เป็นเด็กพิเศษแต่โดนอาจารย์ที่มหาลัยพูดเหยียดและค่อยแกล้งทำไงดี
ตั้งกระทู้ใหม่
ก่อนอื่นเราไม่ได้มีเจตนาที่จะดูหมิ่นมหาลัยนะ เพราะเข้าใจนะว่ามหาลัยใคร ๆ ก็รัก
เนื่องจากว่าเรานั้นเป็นเด็กพิเศษประเภทต้องได้รับการช่วยเหลือเป็นพิเศษ แต่มีปัญหาในด้านการเข้าสังคม เพราะอย่างที่เรา ๆ รู้กันว่าเด็กมหาลัยบางคน บางที่ก็ไม่ค่อยยอมรับเด็กพิเศษแบบเราเท่าไหร่ และกลั่นแกล้งเราในทางเหยียดเพศเรา เหยียดบุคลิกภาพของเรา เช่น -ตุ๊ด -ปัญญาอ่อน -เอ๋อ ซึ่งเราแอนตี้การรับน้องมาก ๆ เพราะชอบเล่นแรง แกล้งแรง แบบที่เราเคยเจอคำพูดเหล่านั้นไป และบ้านค่อยข้างจนมาก ๆ เลยต้องไปเรียนมหาลัยม.เปิด เพราะตอบโจทย์กว่าและประหยัดเงินกว่ายิ่งยุคเศรษฐกิจแบบนี้ด้วย
ซึ่งเราก็ไปเรียนที่ม.เปิดแทบทุกคลาสนะทุกคาบชนิดเคยกลับบ้าน 3 ทุ่ม เกือบ 4 ทุ่มก็เคยมาแล้วแต่ก็ไม่วายพูดแบบเหยียด ๆ ว่า " สภาพแบบเราเรียน 8 ปีก็ไม่จบหรอก " และ " เหยียดเราในเรื่องเราใส่เสื้อสีเหลือง (เพราะเคยมีข่าวเกี่ยวกับการเมือง) " และค่อยกลั่นแกล้งเราตลอด ๆ ชนิดที่เราเคยอ่านหนังสื่อสอบไปแล้วก็ยังให้สอบตกติด F ไป (เรามีปัญหาเรื่องสมาธิสั้นพอยิ่งเครียดยิ่งทำให้เราสอบไม่รู้เรื่องติด F ไป และเทอมสุดท้ายก่อนลาออก บางคนก็แนะนำให้ลงแค่ 3 วิชาพอ เอาให้มีกำลังใจสอบเราก็ลงไปแค่นั้นแต่อาจารย์ก็กลับไม่ให้ความช่วยเหลือเลย ขนาดอ่านหนังสือแล้วก็ไม่ไหวเรียนไปร้องไห้ไป จนแอบทำร้ายตัวเองให้หายทรมานไป จนเราขอลาออกไปโดยให้เหตุผลในเรื่องของปัญหาสุขภาพไป แต่ก็แอบขอคำปรึกษาเรื่องเรียนอยู่ แต่คำตอบที่ได้รับมา กลับไม่ถูกใจเรามาก ในเรื่องการเรียนและการรับรู้ปัญหาของเราเลย)
ซึ่งบางคนก็แนะนำให้ไปม.ปิดมากกว่า แต่ก็มีเรื่องค่าใช้จ่ายอีกและการเข้าสังคมอีก เพราะเราไม่อยากรับน้องเลย
ปัจจุบันเราได้รักษาตามอาการไปแต่ก็ไม่คิดจะกลับไปเรียนเหมือนเดิมอีกแล้ว เพราะไม่อยากทำในสิ่งที่เคยทำ เคยเจออีกแล้ว และไม่อยากโดนใครแกล้ง โดนอาจารย์พูดเหยียดเราอีกแล้ว
ปล. ตอนที่เราเรียนอยู่ เราไม่ได้ใช้สิทธิ์บัตรคนพิการเลยเพราะพ่อแม่ไม่ยอมให้ทำและคิดไปเองว่าเราไม่ได้พิการ (แบบนั้งรถเข็น ขาพิการ แขนพิการ ตาบอด) จะไปทำทำไมแบบเงี้ยะ และใช้วุฒิปวส.ในการสมัครเรียนไปแต่ก็ตามกระทู้เลย
3 ความคิดเห็น
ขอให้เข้มแข็งนะเพราะยังไงเราก็ต้องอยู่ร่วมในสังคมที่ผู้คนมีความหลากหลายอยู่ดี สนใจแค่ตัวเองก็พอ ใครเหยียดช่างเค้า เค้าคิดเองเออเองก็เป็นไปได้ ที่สำคัญคือ เราต้องเพิ่มความตั้งใจจะได้สอบรู้เรื่องและไม่ต้องติดF จนต้องมานั่งโทษอะไรให้มันวุ่นวายไปหมด แค่โฟกัสที่ตัวเราเองก็จบ ชีวิตเรา เรากำหนดเอง
