อย่าทำแท้ง เพราะสิ่งที่ได้คือเสียใจทั้งชีวิต

เราว่าถ้าเกิดท้องไม่พร้อมขึ้นมา เด็กยังเรียนอยู่ ไม่มีรายได้ แม่เด็กเองก็ยังไม่มีวุฒิภาวะที่ดีพอ การทำแท้งมันก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีต่ออนาคตตัวเด็กและลูกเองนะ เด็กเกิดมาแล้วต้องอยู่อย่างลำบาก อดมื้อกินมื้อ ไม่ได้รับการอบรม การศึกษาที่ดีพอ โตมาก็เป็นปัญหาสังคมอีก ตัวอย่างก็มีให้เห็นเยอะแยะ การเลี้ยงดูลูกให้โตมาเป็นเด็กที่มีคุณภาพมันไม่ได้ทำกันได้ง่ายๆซะหน่อย

อีกทางเลือกหนึ่งคืออะไร

ทั้งๆที่มัน"ผิดกฎหมาย"นับเป็นทางเลือกได้อย่างไรกัน

ทำแท้งถูกกฎหมาย 1.โดนข่มขืนมา2.สภาพร่างกายไม่สามารถมีลูกได้จะทำให้ตัวตาย

อย่าอ้างนั่นอ้างนี่เพื่อทำผิดกฎหมายและสร้าบาปสร้างกรรมเลย

วุฒิภาวะไม่พอ ยังไม่พร้อม แต่ดันเอากันจนท้อง ! บ้าไปแล้วคนไม่พร้อมเขาจะเอากันทำไม ต้องพร้อมแล้วล่ะ ยิ่งท้องแล้วยิ่งต้องทำตัวให้พร้อมไม่ใช่มาเจี๋ยมเจี้ยมโทษนั่นโทษนี่อ้างนู่นนี่นั่นจนลืมโทษตัวเองลืมหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ

มันเหนื่อยแค่ไหนลำำบากแค่ไหนก็ต้องยอมรับผลของการกระทำ

ขอโทษนะเราไม่ชอบคนทำผิดกฎหมาย

ผมนี่งงกับตรรกะ ความคิดของ คุณความจริง มากๆ คุณเป็นคนที่เข้าใจผิด ตั้งแต่กระบวนการคิดเลยนะครับ

เพียงเพราะ คุณไม่พร้อมที่จะเลี้ยงดู คุณจึงต้องฆ่ามนุษย์คนนึงไป ถ้าคุณคิดอย่างนี้ ผมว่าคุณแยกแยะผิดถูกอะไรไม่ได้แล้ว คุณมีปัญหาทางจิตใจกับการแยกแยะแล้วนะครับ

ผมไม่รู้จะบอกยังไงกับคุณเลย คุณเคยได้ยิน สุภาษิต เห็นกงจักร เป็นดอกบัว ไหม นั่นแหละสิ่งที่คุณกำลังเป็นอยู่นะ คุณ ความจริง สิ่งที่คุณพิมพ์สื่อมานี่ มันบ่งบอกได้ว่าจิตใจคุณด้านชามาก ไม่ได้คำนึงถึง ชีวิต ชีวิตหนึ่งที่เกิดมาอย่างบริสุทธิ์ เพียงเพราะว่า เขาเกิดมาแล้วต้องกินต้องใช้ ต้องทำให้คุณลำบากต่างๆนานา คุณก็ฆ่าเขา

ผมสงสัยนัก ว่ายามที่พ่อแม่คุณแก่ตัวไป และจะทำให้คุณลำบากต่างๆนานา คุณจะฆ่าพวกเขาไหม เพราะกระทั่งลูกของคุณเอง คุณก็ยังลงความเห็นว่า ฆ่าได้ เพราะมันทำให้ลำบาก

ผมละกลัวใจจริงๆ สังคมที่มีเยาวชนคิดเห็นอย่างนี้ ถ้ามีมากๆ สังคมในภายภาคหน้าจะไม่มีความเห็นใจ ไม่มีความอาทร ให้แก่กันอีกแล้ว เพราะกระทั่งลูกก็ยังฆ่าได้ แม้แต่หมามันยังรักลูกของมัน แม้แต่-็ยังไม่กินลูกของมัน สัตว์เดรัจฉานเหนือว่าคน ในด้านจริยะแล้ว ผมว่านะ....ยุคมืดคงไม่ไกลนัก

ผมเพิ่งเห็นว่าคุณ บลูสกาย เปลี่ยนข้อความในคอมเม้น จึงไม่ได้ตอบตั้งแต่แรก

ผมขอย้ำกับคุณ บลูสกายนะครับ ว่ามันไม่เกี่ยวกับ 'โลกสวย' 'โลกไม่สวย' วลีเหล่านี้ เป็นการหมิ่นกันทางความคิดอย่างหนึ่งนะครับ

และสิ่งที่ผมคิด นั้นตั้งอยู่ในบรรทัดฐานของ ศีลธรรม กฏหมาย และจริยา คุณถามผมว่า มีลูกแล้วเอาลูกไปให้พ่อแม่เลี้ยงบาปไหม ผมตอบไม่ได้ครับเพราะผมไม่รู้จริงในกฏแห่งกรรม ว่าใครทำอะไรแล้วบาปไม่บาป แต่ว่า ลูกของคุณ คุณสร้างขึ้นมาก็ต้องรับผิดชอบมัน คุณจะผลักภาระให้คนอื่นรับผิดชอบไม่ได้หรอก นั่นคือข้อเท็จจริง

