Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เปิด Portfolio เข้าวิศวะจุฬา! แชร์ประสบการณ์สร้างผลงานภายใน  1 ปี แถมสถานที่บนแบบจัดเต็ม 8  ที่

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่ะ  เราชื่อ 'เกรซ' แต่เพื่อนเรียก  ' เกด'   เป็น #dek67 ที่ยื่น   Portfolio   ติดคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมทั่วไป  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย    วันนี้จะมาแก้บนโดยการเปิดเล่มผลงาน แชร์ประสบการณ์สร้างผลงานภายใน  1 ปี และสถานที่บนแบบจัดเต็มอีก 8  ที่ !   ส่วนตัวเรายื่นทั้งหมด  6 ที่เซฟๆ
  1.  จุฬาฯ วิศวกรรมทั่วไป (ยืนยันสิทธิ)   
  2.   ศิลปากร วิศวกรรมเครื่องกล ค่ายอัจฉริยภาพ (มีสิทธิเข้าเรียน)
  3.  มก. วิศวกรรมไฟฟ้า (ไม่ติดสัม)
  4. มธ.  วิศวกรรมไฟฟ้า (ไม่ติดสัม)
  5. มหิดล สิ่งแวดล้อมและทรัพยากร  (ผ่านสัม)
  6. มศว. วิศวกรรมชีวการแพทย์ (สละสัม)
  7. SIIT General Engineering  รอบสอบยื่นคะแนน (สละสัม)
 

เกิดมาทั้งทีฉันดีที่สุด !

เราเริ่มรู้ตัวว่าอยากเข้ารอบพอร์ตหลังจากไปสอบ Dek-D's Pre-Admission TCAS66 เราพบว่าตัวเองฉลาดน้อยกว่าที่คิดเลยมองหารอบอื่นค่ะ เราเลือกที่จะ "แก้ที่คนอื่นก่อนแก้ที่ตัวเอง"   เราเลือกที่จะเข้ารอบแรก(ความเป็นจริงคือกะยื่นทุกรอบ)
โปรดศึกษาเกณฑ์ก่อนลงมือ ก่อนอื่นต้องมีมหาลัยในใจก่อนว่าจะอิงเกณฑ์ไหนเป็นหลัก(แนะนำให้อิง มก.  เป็นหลักเนื่องจากใช้ทั้งเกรดเฉลี่ยรายวิชากับคะแนน TGAT/TPAT3 หากเราหลุดรอบแรกอย่างน้อยก็เตรียมคะแนนไว้บ้างแล้ว เราสะเพร่าเลยยื่นมอที่ใช้เกรดไม่ติดอีกทั้งคะแนนก็... ไม่อยากจะคิดสภาพถ้าไม่ติดรอบแรกแค่คิดก็ขนดากลุก)  หลังจากนั้นเราดูเกณฑ์ย้อนหลังสามปีค่ะ เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ ถึงแม้เขาจะเปลี่ยนเกณฑ์มันก็วนๆอยู่อย่างนั้นแหละ จะได้สำรองผลงาน+ทำเกรดไว้   เกณฑ์คร่าวๆ ดังนี้
  1. GPAX รวม 5 เทอม 3.0+(หมวดวิทย์กับคณิตด้วยนะ)
  2. ผลงานวิชาการระดับจังหวัด/ชาติ/นานาชาติ  *ไม่มีก็ยื่นได้นะ
  3. โครงงาน/งานวิจัยทางวิชาการ วิศวกรรม *มีรางวัลจะดีมาก
  4. คลิปวิดีโอแรงบันดาลใจ 
  5. หลักฐานเรียนรู้ด้วยตัวเองอย่างต่อเนื่อง(เกียรติบัตรเข้าค่าย จิตอาสา ผลงานเบ็ดเตล็ด)
​​​

เริ่มเตรียมตัวยังไง ?

