Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

แม่หวังให้ลูกเลี้ยงตัวเอง ตั้งแต่ที่ลูกทำงานได้2ปีแรก ทั้งๆที่ยังไม่เกษียนและยังทำงานได้เองอยู่ สมควรหรอ???

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ตามหัวข้อกระทู้เลยครับ เป็นคุณคุณคิดว่าสมควรแล้วจริงหรือ? ค่านิยมไทยกลายเป็นเด็กโดนบังคับไปแล้ว? หากเพื่อนๆโดนแม่ตัวเองพูดเชิงบังคับแบบนี้ ต้องมารองรับแรงกดดัน ความคาดหวัง ความเครียด มีวิธีรับมือ/วิธีพูด/วิธีแก้ยังไงครับ ?(ขออภัยหากติดแท็กผิดประเด็นครับ)

แสดงความคิดเห็น

>

8 ความคิดเห็น

จ้าย๊ากกกก 15 พ.ย. 64 เวลา 19:40 น. 1

มันเป็นเรื่องแต่ละบ้านจริง ๆ การรับมือมันก็แล้วแต่บุคคลด้วย ถ้าเป็นเรา ถ้าถึงวันั้นเราไม่พร้อม เราก็ออกจากบ้านเลยจ้าาาา ออกไปเลย เพราะยังรู้ว่าเขาดูแลตัวเองได้ คอยแอบมองห่างๆ หรือตกลงก่อนว่าจะให้ได้เดือนละเท่านี้ เท่านั้นนะ ถ้าคุยแล้วไม่ยอม ก็หนีออกจากบ้านเลยจ้า

0
แม่คนหนึ่ง 22 พ.ย. 64 เวลา 07:44 น. 2

อืม เราว่าไม่เกี่ยวกับค่านิยมไทย เพราะคนรอบข้างเรา แม่เขาก็ไม่หวังพึ่งลูกกันค่ะ


ถ้าเป็นเรา เราจะทำรายการการเงิน แจงเลยว่าแต่ละเดือนต้องใช้เงินอะไรบ้าง

และหากเราต้องรับผิดชอบสิ่งต่างๆในบ้านทั้งหมด รวมค่ากินค่าอยู่ของแม่ด้วย

สุดท้ายเงินพอมัย

(เอาเพื่อเก็บเงินไว้ฉุกเฉินด้วยนะค่ะ)


สุดท้าย แม่คุณอาจมีปัญหากับที่ทำงานมาหลายปีหรือเป็นสิบปีแล้วหรือเปล่า

ลองมองมุมมองแม่คุณด้วยค่ะ


แต่ที่จริง แม่คุณหากมีแผนออกจากงานแบบนี้

ก็น่าจะเก็บเงินไว้ใช้หลังออกจากงาน ไม่ควรพึ่งลูกหมด

แต่เราก็ไม่รู้การเงินบ้านคุณว่า

แม่คุณก็อาจทุ่นเงินให้คุณ คุณขออะไรก็หามาให้ เพื่อให้คุณเรียนจบมาหรือเปล่า

เลยไม่เหลือเงินเก็บ

อืมๆปัญหาแต่ละบ้านละเอียดอ่อนจริงๆค่ะ


0
Tisha 22 พ.ย. 64 เวลา 08:41 น. 3

ถ้าคิดว่าไม่ไหวก็คุยตรงๆ คุยเลยว่าให้ได้แค่ไหน หรือให้ไม่ได้เพราะอะไร ถ้ามัวแต่กลัวทะเลาะก็ไม่มีวันเข้าใจกัน

0
pppp 22 พ.ย. 64 เวลา 10:48 น. 4

มีน้อยให้น้อยได้นะคะ

สำหรับเรา ..

ทำดีกับคนที่เลี้ยงเรามาอย่างเต็มใจเราว่าดีนะ

เพราะเราทำแบบนั้น เราหาเงินได้ง่ายๆเลย

ขนาดเลี้ยงทั้งครอบครัวจ่ายทุกอย่าง

แต่เราไม่เคยอด มีอยู่มีกิน มีเงินเข้ามาตลอด

ยิ่งทำเยอะยิ่งขยันยิ่งได้เงินเยอะ

สมัยเรียนแม่เราขายของเราต้องไปช่วยขายทุกวัน

จนเราทำงานเลยให้แม่อยู่บ้านดูแลยายเถอะ

//เอาจริงตอนนั้นขี้เกียจไปช่วย 555

เราหาเงินเอง แต่กลายเป็นว่าเราทำอะไรก็รุ่งไปหมดเลย 

เป็นเรื่องแปลกมากๆ หาช่องทางทำเงินได้ตลอด

อยากได้อะไรคือได้หมดจริงๆ แม่ชอบไปเที่ยว 

แต่สมัยเลี้ยงเราคือแทบไม่ได้ไปไหน

ตอนนี้เราก็พาไปเที่ยว ต่างประเทศก็ไป แกมีความสุขมาก

อยากไปไหนไป อยากกินอะไรพาไปกิน

ยิ่งเสียเงินเหมือนยิ่งได้เงินกลับมา

เราเชื่อว่านี่แหละคือการทำบุญกับพระในบ้าน

//ปกติไม่ทำบุญเลยแม่เทียบจะบังคับให้ทำบุญ

เราเชื่อนะถ้าเราทำดี ต้องได้สิ่งดีๆกลับคืนมา..