ขอบคุณมากนะที่เข้าใจเรา ตอนนี้ยังเป็นภาพหลอน เอาไปฝันทุกคืนเลย ขนาดพบแพทย์แล้วนะ ยังเป็นภาพหลอนอยู่เลย
ร้องเรียนได้นะครับถ้าอาจารย์พูดจาดูถูกแบบนี้ ลองหามหาลัยปิดที่อื่นเรียนดูได้ มีเพื่อนเคยไปเรียนก็เห็นว่าอาจารย์ก็ไม่ได้มาสนใจอะไรมากมาย ใครเข้าเรียนไม่เข้าเรียนไม่มีเช็คชื่อด้วย เข้ามาสอนเสร็จก็ออกไป สาขาที่น้องเรียนอาจจะไม่มีความถนัดด้านนั้นๆ ลองหาสาขาที่คิดว่าตัวเองถนัดดู
มหาลัยเปิดมีรับน้องบางคณะรับกันแรงๆ แก้ผ้าล่อนจ้อนแล้วทำกิจกรรมต่างๆ ให้ยืนร้องเพลงจนเที่ยงคืน เคยกลับบ้านก่อนโดนเพื่อนเกลียดจนโดนแบนเลย ถ้าไม่เข้าการรับน้องรับรองว่ามีปัญหากับเพื่อนๆในชั้นเรียนแน่นอน ค่าใช้จ่ายมีเยอะ มีเก็บเงินกันเองด้วยเทอมละครั้ง คิดถูกแล้วที่ไม่ไปเรียนมหาลัยเปิด
ขอเล่าเรืองสมัยที่เรียน ตอนสมัยพี่เรียนมัธยมได้อันดับต้นๆส่วนใหญ่ได้เกรด4 พอเข้ามหาลัยเลือกเรียนฟู๊ดซาย ที่เรียนfoodsciเพราะพ่อบอกว่าจบมาไม่ตกงาน ได้เงินเดือนหลายหมื่น พี่ก็ไม่ชอบด้วยนะแต่ฝืนเรียนไปตามที่พ่อบอก ปีแรกวิชาฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ได้คะแนนเยอะสุดๆ พอเรียนปี2 เรียนวิชาภาควิชาอาหารได้คะแนนน้อยจนเกือบF เคยนั่งร้องไห้ด้วยเพราะเรียนไม่รู้เรื่อง พอปี3 คะแนนน้อยลงแทบจะทุกวิชาเพราะเป็นวิชาอาหารพี่ไม่ถนัด ต้องไปเรียนวิชาภาคอื่นให้ได้เกรดเฉลี่ยดีขึ้น พอจบมาตกงาน เพื่อนในคณะจบมาตกงาน 10% ได้ กว่าจะหางานได้ 2 ปี แล้วได้เงินเดือน 9 พันบาท ส่วนคณะอื่นได้เกือบ 2หมื่น มารู้ทีหลังว่าเป็นเรื่องไม่จริง โดนหลอกให้มาเรียนfoodsci อาจาย์ก็เพิ่งมาแอบบอกว่าจบสาขานี้ได้เงินเดือนน้อยนะ หลายคนได้หมื่นต้นๆทั้งนั้นเลย ต่ำกว่าหมื่นก็มี คนที่ได้เงินเดือนเยอะๆมีไม่เกิน 5% ในแต่ละรุ่นที่จบไปเอง ทำงานหลายที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆเงินเดือนขอ 15000 หลายที่บอกว่ามากไป ให้หมื่นเดียว บางที่ให้8000บาท เงินเดือนน้อยกว่ารายวันซะอีก จะบ้าตาย เลยต้องไปเรียนปริญญาโทสาขาที่ตัวเองชอบ พอเรียนแล้วแต่ละวิชาได้เกรดA ส่วนใหญ่ เพราะเป็นวิชาที่ตัวเองถนัดและชอบด้วย พี่ว่าน้องต้องมีวิชาที่ตัวเองถนัดบ้างละ
เลาว่านะยุคนี้มันไม่น่าจะมีการรับน้องแล้วแหละ มันเชยมาก โคตรโบราณ
ขอบคุณมากพี่ แต่ลองไปปรึกษากับทางครอบครัวแล้วอยากให้พักผ่อนก่อน คือไปไหวก็ต่อ ไม่ไหวก็พัก เพราะสังคมมหาลัยแรงจนเราไม่อยากไปทำอะไร ๆ เลยพี่
รับน้องแก้ผ้านี่ได้กันผู้หญิงออกไปมั้ยครับ หรือมันให้แก้ต่อหน้าผู้หญิงเลย เลวจริงๆ
จะทำไงล่ะ ลาออกมาแล้วนี่?
