Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ทำไมเด็กวัยรุ่นเดี๋ยวนี้นิยมมีเพศสัมพันธ์กันไวจังเลยคะ เห็นคุยกันแทบจะเป็นเรื่องปกติเลยค่ะ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

 ทำไมเพื่อนๆน้องๆเรา หลายคนนิยมลองมีเพศสัมพันธ์กันไวจังเลยคะ บางคนยังอยู่ม.ต้นอยู่เลย บางทีเราได้ยินเพื่อน หรือน้องๆหลายคนพูดเรื่อง 18+กัน แทบจะเป็นเรื่องปกติเลยค่ะ บางทีไปทำกะคนนั้น ทำกะคนนี้ ท่านั้นท่านี้ ผชคนนี้ขนาดนั้นนี้ ทำไมอะคะ มันเป็นเรื่องปกติที่เด็กผู้หญิงอย่างเราๆต้องลองกันไวขนาดนั้นเลยหรอคะ บางคนเด็กประถมก็มี พสพ. กับ รุ่นพี่ผู้ชายแล้วค่ะ  อยากรู้ค่ะว่าไม่สงสารพ่อแม่กันหรอคะ ถ้าเขามารู้เข้า พ่อแม่จะรู้สึกยังไง แล้วถ้ามีอะไรกันไปแล้วเกิดพลาดท้องเสียการเรียนเสียอนาคตไปนี่ทำไงคะ คิดอะไรกันถึงไม่รักตัวเอง ปล่อยตัวกันตั้งแต่ยังเด็กขนาดนี้ ถ้ามีอะไรกันถ้าผู้ชายทิ้งล่ะคะรู้สึกยังไง มันง่ายมากเลยหรอคะที่จะยอมเสียตัว ตั้งแต่ที่ยังอายุน้อยๆกัน

แสดงความคิดเห็น

>

24 ความคิดเห็น

เปรตในหมู่ปราชญ์ 10 เม.ย. 66 เวลา 14:17 น. 1

ประเทศที่เขาเจริญๆแล้วมันก็เป็นเรื่องปกติ เพราะเขาแก้ปัญหาได้ถูกจุดไง ดังนั้นเขาสอนให้ป้องกัน แทนที่จะมาปิดกั้น เพราะสุดท้ายแล้วลับหลังเด็กมันก็ไปเอากันอยู่ดีแล้วมันก็ยังคงเป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัยไหนแล้ว ดังนั้นสมัยก่อนหน้านี้ประเทศไทยเราถึงติดอันดับท็อปของโลกการท้องก่อนวัยอันควรไง ดังนั้นประเภณีจารีตงี่เง่าโปราณคร่ำครึไร้เหตุผลมันไม่มีประโยชน์ที่จะเอามาแก้ไขปัญหา เพราะความหงี่มันเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ยิ่งช่วงกำลังก้าวเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ฮอร์โมนพุ่งพล่านมันก็ย่อมเป็นไปตามสัญชาตญาณ ดังนั้นวิธีแก้ไขปัญหาที่ถูกจุดคือการช่วยกันหาวิธีป้องกันต่างๆ ไม่ว่าจะถุงยาง ยาคุม การให้ความรู้ที่ถูกต้อง ในขณะที่เมืองนอกเขามีแผ่นยาคุมที่แปะไว้กลางหน้าท้องยันถุงยางสำหรับเพศหญิง ในขณะที่เรามามัวแต่ดัดจริตแลนด์ทำตัวเป็นคนดียยย์ มันไม่ช่วยอะไรครับ

2
รอยัล 13 เม.ย. 66 เวลา 04:29 น. 1-1

ที่พูดมาทั้งหมดคือถูกต้องครับ ทั้งหมดเป็นเรื่องสิทธิในร่างกายตนเอง ความรับผิดชอบ และมันคือเรื่องธรรมชาติ

