Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เราจับได้ว่าพ่อมีกิ๊กค่ะ ควรทำยังไงดีคะ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
     ตามชื่อหัวข้อเลยค่ะ พ่อเราอายุอยู่ที่เลข 4 ต้นๆ ซึ่งก็ห่างจากแม่ไม่กี่เดือน แม่กับพ่อ ถ้านับจากวันแต่งงานนี่ก็เข้าปีที่ 15 แล้ว แต่พ่อไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้เลย รักแม่คนเดียว แต่มาเมื่อไม่กี่เดือนนี้ พ่อดูแปลกๆไปค่ะ เริ่มกลับบ้านดึก หงุดหงิดแม่บ่อยๆ บางครั้งก็หนีไปคุยโทรศัพท์คนเดียวหลังจากที่แม่นอนแล้ว (อันนี้ตอนแรกก็เข้าใจว่าคงรำคาญที่เรากับน้องเล่นกันเสียงดัง) ซึ่งหลังๆก็เริ่มหนักขึ้นค่ะ จากไม่กี่ครั้ง มันก็เริ่มบ่อยขึ้น จนกลายเป็นทุกคืน และแน่นอนทุกครั้งจะต้องรอให้แม่หลับก่อนค่ะ 
     แต่ว่าเมื่อคืนแม่ตื่นมาเข้าห้องน้ำพอดี แล้วสงสัยเลยมายืนแอบฟัง พ่อตรงระเบียง (คือพ่อนั่งคุยอยู่ที่ชั้นหนึ่ง แม่อยู่ชั้นสอง แต่ตรงชั้น2 จะมีระเบียงมองเห็นว่าใครเข้าออกบ้านได้ค่ะ) แล้วเราที่ยังไม่นอนก็ดันเห็นแม่ยืนอยู่พอดี ปกติเรากับแม่สนิทกันค่ะ มีอะไรบอกแม่หมด แม่เลยบอกว่า แม่สงสัยว่าพ่อจะมีกิ๊ก เลยมายืนแอบฟัง และด้วยความอยากสอดของเรา เราก็เลยเอาหูฟัง แหย่ลงไปตรงรูระเบียง แล้วอัดเสียงไว้ค่ะ แล้วแม่ก็เลยบอกว่า ให้เราไปดูลาดเลา ว่าพ่อจะขึ้นมาเมื่อไหร่ ถ้าขึ้นมาให้บอก เพราะแม่จะดูโทรศัพท์พ่อค่ะ ว่าเขาคนนั้นคือใคร คุยกันนานรึยัง ปรากฏว่า ผญคนนั้น คือเด็กที่มาฝึกงานที่บริษัทพ่อ (พ่อเราทำธุรกิจส่วนตัวค่ะ) แต่ตอนนี้ฝึกงานเสร็จไปแล้วค่ะ ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าใช่รึเปล่า แต่ด้วยความสงสัยเลยเปิดคลิปเสียงฟัง คือพ่อเรียกชื่อผญคนนั้น แล้วบางครั้งก็เรียกว่า ที่รัก เลยทำให้เราค่อนข้างแน่ใจค่ะว่าพ่อเรามีกิ๊ก
