้ครับ(กลับบ้านยังได้เลยแค่มาราววอร์ดให้ตรงเวลาครับ) แต่จริงๆก็ไม่มีใครไปอยู่หรอกครับหอนอก ที่นี่ค่าแอร์ฟรีตั้ง 50 ยูนิต สำหรับทุนสธ. ส่วนอย่างอื่นที่ไม่ใช่ค่าแอร์ พวกค่าน้ำ ค่าไฟฟรีหมดครับ

3.อันนี้ไม่แน่ใจครับ แต่ก็ช่วยกันเรียนแหละครับ ห้องเรียนแอร์เย็น ที่นั่งนุ่มสบายครับ พี่ๆก็ช่วยน้องเต็มที่ แล้วเดี๋ยวนี้เห็นว่าหลักสูตรใหม่ได้ขึ้นวอร์ดไปดูคนไข้ตั้งแต่ปี 2 เลยครับ (ยังไม่ได้แบบสุดๆแบบปี 4-6 นะครับ แต่ก็ได้ไปเจอคนไข้จริงๆแล้ว แบบสัมผัสบรรยากาศบนวอร์ด อะไรงี้ แล้วก็แบบเอาเลือดคนไข้มาทำแลป ได้ยินมาประมาณนี้ครับ)

5.สนิทจริงๆครับ เพราะก็เจอหน้ากันทุกวัน แถมพี่ๆก็คอยดูแลน้องๆเป็นอย่างดี มาหาที่ห้องบ่อยๆ :) คุยเล่น บางทีก็มีของกินมาให้ด้วย น่ารักจริงๆครับ ส่วนพี่ๆที่จบไปแล้ว ก็อยากจะทำความรู้จักน้องๆที่เข้ามาใหม่มากๆเลยด้วยครับ

6.มีเกรดครับ แล้วก็ทดสอบร่างกายเป็นดันพื้น > 32 ครั้งใน 2 นาที ซิทอัพ > 42 ครั้งใน 2 นาที วิ่ง 2 กิโล ใน 11 นาที และว่ายน้ำ 25 เมตร ไม่จับเวลา เอาให้ถึงอีกฝั่งก็พอครับ แล้วก็จะมีแบบทดสอบพวกทัศนคติที่เป็นพวกข้อเขียนมาด้วยครับ ซึ่งปีก่อนๆจะยังไม่มี สำหรับการบรรจุราชการ จะนับอายุราชการตั้งแต่ปี 2 ในกรณีที่ไม่เรียนรด.จนจบปี 3 และขึ้นทะเบียนทหารกองเกินครับ หากจบรด.ปี 3 แล้ว ก็จะนับตั้งแต่จบมาแล้วบรรจุเป็นร้อยตรี(เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงครับ อายุราชการเดี๋ยวมันก็ทันกัน มันมีเวลาทวีคูณอยู่) สำหรับทุนสธ.ก็นับตั้งแต่เป็นร้อยตรีทั้งชายและหญิงครับ

7.ได้ครับ และได้ทั้ง 3 เหล่าทัพเลยครับ(ทุนทบ.บังคับว่าไปทัพบกอย่างเดียวครับ) แต่ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนที่เขาเปิดรับด้วยครับ แต่หากเข้ามาแล้วไม่อยากเป็นทหาร ก็ใช้ทุนสธ.ได้เหมือนกันครับ

8.น่าจะตามคะแนนครับ เกรดเยอะกว่าได้เลือกก่อนครับ

9.ไม่ทราบครับ

10.ได้ครับ แต่ถ้าทุนทบ.ก็ชดใช้ทุน 2 เท่า ตามระยะเวลาที่เรียนครับ

11.น่าจะเหมือนกันครับ ส่วนเรื่องคลินิก ไม่ทราบครับ

12.พลเอก ครับ ถ้ามีตำแหน่งก็พลโทครับ(เจ้ากรมแพทย์ทหารบก)

13.ไม่ทราบครับ ไม่ใช่คนใน ได้รับข้อมูลที่กรองแล้วค่อนข้างถูกต้องมาอีกทีหนึ่งครับ

หากผิดพลาดประการไหน ก็ขออนุญาตพี่ๆนักเรียนแพทย์ทหารตัวจริงให้เข้ามาแก้ไขได้เลยนะครับ ขอบคุณครับ