0
Nine 10 เม.ย. 66 เวลา 15:45 น. 4

เด็กก็....เป็นนะครับทำได้แต่ต้องรู้จักการป้องกัน ไม่ใช่ปิดกั้นพวกเขา เลิกกับประเพณีโบราณ เดี๋ยวนี้เราเท่าเทียมกันป้องกันก็จบ

0
Shalnark T Diabolus 10 เม.ย. 66 เวลา 16:49 น. 5

อย่าใช้คำว่า "เดี๋ยวนี้" หรือ "สมัยนี้" เลยเถอะครับ สมัยก่อน(แบบก่อนจริงๆเป็น300-400ปี+) ผู้หญิงพอเริ่มมีปจด.ก็คือพร้อมแต่งงานออกเรือนแล้วครับ ค่านิยมต้องเรียนจบก่อน ต้องมีงานทำชีวิต

มั่นคงแต่งงานแต่งการกันก่อน มันพึ่งมามีเอาช่วง100กว่าปีหลังนี่เอง จะมาอ้างว่าเป็นประเพณีแต่โบราณมันก็ไม่ได้นา เอาจริงๆ...สมัยโบราณอ่ะผู้หญิงไม่มีสิทธิ์ไปโรงเรียนร่ำเรียนวิชาความรู้ด้วยซ้ำ แล้วจะเอาอะไรมาต้องเรียนจบ สิ่งที่จขกท.ว่ามา มันไม่ใช่พึ่งมีเดี๋ยวนี้หรอก มันเป็นมานานแล้ว เป็นมาตลอด แต่แค่ยุคนึงเราก็ถูกค่านิยมที่พึ่งคิดขึ้นมาสดๆร้อนๆมาครอบบังความจริงตรงนั้นไว้ และถ้ากังวลปัญหาการท้องไม่พร้อมอะไรพวกนี้ อย่างที่คห.1บอกครับ ต้องปลูกฝังการป้องกัน ต้องทำให้การพกถุงยางกลายเป็นเรื่องปกติเหมือนการใส่นาฬิกาหรือพกผ้าเช็ดหน้า ต้องทำให้การกินยาคุมไม่ต่างจากการกินวิตามินรายวัน ต้องทำให้การฉีดยาคุมไม่ต่างจากการไปฉีดวัคซีนประจำปี ต้องทำให้การตรวจโรคทางเพศสัมพันธ์ไม่ต่างจากการตรวจโรคทั่วไป ต้องทำให้มุมมองทัศนคติของคนทั่วไปกลายเป็นแบบนั้น มันถึงจะแก้ปัญหาได้ แต่ปัญหาหลักของเรื่องนี้เลยคือตรรกะเบี้ยวๆของพวกกะโหลกกะลาที่พยายามจะนิยามให้ "คนสูงกว่าสัตว์" ต้องข่มสัญชาตญาณ ห้ามนู่นห้ามนี่ห้ามนั่น ต้องทนไว้ ห้ามๆๆ ปัญญาอ่อนครับบอกเลย คนคือสัตว์...คือสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง สิ่งมีชีวิตมีสัญชาตญาณพื้นฐานอยู่3อย่าง กิน นอน สืบพันธุ์ ทั้ง3อย่างมันเป็นสิ่งที่ห้ามไม่ได้ อย่างมากคือควบคุมไม่ให้ส่งผลกระทบต่อคนอื่น เช่นห้ามการข่มขืน ห้ามล่วงละเมิดผู้เยาว์ ห้ามทำในที่สาธารณะ อะไรแบบนี้ ไม่ใช่ว่าห้ามทำไปเลย แต่ก็ยังพยายามจะห้ามทำเด็ดขาดกัน มันถึงเป็นอย่างทุกวันนี้ แล้วที่จขกท.