และอย่าบอกครับ ว่ามันทำไม่ได้ มีตัวอย่างดีๆมากมาย ที่พ่อแม่ตั้งท้องในวัยเรียน เด็กก็ออกมาคลอดแล้วเรียนต่อ กศน. เรียนต่อมหาลัยภาคพิเศษ ระหว่างนั้นก็ทำงานหาเลี้ยงลูกไป สิ่งที่คุณคิด ที่คุณบอกถ้าไม่ได้ใช้คำพูดสวยๆ ก็คือ 'หนูรับผิดชอบไม่ได้ หนูไม่อยากให้คนอื่นเดือดร้อน และลูกที่เกิดมาจะทำให้ชีวิตตกต่ำ เพราะฉะนั้นลูกที่เกิดมาต้องตาย' นั่นแหละครับ

คุณเลือกที่จะฆ่ามนุษย์คนหนึ่ง แทนที่จะรับผิดชอบทุกสิ่งทุกอย่าง คุณอย่าลืม ว่าเด็กคนนี้เกิดมาเพราะความรักสนุกโง่ๆ แล้วมันควรหรือ ที่ต้องเป็นเด็กคนนี้ที่ต้องมารับผลกรรม เพียงเพราะพ่อแม่ไม่พร้อมเลี้ยงจึงต้อง ฆ่า ซะ ใช่ไหม

นี่มันเป็นความคิดของคนที่ไม่มีความรับผิดชอบครับ และเป็นความคิดของคนที่ไร้ความเมมตา เด็ก คนหนึ่งเกิดมาไม่รู้อะไร ถ้าไม่พร้อม ก็อย่าทำ ถ้าทำต้องรับผิดชอบได้ นั่นแหละคือสิ่งที่ควรปฏิบัติกันจริงๆ และ ต้องมีก็ต้องยอมรับมัน เพราะผู้หญิงเหล่านั้น ถ้าไม่ได้ถูกข่มขืนมา พวกเธอก็เลือกเองทั้งนั้น เพราะฉะนั้นเมื่อเลือกแล้ว ก็ต้องยอมรับผลของมัน ไม่ใช่ปัดสวะ ทำแท้งไป นั่นเป็นคำตอบที่ผิดมากครับ

งั้นถามหน่อยครับ ถ้าให้เลือก ระหว่าง "ไม่พร้อม แต่ทำแท้ง" กับ "ไม่พร้อม แต่ไม่มีปัญญาเลี้ยง โยนภาระให้คนอื่น ทอดทิ้งลูก สุดท้ายกลายเป็นโจร" คุณจะเลือกอันไหน จะบอกว่า ไม่มีอันไหนดี แต่ถ้าให้เลือก ผมเลือกอย่างแรก เพราะถ้าเลือกอย่างที่ 2 ปัญหามันตามมาอีกมากมาย คนที่ไม่พร้อมจริงๆ จะสร้างภาระให้ตัวเองไปทำไมครับ ต่างประเทศเขาก็มีการทำแท้งแบบถูกกฏหมาย ถ้าเปิดใจให้กว้าง อยากให้คุณเข้าไปอ่านกระทู้ที่ผมแนบไว้ คห.1 ด้วย แล้วก็หัดมองหลายๆด้าน อย่ามองแต่ด้านที่ต้องเก็บเด็กไว้อย่างเดียว

อีกอย่างที่จะบอกก็คือ คุณคนไม่จริง คุณอย่าเที่ยวทำตัวเป็นไม้บรรทัดมาวัดการกระทำของคนอื่น การที่คุณพูดแบบนี้แล้วทำแบบนี้ก็ไม่ได้หมายถึงว่าคุณจะทำตัวยกตนข่มท่านหรือเป็นคนดีหรอกนะครับ ได้อ่านกระทู้ที่ผมแนบมารึยังเอ่ย?

คุณต้องเข้าใจนะว่า คนทั้งโลกไม่ได้คิดแบบคุณ ผมคนนึงคงไม่มีลูกแน่นอน เพราะไม่มีปัญญาเลี้ยง แต่คนอื่นๆที่เขารักสนุก พลาด หรืออะไรก็ตาม คุณเปลี่ยนคนพวกนั้นได้เหรอครับ เขาไม่ได้คิดเหมือนคุณนี่ ถ้าเขาคิดเหมือนคุณ ปัญหาพวกนี้มันจะเรื้อรังมาถึงทุกวันนี้หรอครับ

สิ่งที่ผมทำก็เพียงจะบอก จขกท. ว่ามันผ่านมาแล้ว ตัดสินใจไปแล้ว ก็เดินหน้าต่อ การไปซ้ำเติมเขาหรือให้เขายึดติดกับอดีตไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น แล้วผมก็ไม่ได้บอกว่าการทำแท้งมันถูกต้อง แต่ถ้ามันจำเป็น เน้นแล้วนะ ถ้าจำเป็น มองอนาคตแล้วว่าไปไม่รอด ก็ต้องทำ อย่าเอาชีวิตที่ผ่านโลกมาหลายปี เช่น พ่อแม่ มาเทียบกับเด็กที่อยู่ในท้องที่ใช้ชีวิตไม่เป็น ถึงเป็นชีวิตนึงเหมือนกัน แต่ปัจจัยอื่นๆมันไม่เหมือนกัน การทำแท้งก็ไม่ได้การันตีว่าคนทุกคนจะใจด้านชาแบบที่คุณกล่าวมาด้วย

ตัวคุณเคยผ่านเรื่องพวกนี้มาหรือไม่ ถึงได้กล้าตัดสินคนอื่นว่าใจด้านชา คนรอบตัวผมผ่านมา ผมพูดได้ แล้วก็จะบอกไว้เลยว่าไม่ได้รู้สึกดีไปกว่าคุณเลย อย่าเที่ยวมาตัดสินผมแบบนี้ ที่จขกท.ตัดสินใจแบบนั้น แต่มันเป็นเรื่องของเขา เราเตือนแล้ว เราทำดีที่สุดแล้ว แต่ถ้าเขาจะเลือกแบบนั้น คุณทำอะไรได้?