  • เก็บเกรด 5 เทอม ไม่ถึง=ปัดทิ้ง   ขั้นตอนที่เกลียดที่สุดเพราะอาศัยความต่อเนื่องบวกกับโรงเรียนค่อนข้างกดเกรดเลยเหนื่อยเป็นพิเศษ ดีนะเรียนออนไลน์ปีนึงไม่งั้นมีหัวโกร๋น สยอง
การทำเกรดนั้นสำคัญไฉน? มีอยู่ปีนึงหากได้เกรดเกิน 3.5 จะมีคะแนนพิเศษค่ะ   นอกจากนั้นยังสามารถใช้เกรดยื่นโครงการอื่นๆได้อีก เช่น โครงการทางช้างเผือกของลาดกระบัง    โควต้าอื่นๆของโรงเรียน ฯลฯ   แต่ในปีเราโครงการรับนักเรียนที่มีความรู้ทางด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ รับ 220 คน เกรดเฉลี่ยแค่ 3.0 ก็สามารถยื่นได้แล้ว(GPAX 5 เทอม หมวดวิทย์กับคณิต 3.0+ ด้วยนะ)   
 
  • หลักฐานการเรียนรู้ด้วยตัวเองอย่างต่อเนื่อง 10 คะแนน    ขึ้น ม.6 เพิ่งรู้ว่าผลงานที่ภาคภูมิใจมีค่าแค่ 10 ใน 100  ช็อคระเบิด
ช่วงปิดเทอม  ม.5 ขึ้น ม.6 เราไม่อยากอยู่บ้านเลยหาค่ายกิจกรรมทำ เลือกดีๆนะทุกคนเข้าค่ายเอกชนนอกจากจะไม่มีโควต้า แล้วยังไม่ถูกคิดคะแนนด้วยนะอิอิ  ตัวอย่างค่ายที่เราเคยเข้า SIIT Insight Camp, Cira Core, ค่ายอัจฉริยภาพวิศวศิลปากร, FE Camp ฯลฯ  พยายามเลือกค่ายที่ได้ทำชิ้นงานจะได้เอามาใส่ในช่องโครงงานได้ด้วย จะเห็นได้ว่าเราเลือกเข้าแค่ค่ายของมหาลัย เพราะนอกจากจะได้ใจกรรมการแล้ว บางค่ายมีโควต้ารับเข้าเลยด้วยนะ เช่น  ค่ายอัจฉริยภาพศิลปากร ค่าย IT ของลาดกระบัง เป็นต้น  ทำจิตอาสาช่วยอุดหน้าว่างได้นะคะ บางคณะบังคับว่าต้องมีจิตอาสาด้วย ส่วนจุฬาคิดคะแนนรวมกันเลยค่ะ หลังกลับมาแล้วเราจะได้สตอรี่เท่ๆไว้เขียน Personal Satement อีกด้วย 
อย่าลืม! เก็บเกียรติบัตรเข้าค่าย จิตอาสา ผลงานเบ็ดเตล็ด รูปยิ้มโชว์ฟันนี่ไม่เอานะ มันจะดูไม่เป็นทางการส่วนตัวเราเอาไว้แนบกรณีมีที่ว่าง555+
*คลิ๊กๆ!*    CAMPHUP หมวดค่ายมหาลัย  เราหาค่ายจากเว็บนี้นะคะ  
  • คิดริเริ่มสร้างสรรค์ หรือ โครงงาน/งานวิจัยทางวิชาการ วิศวกรรม 40  คะแนน   มีช่องให้ใส่ผลงานถึง 3 ช่อง  เราใส่ครบ เฮ้อออ!   เห็นหัวข้อนี้ก็โล่งใจ ปล.มีช่องให้ใส่รางวัลด้วยนะคะ 
  1. เล่มแรก โรงเรียนเราบังคับให้ทำโครงงาน เพื่อขึ้นโชว์งานวันวิทยาศาสตร์ที่โรงเรียนอยู่แล้วค่ะ บวกกับเราได้รับรางวัลระดับเหรียญเงินถึงแม้จะเป็นโครงงานอาหารแต่ก็ยังเป็นโครงงานวิทย์ โครงงานนี้เราเป็นประธานถามอะไรตอบได้หมดตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ
  2. เล่มสอง   เราเลือกผลงานจากค่ายที่เคยเข้ามาทำโปสเตอร์ แล้วก็เขียนอธิบายพอสังเคป ประหยัดเวลาไปได้เยอะ
  3. เล่มสาม   เป็นโครงงานแนวคิดเชิงนวัตกรรมที่เกิดจากการที่เราไปแข่ง  Hackaton   กับเพื่อนต่างโรงเรียน นี่คือข้อดีของการไปค่ายนะคะ การที่เราได้เพื่อนกลับมาคือความสำเร็จสูงสุด  //ทำเสียงเข้มกอดอก เงยหน้ามองฟ้า// แข่งไปเรื่อยๆค่ะ สะสมผลงานแล้วค่อยมาเลือกเอา
enlightenedแนะนำว่าทำเป็นโปสเตอร์หน้านึง แล้วก็สรุปความหน้านึงดูตัวอย่างไฟล์ E-Portfolio ของเราได้
*คลิ๊กๆ!*   Contest War   นอกนั้นงานวันวิทยาศาสตร์ หรือ งานเปิดบ้านของมหาลัยต่างๆ  
  • ผลงานวิชาการระดับจังหวัด/ชาติ/นานาชาติ รวมกับเกรดเป็น  40  คะแนน  ท้าด่าาา
ตอนแรกเราเลือกสอบสนามใหญ่ๆ ดังๆ ระดับประเทศไปก่อนพบว่าคะแนนออกมาเหมือนเศษเลขรางวัลก็ไม่ได้ มีแต่เกียรติบัตรเข้าร่วมเต็มบ้าน เราเลือกที่จะเปลี่ยนสนามสอบแทนการฟาร์มความรู้  "แก้ที่คนอื่นก่อนแก้ที่ตัวเอง"  จำได้มั้ยคะ ตอนเด็กๆมันจะมีเพื่อนคนนึงที่แม่ชอบอวดว่าลูกเขาได้รางวัลระดับโอลิมปิก/นานาชาติ บลาๆ แล้วพวกเขาหาจากไหนล่ะ คำตอบคือเฟซบุ๊คผู้ปกครองในกลุ่มที่เราแนบจะรวมองค์กรอิสระ สมาคมคณิตของต่างประเทศที่จัดสอบโอลิมเปี๊ยดด  คือมันมาจากองค์กรที่น่าเชื่อนะคะ แต่มันไม่ดัง so คู่แข่งน้อย ทำให้เราคว้ารางวัลมาได้อย่างไม่ค่อยยากลำบากเท่าไหร่อาศัยพื้นความรู้เก่า ส่วนใหญ่ก็ไม่ยากเกินข้อสอบโรงเรียนหรอกค่ะ แค่เป็นภาษาอังกฤษ อย่างไรก็ตามเราคัดการแข่งขันมาให้ด้านล่างด้วยยย
*คลิ๊กๆ!*Academic War ระดับจังหวัด
*คลิ๊กๆ!*ค่าย สวช. ระดับประเทศ (สอบเข้าค่ายเพื่อแข่งต่อ)
*คลิ๊กๆ!*IMC คณิตนานาชาติ รับรองโดยกระทรวงศึกษาธิการ
*คลิ๊กๆ!*กลุ่มเฟซบุ๊คผู้ปกครองโอลิมเปี๊ยดด

