Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

บทความเหล่านี้เขียนเพื่อให้กำลังใจคนอกหัก

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดี ทุกคนที่กำลังเศร้า เสียใจ อกหัก จากคนรักที่ทั้งหลาย
(อาจจะยาวหน่อย แต่ถ้าอยากได้ข้อคิดก็อ่านให้จบ)

คนเราทุกคนเกิดมาย่อมต้องการความรักกันทั้งนั้น
ความรักมันก็มีมากมายหลายแบบ อาจจะเปน แอบรักเพื่อน รักรุ่นพี่ รักแฟนเพื่อน รักแฟน รักคนมีแฟนแล้ว รักข้างเดียว หรือจะเป็นรักอื่นๆ ก้ตาม

ความรักทำให้คนมีความสุขแต่มันก็ทำให้เราเสียใจได้เช่นกัน ความรักมันก็มักจะมากับ ความเสียใจ ความผิดหวัง ความเฝ้าหวัง ความรอคอย ความเป็นห่วง ความคิดถึง และความรุ้สึกอื่นๆ

คนบางคนอาจจะเป็น คนที่ให้ ความรักแบบที่ไม่ต้องการผลตอบแทน แต่ไม่มากก็น้อย ผู้ให้ก็ต้องการได้ความรักกลับบ้าง คนบางคนก็เป็นฝ่ายรักเค้าข้างเดียว คนบางคนก็แอบรักแต่ไม่กล้าบอกหรือบางทีเพราะบอกไม่ได้ เพราะกลัวว่าความสัมพันธ์จะเปลี่ยนไป ไม่ก็กลัวว่าถ้าวันหนึงเลิกรากันไปจะมองหน้ากันไม่ติด

คนบางคนที่รักแฟน แต่แฟนมีแฟนใหม่ แฟนบอกเลิก แฟนเจ้าชู้ แฟนหมดรัก แฟนไม่รักเราแล้ว หรือแฟนรักเราไม่เท่าเรา มันก็ทำให้เราช้ำใจหรือเสียใจได้

ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถาณการณ์ใด ในนี้ หรือนอกจากนี้ แต่คุณอกหักอยู่
บทความหลังจากนี้อาจช่วยคุณได้ไม่มากก็น้อย
.
.
ถ้าหากว่าคุณ อกหัก จากคนที่คุณรัก...ใครสักคนที่คุณรักเค้ามากมาย แต่คนที่เรารักเค้าไม่ได้รักเราเหมือนที่เรารักเค้า ไม่เหมือนที่เราทุ่มเทให้เค้า ไม่เหมือนที่เราห่วงเค้า คิดถึงเค้า มันก็เหมือน ไร้ค่า เหมือนเทน้ำลงบนแก้วที่มันรั่ว ต่อให้เติมน้ำลงไปเยอะแค่ไหน มันก้ศูนย์เปล่า เวลาที่เราร้องไห้ เค้าคนนั้น คนที่เรารักเค้าจะรู้สึกได้ถึงความเสียใจ ความเจ็บปวดที่เรามีหรอ เค้าจะแคร์เราหรอ แล้วเราจะยัง " จมปัก " รักเค้า รอเค้าอยู่แบบนั้นทำไม ร้องไห้ ฟูมฟาย ร้องไห้แทบเป็นแทบตาย
เครียดมากมาย ปวดหัว เป็นไข้ นอนไม่หลับ กินไม่ลง หรือเสียใจจนกินเยอะเกินไป รุ้สึกไม่อยากทำอะไร รุ้สึกเบื่อ ไม่อยากเจอหน้าใคร ไม่รุ้จะทำไงดี เสียการเรียน การงาน คิดถึงวันเก่าๆ " แล้วยังไง ???? คนที่มีผลกระทบเสียๆ ก็มีแต่เราเท่านั้นแหละ!! เราจะยังทำตัวให้มันเหมือนคนไร้ค่าอยู่ทำไม
จะยังแคร์คนที่เค้าไม่รักเราทำไม

