ความพยายามเอาใจใส่กับชาว Introvert หลักอกหัก มันเป็นยังไงกันนะ ? (มีคำถามสะท้อนมุมมอง)

คุณอาจจะแค่ไม่เข้าตาเขาก็เท่านั้นแหละ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับอินโทรเวิร์ตใด ๆ ทั้งสิ้น ถ้าคนมันเข้าตา ต่อให้ไม่พูดสักคำ มันก็เข้าตาอยู่ดี

ความพยายามเอาใจใส่กับชาว Introvert หลักอกหัก มันเป็นยังไงกันนะ ? (มีคำถามสะท้อนมุมมอง)

กระทู้ ใบอร์ดปัญหาความรัก มากระทู้นี้

ช่วยตอบให้คุณ และช่วยเป็นกำลังใจให้คุณด้วยค่ะ

สวัสดีค่ะ

พอถึงจุด ๆ นี้ผมก็อยากจะมีคำถามกับทุกท่านที่อ่านหนังสือชีวิตของเด็กนักเรียน ม.ปลาย คนหนึ่งมาถึงตอนนี้

1) จะเกิดอะไรขึ้นต่อหลังจากนี้ (ในความคิดของคุณ) ถ้าทำการเอาใจใส่เเบบห่าง ๆ (เป็นอีกโลกหนึ่งที่เป็นคู่ขนานของเขา) เรื่อย ๆ เเล้วเธอคนนั้นจะมีเเนวโน้มของปฎิกิริยาไปทางไหน

ข้อ 1 นี้ตอบคุณว่า ไม่เสมอไปที่จะได้ผลดีค่ะ เพราะคนที่เป็น Introvert หรือคนที่มีโลกส่วนตัวสูงนะคะ เป็นคนที่รอบคอบค่ะ รอบคอบมาก ๆ ด้วย จนคล้ายมีเขามีจิตสัมผัสพิเศษ

คือเขาละเอียดอ่อน และจริงจังกับทุกอย่างในแบบที่แยบยลมาก ๆ ชนิดที่ว่า เขาจะรู้ได้ว่าคุณเป็นเงาของเขา และเฝ้าติดตามเขาอยู่ห่าง ๆ นั้น เขาจะรู้ได้อย่างแน่นอนค่ะ และหากเขาคนนั้นเกิดไม่ชอบการกระทำของคุณขึ้นมา จะเกิดเป็นผลที่ติดลบอย่างแน่นอนค่ะ เขาแอนตี้คุณอย่างแน่นอนค่ะ

คนโลกส่วนตัวสูงนะคะ เป็นคนที่ไม่มีเยื่อใยในสิ่งที่เขาไม่ชอบ เป็นธรรมชาติของเขานะคะ คือเขาเป็นคนใจแข็ง ใจเด็ดเดี่ยว หากไม่ชอบอะไรแล้ว เขาก็จะเห็นสิ่งนั้นเป็นเพียงธาตุอากาศ คือเขาจะไม่ใส่ใจ แบบนั้นค่ะ

ซึ่งทั้งหมดนี้ ก็ไม่เสมอไปร้อยเปรอร์เซ้นต์นะคะ เพราะทุกอย่างในโลกนี้ ไม่ร้อยเปรอร์เซ็นต์นั้นเองค่ะ เพราะฉะนั้นไม่ลองก็คงไม่รู้ค่ะ

คุณจะลองเสี่ยงลองดูก็ได้ค่ะ อาจจะได้ผลที่ดี หรือหากไม่ได้ผลที่ดีตาามที่คุณตั้งความหวัง อย่างน้อย คุณก็ได้รู้ว่าคุณได้ลองแล้ว

2) ในความคิดของคุณ คิดว่า Introvert ที่เป็นโลกส่วนตัวสูงมาก ๆ มีโอกาสที่ปากไม่ตรงกับใจเยอะมากน้อยขนาดไหน ? (ณ จุดนี้ผมยอมรับเลยว่ายังไม่เข้าใจคนประเภทนี้มากนัก)

ในข้อ 2 นี้ตอบคุณว่า คนที่มีลูกส่วนตัวสูง หรือเป็น Introvert จริง ๆ นะคะ ตามที่เห็น ๆ มาเขาเหล่านี้ ปากกับใจตรงกันเสมอ และยากนักที่จะเปลี่ยนแปลงเขาได้ หากเขาเข้าใจว่าสิ่งนั้นดีแล้ว ถูกต้องแล้ว สมควรแล้ว เขาจะเป็นผู้ที่ปากตรงกับใจ และยากนักที่จะเปลี่ยนแปลงเขาได้ ทั้งหมดนี้เป็นธรรมชาติส่วนหนึ่งของคนเหล่านี้ค่ะ