0
นกน้อยในกรงทอง 23 ต.ค. 65 เวลา 19:20 น. 9

1.หอพักน่าอยู่ครับ ห้องจริงๆก็ไม่ได้ใหญ่มากแต่จัดตู้ เตียงได้เข้ามุมลงตัวครับ จะดูค่อนข้างโล่ง ถ้าเป็นผู้ชายก็ 2 คนต่อห้อง(อาจจะเป็น 3 ได้ถ้าจำนวนผู้ชายในรุ่นเป็นเลขคี่) ส่วนผู้หญิงก็ 2-3 คน ครับ ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมครับ มีห้องอาบน้ำ(มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ด้วยนะ) กฎไม่มีอะไรมากครับ คือผู้ชายอยู่ชั้น 2-3 ผู้หญิงอยู่ชั้น 4-6 ก็ห้ามข้ามชั้นกันแค่นั้นครับ แล้วก็อย่าเอาเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟหนักเข้ามาก็พอครับ(มันจะกระชากไฟหอจนดับน่ะสิ) อันนี้คร่าวๆนะครับ จริงๆน่าจะมีมากกว่านี้

2.รวมครับ จริงๆมีอีกหอนึงที่ให้พี่ปี 4-6 ชายพักด้วยครับ ส่วนหอนอก ถ้าตามกฎจริงๆก็ไม่น่าจะไปอยู่ได้ครับ เพราะที่นี่ก็เป็นลักษณะของรร.ทหารเป็นรร.ประจำครับ ปล่อยกลับบ้าน เข้าหอ เป็นเวลาครับ ปี 2-3 ต้องอยู่ข้างในอย่างเดียวอยู่แล้วครับ แต่สำหรับปี 4-6 ก็อาจจะไปอยู่ได้ครับ(กลับบ้านยังได้เลยแค่มาราววอร์ดให้ตรงเวลาครับ) แต่จริงๆก็ไม่มีใครไปอยู่หรอกครับหอนอก ที่นี่ค่าแอร์ฟรีตั้ง 50 ยูนิต สำหรับทุนสธ. ส่วนอย่างอื่นที่ไม่ใช่ค่าแอร์ พวกค่าน้ำ ค่าไฟฟรีหมดครับ

3.อันนี้ไม่แน่ใจครับ แต่ก็ช่วยกันเรียนแหละครับ ห้องเรียนแอร์เย็น ที่นั่งนุ่มสบายครับ พี่ๆก็ช่วยน้องเต็มที่ แล้วเดี๋ยวนี้เห็นว่าหลักสูตรใหม่ได้ขึ้นวอร์ดไปดูคนไข้ตั้งแต่ปี 2 เลยครับ (ยังไม่ได้แบบสุดๆแบบปี 4-6 นะครับ แต่ก็ได้ไปเจอคนไข้จริงๆแล้ว แบบสัมผัสบรรยากาศบนวอร์ด อะไรงี้ แล้วก็แบบเอาเลือดคนไข้มาทำแลป ได้ยินมาประมาณนี้ครับ)

5.สนิทจริงๆครับ เพราะก็เจอหน้ากันทุกวัน แถมพี่ๆก็คอยดูแลน้องๆเป็นอย่างดี มาหาที่ห้องบ่อยๆ :) คุยเล่น บางทีก็มีของกินมาให้ด้วย น่ารักจริงๆครับ ส่วนพี่ๆที่จบไปแล้ว ก็อยากจะทำความรู้จักน้องๆที่เข้ามาใหม่มากๆเลยด้วยครับ