เราควรจะเริ่มต้นใหม่
มองหาสิ่งใหม่ๆ ชีวิตยังมีไรให้เรียนรู้อีกเยอะแยะ คนที่เจอปัญหามากกว่าคุณยังมีอีกเยอะ หนักกว่าก็เยอะ แค่ลองเปิดใจ คิดซะว่า ความเสียใจ ผิดหวัง ที่คุณมีทั้งหลาย ให้มันเป็นบทเรียนให้ สอนคุณให้เป็นคนเก่ง เป็นคนที่เข้มแข็งขึ้น หรือใครที่ถูกหลอก(เสียเงิน)จากความรัก (คนรัก) บ้าง ก็อยากคิดให้ซะว่า ความผิดพลาดเหล่านั้นเป็นเหมือนค่าจ้างครู (ครูสอนประสบการณ์) ที่ทำให้เราคิดได้ จงรุ้สึกขอบคุณกับคนเหล่านั้น คนที่ทำให้คุณรุ้จักตัวเองมากขึ้น รุ้จักคนหลากหลายประเภท และมองโลกได้กว้างขึ้น โลกมันไม่ได้โหดร้ายกับเราไปซะทุกเรื่องหรอก ทุกๆอย่างบนโลกนี้ล้วนมีข้อดีและข้อเสียทั้งนั้น

การจะทำใจกับเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องไม่ง่าย แต่ก็ไม่ได้ยากเกินกว่าจะทำได้ เพียงแค่เรารุ้จักพลิกแพลงความคิด ทัศนคติเราเองใหม่อะไร โลกของคุณก็อาจสดใสได้ทันที วันหนึงที่คุณผ่านจุดนั้นมาได้ คุณจะรุ้สึกภูมิใจมาก และเราจะเป็นคนเก่ง ที่ชนะใจตัวเองได้

*ชนะอะไรก็ไม่น่าภูมิใจเท่าชนะใจตัวเองได้*

ยังไงก็เก็บน้ำตา ของคุณไว้เหอะ ถึงบางคนจะบอกว่าการร้องไห้เป็นเหมือนการระบายอย่างหนึ่ง นั่นก็อาจจะใช่ แต่ถ้าร้องแล้วมันไม่ช่วยล่ะ ? แล้วจะร้องต่อทำไม เอาเวลานั่งคิดเรื่องเก่าๆ ฟังเพลงอกหักให้มันช้ำกว่าเดิม เพื่อ? ซะใจ? แล้วไง? แล้วก็ยังร้องต่ออะหรอ อย่าเสียเวลากับอะไรที่มันแก้ไขไม่ได้แล้วเลย เวลามันไม่เคยรอใครหรอก คนบางคน อยากจะต่อเวลาซักเสี้ยววินาที ของชีวิตเพื่อที่จะได้ทำอะไรที่มันคุ้มค่า แต่ถ้าคนอีกคน กำลังนั่งเหม่อลอย ร้องไห้ เพื่อให้เวลามันผ่านไป อย่างเปล่าประโยชน์ คุณคิดว่ามันคุ้มค่าหรอ ก็เก็บไปคิดละกัน

หวังว่ามันจะช่วยให้คุณได้ข้อคิดอะไรบ้างหลังจากอ่านมาถึงจุดนี้

ถ้าต้องการอีเมล ของเจ้าของ จขกท เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ก็โพสขอไว้

แสดงความคิดเห็น

>

22 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

มีเนื้อหาไม่เหมาะสม

มะปิง 17 เม.ย. 56 เวลา 05:48 น. 6
อ่านบทความนี้แล้วรู้สึกดีขึ้นน่ะค่ะ เราต้องผ่านไปให้ได้ เรื่ิงสิวๆๆบีบก็ออกแค่นั้นเอง
0
Citrus 17 พ.ค. 56 เวลา 11:42 น. 7

ตอนนี้ความคิดติดลบมากเลยค่ะ
รู้ว่าควรทำอย่างไร แต่มันยากที่การเริ่มเนี้ยแหล่ะค่ะ

0
อิ๊บ 7 มิ.ย. 56 เวลา 16:08 น. 8

ถึงตอนนี้ผมจะเสียใจ ฟูมฟาย เอามากๆ แต่ผมก็ได้ตัดสินใจเลือกที่จะจบดีกว่า จะให้ผมไปเป็นตัวสำรองของใครผมคงรับไม่ได้ คำว่า" กิ๊ก" มันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีใจที่ได้คบกับเธอเลย มันยิ่งกลับตอกย้ำและทำให้ผมเสียใจ ที่เธอให้ผมเป็นได้แค่นี้(ทั้งๆที่เธอเป็นฝ่ายมาหาผมก่อนแท้ๆ) ในเมื่อทุกอย่างมันไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ก็หยุดคิดละครับ เสียศักดิ์ศรี!!!