ควรจะต้องทำความเข้าใจซะใหม่มากๆเลยนะครับ คือตรงที่ว่า "ถ้าท้องขึ้นมาก็หมดอนาคต" โทษนะครับ เวลาท้อง...เด็กอยู่ในมดลูก แต่สิ่งที่จะตัดสินว่ามีอนาคตหรือไม่สำหรับปัจจุบัน มันคือสมองครับไม่ใช่มดลูก นี่มันยุคที่คนพยายามจะเท่าเทียมครับ ยุคที่ผู้หญิงสามารถเติบโตในอาชีพการงานหรือธุรกิจได้ด้วยตัวเอง มันไม่ใช่ยุคชายเป็นใหญ่ที่ผู้หญิงทำได้แค่ขายมดลูกตั้งท้องทายาทให้สามี แล้วก็คอยเกาะบารมีสามีกับลูกกินไปเรื่อยๆ ฉะนั้น...ต่อให้ท้อง แต่ถ้าสมองและสติปัญญายังมี มันก็ไม่ได้ไร้อนาคตครับ กลับกัน...คำพูดที่ว่า "ถ้าท้องขึ้นมาก็หมดอนาคต" นั่นแหละที่มันแย่งชิงเอาอนาคตของคนไป เพราะคำพูดหรือความเชื่อมันมีผลกับจิตใจ ถ้าคนที่ท้องเชื่อในคำนั้นสุดท้ายมันจะเกิดเป็นสภาวะด้อยค่าตัวเอง หยุดการเรียนรู้ หยุดการเติบโต เพราะคิดว่าตัวเองไม่มีค่า ไม่มีทางทำได้ ต่อให้ทำไปก็ไม่มีอนาคตอยู่ดี สุดท้าย...ก็จะไม่มีอนาคตไปจริงๆ ส่วนเรื่องโดนทิ้ง มันก็คงเสียใจแหละ แต่...แล้วยังไงต่อล่ะ เราด้อยกว่าเขาเหรอ? เราจำเป็นต้องให้เขาดูแลเหรอ? เราดูแลตัวเองไม่ได้เลยเหรอ? ถ้าตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้ได้ เราจะรู้สึกว่ามันก็แค่ประสบการณ์พบเจอคนอีกคนนึงที่เราอยากอยู่ด้วย แต่เค้าไม่ได้อยากอยู่กับเรา อีกอย่าง...ยุคนี้แล้ว ฟันแล้วทิ้งผู้หญิงก็ทำได้ครับ ไม่เฉพาะผู้ชายหรอก อย่างที่บอกยุคนี้มันไม่ใช่ยุคที่ผู้หญิงต้องง้อผู้ชาย ฉะนั้นถ้าเป็นผู้หญิงที่มีความมั่นใจในตัวเองมากพอ เค้าไม่มาแคร์หรอกครับว่าใครจะได้แล้วอยู่ ใครจะได้แล้วทิ้ง ดีไม่ดีเป็นฝ่ายทิ้งซะเองด้วยซ้ำไป