6.มีเกรดครับ แล้วก็ทดสอบร่างกายเป็นดันพื้น > 32 ครั้งใน 2 นาที ซิทอัพ > 42 ครั้งใน 2 นาที วิ่ง 2 กิโล ใน 11 นาที และว่ายน้ำ 25 เมตร ไม่จับเวลา เอาให้ถึงอีกฝั่งก็พอครับ แล้วก็จะมีแบบทดสอบพวกทัศนคติที่เป็นพวกข้อเขียนมาด้วยครับ ซึ่งปีก่อนๆจะยังไม่มี สำหรับการบรรจุราชการ จะนับอายุราชการตั้งแต่ปี 2 ในกรณีที่ไม่เรียนรด.จนจบปี 3 และขึ้นทะเบียนทหารกองเกินครับ หากจบรด.ปี 3 แล้ว ก็จะนับตั้งแต่จบมาแล้วบรรจุเป็นร้อยตรี(เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงครับ อายุราชการเดี๋ยวมันก็ทันกัน มันมีเวลาทวีคูณอยู่) สำหรับทุนสธ.ก็นับตั้งแต่เป็นร้อยตรีทั้งชายและหญิงครับ

7.ได้ครับ และได้ทั้ง 3 เหล่าทัพเลยครับ(ทุนทบ.บังคับว่าไปทัพบกอย่างเดียวครับ) แต่ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนที่เขาเปิดรับด้วยครับ แต่หากเข้ามาแล้วไม่อยากเป็นทหาร ก็ใช้ทุนสธ.ได้เหมือนกันครับ

8.น่าจะตามคะแนนครับ เกรดเยอะกว่าได้เลือกก่อนครับ

9.ไม่ทราบครับ

10.ได้ครับ แต่ถ้าทุนทบ.ก็ชดใช้ทุน 2 เท่า ตามระยะเวลาที่เรียนครับ

11.น่าจะเหมือนกันครับ ส่วนเรื่องคลินิก ไม่ทราบครับ

12.พลเอก ครับ ถ้ามีตำแหน่งก็พลโทครับ(เจ้ากรมแพทย์ทหารบก)

13.ไม่ทราบครับ ไม่ใช่คนใน ได้รับข้อมูลที่กรองแล้วค่อนข้างถูกต้องมาอีกทีหนึ่งครับ

หากผิดพลาดประการไหน ก็ขออนุญาตพี่ๆนักเรียนแพทย์ทหารตัวจริงให้เข้ามาแก้ไขได้เลยนะครับ ขอบคุณครับ

0
Aududcnudcnusxn 23 ต.ค. 65 เวลา 19:20 น. 10

1.หอพักน่าอยู่ครับ ห้องจริงๆก็ไม่ได้ใหญ่มากแต่จัดตู้ เตียงได้เข้ามุมลงตัวครับ จะดูค่อนข้างโล่ง ถ้าเป็นผู้ชายก็ 2 คนต่อห้อง(อาจจะเป็น 3 ได้ถ้าจำนวนผู้ชายในรุ่นเป็นเลขคี่) ส่วนผู้หญิงก็ 2-3 คน ครับ ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมครับ มีห้องอาบน้ำ(มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ด้วยนะ) กฎไม่มีอะไรมากครับ คือผู้ชายอยู่ชั้น 2-3 ผู้หญิงอยู่ชั้น 4-6 ก็ห้ามข้ามชั้นกันแค่นั้นครับ แล้วก็อย่าเอาเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟหนักเข้ามาก็พอครับ(มันจะกระชากไฟหอจนดับน่ะสิ) อันนี้คร่าวๆนะครับ จริงๆน่าจะมีมากกว่านี้

2.รวมครับ จริงๆมีอีกหอนึงที่ให้พี่ปี 4-6 ชายพักด้วยครับ ส่วนหอนอก ถ้าตามกฎจริงๆก็ไม่น่าจะไปอยู่ได้ครับ เพราะที่นี่ก็เป็นลักษณะของรร.ทหารเป็นรร.ประจำครับ ปล่อยกลับบ้าน เข้าหอ เป็นเวลาครับ ปี 2-3 ต้องอยู่ข้างในอย่างเดียวอยู่แล้วครับ แต่สำหรับปี 4-6 ก็อาจจะไปอยู่ได้ครับ(กลับบ้านยังได้เลยแค่มาราววอร์ดให้ตรงเวลาครับ) แต่จริงๆก็ไม่มีใครไปอยู่หรอกครับหอนอก ที่นี่ค่าแอร์ฟรีตั้ง 50 ยูนิต สำหรับทุนสธ. ส่วนอย่างอื่นที่ไม่ใช่ค่าแอร์ พวกค่าน้ำ ค่าไฟฟรีหมดครับ