0
Wathanyu Phromma 8 มี.ค. 57 เวลา 16:06 น. 9

ไม่ได้อยากเป็นที่หนึ่ง ไม่ได้อยากเป็นที่สอง แต่อยากเป็นคนๆเดียวของเธอ...แต่มันก็จัสอะดรีม อิมพอสสิเบิล...ใจคนมันไม่ใช่สิ่งของ พยายามไคว่คว้า เหนื่อยแค่ไหน ยังไงมันก็เปล่าประโยชน์ คนไม่ใช่ยังไงก็ไม่ใช่อยู่ดี...สัญญาอ่ะมันจะมีความหมายอะไรถ้าอีกคนตั้งใจทำ แต่อีกคนแค่รักษาน้ำใจ...แม่ไม่ได้ให้กำเนิดมาเพื่อร้องไห้ ทำตัวเองให้มีคุณค่า ตัวเลือกอ่ะสำหรับผมแล้วไม่ได้อยากเป็นตัวเลือกของใคร และก้ไม่ได้ต้องการใครเป็นตัวเลือกด้วยเพราะผมเข้าใจคนที่เป็นตัวเลือกดีว่ามันเจ็บ...สิ่งที่เจ็บกว่านั้นคือการที่คนๆนึงมีความสุขมากในช่วงๆเวลาหนึ่ง แต่ก็เสียใจมากถึงมากที่สุดเมื่อรู้ว่าทุกสิ่งเราแค่คิดไปเอง ความจริงคือมันไม่จริง ...แต่ชีวิตเราล้มเราลุกเราจำเป็นบทเรียนเราเข้มแข็งเราก้าวเดินต่อไป สักวันครับ...ไม่นานหรอก เราอาจจะได้เจอรักแท้ก็ได้ แล้วเราจะผ่านจุดๆนั้นมาได้ เมื่อตอนนั้นเราผ่านมันไปแล้วลองนึกกลับมาวันนี้ เราจะคิดว่าเราร้องไห้เพื่ออะไร เรางมงายเพื่ออะไร เราเสียใจไปทำไม มันช่างโง่เง่าสิ้นดี เสียใจได้แต่อย่าให้อะไรเสียไปอีก ...ยอมรับความจริงแล้วเดินต่อไป ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอครับ 
ปล.มันคุ้มค่าน่ะกับความเจ็บปวดที่ได้มา เพราะมันก็ทำให้รู้ว่ารักเป็นยังไง รักคัยจริงๆสักคนมันเป็นยังไง รักไหนที่ไม่มีความทุกข์ นั่นไม่เรียกว่ารักครับ !!! อีกอย่างน่ะคับ ทุกคนคงมีความฝันมีปลายทาง ถ้าเรามัวแต่มานั่งเสียใจอยู่ข้างทาง เราจะไปถึงปลายทางได้ยังไง...ฟ้าเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิตเราแล้วล่ะครับ

0
jpkk 10 มิ.ย. 57 เวลา 22:58 น. 10

อยากเอาใจช่วยน้องๆ ให้ผ่านมันไปได้ครับ

***************************************

แต่กว่าผมจะผ่านมันไปได้ มันก็ใช้เวลาถึง 5 ปี

ที่จะมีชีวิตเป็นปกติสุขเหมือนสามัญชนธรรมดา

****************************************

แรกๆ ต้องทำใจครับ .....ถ้าเขาจะไป.....จะลา......มันคงห้ามไม่ได้

อยู่กับตัวเองนึกทบทวนสิ่งต่างๆ ได้ครับ เพราะมันห้ามไม่ได้

เรื่องเหล่านี้มันจะเข้ามาในสมองตลอดเวลา....ขอให้จดจำสิ่งที่ดีๆเอาไว้

ถ้าไม่ไหวคนจะร้อง...มันก็ต้องร้องครับ......ไม่ต้องอาย ไม่ต้องแคร์

ชีวิตกู...กูอยากร้อง..กูอยากระบาย มันต้องหาทางระบายนะครับ

อยู่กับเพื่อนให้เยอะๆ เพื่อนจะเป็นคนปลอบใจเราได้ดีที่สุด

ที่พูดแบบนี้ไม่ใช่ว่าครอบครัว..ไม่สามารถปลอบใจได้นะครับ

แต่....อารมณ์อย่างนี้ feel อย่างนี้ คงน้อยคนนักที่จะไปปรึกษาครอบครับ

เพื่อนน่าจะเป็นหนทาง...ทีี่หลายเข้าหา...เพราะ! ....อาจจะช่วงอายุเดียวกัน

มีความรุ้สึกตามสุขสมัยใกล้เคลียงกัน เพื่อนคงจะปลอบโยนท่านได้ดีที่สุด

ก็แล้วกัน (ตามความคิดของผมนะครับ)


มีบางสิงที่.........ผมอยากให้ท่านๆ ได้ลองอ่านบทความด้านล่างดูครับ.......