2
Shalnark T Diabolus 13 เม.ย. 66 เวลา 19:39 น. 5-2

ไปศึกษาประวัติศาสตร์บ้างนะครับ หรืออย่างน้อยที่สุดดูเวลาดูพวกหนังหรือละครย้อนยุค ก็หัดสังเกตดีเทลหรือพวกข้อมูลประกอบบ้าง

0
2222 10 เม.ย. 66 เวลา 21:33 น. 6

เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว มีแฟนมีลูกแล้วไปมีอะไรกับคนอื่นอีก

ขนาดผู้หญิงมีลูกแล้ว ยังแอบไปมีอะไรกับผู้หญิงด้วยกัน มันเหมือนเป็นกิจกรรมทั่วไปแล้ว

0
kunnoknoi 11 เม.ย. 66 เวลา 14:19 น. 8

โทษว่าเป็นเพราะว่าเด็กสมัยนี้ แต่สมัยก่อนนี่แต่งงานกันตั้งแต่14-15 และมีลูกบ้านละสิบคน อ๋ออืม

0
ถถถ 11 เม.ย. 66 เวลา 23:29 น. 9-1

เกรงว่าปัญหาวัยรุ่นมีความรู้สึกทางเพศจะเกินตัวและซับซ้อนกว่าความพยายามโน้มน้าวให้คนสนับสนุนการไม่ใส่เสื้อทับและกางเกงซ้อนใต้กระโปรงน่ะฮ่ะ

0
ถถถ 13 เม.ย. 66 เวลา 13:12 น. 9-3

วัยรุ่นอยากทำอะไรก็ยังไปเดือดร้อนคนอื่นได้เลย

0
เปรตในหมู่ปราชญ์ 14 เม.ย. 66 เวลา 13:38 น. 9-4

วัยแก่ก็ไม่ต่างนะ ก่อนหน้านี้มีทั้งเหยียดคนเล่นเกม,เหยียดคนสักลาย,เหยียด LGBT,สนับสนุนรัฐประหารเผด็จการจนทำให้เศรฐกิจล่มข้าวยากหมากแพงและเกิดความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่สูงขึ้นไปอีก,ทำให้เกิดปัญหาเชิงโครงสร้างทางสังคมมากมายจนต้องกลายมาเป็นภาระคนรุ่นใหม่ต้องมาแบกรับ


เป็นไงล่ะครับผลงานคนวัยแก่ทั้งนั้นเดือดร้อนกันไปทั้งประเทศยันชั่วลูกชั่วหลานมันเทียบไม่ได้เลยกับการที่เด็กวัยรุ่นแว๊นมอไซด์หน้าปากซอยตอนดึก

0
rre 13 เม.ย. 66 เวลา 09:08 น. 12

ถ้ากลัวท้อง ให้ลองทำกับผู้หญิงด้วยกัน ได้รสนชาติไปอีกแบบต่างจากผู้ชายนิดหน่อย แต่ได้อารมณ์เหมือนกัน

0
ผู้ใหญ่ที่เคยเด็ก 14 เม.ย. 66 เวลา 08:57 น. 13

จริงๆวัยนี้เป็นวัยที่เริ่มอยากรู้อยากเห็นอยากลองเรื่องเพศแล้วนะตามธรรมชาติ จึงควรจะสอนเรื่องเพศศึกษาอย่างจริงจัง รวมถึงเรื่องการป้องกันให้เด็กได้แล้ว ดีกว่าการไปห้าม เพราะมันเป็นอารมณ์ตามธรรมชาติ ถ้าไปห้ามจะมั่นใจได้ไงว่าจะห้ามหรืออยู่ในสายตาได้ตลอด24ชม. เค้าก็ไปแอบๆทำกันได้อยู่ดี สู้สอนให้พวกเขารู้จักการป้องกันอย่างถูกวิธีและให้รู้ถึงข้อดีข้อเสีย ผลที่จะตามมาถ้าพลาดอะไรงี้จะดีกว่า

0
Hoshisora 14 เม.ย. 66 เวลา 15:45 น. 15

ถ้าให้พูดกันตามหลัก แบบ หลักจริงๆ จังๆ เลยนะคับ มนุษย์ สามารถสืบพันธ์ุได้ตั้งแต่อายุ 10+ นิดๆ แล้วคับ ผู้ชายหลั่งได้เมื่อไหร่ ผู้หญิงมีประจำเดือนเมื่อไหร่ ก็ตอนนั้นล่ะที่พร้อมจะสืบพันธุ์แล้ว เพราะงั้นปัจจัยต่างๆ ที่จะนำไปสู่การสืบพันธุ์มันเลยมาช่วงนั้นๆ ด้วย จริงๆ ไม่ต้องไปดูที่ไหนไกล ดูที่เราหรือคนรอบๆ ตัวเรานั่นล่ะคับ ช่วงนั้นจะเป็นช่วงวัยที่คนจะเริ่มสนใจเพศตรงข้ามแบบจริงๆ จังๆ เริ่มแบบอยากมีแฟน เริ่มพูดถึง "เรื่องนั้น" กันเยอะขึ้น ซึ่งก็ไม่ต้องแปลกใจ ทั้งหมดมันเป็นสิ่งที่อยู่ใน DNA ทั้งของคุณ ของผม และของคนอื่นๆ เป็นสิ่งที่เป็นไปตามธรรมชาติ และเป็นมานานแล้วด้วยไม่ใช่พึ่งจะมาเป็น


