Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เทคนิคการสอบสัมภาษณ์

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เราก็มีประสบการณ์การสอบสัมภาษณ์มา 2 ที่แล้ว + การได้เรียนเทคนิคการสอบสัมภาษณ์ที่โรงเรียนมา
เราจึงอยากจะช่วยแนะนำเพื่อนๆ ที่ยังไม่ได้เรียน

*ถ้าหากไม่ถูกใจยังไง ขอโทษไว้ตรงนี้เลยนะ*

ขั้นตอน
1.เมื่อเค้าเรียกเราเค้าไปในห้องแล้ว
ในสูดหายใจลึกๆ เดินหลังตรงเงยหน้า ยิ้มๆไว้
ถ้าต้องเปิดประตู เปิดค่อย และปิดประตูเบาๆ
พอถึงกรรมการให้หยุด แล้วขออนุญาตวางแฟ้มสะสมผลงาน
แล้วไหว้ กล่าวคำว่าสวัสดีค่ะ/ครับ
2.ถ้าเค้าเชิญให้นั่งก็นั่งลง + พูดขอบคุณค่ะ/ครับ
ถ้าไม่เชิญ รอ10-15 วิ แล้วขออนุญาตนั่ง
ถ้าที่นั่งไม่สะดวก นั่งไม่สบาย โดนแดด ไม่ต้องทน ขออนุญาตเลย
แล้วถ้ามีเอกสารอะไรที่ต้องยื่นก็ควรยื่นให้ทันที
3.ตอนตอบคำถามตอบสบายๆ ไม่ต้องเครียด เน้นเป็นตัวของตัวเองที่สุด
และต้องมีมารยาทที่สุดด้วย คำถามที่ถามมา
ตอบให้ตรงประเด็นอย่าเฉไฉออกนอกเรื่อง
และยิ้มไว้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ยิ้มไว้เถิด
4.พอสัมภาษณ์เสร็จ อย่าเพิ่งรีบไป
ลุกขึ่นยกมือไหว้ ขอบคุณค่ะ/ครับ ก่อน
แล้วเลื่อนเก้าอี้เข้าไปด้านใน
แล้วยกแฟ้มออกไป ห้ามลืมของเด็ดขาด

การเตรียมตัว
1.ศึกษาข้อมูลให้ดีว่าต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง
เตรียมเอกสารให้พร้อม และทำมุมแล้วแม็กติดไปจะดีมาก เพราะดูเรียบร้อย
ลายมือที่เขียนในเอกสาร ต้องเขียนอย่างบรรจง ให้สวยที่สุด
2.เตรียมแฟ้มสะสมผลงานให้ดี
    -แฟ้มไม่จำเป็นต้องทำเรียบๆ หรือเว่อร์เกิน   ทำยังไงก็ได้ที่เป็นเรา
ใครว่ายังไงก็ช่าง เพราะแฟ้มของเรา
และกรรมการไม่สนใจว่าคุณจะต้องทำตรงทำรูปแบบนะ
เพราะแฟ้มสะสมผลงานไม่มีรูปแบบที่ตายตัว
    -เราแนะนำนะควรจะใช้ photoshop หรือ illustrator ทำ เพราะเป็นโปรแกรมที่ใช้ไม่ยาก ลูกเล่นก็ดีประมาณนึง หรือใครจะชอบแฮนด์เมดก็ทำเองก็ได้
แต่ถ้าใครไม่รู้จะทำยังไง ก็ไม่ต้องเครียด ลองไปหารูปน่ารักๆ แล้วตัดมาใช้ก็ได้ (เราก็ทำยังงี้)
และก็เน้นเรื่องสีอ่ะ อย่าเรียบและอย่าฉูดฉาดเกินไป เอาให้เด่นๆ