 
  • คลิปวิดีโอแรงบันดาลใจ คะแนนฟรีๆเลยนะทุกคนแค่แนบคลิป
อันนี้ตลกคือเราไปเจอคลิปรุ่นพี่คนนึงในยูทูปแล้วเขาอัดแบบเป็นทางการมากอะ นี่เลยลองทำตามทำหน้านิ่งๆตามเขาเลย แต่สคริปที่เราเขียนมามันขัดกับภาพลักษณ์ สุดท้ายกลายเป็นตลกหน้าตายมานั่งดูได้ 10 วิ ก็ขำละ คิดว่าอาจารย์คงขำเหมือนกันเลยตัดสินใจส่งไป เพื่อนเรามาขอดูเป็นเรฟเราก็ส่งให้ ในเวลาไม่ถึง  1 สัปดาห์ คลิปแรงบันดาลใจของเราก็ดังข้ามโรงเรียนถึงขั้นเพื่อนที่ต่างประเทศก็ดูแล้วคือช้อค เพื่อนอีกคนบอกว่ามีคนแชร์จอขึ้น Projector ห้องเลย ตอนเราไปงานปัจฉิมเพื่อนต่างโรงเรียนก็มีคนเดินเข้ามาทักเยอะแยะแต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร(ขอโทษนะทุกคน TT) นี่คงเป็นอีกหนึ่งวิธีหาเพื่อนแบบใหม่สินะ //มองโลกในแง่ดี

มูที่ไหนบ้าง ?