3.อันนี้ไม่แน่ใจครับ แต่ก็ช่วยกันเรียนแหละครับ ห้องเรียนแอร์เย็น ที่นั่งนุ่มสบายครับ พี่ๆก็ช่วยน้องเต็มที่ แล้วเดี๋ยวนี้เห็นว่าหลักสูตรใหม่ได้ขึ้นวอร์ดไปดูคนไข้ตั้งแต่ปี 2 เลยครับ (ยังไม่ได้แบบสุดๆแบบปี 4-6 นะครับ แต่ก็ได้ไปเจอคนไข้จริงๆแล้ว แบบสัมผัสบรรยากาศบนวอร์ด อะไรงี้ แล้วก็แบบเอาเลือดคนไข้มาทำแลป ได้ยินมาประมาณนี้ครับ)

5.สนิทจริงๆครับ เพราะก็เจอหน้ากันทุกวัน แถมพี่ๆก็คอยดูแลน้องๆเป็นอย่างดี มาหาที่ห้องบ่อยๆ :) คุยเล่น บางทีก็มีของกินมาให้ด้วย น่ารักจริงๆครับ ส่วนพี่ๆที่จบไปแล้ว ก็อยากจะทำความรู้จักน้องๆที่เข้ามาใหม่มากๆเลยด้วยครับ

6.มีเกรดครับ แล้วก็ทดสอบร่างกายเป็นดันพื้น > 32 ครั้งใน 2 นาที ซิทอัพ > 42 ครั้งใน 2 นาที วิ่ง 2 กิโล ใน 11 นาที และว่ายน้ำ 25 เมตร ไม่จับเวลา เอาให้ถึงอีกฝั่งก็พอครับ แล้วก็จะมีแบบทดสอบพวกทัศนคติที่เป็นพวกข้อเขียนมาด้วยครับ ซึ่งปีก่อนๆจะยังไม่มี สำหรับการบรรจุราชการ จะนับอายุราชการตั้งแต่ปี 2 ในกรณีที่ไม่เรียนรด.จนจบปี 3 และขึ้นทะเบียนทหารกองเกินครับ หากจบรด.ปี 3 แล้ว ก็จะนับตั้งแต่จบมาแล้วบรรจุเป็นร้อยตรี(เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงครับ อายุราชการเดี๋ยวมันก็ทันกัน มันมีเวลาทวีคูณอยู่) สำหรับทุนสธ.ก็นับตั้งแต่เป็นร้อยตรีทั้งชายและหญิงครับ

7.ได้ครับ และได้ทั้ง 3 เหล่าทัพเลยครับ(ทุนทบ.บังคับว่าไปทัพบกอย่างเดียวครับ) แต่ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนที่เขาเปิดรับด้วยครับ แต่หากเข้ามาแล้วไม่อยากเป็นทหาร ก็ใช้ทุนสธ.ได้เหมือนกันครับ

8.น่าจะตามคะแนนครับ เกรดเยอะกว่าได้เลือกก่อนครับ

9.ไม่ทราบครับ

10.ได้ครับ แต่ถ้าทุนทบ.ก็ชดใช้ทุน 2 เท่า ตามระยะเวลาที่เรียนครับ

11.น่าจะเหมือนกันครับ ส่วนเรื่องคลินิก ไม่ทราบครับ

12.พลเอก ครับ ถ้ามีตำแหน่งก็พลโทครับ(เจ้ากรมแพทย์ทหารบก)

13.ไม่ทราบครับ ไม่ใช่คนใน ได้รับข้อมูลที่กรองแล้วค่อนข้างถูกต้องมาอีกทีหนึ่งครับ

หากผิดพลาดประการไหน ก็ขออนุญาตพี่ๆนักเรียนแพทย์ทหารตัวจริงให้เข้ามาแก้ไขได้เลยนะครับ ขอบคุณครับ