แต่เวลาอ่านข้อมูลก็ต้องไม่ลายตาด้วยนะ
     -ส่วนตัวแฟ้มใช้ยังก็ได้ สีใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นแฟ้มโรงเรียน
แนะนำใช้แฟ้มที่มีที่สอดน่าปก ปกแฟ้มของระดับหนึ่ง และแฟ้ม 3 ห่วง เพราะซองแฟ้มจะได้ไม่ไหลมากเวลาเปิดดูอ่ะ เช่น แฟ้มตราช้าง เราว่าโอเคนะ แต่สีอาจจะมีให้เลือกน้อย
แล้วกระดาษที่ใช้น่าจะมีสีพื้นสีเดียวกัน เช่นสีขาวก็ขาวทุกแผ่น ยกเว้นพวกประวัติ หรือกระดาษที่แปะเกียรติบัตรนะ เพราะจะได้ดูเด่น

ในแฟ้มควรจะมีข้อมูล ดังนี้
     -หน้าปก จะตัดต่อ หรือหาภาพมาแปะก็ได้ตามใจชอบ จะมีรูปเราหรือไม่ก็ได้
แต่ที่หน้าปกควรมี 1.แฟ้มสะสมผลงาน 2.ชื่อ 3.โรงเรียน
แล้วที่สำคัญการทำหน้าปกอย่าให้รูปเด่นเกินไป
เราว่าน่าจะทำตัวอักษรให้เด่นๆ ดีกว่า โดยเฉพาะชื่อนี่สำคัญ
     -ประวัติ (ประวัติส่วนตัว ประวัติทางการศึกษา ประวัติครอบครัว) ควรจะทำให้มีสีสันสวยงาม จะตัดต่อหรือตัดภาพมาแปะก็ได้ ส่วนนี้ควรจะเป็นส่วนที่เด่น อย่าพิมพ์เป็นแบบ เรียงเป็นพืดนะ เอาตัวใหญ่ๆ ทำในphotoshop หรือ illustrator ดีกว่านะ เราว่า แล้วถ้าเป็นไปได้ทำ 2 ชุด คือ ไทยและอังกฤษ เพื่อความน่าเชื่อถือ
*ประวัติส่วนตัวอาจจะไม่ต้องเขียนมากแต่เอาให้ตัวใหญ่ๆ อาจจะมี ชื่อ โรงเรียน แผนการเรียน วิชาที่ชอบ งานอดิเรก ความสามารถพิเศษ ความใฝ่ฝัน เกรดเฉลี่ยสะสมถึงปัจจุบัน(อาจจะไม่มีก็ได้ เพราะหากเป็นเด็ก ม.4 ทำอาจจะต้องเปลี่ยนตรงนี้บ่อยๆ) ต้องมีรูปด้วยนะ เน้นรูปเลยล่ะ
*ประวัติทางการศึกษา ก็ทำเป็นระดับๆ ไป เช่น ระดับ อนุบาลศึกษา ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น มัธยมศึกษาตอนปลาย ในแต่ละระดับก็บอกว่าปีการศึกษาใด ร.ร.ใด เกรดเฉลี่ยเท่าใด
หน้านี้ทำเป็นตารางก็ได้หรือใครมีความคิดสร้างสรรค์ก็ออกแบบให้สวยๆ อาจจะทำเป็นกรอบของแต่ละระดับ คือถ้าทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่ตารางได้จะดีมาก เพราะตารางค่อนดูยาก น่าเบื่อ แล้วตัวใหญ่ๆนะ
*ประวัติครอบครัว ควรจะมีรูปครอบครัว ถ้าไม่มีรูปรวมก็เอาภาพเดี่ยวมาตัดต่อก็ได้
ควรมีบอก ชื่อบิดา/มารดา อาชีพบิดา/มารดา รายได้ เรามีพี่น้องกี่คน ใครบ้าง เรียนที่ไหน
ก็ทำให้เด่นๆ อ่ะ เน้นสี