*อาจจะเป็นแนวทางในการทำใจ

*และอาจจะเป็นแนวทางการรู้แจ้งเห็นจริงในความรัก

คร้้งต่อไป............ที่อาจจะ.....เข้ามาหาอีกครัั้ง

(........ซึ่่่งเราคงไม่อาจจะรู้ได้...........)

-----------------------------------------------------------------------

ทฤษฎีทำร้ายคนรัก






คุณเชื่อทฤษฎีนี้ไหม? ตอนที่เรายังไม่รักใคร เราอาจมีแก่ใจทำดีกับเขา แต่เมื่อไหร่ที่รู้ว่าเขารักเรา เราจะเริ่มอยากทำร้ายเขาทันที!
คุณเชื่อไหมว่าที่เป็นเช่นนั้น ก็เพราะลึกๆเราอยากหาใครสักคนมาเป็นข้าทาส เอามาเป็นที่รองรับอารมณ์ เอามาก่นด่าได้แรงๆ ดูถูกเหยียดหยามได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ไม่ต้องกลัวว่าเขาหรือเธอ (ที่เราเรียกในใจว่า ‘มัน’) จะไปฟ้องตำรวจ?

คุณเชื่อไหมว่าเราเห็นคนแปลกหน้าทั้งหลายเป็นอื่น เมื่อจะลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกาย หรือกระแทกวาจาทำร้ายจิตใจ จะได้ถนัดถนี่หน่อย ไม่ต้องเกรงใจอย่างญาติ เมื่อคนแปลกหน้ากลายเป็นคนใกล้ชิดจนยากจะถอนตัวออกห่าง เราก็สามารถบังคับควบคุมให้เขาต้องก้มหน้ายอมรับชะตากรรมโดยดี ไม่ว่าจะต้องทนทุกข์จากน้ำมือเราสักขนาดไหน?

หากทฤษฎีข้างต้นเป็นจริง ก็แปลว่าโลกนี้ไม่มีใครครองรักแล้วเป็นสุขกันสักราย เพราะหมายความว่าทันทีที่ยึดครองใครสักคนเป็นคนรัก คุณก็พร้อมจะกดขี่คนๆนั้นเยี่ยงทาสแล้ว คงไม่มีใครเป็นสุขจากภาวะจองจำเยี่ยงทาส และแม้ผู้ผันตัวเองไปเป็นนาย ก็ย่อมมีชีวิตที่แห้งแล้ง เพราะทราบอยู่แก่ใจลึกๆว่าตนไม่มีคนรัก มีแต่คนใกล้ชิดที่อึดอัดทรมานเพราะเรา เราย่อมไม่รู้สึกอบอุ่นกับการใช้ชีวิตคู่เคียงกัน ผิดจุดประสงค์เริ่มแรกแห่งการจับคู่ ที่มนุษย์ทั้งหลายปรารถนาความรัก ความอบอุ่น ความไยดีอาทร และมีลูกหลาน มีครอบครัวอันปรองดองไปจนกว่าจะตายจากกัน

ทุกคนปรารถนาความปรองดอง แต่ทฤษฎีทำร้ายคนรักกลับบอกเรา ว่าเมื่อใดคนสองคนเริ่มรักกัน ก็รอดูได้เลยว่าใครจะเป็นฝ่ายข่มเหง และใครจะเป็นฝ่ายถูกรังแก หรืออีกทีก็รอดูว่าถ้าต่างฝ่ายต่างตั้งท่ารังแกกันและกัน ในที่สุดใครจะแพ้ ใครจะชนะ ลงเอยคือจะแตกแยกกันเมื่อใด คงไม่มีสักกี่รายที่ทนทำหน้าบูด ทู่ซี้อยู่ได้นานพอจะรอมัจจุราชมาเป็นกรรมการยุติการชกในชาตินี้

หากอยากยืนยันว่าทฤษฎีทำร้ายคนรักเป็นเรื่องจริง ก่อนอื่นเราต้องตั้งสมมุติฐานว่าเมื่อตกลงเป็นคนรักกัน ‘ทุกคู่’ ต้องพูดจาหรือทำเรื่องน่าเจ็บใจให้แก่กันและกันเสมอ หากพิสูจน์ได้ว่ามีคู่รักแม้แต่คู่เดียวในโลกที่ครองชีวิตกันดีๆ มีแต่พูดหวานๆ เอาอกเอาใจกันตลอดรอดฝั่งไปจนถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร ก็ให้ถือว่าทฤษฎีทำร้ายคนรัก ‘ไม่จริง’ หรือ ‘มีข้อยกเว้นให้พิจารณาเป็นกรณีไป’

พฤติกรรมที่เห็นได้ทั่วไปเป็นอย่างไร?