0
การุณ ตาคะนานันท์ 22 พ.ย. 64 เวลา 11:39 น. 5

ูเท่าที่สัมผัสมา คงมีส่วนน้อยที่ผู้ใหญ่วัยนี้จะมีความคิดในลักษณะเช่นนี้ เพราะส่วนใหญ่ยังเป็นกำลังใจเป็นแบบอย่างให้เด็กสามารถทำงานมีเงินเดือนที่สามารถเลี้ยงตัวมีการบริหารจัดการที่ดี ผู้ใหญ่ในรุ่นวัยนี้ยังนิยมที่จะทำงาน เพราะการทำงานเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นคนมีคุณค่ามีคุณภาพ เป็นแบบอย่างที่ดี ไม่หวังพึ่งเด็กหรือรบกวนเด็กเกินจำเป็น


0
Zucth 22 พ.ย. 64 เวลา 19:32 น. 6

แล้วแต่บ้าน แม่เราตัดหางปล่อยวัดตั้งเเต่ยังเรียนปีหนึ่งอยู่เลย ต้องหางานทำไปด้วยเรียนไปด้วย ส่วนตัวจะมองว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาตินะ

0
ผ่านมา 23 พ.ย. 64 เวลา 00:37 น. 7

บางที ผมว่าควรคิดมุมกลับบ้าง ผมไม่แน่ใจนักว่าคุณเคยผ่านประสบการณ์เลี้ยงบุตรมาแล้วรึยัง การเลี้ยงลูกไม่ใช่เรื่องง่าย ตั้งแต่เด็กเกิดมานี่คือภารกิจ ที่คุณต้องดูแลเขาไปตลอด 20 ปีเป็นอย่างน้อย ค่าเทอม ค่ากิน ค่ารักษาพยาบาล การดูแล แน่นอนว่า พ่อและแม่ทำให้เด็กเกิดต้องรับผิดชอบต่อหน้าที่การเลี้ยงดูนั้นๆ แต่ผมอยากสื่อให้รู้ว่า 10 ปี หรือ 20 ปี นั้น มันยากมากนะครับ ในการเลี้ยงใครซักคนหนึ่ง คุณอาจไม่ทราบเบื้องหลังของการทำงานที่หาเงินมาเลี้ยงดูคุณตลอดที่ผ่านมา ตรงนี้ ปัจจัยของแต่ละคนไม่เท่ากัน สำหรับคำแนะนำคือการพูดคุยอย่างมีเหตุผล ถ้าพ่อแม่ของคุณแก่ชราแล้ว และคุณมีกำลังทรัพย์เพียงพอในการเลี้ยงดูท่าน ก็สมควรทำได้ครับ คิดตามวิถีชีวิตปกติ คนเราไม่สามารถมีอายุเกิน 100 ปีได้ทุกคนหรอกครับ หากพ่อแม่อายุซัก 55 ปีทั้งคู่ พวกท่านก็เหลือเวลาอยู่บนโลกนี้ไม่เกิน 20 ปี ก็เป็นไปได้ ขึ้นอยู่กับโรคา-พยาธิด้วย ผมเคยรู้สึกแบบคุณครับ รู้ไหม ทุกวันนี้ผมเสียใจมากๆ เพราะไม่มีไทม์แมชชีนย้อนเวลาให้ผมกลับไปทำอะไรตามใจพ่อแม่อีกแล้ว ทั้งๆที่มันเป็นแค่เรื่องไร้สาระ แต่ก็ไม่อยากทำ เรื่องง่ายๆอย่างขับรถพาแม่ไปทำบุญ ก็ไม่พาไปเพราะขี้เกียจ ตอนนี้ ผมเสียใจที่ไม่ได้ทำและไม่มีโอกาสแก้ตัว

คุณยังมีโอกาสอยู่ ผมเล่ามาซะเยอะ สุดท้าย

อย่าทำในสิ่งที่คุณจะเสียใจภายหลังนะครับ ตั้งสติ ผ่อนคลาย และใช้เหตุผลในการพูดคุยครับ


0