กรุณามองโลกแห่งความเป็นจริงด้วย ทุกคนเกิดมาไม่ได้เท่าเทียมกัน คุณบอกให้พวกเขาเก็บเด็กไว้ ถ้าเกิดปัญหาอะไรขึ้น คุณพร้อมจะช่วยเขาไหม จะแบ่งรายได้ของตัวเองไปให้พวกเขาไหม ถ้าไม่ได้ก็อย่าพูดเลยครับ (มันเป็นสิทธิ์ของตัวแม่ที่จะตัดสินใจ) เราคนนอกก็รับฟังไว้เท่านั้น


ผมไม่ได้รู้สึกดีกับการทำแท้งเลย แต่ จขกท. ตัดสินใจแล้ว ทำแล้ว ผมทำได้เพียงให้คำแนะนำเท่านั้น คนอื่นๆที่มาอ่าน คุณจะทำหรือไม่ทำก็ได้ สิทธิ์ของคุณ รับฟังคนรอบข้างไว้ ปรึกษาหลายๆด้าน ทั้งหมอ ทั้งครอบครัว แล้วหาข้อสรุปที่ดีที่สุด อย่ายึดถือแต่ตัวเอง ทำเป็นพูดสวยหรู แต่ชีวิตจริงมันไม่ใช่แบบนั้น

การปล่อยให้เด็กเกิดมาแล้วเผชิญปัญหากับตายาย แต่พ่อแม่ทิ้ง ไม่ดูแล ออกรายการสู้ชีวิตก็ไม่ใช่เรื่องดีครับ เด็กเกิดมาไม่ได้ใช้ชีวิตในวัยเด็กให้คุ้ม โตมาแบบลำบาก นี่คือสิ่งที่คุณต้องการหรอครับ สงสารเขาบ้างไหม

"นี่มันเป็นความคิดของคนที่ไม่มีความรับผิดชอบครับ และเป็นความคิดของคนที่ไร้ความเมมตา เด็ก คนหนึ่งเกิดมาไม่รู้อะไร ถ้าไม่พร้อม ก็อย่าทำ ถ้าทำต้องรับผิดชอบได้ นั่นแหละคือสิ่งที่ควรปฏิบัติกันจริงๆ และ ต้องมีก็ต้องยอมรับมัน เพราะผู้หญิงเหล่านั้น ถ้าไม่ได้ถูกข่มขืนมา พวกเธอก็เลือกเองทั้งนั้น เพราะฉะนั้นเมื่อเลือกแล้ว ก็ต้องยอมรับผลของมัน ไม่ใช่ปัดสวะ ทำแท้งไป นั่นเป็นคำตอบที่ผิดมากครับ"

ก็เขารับผิดชอบไม่ได้ไงครับ เลยต้องทำแท้ง ถ้าเขาเลือกที่จะทำแท้ง ก็เป็นสิ่งที่พวกเขาต้องยอมรับ
คุณจะมาตัดสินได้ไงว่า เธอท้องนะ เธอต้องเลี้ยงเขาไว้ อย่าฆ่าทิ้ง มันก็ไม่ใช่สิ่งที่คุณเป็นผู้กำหนด

ส่วนเรื่องโลกสวยไม่สวย ก็ตามนั้น โลกผมไม่สวย โลกคนธรรมดา ผมก็พูดแบบนั้น ถ้าคุณจะโลกสวยหรือไม่ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรครับ ไม่ได้กล่าวอ้างด้วย

แล้วเอาชีวิตคนเรามาเปรียบเทียบกันได้ไง เกิดมาก็มีไม่เท่ากันแล้ว คนอื่นทำได้ จำเป็นหรอที่ว่าตัวเขาต้องทำได้บ้าง ถ้า จขกท. เขาทำไม่ได้ มันก็เป็นเรื่องของเขาที่ต้องไปคิดเอาเองแล้วครับ ผมก็ให้คำแนะนำไปเพียงเท่านั้น

ความหมายของการทำแท้งก็คือ ฆ่าเด็กนั่นแหละครับ คุณเข้าใจไม่ผิด

แต่เขาจำเป็น เขาจึงต้องทำ แล้วก็ไม่ได้บอกว่ามันไม่ผิด

คุณจะด่า จขกท. ว่าชั่ว เลว ใจด้านชา ก็เรื่องของคุณ แต่คุณเปลี่ยนอะไรได้ไหม ด่าแล้วรู้สึกดีขึ้นไหม ในเมื่อ จขกท. ทำไปแล้ว เด็กจะฝื้นกลับมาไหมครับ ก็ไม่นะ มันผ่านมาแล้วอะ แก้ไขไม่ได้

อีกอย่างนะ การที่ผมไม่เห็นด้วยกับคุณ ก็ใช่ว่าคุณจะด่าผมต่างๆนานาได้ครับ

คุณบลูสกายกครับ
"ไม่พร้อม แต่ไม่มีปัญญาเลี้ยง โยนภาระให้คนอื่น ทอดทิ้งลูก สุดท้ายกลายเป็นโจร" ประโยคนี้มันบอกอะไรได้เยอะมากเลยนะครับ การที่คุณบอกแทนที่จะทำอย่าง สู้ฆ่า ทิ้งไปซะดีกว่า มันก็เป็นความคิดที่ไร้เมตตานะครับ ทุกชีวิตรักชีวิตของตัวเองทั้งนั้นครับ ต่อให้เขาจะกลายเป็นอภิมหาโจรในภายภาคหน้า แต่วันที่เขาเป็นแค่เด็กไร้เดียงสา คุณก็ไม่มีสิทธิไปพิฆาตฆ่าให้เขาดับไปนะครับ