ในลิ้งก์ข้างล่างนี้ เป็นข้อมูลของผู้ที่เป็นIntrovert ซึ่งดูจะตรงมาก ๆ กับความเป็นธรรมชาติจริงของเขาทั้งหลาย คุณลองอ่านนะคะ

https://www.ananda.co.th/blog/thegenc/introvert-extrovert/

3) คุณคิดว่าผมควรทำอย่างไรกับความสัมพันธ์ ณ ตอนนี้ (ถ้าเรายังรักเขา เเล้วอยากที่จะปลูกต้นไม้ของเขาให้ไปได้ไกลกว่าเดิมให้ได้)

ในข้อ 3 นี้ ตอบคุณว่า ในเคสของคุณนะคะ คุณได้หลงรักคนที่เขามีธรรมชาติที่ยากต่อการที่เขาจะรับรักคุณได้ง่าย ๆ ในแบบชัดเจน แบบนี้แล้วคุณคงต้องใช้ความเชื่อเข้ามาช่วยค่ะ คือการอธิษฐาน การที่คุณจะขอพรอธิษฐานขอให้คนที่คุณรักเขา มารักคุณด้วยเช่นกัน น่าจะตื่นเต้นดีนะคะ และอาจจะได้ผลก็เป็นได้ค่ะ

อีกอย่าง คือการเชื่อเรื่องบุเพสันนิวาส คือหากคุณรักเขาแล้ว และถ้าคุณเชื่อว่าเขาเป็นเนื้อคู่ของคุณ เขาก็จะรักคุณเช่นกันในที่สุด การลองเชื่อในแบบนี้ จะทำให้คุณมีความอดทนพอที่คุณจะมีเธออยู่ในใจคุณได้นาน ๆ และเวลาอาจจะช่วยให้เกิดเป็นผลสัมฤทธิ์ก็เป็นได้ ทั้งหมดนี้ คือการปฎิบัติตามความเชื่อค่ะ

เพราะเรื่องของความรัก เรื่องของหัวใจนะคะ เป็นอะไรที่ไม่ต่างเหตุการณ์อภินิหารย์ก็ไม่ปาน เพราะการที่คนสองคนจะรักกันได้จริง ๆ ด้วยใจนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ นะคะ

และยิ่งคุณอยู่ม.ปลายอยู่ คุณอยู่ในช่วงวัยรุ่น ไม่ทราบว่าคุณเข้าใจถึงความรู้สึกที่ว่ารักแท้จากใจ ได้มากน้อย ลึกซึ้งเพียงไร นั้นเจ้าของเม้นต์ไม่ทราบนะคะ แต่ความรักที่เกิดขึ้นได้จากใจ ต่อใครสักคนนั้นไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่าย ๆ นั้นเป็นความจริงนะคะ เพราะอาการ ความรู้สึกที่ว่าความรู้สึกรักจริงจากใจนั้น แท้จริงคือความเสน่หา และมากกว่านั้นคือการที่คน คนหนึ่งรู้สึกว่าคน คนนั้นมีคุณค่าต่อจิตใจของเขา หรือของเธอ จึงเกิดเป็นความรักขึ้นมาค่ะ ทั้งนี้ เรากล่าวถึงความรัก ในที่นี้คือความรักที่บริสุทธิ์ใจ รักจากใจไม่มีสิ่งใดเจือปนนะคะ

เพราะฉะนั้นหากคุณรู้สึกได้ว่าคุณรักเธอด้วยใจ คุณก็คงต้องใช้เวลา ให้เวลากับตัวคุณเอง ให้เวลากับเธอ และใช้ความเชื่อด้วยก็ดีค่ะ เชื่อว่าหากใช่คู่กันแล้ว ก็จะไม่แคล้วกัน หากไม่ใช่นะคะ เดี๋ยวเธอก็มีอันจากลาคุณไป และคุณก็จะลืมเธอได้ในที่สุด ซึ่งทั้งหมดนี้กิดขึ้นได้ เป็นธรรมดา เกี่ยวกับความรักค่ะ

4)* ทำไมคุณถึงอยากได้ ความรัก ม.ปลาย ทั้ง ๆ ที่สุดท้ายเเล้วก็จะเลิกลาอยู่ดี ?

ฮ่า ฮ่า ฮ่า

นี่คุณถามผู้ที่มาอ่านกระทู้ของคุณนะคะ?