คือส่วนประวัติอ่ะ อยากให้เน้นสี เน้นเด่นๆ เพราะเป็นจุดสำคัญอ่ะ
     -รางวัลและผลงานที่ได้รับ อันนี้ทำเป็นตารางไปตารางอาจจะมี ลำดับ(1,2,3,4,5,6,....) รายการ(ไปแข่งโน่นนี่) รางวัลและผลงาน(ชนะเลิศ หรือถ้าไม่ได้ให้ใส่ -)
ส่วนนี้ให้ใส่ทุกอย่างที่เราเคยไปแข่งขัน ไม่ว่าจะได้รางวัลหรือไม่ก็ตาม ใส่ไปเยอะๆ
และที่ทำเป็นตารางเพราะมันจะได้ดูเรียบร้อย ดูง่าย และดูเยอะ แต่ส่วนใหญ่เค้าจะเปิดผ่านๆ ไม่ค่อยดู
ส่วนนี้ไม่ต้องใส่เกียรติบัตรนะ เด๋วมันจะดูไม่มีจุดเด่น
     -รางวัลและผลงานที่ประทับใจ เน้นๆ แผ่นแรกควรจะบอกด้วยว่ามีรายการใดบ้าง น่าจะทำให้เด่นๆ เหมือนประวัติ แล้วก็แผ่นต่อไป ให้ใช้กระดาษสีสวยๆ เด่นๆ สบายตา แปะเกียรติบัตร หรือรางวัลต่างที่เราประทับใจ ควรคัดรางวัลที่ดีดี เด่น ถ้าใครมีรางวัลน้อยก็เอาที่เราชอบที่สุด
     -กิจกรรม แผ่นแรกก็ทำตารางนะ ก็มี ลำดับ(1,2,3,4,...) ปีการศึกษา รายการ (ร่วมออกร้านในงานสถาปนา รร,...) แผ่นต่อๆไป ก็ใช้กระดาษสีเดิม กระดาษไม่ต้องเด่น แต่เน้นรูป อาจจะทำมุมติดที่รูปด้วยก็ได้ จะดูเรียบร้อยสวยงาม แล้วก็เขียนบรรยายใต้ภาพสั้นๆ จะดีมาก
ถ้ามีเกียรติบัตรก็ใส่ไว้ด้วยก็ดี แล้วกระดาษที่แปะเกียรติบัตรก็ให้ใช้สีสวย แต่ไม่ต้องเด่นมากเท่า กระดาษแปะเกียรติบัตรของรางวัลและผลงานที่ประทับใจ
*เรื่องรูปถ่าย เวลาทำกิจกรรมไว้เราควรจะถ่ายเก็บ แม้แต่กิจกรรมเล็กน้อย ก็ควรถ่ายไว้
     -ความสามารถพิเศษ แผ่นแรก ก็ทำว่าเราเคยไปแสดงความสามารถพิเศษของเราที่ไหนบ้าง
แล้วแผ่นต่อไปก็ควรมีเกียรติรับรอง กระดาษรองเกียรติบัตรอ่ะให้ใช้สีเดียวกับกระดาษรองเกียรติบัตรของกิจกรรม หรือถ้ามีรูปใส่ไปด้วย พร้อมบรรยายใต้ภาพ
     -ผลงานตัวอย่าง ให้เราถ่ายภาพผลงานของเรา ที่เป็นงานใหญ่ๆ ที่เราคิดว่าทำยาก ไม่ใช่งานธรรมดา เช่น โครงงานวิทยาศาสตร์ ทำเว็บ ทำแฟลช ทำการสำรวจอะไรพวกนี้อ่ะ แปะรูปแล้วบรรยายใต้ภาพนะ
*แฟ้มสะสมผลงานของเราก็ทำประมาณนี้อ่ะ ถ้าใครชอบแบบไหนก็ทำแบบนั้นนะ ลองดัดแปลงดู แต่อาจจะไม่เหมือนอย่างที่เราบอกก็ได้ ก็แล้วแต่สไตล์ของคน ข้อมูลพวกนี้นะเราเคยได้อ่านมาทางเน็ตน่ะ แล้วเราก็เลยลองทำดู เราว่าก็ดีนะ มันเป็นส่วนๆ ชัดเจนดีอ่ะ เพื่อนก็ลองเอาคำแนะนำของเราไปประยุกต์ใช้ดูนะ*