และอีกสิ่งที่คุณบอก ผมอ่านมานานแล้วครับ กระทู้นี้ และกระทู้อื่นๆแนวเดียวกันนี่แหละ เขายกตัวอย่างจากต่างประเทศ ที่ทำแท้งเสรี แล้วยกว่าพ่อแม่ที่มีความพร้อมจะเลี้ยงลูกได้ดี อันนี้ผมยอมรับว่าจริง เพราะเมื่อคุณพร้อม คุณก็สามารถเลือกมีบุตรได้ แต่สิ่งเหล่านี้ มันต่างอะไรกับปศุสัตว์ละครับ ผมอยากทราบ

สิ่งที่คุณพยายามจะสื่อ และค้านผม คือ บอกว่า ฆ่าทิ้ง ดีกว่าปล่อยอยู่อย่างอดๆอยากๆ ใช่ไหมครับ ผมเองก็พยามจะบอกคุณเหมือนกัน ว่าเราทุกๆคน รักชีวิตของตัวเองทั้งนั้น แม้แต่สัตว์ แม้แต่มด แมลง ไม่มีใครต้องการตาย ต่อให้ต้องอยู่อย่างแร้นแค้น ถ้าได้รู้ และเลือกได้ ก็เลือกที่จะอยู่ต่อไป

ส่วนที่ผมไม่เห็นด้วยคือ คุณใช้ข้อความที่สนับสนุนถึงการทำแท้งเสรี นี่แหละ มันไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง การแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องเนี่ยคือ ทำให้เด็กมันเลิกมี sex ในวัยเรียน ทำให้เด็กมันเลิก มีค่านิยมกินอยู่ก่อนแต่ง อยู่กินในวัยเรียน นี่เป็นหนทางที่ถูก เป็นทางแก้ปัญหาที่ถูกต้อง ไม่มีผลเสีย

และในเมื่อ เลือกเอง เลือกที่จะรักสนุก ใครก็ตามที่เลือกแล้ว ก็ต้องรับผลของการกระทำตัวเองสิครับ มันสมควรไหมละครับ ที่จะให้เด็กที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ต้องมารับเคราะห์ผลกรรมที่คุณก่อ เพียงเพราะรักสนุกสนานเนี่ย มันใช่เหรอครับ

ในส่วนที่บอกว่าผมใช้คำพูดสวยหรู ผมว่าคุณต่างหาก ที่ใช้คำพูดสวยหรู คุณมักย้ำเสมอ ว่าคุณมองโลกตามจริง คุณมองโลกไม่สวย และคุณก็บอกว่าผมใช้คำพูดโลกสวย โลกมันก็เหมือนเดิมนันแหละครับแต่จิตใจที่คุณใช้มองต่างหาก ที่มันไม่สวย

สุดท้ายนี้ ผมยังยืนยันคำเดิม ไม่มีใครควรตาย แม้แต่เด็กที่ยังไม่ลืมตาดูโลก และไม่มีใครอยากตายทุกชีวิตล้วนดิ่นรนต่อไปเพื่อมีชีวิต ต่อให้คุณจะเลี้ยงเขาอย่างทิ้งๆขว้างๆ แต่ขอให้เขาได้เกิดมาก็ถือว่าดีกว่าฆ่าเขาไป เพราะอย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิด

แท้ง=ฆ่า เมื่อคุณทำแท้งก็คือคุณฆ่ามนุษย์คนหนึ่งไป ก็แล้วแต่คนละนะ ว่าจะเลือกที่จะฆ่าเพื่อเสพสุขต่อไป หรือจะรับผิดชอบและชดใช้ในสิ่งที่ตัวเองพลาดพลั้งไป ทางเลือกของแต่ละคน ทุกคนมีสิทธิเลือกผมไม่เถียง ผมเองก็ได้แค่แนะนำเท่านั้น ว่าการไว้ชีวิตเด็กในท้องนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้องกว่าการทำแท้ง

ป.ล.การมองโลกของผมไม่ใช่การมองโลกแบบโลกสวยนะ คุณบลูสกาย ผมมองโลกด้วยธรรมะ

ตอบ คุณบลูสกายนะครับ คุณลองอ่านดีๆ ว่าผมด่าคุณตรงไหน ผมว่าผมสื่อสารกับคุณด้วยถ้อยคำที่สุภาพแล้วนะครับ และก็ใช้เหตุผลด้วย

สิ่งที่ผมพูดหรือตอบไปในกระทู้ทั้งหมดทั้งมวล ไม่มีเจตนาจะซ้ำเติมใครทั้งสิ้น แต่ผมพูดด้วยความจริงอีกมุมมองหนึ่ง ที่สังคมชอบมองว่ามัน เป็นความเห็น โลกสวย ความเห็นหรูหรา ของคนที่ไม่ได้ลำบาก ความคิดของคนที่ไม่ได้มาเจอกับตัวเอง

แต่ที่ผมพิมพ์ไปทั้งหมด ก็เพื่อพยายามให้ เด็กๆหรือนักอ่าน ได้รับทราบถึงข้อคิด ข้อเท็จจริงที่ถูก ใช่ว่าเขาเข้ามาอ่านแล้วเจอ แต่คอมเม้นสนับสนุนทำแท้ง คอมเม้นบอกว่าการทำแท้งเป็นเรื่องที่ถูกเพราะเลี้ยงไม่ได้ ก็ฆ่า(ทำแท้ง)ทิ้งซะ คนๆนั้นอาจกำลังท้อง และคิดไตร่ตรอง ลองหาความคิดเห็นในเน็ตอ่านดู

และผมก็พยายามที่จะโต้แย้งกับคุณด้วยเหตุและผลด้วย แต่ผมสังเกตพฤติกรรมของคุณแล้ว รู้สึกไม่อยากโต้แย้งอะไรด้วยแล้ว เพราะพอผมโต้แย้งไป คุณก็จะกลับมาแก้ไขมัน ลบมันไม่ให้คนอื่นได้เห็นว่าคุณพิมพ์อะไรไปบ้าง สุดท้าย ข้อโต้แย้งของผมก็ไม่มีใครเข้าใจ เพราะต้นคำถามมันไม่มีให้อ่าน