     แล้ววันนี้มันก็หนักขึ้นอีกค่ะ ปกติพ่อเราจะไม่ค่อยออกไปข้างนอกเลยถ้าไม่อะไรจำเป็น และปกติพ่อเวลาไปส่งเรากับน้องที่โรงเรียนจะแต่งตัวสบายๆค่ะ (เรากับน้องเป็นเด็กวงโยค่ะ เลยมีซ้อมช่วงปิดเทอมกัน) แต่วันนี้ดันแต่งเหมือนกับจะออกไปข้างนอกเลย ไม่กลับบ้าน แล้วพอเราเลิกซ้อม ปกติพ่อจะมารอเราก่อนค่ะ แต่วันนี้พอเราโทรไปหาพ่อ กลับบอกว่าจะรอกลับพร้อมน้องไหม เพราะน้องเราเลิกตอน 6 โมงเย็น ซึ่งด้วยความสงสัยว่าพ่อแอบทำอะไรรึเปล่า เราเลยบอก ไม่เอา แต่พ่อก็ถามต่อค่ะว่า ไม่ไปหาอะไรกินกับเพื่อนหรอ ซึ่งมันทำให้เรายิ่งสงสัยค่ะ เลยบอกไม่ไปอีกครั้ง น้ำเสียงพ่อก็เริ่มไม่โอเคแล้วค่ะ เราเลยบอกว่าให้มารับได้เลย ไม่ไปไหน สักพักพอพ่อมารับ คือบนรถมีกลิ่นแปลกๆและ แก้วน้ำพลาสติกใส่น้ำแข็งอยู่ค่ะ คือน้ำแข็งยังเยอะๆอยู่เลย และมีหลอดด้วย ซึ่งวันนี้พ่อเราพกกระติกน้ำ และ พ่อเป็นคนไม่ใช้หลอดเวลาดื่มน้ำค่ะ พอเรานั่งรถไปสักพักพ่อก็โทรหา ผญคนนั้นค่ะ คือคุยกับผญคนนั้นด้วย น้ำเสียงแบบนุ่มมาก นะคะอย่างนั้น นะจ๊ะ อย่างนี้ คือเริ่มไม่เกรงใจเราแล้ว หรือคิดว่าเรายังไม่รู้รึเปล่าเลยไม่เกรงใจ 
     พอกลับมาถึงบ้าน เราถามแม่ค่ะว่า สรุปแม่จะเอายังไง จะอยู่เงียบๆแบบนี้หรอ ไม่คิดจะทำอะไรเลยหรอ จะยอมเขาอยู่แบบนี้รึไง ซึ่งแม่เราก็ยอมพ่อมาตลอดค่ะ ไม่ใช่คนที่จะเถียงพ่อฉอดๆ
     ไม่รู้นะคะว่าคนอื่นจะคิดว่าเราตัดสินใจเร็วไปรึเปล่าว่าพ่อมีจะมีจริงๆ แต่คือเราคิดว่าทุกอย่างที่เห็นมันก็ชัดเจนอ่ะค่ะ ทั้งข้อความในแชท คำพูดหวานๆ สรรพนามแทนชื่อ ต่างๆนานา ตอนนี้มีแค่เรากับแม่สองคนที่รู้ ที่ไม่บอกน้องเพราะยังไม่อยากให้น้องมีปัญหากับพ่อค่ะ คือน้องเรายังเด็กอยู่เลย ยังเรียนประถมอยู่ ส่วนตัวเราก็ยังอยู่ม.ต้น ถ้าเกิดปัญหาเรื่องนั้นมันปานปลายขึ้นมาจริงๆ เราก็คงไม่รู้ว่าจะทำยังไงเหมือนกันค่ะ ใครที่เคยประสบปัญหาแบบนี้มีวิธียังไงคะ เรายังทำใจไม่ได้เลย และแม่ก็ยังไม่โอเคเลยค่ะ