ข้าทำได้ แต่แกห้ามทำ!

ข้าพูดได้ แต่แกห้ามพูด!

ข้าคิดได้ แต่แกห้ามแม้จะแอบคิด!

ถ้าพบพฤติกรรมทำนองนี้ทั่วทุกหย่อมหญ้า ก็แปลว่าทฤษฎีทำร้ายคนรักมีแนวโน้มจะเป็นจริง เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวเป็นเรื่องของคนบ้าอำนาจ อยากยึดครองสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น โลกนี้ไม่มีสิ่งใดน่ารังเกียจเท่าการสูญเสียสิทธิเสรีภาพและความเป็นตัวของ ตัวเอง แต่พฤติกรรมของผู้ที่อ้างว่าเป็นคนรักส่วนใหญ่ กลับเอนเอียงไปทางใช้สิทธิ์ของคนรักลิดรอนสิทธิเสรีภาพของอีกฝ่ายเกือบทั้ง สิ้น!

ความหมายของคนรักคืออะไร? ต้องทำตัวน่ารัก หรือสมควรจะทำให้คู่รักของตนมีความสุขมิใช่หรือ? มิฉะนั้นจะมีศัพท์เรียกว่าเป็น ‘คู่รัก’ ได้อย่างไร? ต้องเรียกว่าเป็นคู่เวร คู่แค้น หรือคู่ทิ่มแทงเสียมากกว่า ทำไมการณ์กลายเป็นเรื่องกลับตาลปัตรไปอย่างนี้ได้?

เพื่อความเข้าใจ ก็ต้องขุดค้นกันให้ลึกลงไปอีกหน่อย ถามว่าเหตุผลของการ ‘ต้องมีคนรัก’ คืออะไร แน่นอนว่าสิ่งที่เราจะคิดถึงเป็นอันดับแรกน่าจะได้แก่การหาใครสักคนมาแก้ เหงา มาเอาสนุก มนุษย์เป็นสัตว์แสนเหงา อยู่คนเดียวนานๆไม่ได้ ต้องหาคนที่คุยกันรู้เรื่องมาเป็นเพื่อน และมนุษย์ก็เป็นสัตว์เสพความบันเทิง อยู่เปล่าๆแล้วแห้งเ-่ยว ต้องหาเพศตรงข้ามมาจอยกันให้สนุก

ถ้าแก้เหงาได้จริง ถ้าร่วมสนุกได้มาก ธรรมดาเราก็จะเกิดการหวงแหน เห็นคนรักเป็น ‘สมบัติส่วนตัว’ แถมอยากให้เป็น ‘ของตายในมือ’ อีกด้วย คนอื่นไม่มีสิทธิ์แม้แต่เตร่เข้ามาเจ๊าะแจ๊ะสักคำสองคำ แถมจะเห็นคนรักเป็นบริกรเอนกประสงค์ อยากเรียกใช้บริการที่ไหนเมื่อไหร่ต้องได้ ห้ามมาช้า ห้ามบ่นปอดแปด

เห็นจุดเริ่มต้นของการอยากครอบงำคนรักให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดหรือยัง? หากไม่ได้ดังใจนะครับ คนเราก็จะหาวิธีต่างๆนานา หาจุดอ่อนของคนรักให้เจอ เพื่องัดไม้เด็ดมาใช้ให้ถูกจุด จนกว่าจะครอบงำและควบคุมความนึกคิดของคนรักได้ทั้งตัว

จากเริ่มต้นที่ตั้งความหวังไว้ว่าคนรักจะเป็นแหล่งรวมอารมณ์ดีของฉัน ในที่สุดก็กลายเป็นแหล่งรวมความได้อย่างใจของกู

เมื่อรักกัน คบหาสนิทกัน ใครสมควรเตรียมตัวเป็นฝ่ายซวย ใครสมควรเป็นตัวซวย ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง เกมรักกลายเป็นว่าใครหงอก่อน เปิดช่องโหว่ให้ก่อน ก็จะมีสิทธิ์เป็นฝ่ายซวยก่อน ใครแสดงความเข้มแข็ง หรือมารยาเพทุบายดีกว่า คนนั้นก็ได้ตำแหน่งตัวซวยประจำชีวิตของคนรักไป คนเรากลัวการสูญเสีย แต่ก็ตั้งหน้าตั้งตาสร้างเหตุแห่งความสูญเสียกันอย่างไม่ต้องหยุดต้องหย่อน บางทีรู้แก่ใจว่าเป็นตัวซวย ทำชีวิตคนรักให้อับเฉา อึดอัดคับอกคับใจ ก็ขี้เกียจเกินกว่าจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตนเอง จะเปลี่ยนทำไม ได้เป็นนายแล้วนี่