ตกลงมีบัตรคนพิการ แต่เข้ามหา'ลัยด้วยเรี่ยวแรงตัวเอง? คนอื่นเลยไม่รู้ว่าพิการ ก็อาจจะคิดว่าแกล้งทำมั้ง?
แต่สังคมมหา'ลัยส่วนใหญ่จะโตๆ กันแล้วนะ ตอนเรียน นอกจากเรียนก็ไม่ค่อยได้สนใจเรื่องอื่น ยิ่งมัวมาล้อเลียนด้วยแล้ว มันไม่ว่างขนาดนั้นน่ะ
ชื่อเสียงมหาวิทยาลัยยิ่งดี ทุนเรียนก็ยิ่งเยอะ
ม.เปิด แถวนนที่เคยเรียนไม่เห็นต้องเข้าคลาสซักวิชา?
ลองดูในเวป
เราอยู่แถวกรุงเทพ มีเข้าคลาสในช่วง 1 เทอมแรก แต่อาจารย์ก็พูดแบบเหยียดมาก ขนาดเป็นอาจารย์ม.เปิด จนสุดท้ายก็ขอลาออก (จริง ๆ จะเอาเรื่อง จะต่อยจะตบอาจารย์นะ แต่คิดไปคิดมา ออกดีกว่า เพราะก็ไม่ค่อยสนใจเราเท่าไหร่แล้ว)
ปล. เราป่วยจริงแต่ไม่มีบัตรพิการ เพราะเหตุผลข้างต้น ที่เข้าเรียนเพราะไม่อยากเสียเงินเยอะ ไม่อยากเข้าสังคมรับน้อง และเรียนแล้วไม่ไหวเลยออก บางคนก็แนะนำให้ไปแถวนนท์ แต่มันเหมือนกับม.เปิด กรุงเทพเลยตัดทิ้งไป ไม่เนียนเลย
ดีแล้วล่ะเพราะถ้าไปต่อยไปตบอาจารย์นะ เค้าก็ยิ่งมองคนแบบเราว่าไม่ดีใหญ่เลย
- จริงๆ ควรเก็บหลักฐานแล้วร้องเรียนอาจารย์ อย่าไปออกแรงเอง เค้าก็มีระบบตรวจสอบกันอยู่ ถึงเอาผิดไม่ได้ แต่ก็ฉาว อย่าไปกลัว เราคือผู้เสียหาย
- บัตรคนพิการมีไว้ไม่เสียหลาย อย่างน้อยใช้ขึ้น mrt ฟรีได้ ประหยัดตังค์, มหา'ลัยดีๆ ก็จะมีสื่อการเรียนเฉพาะให้ด้วย
- ม.ปิดเดี๋ยวนี้ไม่มีรับน้องแล้ว, จริงๆ เชียร์ ม.ปิด เพราะชื่อเสียงและทุนมันเยอะ ถ้าเรียนเก่งก็ประหยัดตังก์
ม.เปิดก็คงมี แต่เพราะไม่เข้า ม.เลย เลยไม่รู้เรื่องอะไร
- เราจบหลายใบจาก ม.เปิด ย่านนนท์ สมัครง่าย, สายที่เราเรียนเขียนเอกสารเข้าใจง่าย ชอบที่เค้าบอกวิธีให้เยอะแยะ แต่ไม่ฟันว่าเวลาทำงานจริงต้องเป็นแบบไหน ลองดูเผื่อมีรายความรู้ที่สนใจ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?