0
นกน้อยในกรงทอง 23 ต.ค. 65 เวลา 19:23 น. 11

1.หอพักน่าอยู่ครับ ห้องจริงๆก็ไม่ได้ใหญ่มากแต่จัดตู้ เตียงได้เข้ามุมลงตัวครับ จะดูค่อนข้างโล่ง ถ้าเป็นผู้ชายก็ 2 คนต่อห้อง(อาจจะเป็น 3 ได้ถ้าจำนวนผู้ชายในรุ่นเป็นเลขคี่) ส่วนผู้หญิงก็ 2-3 คน ครับ ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมครับ มีห้องอาบน้ำ(มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ด้วยนะ) กฎไม่มีอะไรมากครับ คือผู้ชายอยู่ชั้น 2-3 ผู้หญิงอยู่ชั้น 4-6 ก็ห้ามข้ามชั้นกันแค่นั้นครับ แล้วก็อย่าเอาเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟหนักเข้ามาก็พอครับ(มันจะกระชากไฟหอจนดับน่ะสิ) อันนี้คร่าวๆนะครับ จริงๆน่าจะมีมากกว่านี้

2.รวมครับ จริงๆมีอีกหอนึงที่ให้พี่ปี 4-6 ชายพักด้วยครับ ส่วนหอนอก ถ้าตามกฎจริงๆก็ไม่น่าจะไปอยู่ได้ครับ เพราะที่นี่ก็เป็นลักษณะของรร.ทหารเป็นรร.ประจำครับ ปล่อยกลับบ้าน เข้าหอ เป็นเวลาครับ ปี 2-3 ต้องอยู่ข้างในอย่างเดียวอยู่แล้วครับ แต่สำหรับปี 4-6 ก็อาจจะไปอยู่ได้ครับ(กลับบ้านยังได้เลยแค่มาราววอร์ดให้ตรงเวลาครับ) แต่จริงๆก็ไม่มีใครไปอยู่หรอกครับหอนอก ที่นี่ค่าแอร์ฟรีตั้ง 50 ยูนิต สำหรับทุนสธ. ส่วนอย่างอื่นที่ไม่ใช่ค่าแอร์ พวกค่าน้ำ ค่าไฟฟรีหมดครับ

3.อันนี้ไม่แน่ใจครับ แต่ก็ช่วยกันเรียนแหละครับ ห้องเรียนแอร์เย็น ที่นั่งนุ่มสบายครับ พี่ๆก็ช่วยน้องเต็มที่ แล้วเดี๋ยวนี้เห็นว่าหลักสูตรใหม่ได้ขึ้นวอร์ดไปดูคนไข้ตั้งแต่ปี 2 เลยครับ (ยังไม่ได้แบบสุดๆแบบปี 4-6 นะครับ แต่ก็ได้ไปเจอคนไข้จริงๆแล้ว แบบสัมผัสบรรยากาศบนวอร์ด อะไรงี้ แล้วก็แบบเอาเลือดคนไข้มาทำแลป ได้ยินมาประมาณนี้ครับ)

5.สนิทจริงๆครับ เพราะก็เจอหน้ากันทุกวัน แถมพี่ๆก็คอยดูแลน้องๆเป็นอย่างดี มาหาที่ห้องบ่อยๆ :) คุยเล่น บางทีก็มีของกินมาให้ด้วย น่ารักจริงๆครับ ส่วนพี่ๆที่จบไปแล้ว ก็อยากจะทำความรู้จักน้องๆที่เข้ามาใหม่มากๆเลยด้วยครับ

6.มีเกรดครับ แล้วก็ทดสอบร่างกายเป็นดันพื้น > 32 ครั้งใน 2 นาที ซิทอัพ > 42 ครั้งใน 2 นาที วิ่ง 2 กิโล ใน 11 นาที และว่ายน้ำ 25 เมตร ไม่จับเวลา เอาให้ถึงอีกฝั่งก็พอครับ แล้วก็จะมีแบบทดสอบพวกทัศนคติที่เป็นพวกข้อเขียนมาด้วยครับ ซึ่งปีก่อนๆจะยังไม่มี สำหรับการบรรจุราชการ จะนับอายุราชการตั้งแต่ปี 2 ในกรณีที่ไม่เรียนรด.จนจบปี 3 และขึ้นทะเบียนทหารกองเกินครับ หากจบรด.ปี 3 แล้ว ก็จะนับตั้งแต่จบมาแล้วบรรจุเป็นร้อยตรี(เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงครับ อายุราชการเดี๋ยวมันก็ทันกัน มันมีเวลาทวีคูณอยู่) สำหรับทุนสธ.ก็นับตั้งแต่เป็นร้อยตรีทั้งชายและหญิงครับ