เอาล่ะ! เดี๋ยวจะเครียดเกินไป มามองด้านดีบ้าง เพราะเห็นเงื่อนไขของการเป็นคนร้ายหลังคบกับคนรักกันไปแล้ว คราวนี้หากจะเป็นคนรักที่ทำตัวน่ารักอย่างยั่งยืน เราต้อง ‘สมมุติ’ ให้มีเงื่อนไขอะไรอยู่บ้าง?

มองบางคู่ที่มีตัวตนอยู่ในโลกนี้จริง คนบางคนโชคดีเจอ ‘แจ็กพอตของชีวิต’ โดยไม่ต้องพยายาม กล่าวคืออยู่ดีๆก็ได้เจอคนสมกัน มีความเลื่อมใสในชีวิตที่ดีงามเหมือนๆกัน มีความประพฤติอันใสสะอาดพอๆกัน มีความเสียสละไม่เอารัดเอาเปรียบได้เท่าๆกัน ตลอดจนมีความคิดอ่านในระดับเดียวกัน

อันนี้สอดคล้องกับคุณสมบัติที่จะครองรักกันอย่างสมบูรณ์แบบตามอุดมคติพุทธ นั่นคือ มีศรัทธา มีศีล มีจาคะ และมีปัญญาเสมอกัน สำหรับคุณๆที่อาจยังไม่เคยเจอคู่แสนประเสริฐดังกล่าว ก็ขอให้ฟังหูไว้หู แบบเผื่อใจไว้แล้วกัน คิดว่า ถ้าคุณสมบัติเหล่านี้เป็นแค่เรื่องสมมุติ ก็แปลว่าไม่มีคู่ที่หลุดรอดจากทฤษฎีทำร้ายคนรัก แต่หากเป็นจริงได้เมื่อใด ก็แปลว่าทฤษฎีทำร้ายคนรักจะใช้ไม่ได้กับคู่นั้นอย่างเด็ดขาด!

ผู้ที่ศรัทธาความบังเอิญ ย่อมไม่อาจเลื่อมใสว่าคู่ใดในโลกจะมีคุณสมบัติที่เพียบพร้อมดังกล่าวได้ ส่วนผู้ที่ศรัทธาพรหมลิขิต ย่อมเชื่อว่าถ้ามีการขีดชะตาไว้จากฝั่งฟ้าเบื้องบน ก็ย่อมมีอะไรเช่นนั้นได้อย่างไม่ต้องสงสัย (และไม่ควรตั้งคำถามว่าทำไมจึงได้รับความกรุณาอย่างลำเอียงเช่นนั้น) ดังนั้นจึงไม่มีอะไรดีไปกว่าการทำตนเป็นคนร้าย ปล้นความสุขของคนรักกันต่อไป

แต่สำหรับผู้ที่ศรัทธากรรมวิบาก ย่อมเชื่อในเรื่องของ ‘การพยายามทำให้มี’ เชื่อในศักยภาพของมนุษย์ ว่าถ้าสมมุติอะไรขึ้นมาได้ก็แปลว่าคิดได้แล้ว และ ‘ถ้าคิดได้ก็ต้องทำได้’ ขอเพียงมีวินัยและความซื่อสัตย์กับความตั้งใจของตนเองไปสักพัก เขาย่อมเห็นตามจริงดังที่พระพุทธเจ้าตรัส ว่าสามีภรรยาผู้มีศรัทธา ศีล จาคะ และปัญญาเสมอกัน ควรแล้วที่จะครองรักอยู่ด้วยกันตลอดชีวิตปัจจุบัน และจะได้พบกันอีกในปรโลก

ชายหญิงคู่อื่นในโลกย่อมสลับกันเป็นฝ่ายกระทำและฝ่ายถูกกระทำ เมื่อทำเขาเจ็บ วันหนึ่งก็ต้องเจอใครสักคนทำให้เจ็บบ้าง และถ้าเห็นคนอื่นเป็นทาส วันหนึ่งย่อมตกอยู่ในฐานะข้าทาสบ้าง เป็นความยุติธรรมที่ได้ดุลดีในธรรม อันนั้นก็ปล่อยเขาไป แต่อย่าปล่อยตัวเราเองเลย ไม่มีใครสร้างกฎ แต่ก็ตกอยู่ภายใต้กฎนี้เหมือนๆกันหมด ถ้าเราทำถูกกฎ กฎย่อมสนองคืนเป็นความรู้สึกถูกต้อง และบันดาลรูปชีวิตที่เป็นสุขสืบไป ให้ปัจจุบันเป็นตัวกำหนดอนาคต อย่าปล่อยให้อดีตมาครอบงำปัจจุบันและอนาคตกันเลย