แต่ยังไงก็ตาม เรื่องที่คุณเป็นห่วง ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้เหมือนกัน เพราะคุณกำลังมองในเรื่องของสังคม ซึ่งมันก็เป็นไปตามนั้น ปัญหาการตั้งท้องในวัยเรียนเป็นปัญหาที่อิรุงตุงนังมากในสังคมบ้านเรา และผมก็ไม่ปฏิเสธว่ามันก็สร้างปัญหาได้พอสมควรจริงๆ นั่นล่ะ เรื่องมันก็แล้วแต่การอบรบสังสอนของแต่ละบ้าน สภาพแวดล้อมที่เค้าอยู่ และปัจจัยอื่นๆ ที่ไม่ว่าจะพูดอะไรมาก็น่าจะเกี่ยวทั้งหมด การแก้ปัญหาเรื่องนี้มันไม่มีทางทำสำเร็จได้ในปีสองปี บอกเลยว่าถ้าจะแก้ มันอาจต้องใช้เวลาในรุ่นของเราไปทั้ง gen เลยล่ะคับ

0
มอร์แมว 14 เม.ย. 66 เวลา 23:05 น. 16
11
Shalnark T Diabolus 15 เม.ย. 66 เวลา 00:53 น. 16-1

อ่านไม่แตกแต่อยากจะวิจารย์แล้ว1 ต้องให้อธิบายด้วยมั้ย? ดูทรงแล้วไม่มั่นใจว่าอ่านอีกกี่รอบถึงจะเก็ท ถึงขนาดที่ว่าคนอื่นมั่ว แต่สิ่งที่ตัวเองเขียนก็ความหมายเดียวกัน แบบนี้นี่ก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้วละ -_-

0
มอร์แมว 15 เม.ย. 66 เวลา 09:30 น. 16-2

อ่านไม่แตกตรงไหนเหรอ ผมแตกทุกครั้ง เอ้ย ไม่ใช่ ความคิดคุณก็แค่วัวหายล้อมคอกเท่านั้นแหล่ะ อ้างแค่ว่า อ๋อ มันเรื่องธรรมชาติ สอนให้ป้องกันดีๆก็พอ แต่มันไม่ถูกนะ แล้วก็แก้ปัญหาอะไรไม่ได้ด้วย เพราะคุณไม่เชื่อหรือไม่รู้ว่าปัญหามันสามารถแก้ได้ถ้าเราศึกษาและจริงจังกับมันมากพอเหมือนต่างประเทศ