3.ศึกษาข้อมูลของมหาวิทยาลัย+คณะที่เราจะไปสัมภาษณ์ เผื่อว่ากรรมการเค้าจะถามเรา เช่นชื่ออธิการบดี คณบดี วันสถาปนามหาวิทยาลัย มีกี่เอก มีกี่โท ประมาณนี้อ่ะค่ะ
4.ศึกษาเส้นทางของมหาวิทยาลัยให้ดี แล้วเผื่เวลา ควรไปถึงก่อนสัก 1 ชั่วโมง กันหลง หรือว่าหาตึกไม่เจอ แต่ถ้าคนที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยและรู้เส้นทางแล้ว ไปถึงก่อนครึ่งชั่วโมงก็ได้
5.เตรียมพวกเครื่องเขียน หวี แป้ง ที่ขัดรองเท้า พวกนี้ไปด้วย อย่าลืมว่าก่อนเข้าตึกเราต้องดูเรียบร้อยแล้วจึงจะเข้าได้ แป้งก็ทาพอประมาณนะ ผมก็เก็บผมหน้าและรวบให้เรียบร้อย รองเท้าต้องเนี้ยบ ชุดนักเรียนเลือกอันที่ใหม่ที่สุด ถ้าหากว่าเดินทางไกลๆ เอาชุดแขวนไปนะ แล้วค่อยไปเปลี่ยนก่อนถึงมหาวิทยาลัย เสื้อผ้าจะได้ไม่ยับ และถ้าเป็นไปได้ไม่ควรนอนดึกมาก หน้าตาจะได้สดชื่นแจ่มใส เพราะความประทับใจครั้งแรกนี่สำคัญนะ ถ้าหากเราทำไม่ดี กรรมการอาจจะไม่ถูกชะตาตั้งแรกเลยก็ได้นะ
*ก็มีประมาณนี้ละสิ่งที่ต้องเตรียมตัว เอาไว้นึกออกมาบอกเพิ่มนะ*

ตัวอย่างคำถามในการสอบสัมภาษณ์
1.ให้แนะนำตัว ก็บอกไปว่า ชื่ออะไร เรียนที่ไหน พ่อแม่ชื่ออะไร ทำอาชีพอะไร มีพี่น้องกี่คน เป็นคนที่เท่าไหหร่ (รวมตัวเองด้วยนะ พี่น้องอ่ะ) งานอดิเรก คืออะไร ความสามารถคืออะไร แค่นี้พอ เอาคร่าวๆ แต่ต้องท่องไปแม่นๆ บางคนตื่นเต้นจนลืมชื่อพ่อแม่ก็มี
2.ให้แนะนำโรงเรียน ก็ไปศึกษาประวัติคร่าวๆ ของโรงเรียนเรามา แล้วมาเล่าให้เค้าฟัง
3.ทำกิจกรรมอะไรบ้าง ก็บอกว่า หนูทำกิจกรรมมากมายเลยค่ะ รายละเอียดของกิจกรรมต่างๆ อยุ่ในแฟ้มสะสมผลงานนี้ค่ะ แล้วก็ยื่น หรือเปิดให้อาจารย์ดู
4.วิชาที่ชอบ/ ไม่ชอบ บอกไปว่าอะไร ทำไม ตรงวิชาที่ไม่ชอบอ่ะ พอบอกเหตุผลเสร็จแล้วให้พูดว่า ถึงหนูจะไม่ชอบ แต่หนูก็ตั้งใจเรียนวิชานั้นเป็นอย่างดีค่ะ
5.ทำไมถึงเลือกคณะนี้ อันนี้บอกเหตุผลไปปเลย อาจจะโกหกบ้างเล็กน้อย แต่อย่าพูดจนเว่อร์เกินไปนะ
6.มหาวิทยาลัยนี้เป็นยังไง ทำไมถึงมาเรียน
คำถามนี้ตอบง่ายนะ พูดตรงๆ ในสิ่งที่เราคิด แต่ต้องเป็นเชิงบวกนะ