บางทีนะ ผมอาจผิดก็ได้ อาจเป็นปลาตัวหนึ่งที่พยามจะทวนกระแสน้ำ ทั้งๆที่ปลาตัวอื่นๆไหลตามน้ำไปหมดแล้ว

ขอจบการโต้เถียงกับคุณบลูสกายและในกระทู้นี้เพียงแค่นี้ ผมไม่อยากให้ใครมาคิดว่าผมมาป่วนบอร์ดเล่นๆ

คุณจะบอกว่า ไม่ว่าเด็กจะเกิดมาเป็นยังไง ก็แสดงว่าไม่มีสิทธิ์ไปฆ่าเขาแล้ว ชีวิตของเขา แล้วคุณใช้อะไรตัดสินครับ สิทธิมนุษยชนหรอ งั้น 3 ข้อนี้หละ
1. เด็กเกิดมาพิการ กฏหมายครอบคลุมนะให้ทำแท้งได้ แต่ = ฆ่าเด็ก
2. ถูกข่มขืน = ฆ่าเด็ก
3. พ่อแม่ไม่พร้อม = ฆ่าเด็ก

ถ้ามองง่ายๆ จะยังไงการทำแท้งก็คือการฆ่าเด็ก แต่ทำไมคุณถึงเจาะจงแค่ข้อ 3 หละ ทั้งที่ ข้อ 1 กับ 2 ก็ฆ่าเด็กเหมือนกัน ถึงเด็กจะเกิดมาพิการหรือคุณไม่อยากมีลูกกับโจร ก็ไม่มีสิทธิ์ตัดสินชีวิตเขานี่นา เพราะสภาพร่างกายกับสภาพจิตใจของทั้งเด็กและแม่ที่ไม่พร้อมใช่ไหม แล้วถ้าข้อ 3 สภาพจิตใจของผู้เป็นแม่ไม่พร้อม เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะทำแท้งหรอครับ คือมองง่ายๆแค่ชีวิตนึง ผมก็มองได้ แต่มันมีปัจจัยอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องไง ซึ่งอันนี้เราก็ไม่รู้จริงๆหรอก เพราะเราเป็นคนนอก

ผมจะบอกว่า พ่อแม่เกือบทุกคน ถ้าไม่ลำบาก เขาอยากให้เด็กเกิดมาทั้งนั้น ตัวเราจะไปเข้าใจดีกว่าพ่อแม่ได้ยังไงหละ มันเป็นเรื่องที่แพทย์และทุกๆคนควรให้ความช่วยเหลือและแนะนำ ถ้าคุณอยากให้เด็กเกิดมา คุณก็ต้องยื่นมือเข้ามาช่วยหรือให้คำแนะนำบ้าง ไม่ใช่พูดแค่ว่า อย่าฆ่าเด็ก พ่อแม่เขาต้องทำเพราะถ้าไม่ทำ เขาจะลำบาก ทั้งที่มันก็ผิด แต่เขาจำใจต้องทำ ไม่งั้น ตัวเขาจะตายซะเอง ส่วนเราคนนอกจะพูดอะไรก็ได้

ส่วนปัญหาที่กล่าวมา แปลกที่การแก้ปัญหาที่ถูกต้องไม่สามารถทำได้จริงๆ ถึงได้ ก็ยังมีขึ้นมาเรื่อยๆ เด็กท้องเรื่อยๆ การห้ามไม่ให้เด็กมีเพศสัมพันธ์เป็นไปไม่ได้เลยครับ ค่านิยมพวกนี้สร้างไป ณ ตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้ มันหยุดไม่ได้เลย สร้างได้ก็ไม่รู้จะได้ผลมากแค่ไหน

ตัวผมสนับสนุนการทำแท้งที่ถูกกฏหมาย ถ้าบุคคลพวกนั้นไม่พร้อมจริงๆ แต่ถ้าคุณมีทางเลือกอื่นเช่น มีคนอยากจะรับเลี้ยง หรืออะไรก็ตาม ที่ดีกว่าการฆ่า หรือปล่อยให้ลูกโตมาแต่อายุสั้น คุณก็ทำ แต่บางคนเขาไม่มีทางเลือกไงครับ หรือมีแค่ทางเลือกเดียว ในกรณีที่ปัญหามันเยอะ จำเป็นจริงๆ

แต่ตัวคุณยืนยันแน่นอนว่าจะจำเป็นหรือไม่ ก็ไม่ควรทำแท้ง นั่นคือปล่อยให้เป็นภาระต่อไป ทั้งที่คุณก็ช่วยอะไรพวกเขาไม่ได้ แต่คุณทำได้เพียงเป็นคนพูดโน้มน้าวใจ แต่อนาคตก็ไม่รู้ว่าเด็กจะเป็นยังไง พูดได้แค่ว่า เก็บเด็กไว้นะ ต่อไปจะเป็นยังไงไม่รู้ แต่เธอต้องเก็บ อันนี้ก็แล้วแต่คุณจะคิดแล้วครับ ผมก็จนปัญญา เพราะถ้าเด็กเป็นอะไรไปหลังจากเกิดมา มันแย่กว่าตอนที่อยู่ในท้องแม่อีกนะ ถึงตอนนั้นคุณคงรับผิดชอบกับคำพูดคุณไม่ได้หรอก เช่น เด็กเกิดมาปกติ แต่ก็เริ่มมีความพิการที่ค่าใช้จ่ายแพงมาก พ่อแม่ลำบากส่งค่ารักษา แต่ได้แค่ช่วงนึงเพราะไม่มีจะกินแล้ว หรือคลอดแล้วเอาไปทิ้งถังขยะ ตัวคุณที่บอกเขาว่าให้เก็บลูกไว้สิๆ จะมองหน้าเขาติดไหม จะช่วยรับผิดชอบกับคำพูดของตัวเองไหม หรือจะบอกว่า ก็จะเชื่อฉันทำไมหละ ดังนั้นถ้าคนอื่นเขาจะคิดอีกแบบ ก็อย่างที่บอกว่าคุณทำอะไรไม่ได้หรอก ลูกเขา ชีวิตเขา เขาเลือกเอง และก็ต้องมองในมุมของเขาบ้าง