0
Shalnark T Diabolus 15 เม.ย. 66 เวลา 09:58 น. 16-3

ว่าแล้วว่าอ่านไม่แตก แล้วให้คิดเองว่าไม่แตกตรงไหนก็คงคิดไม่ได้ อย่างแรกเลย เรื่องที่ว่าสมัยก่อน15-16ก็ท้องแล้ว รบกวนกลับไปอ่านประโยคแรกของคห.ผมนะครับ "อย่าใช้คำว่า สมัยนี้ หรือ เดี๋ยวนี้ เลยเถอะ" นั่นหมายความ ไม่มีใครบอกว่าให้คงสภาพแบบนี้ต่อไปไม่ต้องพัฒนาอย่างที่คุณว่าเลย แค่อธิบายว่า "สิ่งเหล่านี้มันมีมานาน อย่าคิดว่ามันพึ่งมี" แล้วก็ที่พูดถึงว่าประเทศที่มีปัญหาพวกนี้มีแต่ประเทศยังไม่พัฒนา จะสื่ออะไรเหรอ? คห.1ก็พูดถึงว่าประเทศพัฒนาแล้วจะไม่เป็นแบบนี้ คห.ผมก็refคห.1อธิบายเพิ่มว่ามันควรเป็นยังไง ถ้าคุณบอกว่ามันไม่ได้ผลแก้อะไรไม่ได้ แล้วคุณมีวิธีที่ได้ผลกว่าหรือไง? จะบอกว่าการห้ามเด็กเอากันคือได้ผล? ถ้าได้ผลแล้วปัญหาที่เกิดอยู่ตอนนี้คือ.... คิดว่าพยายามห้ามกันมากี่ปีแล้ว? ไอที่เขียนมาข้อความแรกว่า "ไม่คิดจะพัฒนาบ้างเลยเหรอ" กับ ข้อความหลังที่ว่า "วัวหายล้อมคอก สอนการป้องกันดีๆก็พอ มันแก้ปัญหาอะไรไม่ได้" มันขัดแย้งกันเองอยู่นะ บอกไม่คิดพัฒนาเลยเหรอ แต่จะให้ใช้วิธีเดิมๆที่ใช้มาไม่รู้กี่สิบปีแต่ก็ไม่ได้ผล แล้วก็บอกให้รู้ไว้นะครับว่าสิ่งที่ผมอธิบาย มันคือคำพูดที่ผมยืมมาจากรายการเกี่ยวกับSex Education ซึ่งคนพูดโตมาในต่างประเทศที่เค้าเจริญแล้ว และวิธีเหล่านี้ก็คือวิธีที่เค้าใช้กันอยู่ คุณไม่ได้เข้าใจสิ่งที่ผมสื่อเลยซักนิดแต่คิดว่าเข้าใจดี ที่ผมบอกอยู่ก็คือ...ทัศนคติคือเรื่องแรก แล้วอย่างอื่นมันจะตามมา ถ้าแก้ทัศนคติไม่ได้ก็จบแล้ว "สัญชาตญาณพื้นฐานน่ะมันห้ามไม่ได้" ผลลัพธ์ในปัจจุบันมันก็ยืนยันคำพูดนี้ของผมอยู่แล้ว ยังพยายามจะแถอะไรอีก? สิ่งที่ทำได้คือให้ความรู้ สอนการป้องกันที่ถูกต้อง สร้างทัศนคติใหม่ๆให้เด็กว่ามีเซ็กต้องป้องกัน แต่สิ่งเหล่านี้ไม่มีวันเกิดได้ด้วยทัศนคติเดิมๆ ทัศนคติแบบที่ว่าเป็นเด็กห้ามมีเซ็ก ถ้าเด็กไปซื้อถุงยางแล้วยังต้องโดนคนรอบข้างมองด้วยสายตาแปลกๆ เด็กกินยาคุมแล้วยังโดนมองว่าเตรียมตัวพร้อมจะไปร่.า.น เด็กไปฝังหรือฉีดยาคุมแล้วหมอพยาบาลมองแรง ถ้าทัศนคติมันยังไม่เปลี่ยน เรื่องนี้ในประเทศนี้มันก็ไม่มีวันพัฒนาได้หรอก หรือถ้าคิดว่ามันพัฒนาได้ก็ลองว่ามาว่ายังไง

0
มอร์แมว 15 เม.ย. 66 เวลา 10:39 น. 16-4

แสดงว่าคุณเชื่อว่าวิธีการ5อย่างที่อยู่ในคลิปไอซ์แลนด์นั้นไม่ได้ผล คำแนะนำในซีรี่ส์ของเนตฟริกซ์ได้ผลมากกว่า อะไรแบบนี้เหรอครับ


0
Shalnark T Diabolus 15 เม.ย. 66 เวลา 10:56 น. 16-5

เนี่ย อ่านไม่แตกแล้วอีก1 "Sex Education" คำนี้แปลว่าอะไรครับ? กะละว่าถ้าใช้คำนี้ต้องนึกไปถึงซีรีย์