แสดงความคิดเห็น

2 ความคิดเห็น

saowaluk 26 ก.ย. 59 เวลา 20:17 น. 1

ลองเปิดใจคุยกับพ่อก่อนไหมคะ มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราคิด หรือถ้าใช่ก็คุยกับพ่อเลยคะ ว่าระหว่างครอบครัวกับกิ๊กพ่อจะเลือกใคร ส่วนตัวคิดว่ายังไงคนเป็นพ่อก็ต้องเลือกลูกและครอบครัวอยู่แล้ว
หรือถ้าพ่อเลือกกิ๊ก......เราก็ต้องทำใจยอมรับความเป็นจริง อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงดีกว่าค่ะแล้วเวลาจะช่วยเยียวยาทุกอย่างเอง.....อย่างน้อยเราก็ยังมีคนที่เรารักอยู่เคียงข้างและสู้ต่อไปค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะค่ะสู่ๆ

1
#Dearquaint 26 ก.ย. 59 เวลา 20:28 น. 1-1

คือน้องยังเด็กอยู่เลยอ่ะค่ะ กลัวว่า ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นแล้วน้องจะมีปัญหา แล้วเราก็คุยกับแม่ด้วยอ่ะค่ะ ว่าจะไม่บอกพ่อว่ารู้แล้ว ถ้าแม่พร้อมแม่จะคุยเองอ่ะค่ะ

0
zukaken 27 ก.ย. 59 เวลา 01:35 น. 2

คุณแม่เป็นแม่บ้านหรือเปล่าคะ มีรายได้ไหม
คือสมมติในกรณีที่แย่ที่สุด คือคุณพ่อไม่เกรงใจไม่รักแล้ว ไม่เลือกคุณแม่ แล้วจะหย่า (สมมติเฉยๆนะ ถ้าคุณพ่อเลิกกับเด็กฝึกงานแล้วกันไป ไม่มีอีก ก็โอเค แต่ส่วนใหญ่ ผู้ชายพอมีชู้แล้วมันก็แก้นิสัยไม่หายอะ)
ถ้าเ็นแบบนั้น น้องๆ2คนจะอยู่กับใคร น้องยังต้องเรียนหนังสืออีกหลายปีไม่มีรายได้

ดังนั้น อาจจะต้องทนไปก่อน + บอกให้คุณแม่หางานทำ ให้มีรายได้พอเลี้ยงตัวเองให้ได้อย่างน้อยที่สุด
ถ้าอนาคตมันมีเรื่องแบบนี้อีกแล้วทนไม่ไหวจริง จะได้ไม่ลำบาก ผู้หญิงเราถ้าต้องพึ่งผู้ชายให้เขาหาเลี้ยง มันก็ต้องยอมเขาร่ำไปอ่าค่ะ เขาก็จะคิดว่าเราเป็นของตายด้วยเพราะยังไงก็หนีไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว

ส่วนน้อง2คนตอนนี้มีหน้าที่เรียนหนังสือให้ดี หางานดีๆทำ และให้กำลังใจคุณแม่
ไม่ต้องไปพูดตรงๆกับคุณพ่อนะคะว่ามีกิ๊กหรือเปล่าหรืออะไร เพราะผู้ชายจะอายและปฏิเสธปากแข็ง ไม่ยอมรับหรอก เสร็จก็ทะเลาะกัน
แต่ให้น้องๆไปตัวดีๆๆใส่ วาดรูปไปให้ ทำขนม เอาน้ำไปให้ ไม่ดื้อไม่ซนไม่ทำตัวน่ารำคาญ คือทำอะไรก็ได้ค่ะ ที่ทำให้ผู้ชายซาบซึ้งใจว่า เออ เขามีลูกมีเมียที่ดีขนาดนี้ จะเอาความหลงต่อเด็กฝึกงานมาทดแทนได้จริงๆหรือ จะยอมเสียลูกๆที่แสนน่ารักไปหรือ

เรื่องจับเข่าคุยตรงๆนั้นเป็นหน้าที่คุณแม่ น้องไม่ต้องยุ่งค่ะ แต่ต้องเตรียมตัวรับสถานการณ์ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

//เป็นกำลังใจให้นะ บ้านพี่คุณพ่อคุณแม่หย่ากัน เพราะคุณแม่ไม่ต้องการให้คุณพ่อเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีว่าผู้ชายจะทำยังไงกับผู้หญิงก็ได้ ถึงเลิกกับชู้ก็ไม่ยอมให้กลับมาอยู่ด้วยกัน พี่ก็เข้าใจและอยู่กับคุณแม่ ก็มีความสุขดีนะ รู้สึกดีที่แม่ไม่ต้องมีคู่ชีวิตที่ไม่ซื่อสัตย์ แต่ถ้าแม่พี่เป็นแม่บ้านคงทำไม่ได้ มันต้องแน่ใจว่ามีรายได้เพียงพอน่ะไม่รู้สถานการณ์บ้านน้องเป็นยังไง เลิกไม่ได้ก็ต้องทนๆอยู่ไปแหละ ไงก็ขอให้โชคดีจ้า

0