เรื่องคำพูด ผมไม่ได้เอ่ยเลยว่าคุณพูดสวยหรู ผมแค่ยกตัวอย่างให้ฟัง ว่าพวกที่ทำเป็นพูดสวยหรู แต่กับชีวิตจริงมันก็ไม่ใช่แบบที่จะพูดได้ ตรงไหนที่บอกว่าเป็นคุณครับ?
แล้วถ้าผมพูดสวยหรู ยกตัวอย่างคำพูดที่สวยหรูของผมให้ดูหน่อย เพราะผมไม่รู้จริงๆ ผมไม่ได้พูดเลยว่าตัวเองพูดสวยหรู อีกอย่างมันไม่ใช่ประเด็นที่จะมาเถียงกันด้วยซ้ำ

และผมไม่ได้บอกว่าคุณมองโลกสวยนะ คุณก็ต้องไปคิดเองว่าคุณโลกสวยหรือไม่ เพราะผมก็พูดลอยๆ อยู่ที่ว่าคุณจะไปตีความเอง หรือจะอะไรก็ตาม ไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่จะมาเถียง แค่บอกให้มองในเรื่องของความเป็นจริง การมองด้วยธรรมะไม่ได้ช่วยให้อยู่รอดในสังคมได้ครับ ถ้ามันจำเป็นจะต้องเลว คุณก็ต้องทำ อีกอย่างถ้ามองแบบธรรมะนะครับ ผมว่ากรรมมันคือการกระทำ ใครทำคนนั้นก็รับไป ก็แค่นั่น ถ้าเขาจะเลือกแบบอื่น เขาก็รับผลของการกระทำนั้นไป การที่เขาทำแท้ง เขาก็รับผลของการกระทำนั้นแล้ว คือเขาก็รู้สึกผิดและทรมานกับมัน หรือยังไม่รับ ก็เรื่องของเขา

สิ่งที่คุณทำอยู่ ธรรมะเหมือนจะไม่ช่วยอะไร ไม่ได้ชี้ทางให้กับ จขกท. แต่พูดจาตำหนิ ติเตียนผู้อื่นว่า เขาเป็นพวกใจด้านชา ด่าจขกท. ว่าโง่ แบบนี้เรียกว่าธรรมมะหรอครับ พูดไปแล้วยังไงต่อ ในเมื่อ จขกท. รู้สึกผิดไปแล้ว ทำไปแล้ว ควรจะพูดอะไรในทางบวกเพื่อให้ จขกท. มีกำลังใจและเดินหน้าต่อเพื่อคนที่อยู่รอดต่อไปสิ ซึ่งดีกว่าการจะวิจารณ์คนอื่นและหาว่าผมใจด้านชา เพราะคิดต่างจากคุณ ผมก็ไม่เห็นด้วยกับคำพูดของคุณตรงนี้เช่นกัน

สรุปคือ จขกท. ตัดสินใจทำมันไปแล้ว ถ้าคุณคิดว่าการทำแท้งไม่ใช่ทางออก การเก็บเด็กไว้คือทางออก แล้วยังไงต่อ คุณก้ต้องแนะนำให้เขารู้ได้ว่า ต่อไปถ้าเขาเก็บเด็กไว้ เขาจะต้องทำยังไง จะพูดแค่เพียงว่า เก็บเด็กไว้ ที่เหลือเป็นหน้าที่ของคุณที่ต้องรับผิดชอบ ถ้าเขามองแล้วว่าอนาคตเขารับผิดชอบไม่ไหว จึงต้องทำแท้ง ก็เป็นเรื่องของเขาแล้ว ตัวเราก็ทำอะไรไม่ได้ครับ นอกจากให้คำแนะนำแก่คนรุ่นหลังต่อไป แต่ถ้าเขาพลาดและสำนึกได้ ก็น่าจะให้กำลังใจเขามากกว่าการซ้ำเติมบ่อยๆ

เพิ่มเติมครับ ไม่ว่าคุณจะคิดยังไงก็แล้วแต่ ผมเข้าใจมุมมองของคุณ แต่คุณก็ต้องมองในมุมคนอื่นด้วย และอยากให้คุณแสดงความคิดเห็นที่สร้างสรรค์กว่าการกล่าวหาว่าคนที่คิดไม่เหมือนคุณจะเป็นพวกมีปัญหาด้านจิตใจ หรืออะไรก็ตาม เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่น่ายินดีเท่าไหร่ และขอบคุณที่มาร่วมโต้เถียงในคอมเม้นนี้ ที่เหลือขอให้เป็นวิจารณญาณของผู้อ่านเองดีกว่าครับ ถ้าผิดอะไรผิดพลาดก็ขออภัยด้วย

ผมก็ว่าจะไม่โต้แย้งอะไรแล้วนะ แต่ก็ขออีกสักครั้ง เพราะคุณบลูสกายพูดมาก็มีเหตุผล ที่ว่าผมไม่ได้แนะนำว่าควรทำอย่างไรต่อไป ซึ่งอันที่จริงมีไกด์ไลน์มากมาย ที่สามารถรู้ได้ ออกโดยสำนักงานที่เกี่ยวข้องเสียด้วยซ้ำ