แต่ถ้าใครไปสัมภาษณ์ทิ้งๆ ก็อาจจะต้องเฟค ก็ไม่เป็นไร แต่อย่างที่บอก อย่าให้เว่อร์เกิน
7.ถามเกี่ยวกับครอบครัว พ่อแม่ทำงานอะไร มีพี่น้องกี่คน พ่อแม่อนุญาติให้เรียนใช่มะ ประมาณนี้
8.จบมาแล้วทำอาชีพอะไร
ถ้าคนที่เลือกคณะที่ตัวเองชอบจะตอบได้
แต่ถ้าคนไปสัมภาษณ์ทิ้งๆ เนี่ย คิดหนักหน่อย ก็เตรียมตัวไปดีๆ ละกัน
9.ถามความรู้รอบตัว ข่าวต่างๆ
คนที่เรียนรัฐศาสตร์ อาจจะให้วิพากษ์วิจารณ์การเมือง เราก็ควรตอบอย่างพอเหมาะ แค่แสดงควมเห็นนิดๆ อย่าวิพากษ์จนเกินไป ให้เป็นกลางเข้าไว้
10.จุดเด่น จุดด้อยของคุณคืออะไร
จุดเด่นไม่มีปัญหา
ส่วนจุดด้อยน่ะ ให้พูในเชิงบวก เช่นหนูเป็นคนใจร้อนค่ะ ทำอะไรก็จะรีบๆ ทำ จนบางครั้งมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น แต่ว่าความใจร้อนของหนูก็ทำให้หนูได้ทำให้หนูได้ทำอะไรเยอะแยะมากมาย และยังทำให้มีความรู้ในเรื่องต่างๆเพิ่มขึ้นด้วย
11.ความสามารถพิเศษคืออะไร ให้ตอบในสิ่งที่เราโชว์ต่อหน้าไม่ได้ แต่เราต้องทำเปนจริงๆนะ เช่น ตีกลอง รำไทยเป็นต้น พวกพูดภาษาอังกฤษได้ พูดญี่ปุ่นได้ ถ้าคุณพูดไม่คล่องอย่าตอบนะ เพราะพวกนี้กรรมการจะทดสอบเราได้
12.ใครคือบุคคลที่คุณชื่นชอบและเอาเป็นแบบอย่าง
13.โรงเรียนคุณมีลักษณะเด่นและด้อยยังไง
14.ทำไมคุณถึงไม่เรียนมหาวิทยาลัยนี้ ข้อนี้ควรตอบประมาณว่า มหาวิทยาลัยนั้นก็ดี แต่เราว่ามหาวิทยาลัยที่เราไปสอบสัมภาษณ์นั้นเหมาะกับเรามากกว่า  แล้วเราก็ตั้งใจมาเรียนที่นี่และคณะนี้อย่างมาก
คือมันขึ้นอยู่กับว่าเค้าถามมหาวิทยาลัยไหนน่ะ
15.มีอะไรจะถามมั๊ย
ควรถาม อย่าบอกว่าไม่มีเพราะจะเหมือนกับว่าเราไม่ใส่ใจ
ควรถามว่าหนูมีโอกาสจะติดไหม หรือ ที่อาจารย์สัมภาษณ์มา หนูมีข้อบกพร่องอะไรบ้างคะ หนูจะได้เอาไปปรับปรุงแก้ไข
16.ปัญหาและอุปสรรคของคุณคืออะไร
ตอบประมาณว่า ปัญหาและอุปสรรคของหนูก็คือ หนูรู้สึกกังวลมากๆเลยค่ะ หนูกลัวว่าจะสอบสัมภาษณ์ไม่ผ่าน เพราะหนูอยากจะเรียนที่นี่และคณะนี้ด้วยใจจริง แต่ถ้าหากหนูผ่านสัมภาษณ์แล้ว หนูคงจะไม่มีอุปสรรคใดๆแล้วค่ะ
*เราว่าเพื่อนๆ คงงง เราจะลองเล่าประสบการณ์การสอบสัมภาษณ์ของเราดูนะ*

สัมภาษณ์คณะศึกษาศาสตร์