0
มอร์แมว 15 เม.ย. 66 เวลา 11:06 น. 16-6

อ่ะ ผมโดนหลอกเอง ปกติถ้าเขียนทับภาษาอังกฤษคนทั่วไปจะเข้าใจว่าเป็นชื่อ ว่าแต่จะไม่ตอบคำถามหน่อยเหรอครับ


0
Shalnark T Diabolus 15 เม.ย. 66 เวลา 11:21 น. 16-7

แล้วก็...ใช่ ผมเชื่อว่ามันไม่ได้ผลครับ พูดให้ถูกคือ...มีความเป็นไปไม่ได้ยิ่งกว่าวิธีที่ผมว่าอีก เพราะปัญหาที่คลิปกล่าวถึง และปัญหาที่กท.นี้กล่าวถึงมันคนละเรื่องกันเลย คลิปที่เอามามองเบสของปัญหาที่การมั่วสุมเป็นหลัก เรื่องยา เรื่องเซ็ก เรื่องความปลอดภัย เป็นผลที่ตามมา แต่กท.นี้เจาะจงไปที่การท้องไม่พร้อม ถามจริง...คนเรามันเอากันได้แต่ตอนกลางคืนเหรอครับ? เลิกเรียน ระหว่างทางกลับบ้าน แวะไม่ได้? กลางวัน วันหยุด บอกออกไปทำงานบ้านเพื่อนแล้วแอบนัดเจอกัน ไม่ได้เหรอ? แล้วถ้าถามว่าทำไมถึงคิดว่าเป็นไปไม่ได้ วิธีที่ผมว่าหัวใจของมันอยู่ที่ทัศนคติ แน่นอนว่าmindsetของคนทั้งสังคมมันไม่สามารถถูกเปลี่ยนแบบฉับพลันได้ แต่...พอgenเปลี่ยนmindsetของคนส่วนใหญ่จะค่อยๆเปลี่ยน มันอาจต้องใช้เวลา แต่มันสามารถเปลี่ยนได้ด้วยตัวเองตามเวลา แต่เคสในคลิป หัวใจของมันอยู่ที่ครอบครัว ซึ่งถามว่าดีมั้ย มันดี แต่เป็นไปได้ยากสำหรับสังคมนี้ที่ครอบครัวไม่ค่อยมีเวลาให้กัน มีลูกแต่ไม่มีเวลาดูแล ต้องเอาให้ปู่ย่าตายายเลี้ยง เพราะพ่อแม่ต้องทำงานหาเงิน ใช้เวลามาก ได้ค่าแรงน้อย งานมันกินเวลาของครอบครัวไปและเป็นกลไกที่มันไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ด้วยตัวเอง ต้องอาศัยผู้มีอำนาจในการปรับเปลี่ยน ดังนั้นมันจะเปลี่ยนได้หรือไม่ได้ จะเปลี่ยนได้ช้าหรือเร็วแค่ไหน ไม่สามารถคาดการอะไรได้เลย ผมถึงคิดว่าวิธีในคลิปมันใช้ไม่ได้กับสังคมนี้

0
Shalnark T Diabolus 15 เม.ย. 66 เวลา 11:29 น. 16-8

อ้อ อีกอย่่างนึง คุณควรไปหาดูบ้างนะครับว่าคนที่ท้องในวัยเรียนของประเทศที่เจริญแล้ว กันในประเทศนี้ ผลที่ตามมามันแตกต่างกันยังไง