1. ถ้าท้อง ถ้ารู้ว่าท้อง แจ้งกับผู้ปกครองเป็นอย่างแรก ผู้ปกครองในตอนแรกอาจโมโห โกรธจนบ้านแตก แต่เขาก็จะช่วยเหลือคุณ เป็นเดือดเป็นแค้นแทนคุณอยู่ดี
2. ทำเรื่องแจ้งกับทางโรงเรียน เพราะสมัยนี้ นักเรียนที่ท้องระหว่างเรียนสามารถหยุดเรียนเพื่อไปคลอดเด็กได้ และกฏหมายก็สนับสนุน ให้โรงเรียนรับเด็กที่ท้องนั้นกลับมาเรียนต่อได้จนจบ ไม่ได้เหมือนสมัยก่อนที่ ท้องแล้วต้องลาออก
3. พูดคุยกับทางฝ่ายชายให้ชัดเจน เรียกร้องสิทธิที่ควรได้ ถ้าไม่ได้ก็ฟ้องซะ เอาให้มันหมดอนาคต
4. เรียนรู้ ในสิ่งที่เกิดขึ้น และปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นกว่าเดิม พยายามเรียนรู้ไม่ให้ซ้ำรอยเดิมที่พลาดไป

สำหรับในกรณีที่ ท้อง และไม่มีปัญญาหาเลี้ยง บ้านกำพร้ามี ศูนย์สงเคราะห์เด็กมี ส่งเขาไปสิ อย่างน้อยก็ไม่ได้ฆ่า เด็กพวกนี้ก็ยังคงมีชีวิตอยู่ ก็มีความสุขประมาณหนึ่ง บ้านกำพร้าเหล่านี้จะมีผู้คนที่เข้ามาเลือกรับเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม มีองค์กรตั้งมากมายที่คอยสนับสนุน บางองค์กรถึงกับมีพ่อแม่บุญธรรมรายเดือน ที่ส่งเสียเด็กได้ตามค่าใช้จ่ายตามความเหมาะสม องค์กรพวกนี้ส่งเสียเด็กจนถึงขั้นเลี้ยงชีพได้ด้วยตนเอง นี่ไงละ

หนทางมีอยู่ตั้งมากมาย ไม่ใช่แค่ สักแต่คิดง่ายๆ ท้องแล้ว ไม่มีปัญญาเลี้ยงก็ทำแท้งไป แบบนี้มันโหดร้าย

และวิธีการพิมพ์ของคุณบลูสกายเนี่ย มันบอกชัดว่าหมายถึงใครก็ตามที่ไม่เห็นด้วยว่าการทำแท้งเป็นเรื่องที่ถูก นั้นเป็นคนโลกสวย เป็นคำพูดหรูหรา ซึ่งคุณก็ได้ลบข้อความบ่งชี้เหล่านั้นทิ้งไปแล้ว วิธีการโต้แย้งของคุณมันเหมือนกับนักเลงคีย์บอร์ดที่ไม่ยอมจำนนต่อเหตุผล พอเสียท่าก็ลบข้อความทิ้ง แล้วพิมพ์ใหม่

รู้ไหม ว่าวิธีการของคุณ ก็เหมือนๆกับวิธีการของคนที่ทำแท้งนั่นแหละ พอเห็นว่าผิดพลาด ก็ลบ และเริ่มใหม่ ลบแล้วเริ่มใหม่ ถ้าเป็นอย่างนี้เมื่อไร่จะได้เรียนรู้

คุณถามผมว่าทำไม ผมถึงไม่ให้กำลังใจ จขกท ทำไมผมถึงพูดในสิ่งที่ทำให้ จขกท รู้สึกไม่ดี ทั้งๆที่จขกทออกมาเผยแพร่ประสบการณ์ เป็นบทเรียนให้คนอื่นๆ

เพราะผม ไม่โอ๋ให้คนผิด ถ้าผมมีลูก ลูกของผมเดินชนตู้ ผมจะไม่บอกกับลูกว่า ตู้มันผิด ความเจ็บปวดมันผ่านไปแล้ว แต่ผมจะบอกให้ จำไว้ ตู้อยู่ตรงนี้ คราวหลังอย่าเดินชนอีก วิธีการอย่างนี้ คือสอนการให้เด็กล้มแล้วลุกขึ้นเอง ในครั้งต่อไปเขาจะลุกได้ด้วยตัวเอง ด้วยกำลังของตนเอง ไม่ใช่ว่า มีคนคอยพยุง คอยให้กำลังใจ คอยปลอบประโลมว่า ทุกอย่างมันเป็นความผิดพลาด ผ่านไปแล้วน๊า เขาอาจไม่ได้เรียนรู้อะไร และสุดท้ายเมื่อวันหนึ่งมาถึง เขาก็จะลุกขึ้นมาด้วยตัวเองไม่ได้

ผมขอย้ำ ว่าผมไมได้เจตนาว่า จขกท โง่ แต่ผมหมายถึงการกระทำที่โง่ๆ ซึ่งถ้าคุณมีสติปัญญาพอ คุณจะรู้ว่าสิ่งที่ผมใช้เรียก มันถูกพอไหม ผมใช่พวกที่ใช้คำด่าเพื่อก่อ แต่ผมใช้คำเหล่านี้เพื่อเน้นชัดว่าการกระทำแบบนี้เป็นเรื่องที่ไม่ฉลาด ไม่ควรเอาเยี่ยงเอาอย่าง

ส่วนที่บอกว่าให้ผมยกตัวอย่างคำพูดอันสวยหรูของคุณ ผมยกมาประโยคหนึ่งแล้วนะ ด้านบน แต่ที่เหลือผมคงยกมาไม่ได้เพราะคุณ บลูสกาย ลบทิ้งและแก้ใหม่หมดแล้ว