7.ได้ครับ และได้ทั้ง 3 เหล่าทัพเลยครับ(ทุนทบ.บังคับว่าไปทัพบกอย่างเดียวครับ) แต่ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนที่เขาเปิดรับด้วยครับ แต่หากเข้ามาแล้วไม่อยากเป็นทหาร ก็ใช้ทุนสธ.ได้เหมือนกันครับ

8.น่าจะตามคะแนนครับ เกรดเยอะกว่าได้เลือกก่อนครับ

9.ไม่ทราบครับ

10.ได้ครับ แต่ถ้าทุนทบ.ก็ชดใช้ทุน 2 เท่า ตามระยะเวลาที่เรียนครับ

11.น่าจะเหมือนกันครับ ส่วนเรื่องคลินิก ไม่ทราบครับ

12.พลเอก ครับ ถ้ามีตำแหน่งก็พลโทครับ(เจ้ากรมแพทย์ทหารบก)

13.ไม่ทราบครับ ไม่ใช่คนใน ได้รับข้อมูลที่กรองแล้วค่อนข้างถูกต้องมาอีกทีหนึ่งครับ

หากผิดพลาดประการไหน ก็ขออนุญาตพี่ๆนักเรียนแพทย์ทหารตัวจริงให้เข้ามาแก้ไขได้เลยนะครับ ขอบคุณครับ

0
นกน้อยในกรงทอง 24 ต.ค. 65 เวลา 00:37 น. 12

1.หอพักน่าอยู่ครับ ห้องจริงๆก็ไม่ได้ใหญ่มากแต่จัดตู้ เตียงได้เข้ามุมลงตัวครับ จะดูค่อนข้างโล่ง ถ้าเป็นผู้ชายก็ 2 คนต่อห้อง(อาจจะเป็น 3 ได้ถ้าจำนวนผู้ชายในรุ่นเป็นเลขคี่) ส่วนผู้หญิงก็ 2-3 คน ครับ ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมครับ มีห้องอาบน้ำ(มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ด้วยนะ) กฎไม่มีอะไรมากครับ คือผู้ชายอยู่ชั้น 2-3 ผู้หญิงอยู่ชั้น 4-6 ก็ห้ามข้ามชั้นกันแค่นั้นครับ แล้วก็อย่าเอาเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟหนักเข้ามาก็พอครับ(มันจะกระชากไฟหอจนดับน่ะสิ) อันนี้คร่าวๆนะครับ จริงๆน่าจะมีมากกว่านี้

2.รวมครับ จริงๆมีอีกหอนึงที่ให้พี่ปี 4-6 ชายพักด้วยครับ ส่วนหอนอก ถ้าตามกฎจริงๆก็ไม่น่าจะไปอยู่ได้ครับ เพราะที่นี่ก็เป็นลักษณะของรร.ทหารเป็นรร.ประจำครับ ปล่อยกลับบ้าน เข้าหอ เป็นเวลาครับ ปี 2-3 ต้องอยู่ข้างในอย่างเดียวอยู่แล้วครับ แต่สำหรับปี 4-6 ก็อาจจะไปอยู่ได้ครับ(กลับบ้านยังได้เลยแค่มาราววอร์ดให้ตรงเวลาครับ) แต่จริงๆก็ไม่มีใครไปอยู่หรอกครับหอนอก ที่นี่ค่าแอร์ฟรีตั้ง 50 ยูนิต สำหรับทุนสธ. ส่วนอย่างอื่นที่ไม่ใช่ค่าแอร์ พวกค่าน้ำ ค่าไฟฟรีหมดครับ