0
มอร์แมว 15 เม.ย. 66 เวลา 11:37 น. 16-9

ถ้าคุณดูกันจริงๆจังๆแล้ว ทั้ง5ข้อนี่ไม่ใช่เรื่องของครอบครัวๆเดียวนะครับ แต่เป็นเรื่องของสังคม แม้กระทั่งข้อ2ที่ให้เซ็นข้อตกลง ถามจริงเถอะว่าครอบครัวชาวบ้านเค้าเซ็นกันหมด มีครอบครัวคุณคนเดียวที่ไม่ยอมเซ็นแล้วจะอยู่ไหวเหรอ แล้วเริ่มตั้งแต่เคอร์ฟิวพวกวัยรุ่นเลย พวกพ่อแม่จะออกมารวมกลุ่มกันลาดตะเวนแถวชุมชนทั้งๆลูกพวกเค้าก็นอนกันอยู่ที่บ้านนั่นแหล่ะ เอาแค่ข้อนี้ข้อเดียวคุณคิดว่าพวกเราทำกันไม่ได้จริงเหรอ

0
Shalnark T Diabolus 15 เม.ย. 66 เวลา 11:52 น. 16-10

โทษนะครับ แต่ช่วยมูฟตาออกมาจากคลิปแล้วหันมาดูความจริงข้างนอกหน่อยครับ คิดว่าทั้งชุมชนมีบ้านเดียวที่ทำงานหามรุ่งหามค่ำจนตกอยู่ในสภาวะแบบที่ผมว่าหรือไง? แล้วคิดว่าผังเมืองผังชุมชนของที่นี่กับที่นู่นมันเหมือนกันหรือไง? มองความแตกต่างทางสังคมของที่นี่กับในคลิปให้ออกก่อนค่อยมาพูดมั้ยครับ?

0
Shalnark T Diabolus 15 เม.ย. 66 เวลา 12:05 น. 16-11

แล้วก็นะ...นี่มันหลุดจากประเด็นของกท.ไปแล้วนะครับ กลับมาที่ประเด็นท้องไม่พร้อมก่อนมั้ย?

0
123 14 เม.ย. 66 เวลา 23:28 น. 18

ต้องคิดแบบธรรมชาติ คิดเป็นกลางนะคับ

โยนอคติหรือความเชื่อหรืออะไรที่ "ถูกกำหนดมาว่าดี" มาทิ้งไปก่อน

มองคนให้เป็นสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้


สิ่งมีชีวิตมีความต้องการพื้นฐานอะไรบ้าง

1.หิว/ง่วง

2.หนาว/ร้อน

3.ปวดขับถ่าย

4.อารมณ์ทางเพศ


อันนี้คือดิบๆเลยนะ

วัฒนธรรมทั้งหลายคือสิ่งที่ "ถูกกำหนดมาว่าดี" ตามสภาพสังคมในขณะนั้น

เหมือนสมัยก่อนที่ผช.มีภรรยาหลายคนนั่นแหล่ะ เพราะสังคมต้องการแรงงานเกษตร ฯลฯ


แต่สมัยนี้ถามว่าผิดมั้ย ไม่ผิด

ผิดตรงที่รับผิดชอบตัวเองได้มั้ย ท้องแล้วไงต่อ

ถ้าวัยรุ่นถามตัวเองด้วยคำถามสั้นๆนี้แล้วนอนคิดดู

ปัญหาสังคมน่าจะลดลงได้เยอะ


ส่วนผญ.เองลองคิดดูว่าผช.ที่มาขอxxxเราโดยที่ยังรับผิดชอบตัวเองยังไม่ได้เลย

เป็นคุณจะให้มั้ย???


อันนี้แล้วแต่คุณ.....




0
Nkkk 15 เม.ย. 66 เวลา 20:40 น. 19

เรื่องปกติยุค5G สังคมดิจิตอลไร้พรมแดนนะ ไม่ใช่จับถุงคลุมชนกันเหมือนยุคอดีต เขามีสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็ตามนะจ้า

0
Wuk 15 เม.ย. 66 เวลา 20:41 น. 20

ก็อารมณ์ทางเพศ อยากรู้ทยากทดลอง คือ ประสบการณ์ของเรานะ เหมือน เมืองนอก อะดูเสียมั่ง

0