จบนะ สวัสดี

ก็ควรจะจบตั้งนานแล้วครับ ^^

อ่านดีๆผมว่าคุณนั่นแหละครับ นักเลงคีย์บอร์ด ไม่รับฟังความคิดเห็นคนอื่นแล้วก็เถียงเอาๆ
แต่เบี่ยงประเด็นโดยการเอาเรื่องแก้คำพูดของผมมาอ้าง ทั้งที่ผมก็พูดมาแนวนี้ทั้งนั้น

พูดว่าตัวเองเป็นคนพูดโอ๋ไม่เป็นเพื่อเป็นโล่ป้องกันให้คุณพูดจาแบบนี้ได้หรอครับ คุณพยายามจะเล่นผมประเด็นเรื่องคำพูดความคิดเห็นของผม โอเคผมคิดแบบนั้นเรื่องของผม คุณคิดอีกแบบนึง ก็เรื่องของคุณ แต่คุณไม่ยอม คุณจะถามหาเหตุผลจากสิ่งที่ผมพิมพ์ไปให้ได้ ซึ่งคุณไม่เข้าใจหรอก เพราะคุณถือแต่ความคิดตัวเอง


คห.1 ไม่ต่างอะไรกับ คห. ที่ผมพิมพ์มาทั้งหมดเลยครับ เพียงแต่มันไม่มีคำว่า "ขอพูดในฐานะคนโลกไม่สวย" ก็พูดตามนั้น แต่คนโลกไม่สวยในความเข้าใจก็คือคนปกติทั่วไป มีทั้งชั่วทั้งดีครับ ซึ่งไม่น่าใช่ประเด็นหรอกจริงๆ

ลองอ่านทุก คห. ผมดู ก็จะรู้ว่า ผมพยายามบอกให้ จขกท. เดิมหน้าต่อ ส่วนการทำแท้ง ถ้าจำเป็นจริงๆ ไม่มีปัญหา ก็ทำไป ผมไม่ได้แก้เลยอะไรให้แปลกเลยนะครับ มาแนวโน้มนี้ทั้งนั้น ทำไมคุณถึงเล่นประเด็นนี้ แล้วหาว่าผมไม่เถียงด้วยเหตุผล ผมเถียงด้วยเหตุผล แต่พอผมถามกลับ บางข้อคุณก็ไม่ตอบผม เช่น คห. 1-12 อธิบายให้ฟังหน่อยว่า ทำไมคุณถึงโฟกัสแค่ข้อ 3 ทั้งที่ 1,2 มันก็ฆ่าเด็กเหมือนกัน คุณเอาอะไรเป็นเกณฑ์ตัดสินหละ คุณก็ไม่ตอบผม นี่หรอครับ หาว่าผมเถียงแบบไม่มีเหตุผล หาว่าผมเป็นนักเลงคีย์บอร์ด หาว่าผมไม่ยอมจำนนต่อเหตุผล แต่คุณไม่รับฟังความคิดเห็นของคนอื่นเลย คุณพยายามหาเหตุผลซึ่งจริงๆคนทุกคนไม่สามารถทำได้มาอ้าง ไม่ว่าจะเรื่องพ่อแม่ โรงเรียน บลาๆ ไม่เข้าใจหรอครับว่าชีวิตแต่ละคนไม่เหมือนกัน? แล้วในเมื่อ จขกท. ทำมันลงไปแล้ว จะให้ทำยังไงครับ ให้เขาฆ่าตัวตายชดใช้กรรมไหมละคุณ ก็มันผ่านไปแล้ว ด่าให้เขาคิดได้ทำไม ในเมื่อเขาคิดได้แล้ว ให้เป็นบทเรียนในชีวิตเขาสิ คนอื่นจะเป็นยังไง คุณก็ไปให้คำแนะนำพวกนั้นต่อ


คุณพยายามพูดดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่น อ้างนู้นนี่นั่น เรื่องธรรมะเอย บอกให้ยกตัวอย่างคำพูดที่ผมพิมพ์สวยหรูมา แต่ความคิดเห็นที่ผมพูดแบบนั้น ผมไม่ได้แก้ไขด้วยซ้ำ คุณก็เอามาเป็นประเด็นได้

แล้วอันอื่นก็ไม่ได้แก้ให้ต่างจากเดิม แค่เพิ่มข้อความเข้าไป ส่วน คห. 1 พิมพ์ตามคห. 4 ผมเลยลบ คห. 4 ออก คห. อันหลังก็พิมพ์ซ้ำ เลยลบ ก็แค่นั้นครับ


ทั้งหมดก็พูดไปหมดแล้วครับ ส่วนเรื่องคำพูด ก็ขอบอกอีกที ถ้ารับความคิดเห็นของผมไม่ได้ ผมไม่ว่า แค่ปล่อยผ่าน แต่คุณพยายามเจาะจงและจะเอาชนะให้ได้ และจะบอกว่าไม่ควรจะมากล่าวหาคนอื่นง่ายๆครับ เพราะอย่างน้อยคนที่คิดเหมือนผมก็มี


ก็บอกอยู่นะครับว่าไม่น่าเอาเป็นประเด็น ซึ่งถ้าคุณมีสติปัญญาพอ คุณจะแยกแยะประเด็นออกครับ ไม่ใช่จะเล่นทุกประเด็น

จบจริงๆ ถ้าไม่จบก็เป็นปัญหาของคุณแล้ว คุณร้อนตัวแล้วก็คิดเองเออเอง ทั้งที่บางประโยค ผมพูดรวมๆผมไม่ได้กล่าวถึงคุณเลยด้วยซ้ำ แต่อ้างว่าผมแก้ข้อความ อ้างว่าผมลบข้อความ คนอื่นเลยเข้าใจผิด ตลกมาก 555