สิ่งที่คนรักดูเหมือนน่าจะมี คือความพร้อมที่จะรัก แต่สิ่งที่ทุกคนมีอยู่แน่ ๆ ก็คือ ความพร้อมจะร้าย

http://dungtrin.com/empty2/21.htm

********************************************
จากบทความด้านบน...

ผมอยากให้คุ่รัก....ทุกๆคู่ ถนอมความรักกันไว้ให้ดี
เวลามีปัญหาอะไร....ให้นำบทความนี้ขึ้นมาอ่าน

มันอาจจะดีสำหรับท่าน ทีี่ยัง......ได้รัก......มีรักอยู่..และยังมีคำว่า " เรา "
ให้จดจำบทความด้านบนนี้ไว้...แล้วให้หันมามอง...ตัวนเองว่าท่านเป็นอย่างไร
ผมบอกได้เลยว่าถ้าท่านอ่านจนจบ ท่านคงจะได้อะไรทีมากมาย มหาศาล .......
ต่อไปอยู่ที่ตัวท่านแล้วครับ ว่าความรักของท่านจะเป็นอย่างไรต่อไป......

**ขอให้โชคดีในความรัก**


สำหรับท่าน....ที่ไม่มีสิิ่งต่างๆ...เหล่านี้อีกต่อไปแล้ว (ได้รัก......มีรักอยู่..และยังมีคำว่า " เรา ")
ก็คงจะได้ข้อคิด หรือแง่มุมดีๆ ที่จะนำไปใช้ในอนาคตข้างหน้า หากท่านเจอรักครั้งต่อไป..
ผมเดาได้ว่า..............ท่านจะทำให้รักครั้งใหม่ของท่าน...........
(..........................) ตอบเอาเองครับในวงเล็บท่านอยากได้แบบไหน


ส่วนตัวผมเชื่อว่า..............รักแท้ยังมีอยู่จริง (อยู่ที่เราและคนที่เรารักจะร่วมกันทำ)


ขอให้ทุกๆคน โชคดีในความรัก


จิรภัทร กรองคำ

13 March 2552


.....................................................................................................................................

0
Katty 12 ส.ค. 58 เวลา 18:18 น. 12

ตอนนี้รู้สึกไม่เหลือคัยเลยแต่ได้อ่านบทความนี้แล้วรู้เลยว่าตัวเรามีคุณค่ามากว่าที่จะเสียน้ำตาให้กับคนที่ไม่เห็นค่าของเรา

0
เจ็บมาก 4 ก.พ. 59 เวลา 19:37 น. 14

ตอนนี้ก็เป็นเหมือนกันค่ะ เค้าขอให้เราถอยออกมาคนละก้าวเพื่อจะมีอะไรดีขึ้น (การถอยคนละก้าวหมายถึงบอกเลิกแบบสุภาพ)เลิกคุยกันมาได้สองอาทิตย์ แล้วละยังทำใจไม่ค่อยได้เหมือนกันเพราะเรารักเค้ามาก กว่าจะทำใจได้คงใช้เวลานานพอสมควร