กรรมการที่สัมภาษณ์เค้าเรียกเราว่า "เรา"นะ ไม่ได้ใช้คุณ หรือว่าหนู
1.ชื่ออะไร
-หนูชื่อ..... ค่ะ
2.เราเลือกเอกอะไร
-ภาษาอังกฤษค่ะ
3.ภาษาอังกฤษหรอ ทำไมถึงเรียนเอกนี้ล่ะ
-เพราะว่าหนูชอบเรียนภาษาอังกฤษค่ะ หนูคิดว่าถ้าเราได้เรียนในสิ่งที่เราชอบแล้วเราจะสามารถทำสิ่งนั้นๆ ออกมาได้อย่างดี
4.เราชอบภาษาอังกฤษแล้วทำไมไม่ไปเรียนมนุษยศาสตร์ ศิลปศาสตร์ หรืออักษรล่ะ คณะนี้ก็มีภาษาอังกฤษไม่ใช่หรอ
-เพราะว่าหนูอยากเป็นครูค่ะ
5.แล้วมนุษยศาสตร์ต่างจากศึกษาศาสตร์ยังไง
-ค่ะ ศึกษาศาสตร์ต้องเรียนวิชาครู วิชาจิตวิทยาต่างๆค่ะ แต่ว่ามนุษยศาสตร์ไม่ได้เรียน
6.แล้วทำไมเราถึงเรียน ม.บูรพา ไม่ไปเรียนพวกจุฬา ธรรมศาสตร์ล่ะ
-เพราะว่าที่นี่ใกล้บ้าน เดินทางสะดวก และหนูก็อยู่ในรั้ว ม.บูรพามานาน แล้วก็เห็นว่าอาจารย์ส่วนใหญ่ที่สอนหนูมาก็จบมาจากที่นี่ หนูจึงมั่นใจในศักยภาพของม.บูรพาค่ะ
7.แล้วเรา อยากจะเป็นครูจริงเหรอ
-จริงค่ะ
8.งั้นต้องมาทดสอบกันหน่อยและ ไหนลองบอกมาสิว่าแรงบันดาลใจในการเป็นครูของเราคืออะไร บอกมา 3ข้อ
-ค่ะ ข้อแรกเลย ครูที่สอนหนูสมัยประถมศึกษาค่ะ เป็นคุณครูที่ทำให้หนูชอบภาษาอังกฤษ ครูท่านนี้จะมีวิธีการสอนต่างจากคนอื่น
9.ต่างยังไง
-อย่างเช่นการท่องศัพท์ สมัยประถม ถ้าบอกให้เด็กท่อง เด็กส่วนใหญ่ก็จะไม่ท่อง แต่คุณครูหาวิธีต่างๆ มาดึงดูดให้เด็กอยากจะท่อง หนูจึงชอบครูคนนี้ และอยากจะเป็นเหมือนคุณครูค่ะ
10.แล้วข้อสองล่ะ
-ค่ะ เนื่องจากหนูเป็นนักเรียน หนูจึงเห็นปัญหาต่างๆ ของเพื่อนๆ  หนูจึงคิดว่าถ้าหนูเป็นครูหนูน่าจะแก้ปัญหาตรงนั้นได้
11.แล้วเคยไหมที่อาจารย์อธิบายไม่เข้าใจ แต่เราอธิบายแปบเดียวเพื่อนรู้เรื่อง
เคยค่ะ
12.ครูก็เคยเป็นเหมือนกันตอนที่เรียนอยู่ อาจารย์อธิบายอะไรก็ไม่รุ แต่ครูอธิบายนิดเดียวเพื่อนเข้าใจ
แลวข้อ 3 ล่ะ
-อืมม..จากที่หนูเห็นที่โรงเรียนอ่ะค่ะ อาจารย์ทำงานกันค่อนข้างหนัก หนูจึงอยากลองเป็นครู อยากลองทำงานตรงนั้นดูบ้าง หนูคิดว่ามันท้าทายดี
13.แรงบันดาลพวกนี้ก็เป็นเหมือนแรงบันดาลใจภายนอก แล้วแรงบันดาลใจภายในของเราล่ะมีไหม
-ไม่เข้าใจคำถามค่ะ
14.ก็อย่างเช่น เราอยากเป็นครูเพราะมีครูคนนึงเป็นแรงบันดาลใจ อันนี้เป็นแรงบันดาลใจภายนอก แล้วแรงบันดาลใจภายในก็เกิดจากตัวเราน่ะ