คำถามคือเอาเวลาที่ไหนไปมูเยอะแยะ ก็เวลาที่ทุกคนอ่าน TGAT,TPAT3  นั่นแหละค่ะ  ตอนแรกจะไหว้แค่ที่สองที่ดังๆ แต่พระทักแม่เราว่าถ้ามาทางธรรมจะรุ่งมาก  ถ้าไม่มูจะดวงกุดไม่ก็พยายามหนักมากๆ  เราเริ่มไหว้ตั้งแต่ก่อนยื่นจนยื่นเสร็จเลยค่ะ วิธีขอพรของเราคือ บอกชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิด เลขบัตรประชาชน เลขที่ใบสมัคร วันที่ยื่นวันประกาศผล ปีที่เข้าเรียน พูดง่ายๆคือเล่่าเรื่องตัวเองโดยละเอียดให้สิ่งศักสิทธิ์จำได้ไม่ให้พรผิดคน
      -   วัดสุทัศน์  MRT สามยอด  แก้กรรมเกิดใหม่เป็นคนใหม่
      -   ศาลเจ้าพ่อเสือ เสาชิงช้า   แก้ชงก่อนเลย ชะตากรรมเด็ก49
      -  พระพิฆเนศ ห้วยขวาง อย่าลืม!กระซิบหูหนูนะ
       -  พระตรีมูรติ  เซ็นเวิลด์(ที่ห้วยขวางก็มีนะ)
       -  วัดเทวราชกุญชร   ขอพรได้ข้อเดียวเดินไปตลาดริมน้ำหลังวัดก่อนนะ ตามหาลุงพับแบงค์จำวิธีการโดยละเอียดแล้วค่อยมาต่อคิวไหว้ เรารอคิวครึ่ง ชม. 
       -   ศาลเจ้าแม่ทับทิมสะพานเหลือง ใกล้มืดจะเปลี่ยวและกุ๊กกู๋มาก แนะนำให้พกขนมสุนัขไปด้วยน้องหมาน่ารักมาก เราเล่นด้วยประจำ
     -  พระบรมราชานุสาวรีย์สองรัชกาล ในมหาลัย ห้ามบน! ไหว้ครั้งแรกจุดธูป 16 ดอก
     -    สิ่งศักสิทดิ์สิทธิ์  รอบโรงเรียนของเราไหว้บอกเขาว่าจะไปแล้วนะ  ให้ท่านช่วยสื่อสารกับเจ้าที่มหาลัยให้เข้าเรียนได้อย่างราบรื่น

สัมภาษณ์ถามอะไร เตรียมตัวยังไง ?

"  สัมเสร็จเครียดมาก คิดไม่ออกว่าทำไมจะไม่ติด TT "

วิธีเตรียมตัว    คือ  ทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองไม่เครียดแม่พาเราไปไหว้พระจนผิวเราเปลี่ยนสี    อาทิตย์ก่อนสัมภาษณ์พยายามนอนเยอะๆค่ะ เพราะวันก่อนสัมอาจตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ  จำรายละเอีียดเล็กๆในเล่มให้ได้ สุดท้ายเขาก็ถามคำถามในเล่มนั่นแหละ พูดให้คล่องๆจะผิดจะถูกช่างแม่ง! มั่นใจเว้ย! วะฮ่าๆๆๆ  
เอาอะไรไปบ้าง 
  1. Portfolio เราเย็บสันเหมือนนิตยสารให้น่าเปิดอ่านบวกกับจัดเรียงหน้าใหม่แก้คำผิดในอีพอร์ตที่ส่งไปตอนแรก เรียงใหม่บางเบา พอเราไปเห็นแฟ้มคนอื่น เหมือนเก็บมาตั้งแต่อนุบาล 'เอาส่ะกูอาย ' 
  2. E-Portfolio เวอร์ชั่นที่แก้แล้ว สรุปเขาไม่เปิดอ่านสงสัยจะหนาเกิน
  3. เอกสารยืนยันตัวเอง เกียรติบัตรตัวจริง บางคนห้อยเหรียญเต็มคอ (ยอมแพ้ TT)
  4. ความมั่น เกิดมาทั้งทีฉันดีที่สุด''