3.อันนี้ไม่แน่ใจครับ แต่ก็ช่วยกันเรียนแหละครับ ห้องเรียนแอร์เย็น ที่นั่งนุ่มสบายครับ พี่ๆก็ช่วยน้องเต็มที่ แล้วเดี๋ยวนี้เห็นว่าหลักสูตรใหม่ได้ขึ้นวอร์ดไปดูคนไข้ตั้งแต่ปี 2 เลยครับ (ยังไม่ได้แบบสุดๆแบบปี 4-6 นะครับ แต่ก็ได้ไปเจอคนไข้จริงๆแล้ว แบบสัมผัสบรรยากาศบนวอร์ด อะไรงี้ แล้วก็แบบเอาเลือดคนไข้มาทำแลป ได้ยินมาประมาณนี้ครับ)

5.สนิทจริงๆครับ เพราะก็เจอหน้ากันทุกวัน แถมพี่ๆก็คอยดูแลน้องๆเป็นอย่างดี มาหาที่ห้องบ่อยๆ :) คุยเล่น บางทีก็มีของกินมาให้ด้วย น่ารักจริงๆครับ ส่วนพี่ๆที่จบไปแล้ว ก็อยากจะทำความรู้จักน้องๆที่เข้ามาใหม่มากๆเลยด้วยครับ

6.มีเกรดครับ แล้วก็ทดสอบร่างกายเป็นดันพื้น > 32 ครั้งใน 2 นาที ซิทอัพ > 42 ครั้งใน 2 นาที วิ่ง 2 กิโล ใน 11 นาที และว่ายน้ำ 25 เมตร ไม่จับเวลา เอาให้ถึงอีกฝั่งก็พอครับ แล้วก็จะมีแบบทดสอบพวกทัศนคติที่เป็นพวกข้อเขียนมาด้วยครับ ซึ่งปีก่อนๆจะยังไม่มี สำหรับการบรรจุราชการ จะนับอายุราชการตั้งแต่ปี 2 ในกรณีที่ไม่เรียนรด.จนจบปี 3 และขึ้นทะเบียนทหารกองเกินครับ หากจบรด.ปี 3 แล้ว ก็จะนับตั้งแต่จบมาแล้วบรรจุเป็นร้อยตรี(เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงครับ อายุราชการเดี๋ยวมันก็ทันกัน มันมีเวลาทวีคูณอยู่) สำหรับทุนสธ.ก็นับตั้งแต่เป็นร้อยตรีทั้งชายและหญิงครับ

7.ได้ครับ และได้ทั้ง 3 เหล่าทัพเลยครับ(ทุนทบ.บังคับว่าไปทัพบกอย่างเดียวครับ) แต่ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนที่เขาเปิดรับด้วยครับ แต่หากเข้ามาแล้วไม่อยากเป็นทหาร ก็ใช้ทุนสธ.ได้เหมือนกันครับ

8.น่าจะตามคะแนนครับ เกรดเยอะกว่าได้เลือกก่อนครับ

9.ไม่ทราบครับ

10.ได้ครับ แต่ถ้าทุนทบ.ก็ชดใช้ทุน 2 เท่า ตามระยะเวลาที่เรียนครับ

11.น่าจะเหมือนกันครับ ส่วนเรื่องคลินิก ไม่ทราบครับ

12.พลเอก ครับ ถ้ามีตำแหน่งก็พลโทครับ(เจ้ากรมแพทย์ทหารบก)

13.ไม่ทราบครับ ไม่ใช่คนใน ได้รับข้อมูลที่กรองแล้วค่อนข้างถูกต้องมาอีกทีหนึ่งครับ

หากผิดพลาดประการไหน ก็ขออนุญาตพี่ๆนักเรียนแพทย์ทหารตัวจริงให้เข้ามาแก้ไขได้เลยนะครับ ขอบคุณครับ

0
AungMoonLord 24 ต.ค. 65 เวลา 18:33 น. 13

ถ้าไม่ได้ชอบเรียน ร.ด. หรือไม่ชอบฝึกทหาร ผมแนะนำว่าอย่าไปเข้าแพทย์พระมงกุฎครับ เพราะมันมีเรียนทั้งวิชาแพทย์และวิชาทหารเลย