0
mome 13 มี.ค. 60 เวลา 23:50 น. 15

ทุกข์มาก ร้องไห้หนักมาก บอกใครก็ไม่ได้ เพราะที่ทำอยู่มันผิด อายที่จะพูด อยากระบาย และก็ต้องเก็บไว้ เขาไม่รักเรา แต่เรารักเขา ที่สำคัญ เขาเป็นของคนอื่น รู้ว่าผิด แต่ปล่อยให้หัวใจนำทาง มากกว่าสมอง ลดศักดิ์ศรีเพียงเพื่อรั้งเขาไว้ รู้อยู่แก่ใจว่าเขาไม่รักเราแล้ว แต่ก็หลอกตัวเอง ให้ยังอยู่ได้ไปวันๆ ในขณะเดียวกัน ก็เก็บเกี่ยวสิ่งดีๆ น้อยนิดไว้เป็นกำลังใจ ในยามที่ต้องปล่อยเขาไป รู้ดีว่ามันต้องมาถึง แต่ไม่อยากจากกันแบบไร้เยื่อใย จึงพยายามทำสิ่งดีให้ได้มากที่สุด เพื่อวันที่เขาต้องไป เราจะได้ไม่เสียใจ ว่าไม่ได้ทำให้เต็มที่ เราบังคับเขาอยู่ รู้สึกสงสารตัวเอง และเขารักษาน้ำใจเรา จนวินาที ที่เขาเองก็ไม่ไหว เพื่อให้เราได้ทำใจได้นานที่สุด สุดท้าย และสุดท้าย ไม่มีความรักเหลือแล้ว เขาและเรา ไม่มีทางไปแล้ว ทำได้เพีย งสร้างความทรงจำที่ดีไว้ เมื่อยามจากจะได้ยังมีเรื่องราวดีๆ ว่าเราเคยรักกัน ปลดพันธนาการหัวใจ ทุกอย่าง แล้วเดินสู่หนทางที่ ถูกต้อง ทั้ง เขา และ เรา อกหักหลายครั้ง แต่ไม่เคยชินกับมัน ได้แต่บอกกับตัวเองว่าเราทำเรื่องที่ถูกต้องแล้ว ต้องสู้และเข้มแข็ง กลับมาสู่โลกแห่งความจริงสักที

0
ชุติมา 24 พ.ค. 60 เวลา 12:00 น. 16

ตอนนี้เราเลิกกับสามีเพราะความไม่เข้าใจกันไม่ใช่เพราะไม่รักกัน แต่ปันหามันค้างคามานานหลายปีตอนยุกันแต่ครอบครัวเราเค้าตบตีเราไม่เลี้ยงดูลุกไม่รับผิดชอบอะไร เลย ที่สำคัญเค้าติดยาเสพติดมาก เรากับลุกจึงตัดสินใจกลับมายุบ้านพ่อบ้านแม่ เค้าก้ตามกลับมายุด้วย เราให้โอกาสเค้าอีกครั้งเพราะคิดว่ามายุบ้านเราคงจะดีขึ้น มาทำงานยุกับพ่อเราเองแหละ ยุได้มา1ปีกว่าๆ เค้าก้เริ่มเป้นเหมือนเดิมป่นกับเราทุกวันว่าเหนื่อยทำงานนี้ไม่ได้แล้ว เค้ายุดับสังคมบ้านเราไม่ได้สังคมบ้านเรามีแต่คนขยันทำงานสุจริด เค้ายุไม่ได้แล้ว พอตอนเช้าของอีกวันนึงเค้าได้หนีเรากับลุกไป แล้วเค้าก้โทมาหาเราว่า เค้าจะมาหางานทำเพื่อที่จะสร้างเนื้อสร้างตัว แล้วจะกลับมารับเรากับลุก แต่เวลาผ่านไปไม่ถึง1เดือนมีผุ้หญิ๋งคนนึงมาขอเราเป็นเพื่อนในเฟสบุค เราก้นั่งดุรุปผุ้หญิงคนนั้นเห็นมาขอเราเปนเพื่อนน่าจะรุ้จักกัน ดูรุปไปเรื่อยๆเราเห็นสามีเรานอนกอดกับผู้หญิงคนนั้นอยุ่ ผุ้หญิงคนนั้นตั้งใจให้เรารุ้เรื่องสามีเรา เพราะสามีเราสั่งไว้ห้ามมายุ่วงกับเรา พอเรารุ้เรืรองราวต่างๆเราเจ็บปวดมากๆร้องไห้หนักมาก แต่เราต้องสุ้เพื่อลูก ลุกเราตั้ง5คนนะ เค้าไม่รับผิดชอบอะไรเลย เราเสียใจและแค้นมากเพราะขณะที่เรานั่งเลี้ยงลูกไม่ได้กินไม่ได้นอน แต่เค้ากลับสบายไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย เวลา10ปีไม่ได้ช่วยอะไรเลย เค้าเก่งมากที่ลืมเารกับลูกได้ ในขณะเดียวกันลูกเอาเสื้อผ้าพ่อมานอนกอดเพราะคิดถึงพ่อ เราคนเปนแม่เจ็บปวดสุดๆ ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้เลยเวลาแค่2เดือนกว่าๆเองที่เลิกกัน รุ้ทั้งรุ้ว่าเค้ามีคนใหม่แล้วแต่ยังทำใจไม่ได้ ที่เล่ามานี้เพราะต้องการระบายออกมา เผื่อจะดีขึ้น ตอนนี้ต้องการกำลังใจมากๆคะ

0