ช่วยตอบให้คุณในแบบโดยรวมนะคะ

(คือไม่ใช่คำตอบของส่วนบุคคลนะคะ)

อยากได้ความรัก...เป็นอะไรที่ไม่มีใครบงการได้นะคะ แม้เจ้าของหัวใจทุกดวงก็ยังควบคุมมันไม่ได้ หากความรู้สึกรักได้บังเกิด ยิ่งในผู้ที่รู้สึกว่า...อยากได้ความรักจากใครคนหนึ่งขึ้นมาแล้วนะ ไม่มีใครควบคุมได้ค่ะ เพราะความรักนะคะ มันเป็นกิเลส มันเป็นตัณหา เป็นอะไรที่เป็นพลังมากมายมหาศาลในการขับเคลื่อนในคน และเป็นธรรมชาติด้วยนะคะ

และ ในขณะเดียวกัน ในทางตรงข้ามการที่คน คนหนึ่งต้องการความรู้สึกอยากให้ใครคนหนึ่งมอบความรัก...แก่เรา และเมื่อความรู้สึกเช่นนี้เกิดขึ้นกับใครสักคนนะ หากแต่มันไม่เกิดขึ้นได้ มันก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ คือเมื่อรักไม่ได้ ก็คือรักไม่ได้ ซึ่งเป็นธรรมชาติที่ตรงข้าม...ซึ่งมีอยู่เป็นธรรมชาติในเรื่องของความรักด้วยเช่นกันนะคะ

และไม่เสมอไปนะคะ ที่ว่าความรักของคนในวัยนี้จะไม่ยั่งยืน นั้นไม่เสมอไปค่ะ บางคู่รักที่เกิดขึ้นในวัยนี้ เขารักกันจนตายจากกันนั้นก็มีค่ะ

คือทุกอย่างไม่แน่นอนค่ะ คือแท้จริงแล้วนะบนโลกนี้หลายสิ่ง หลายอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ค่ะ

ทั้งหมดนี้เป็นธรรมชาติค่ะ

สุดท้ายนี้ ถ้าเป็นไปได้ผมขอ "หนึ่งประโยคสั้น" ๆ ที่อยากจะบอกเด็กคนหนึ่งที่มีทุกอย่างในวิทยาศาสตร์เเต่ยังขาดปฎิสัมพันธ์ในเเง่ของความรักมั้ยครับ....

ประโยคสั้น ๆ เพื่อคุณ ในเคสของคุณนี้นะคะ?

ก็คงเป็นคำว่า..."ความรักเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนและสวยงาม ความรักนะมีค่าต่อชีวิต ต่อจิตใจ การที่จะได้รักมาต้องใช้เวลา สักวันคุณจะโต และคุณจะเข้าใจในความรักได้ดีอย่างแน่นอน"ค่ะ

สั้นสุด ๆ ได้แค่นี้ค่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ครับ :)

ด้วยความยินดีค่ะ อ่านเรื่องราวของความรักนะ แม้ว่าบางครั้งในเรื่องของความรักนั้น ๆ มีดราม่าผสมผสานอยู่บ้าง แต่อ่านเรื่องราวของความรักแล้วนะ รู้สึกดีค่ะ อ่านเมื่อไรนะ ยิ้มได้ทุก ๆ ทีไป

ขอบคุณที่เขียนให้อ่าน และตั้งเป็นคำถามขึ้น ให้มีโอกาสได้ช่วยออกความเห็นที่แตกต่าง เพราะเรามีความเข้าใจที่แตกต่างกัน ในโอกาสและวาระที่ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันบ้าง เป็นสิ่งที่ดีนะคะ

ช่วยแนบคลิปเพลงเกี่ยวกับผู้ที่ขาดประสบการณ์ในเรื่องของความรัก แต่เขาก็ยังคงสามารถสัมผัสได้ถึงคุณค่าของผู้ที่เขาได้รัก...มาให้คุณด้วยค่ะ บทเพลงที่มีความหมายดี ดนตรีไพเราะ รีวิวน่ารัก

(มีภาพดราม่าติดมาให้เศร้านิดนึงด้วย)

เจ้าของเม้นต์ชอบเพลงนี้มาก ๆ แบ่งปันค่ะ

เป็นกำลังใจให้คุณเจ้าของกระทู้ค่ะ

เขาพูดชัดเจนถึง 2 ครั้งคุณน่าจะพอได้แล้ว ที่บอกว่าเดทไม่แน่ใจว่าคุณใช้คำนี้ในความหมายอะไร คือเดทหมายถึงการนัดหมายทั่วไปก็ได้ ไม่ได้หมายความว่าคนที่ไปพบกันโดยนัดหมายกันล่วงหน้าจะรู้สึกอยากคบหากันเป็นแฟน ที่คุณรู้ว่าเขามองคุณบ่อยก็เพราะว่าคุณมองเขาบ่อยใช่ไหม เขาคงมองคุณเพราะต้องการดูว่าคุณคุกคามเขารึเปล่า ถ้าคุณมีท่าทีคุกคามเขาหรือรุกล้ำความเป็นส่วนตัวของเขาเขาอาจจะบอกเพื่อนหรือครูให้ช่วยจัดการคุณ และอาจจะเป็นการปรามให้คุณเลิกมองเขา

สำหรับคำถามสุดท้ายไม่เสมอไปที่คนที่เป็นแฟนกันตอนม.ปลายจะเลิกกัน จะเริ่มคบกันตอนอายุ 20 กว่าหรือ 30 กว่าก็มีโอกาสเลิกกันได้