1
bfda 24 ต.ค. 65 เวลา 21:50 น. 13-1

โดยส่วนตัวก็รับได้ครับ เท่าที่หาข้อมูลมาบ้างนิดหน่อยเขาก็เน้นความเป็นนักศึกษาแพทย์เป็นหลัก ส่วนเรื่องการฝึกหลังๆมานี้ก็ซอฟลงแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมก็รับได้ครับเพราะชอบเป็นการส่วนตัวอยู่ละ

0
อุปาทานขันธ์5 29 ต.ค. 65 เวลา 20:35 น. 14

โปรโมท....ต่างจากความจริง

พรุ่งนี้สอบ แต่เย็นนี้เรียกฝึกหนักเพื่อเตรียมงานเดือนหน้า

มันใช่เรื่องไหม...วิชาการแพทย์จะแน่นลึกได้อย่างไร?

สอบวิชาชีพแพทย์ ปี3...ก็มีเบื้องหลัง

สรุป คนในรู้ดี...แต่ไม่บอกความจริงคนนอก

1
No more tears 2 พ.ย. 65 เวลา 11:52 น. 15

ถ้าเรื่องยศจริงๆ จบคณะแพทย์ที่อื่นแล้วไปสมัครใช้ทุนรพ ของกองทัพก็น่าจะได้ยศเหมือนกันนะ ไม่ต้องฝึกตอนเรียน แต่คงไปฝึกตอนใช้ทุนแทน

0
บุคคลทั่วไป 23 พ.ย. 65 เวลา 07:27 น. 16

คนเคยเข้าเรียนบางคนบอกว่า ต้องแบ่งเวลาฝึกด้วย อยกได้คะแนนดีๆก็เรียนหนักด้วยแต่คะแนนก็ยังดีไม่มาก จบมาไม่ถึง 3.00 เขาเลยไม่แน่ใจว่าหากเรียนที่อื่นไม่ต้องฝึกเลยคะแนนจะดีกว่ามั๊ย เป็นข้อคิด

แต่ความจริง สอบติดที่ไหนก็เอาทั้งนั้น เว้นพวกเทพ น้องเทพ คะแนนสูงแบบเลือกได้

0
แนวคิด+ 24 ธ.ค. 65 เวลา 04:06 น. 17

ที่รู้มา และมีความคิดเห็นส่วนตัวแทรก


-ก่อนเข้าเรียนมีการเซ็นสัญญารับทราบเงื่อนไขทุนการเรียนแพทย์อยู่แล้ว ว่ามีอะไร ต้องยอมรับ

-แรกที่นี้ชื่อ วิทยาลัยแพทย์ทหาร วัตถุประสงค์หลัก เพื่อผลิตแพทย์ทหารพร้อม ไปถิ่นธุรกันดารป่าเขาเพื่อดูแลกำลังพล กระโดดร่มลงแนวรบ ซึ่งคนจบ รร.แพทย์ปกติ สมัยนั้นก็ไม่มีอยากสมัครเป็นแพทย์ทหาร

-ได้ยินพวกเด็กบ้านมีเงินโลกสวย เคย พูดทุกวันนี้เขาไม่มีใช้ทหารรบกันแล้ว แต่โลกจริงก็สอน ยูเครนเกิดสงคราม หลายที่มีกดดันกันด้วยกองทัพ...

-การฝึก คิดในแง่ดี การได้ออกกำลังกายดีต่อสุขภาพ ฝึกรู้จักแบ่งเวลาเรียน เล่น ล้างจาน ซักม้า เก็บกวาดห้อง ... ชีวิตไม่ใช่มียุ่งแต่ตอนเรียน ชีวิตตอนทำงานก็ยุ่งอีกแบบ พอมีครอบครัวอีก

-ปัจจุบันมีศักยภาพ จึงช่วยผลิตแพทย์ขาดแคลนให้ประเทศด้วย นอกจากเพื่อกองทัพ

-วิทยาลัยอยู่ภายใต้สังกัดกองทัพบก หลายอย่างจึงต้องทำตามระเบียบกองทัพบก ข้อนี้ควรยอมรับก่อนเลือกเรียนที่นี้


-ตอนนี้ที่สำคัญอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบให้ได้คะแนนดีๆ

นี้แค่แง่คิดส่วนตัวอาจมีประโยชน์บ้าง

0