บรรยากาศวันสัมภาษณ์

ระบบไปก่อนสัมก่อน ไอเราก็นั่งรอเวลาจ้วงพาลาโบลารอจนได้คิวเกือบสุดท้าย นั่งเก๊กจนเมื่อยเดินไปเด็ดดอกไม้จนเมื่อยก็ยังไม่ถึงคิวสักทีทนไม่ไหวหันไปชวนเพื่อนคุย ได้เพื่อนกลับมา 5 คน พอจะเริ่มกรึ่มๆ ก็โดนเรียกตัวไปสัม นี่คือช่วงเวลาแห่งการโม้ว่าเราดียังไง เขาถามก็แนะนำตัวเลยบอกเลยภูมิใจอะไรอย่ารอให้เขาถามเดี๋ยวตอบไม่ได้ ดูเหมือนอาจารย์คนขวาจะสงสัยเรื่องความสามารถด้านการสื่อสารของเราเห็นเปิดหน้าสันทนาการ เข้าทางพี่เลยน้อง ขอให้ได้โม้เนี่ยได้เพื่อนเต็มเลยเนี่ยเมื่อกี้ อาจารย์ถามจะเข้าภาคไร เราก็บอกยังไม่มั่นใจเลยยื่นภาครวม อาจารย์บอกต้องลองเข้ามาเรียนก่อน เอ๊ะ! จบคือคำถามมันเบสิคทุกอย่างจบใน 2 นาที  สัมเสร็จเครียดมาก เราพลาดตรงไหนมั้ยนะ คิดไม่ออกว่าทำไมจะไม่ติด TT  นี่เขาสนใจเรามั้ยนะทำไมรีบจบจังยังโม้ไม่เสร็จเลย ผลออกมาก็ผ่านสัมภาษณ์เรียบร้อย วาสอีเกดกรี๊ดดดด

บทส่งท้ายก่อนบายเธอ

ตลอดเส้นทางของความสำเร็จนอกจากปัจจัยจากพ่อแม่แล้ว รองลงมาต้องยกความดีความชอบให้เพื่อนค่ะ   ส่วนใหญ่ตอนไปค่ายเราทำตัวงงๆเดี๋ยวก็มีเพื่อนเองค่ะ(คีพลุกเป็นคนคูลตั้งนาน)  ส่วนตัวเราหลับค่ะมีคนปลุกเลยได้เพื่อน ไม่ก็ปวดห้องน้ำตอนพิธีการเจอเพื่อนในห้องน้ำเลยได้คุย แล้วก็ชวนกันไปแข่งโครงงานค่ะ ตัวเราตอนแรกทำอะไรไม่เป็นก็บอกไปตรงๆ ในกลุ่มเรามักเลือกรับหน้าที่เป็น CEO ศึกษาภาพรวมมาตอบอือดี/พูดคำคม/ปล่อยมุก/ Ice Breaking/ชวนเพื่อนคุยกระชับมิตร  บางทีนั่งว่างๆทำสไลด์แย่งงานฝ่ายดีไซด์ ทำอะไรไม่เป็นก็นั่งร้องเพลงจนงานเสร็จพยายามไม่อยู่นิ่งๆ  โชคดีที่เพื่อนเราใจกว้าง  ปัจจุบันเราได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเองขึ้นมาก แต่ก็ยังทำอะไรไม่ค่อยได้อยู่ดี ขอโทษนะเพื่อน   TT สุดท้ายขอขอบคุณรุ่นพี่ภูวินที่หล่อมากจนอยากตามรอย อีกหนึ่งสิ่งที่ภูมิใจในปีนี้คือได้บอกภูวินว่า 'ติดแล้ว' เขินว่ะ มีอะไรสอบถามทักมาทางไอจีได้เลยนะคะ อยากให้ทุกคนเปิดใจทำพอร์ตกันเยอะๆ ทปอ. มันเชื่อใจม่ายด้ายยย

ช่องทางการติดต่อ IG :  @c.m.realgazzi_
E-Portfolio   https://drive.google.com/file/d/1-IltKz5mlMq6YpvYr4DQ4gpBbCQMI1JF/view?usp=sharing
Final Portfolio   https://drive.google.com/file/d/12b817LrG7BT0DD2pa5FwKKUAYIzO49-k/view?usp=sharing

แสดงความคิดเห็น

3 ความคิดเห็น