-หนูคิดว่ามันสัมพันธ์กันนะคะ คือหนูได้เห็นวิธีการสอนของครูที่หนุชอบ หนุก็อยากจะเป็นอย่างครูท่านนั้น แล้วการที่หนูได้เห็นบ่อยๆ จึงทำให้หนูรู้สึกรักในอาชีพครู และอยากจะเป็นครู
15.แล้วไหนลองบอกมา3ข้อสิ ว่าเราจะเป็นครูที่ดีได้ยังไง
-ค่ะ ข้อแรก คือหนูเป็นคนที่อยู่ในระเบียบวินัยมาตลอด น่าจะเป็นครูที่ดีได้
16.คือครูต้องเป็นแบบอย่างให้นักเรียนได้ใช่ไหม
-ใช่ค่ะ แล้วข้อสองคือเวลาที่เพื่อนๆ ไม่เข้าใจ หนูก็สามารถอธิบายให้เพื่อนเข้าใจได้
17.คือสอนได้ ใช่ไหม
-ใช่คะ
18.แล้วข้อ3 ล่ะ
-ค่ะ หนูคิดว่าน่าจะเป็นความเข้าใจเด็กอ่ะค่ะ เนื่องจากหนูเป็นนักเรียนจึงเห็นปัญหาที่เกิดขึ้น คืออาจารย์อาวุโสส่วนใหญ่ค่อนข้างจะเข้าถึงยาก เวลาสงสัยก็ไม่กล้าเข้าไปถาม จึงทำให้นักเรียนไม่เข้าใจ อ่ะค่ะ หนูจึงคิดว่าหนูน่าจะเข้าใจเด็กได้ดี
19.โอเค ครูถามจบแล้ว เราน่ะบุคลิกดี พูดจาฉะฉาน น่าสนับสนุนให้เป็นครู แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับสิ่งอื่นด้วยนะ (เกรด)
-ค่ะ
20.อ้าวแล้วเราสมัครที่ไหนไว้บ้างคะ
-ก็มีอักษรศาสตร์ ศิลปากรค่ะ
21.นั่นไง แล้วถ้าได้เอาไหม
-ก็คงไม่เอาอ่ะค่ะ เพราะว่าหนูเป็นครูจริงๆค่ะ
22.อืมม โอเค..แฟ้มเนี่ย อาจารย์ไม่ดูนะ เรียบร้อยละ
-ค่ะ ขอบคุณค่ะ
*คืออันนี้บอกเพื่อนก่อนเลยคำถามที่ 21 ค่อนข้างจะเมคอ่ะ คือพูดตามตรงมันก็ต้องไปตามนั้นใช่มะ
แต่ที่จริงแล้วได้แล้วเราเอาแหละ แต่ตอนที่เราไปสัมภาษณ์อ่ะ ตอนนั้นเรารู้แค่ว่าติดข้อเขียน แต่ยังไม่รู้ไงว่าจะติดที่ศิลปากรรึเปล่า เราก็เลยไปสัมภาษณ์ไว้ คือไม่ได้ตั้งใจจะกั๊กที่หรอกนะ แต่มันก็ต้องเผื่อไว้ก่อนอ่ะ *
ที่ที่ 2 สัมภาษณ์ที่คณะอักษรศาสตร์ ม.ศิลปากร
จำตอนแรกๆ ไม่ค่อยได้เท่าไหร่นะ
1.คุณเคยมาที่นี่ไหม
-ไม่เคยค่ะ
2.คุณมาจากไหนเนี่ย
-ชลบุรีค่ะ
3.แล้วมายังไง
-พ่อแม่มาส่งค่ะ
4.แล้วออกมาตั้งแต่กี่โมงเนี่ย
-ตี 3 ค่ะ เพราะว่าหนูไม่รู้ทาง ก็เลยเผื่อเวลาไว้ แล้วก็ไปหลงด้วยค่ะ
5.แล้วเป็นไงล่ะ
-ก็หาทางเจออ่ะคะ
6.แล้วมาถึงกี่โมง
-ประมาณ 6.40 ค่ะ
7.ถ้างั้นพ่อแม่ก็อยากให้มาเรียนใช่ไหม
-ใช่ค่ะ
8.คุณเรียนที่ไหน
-สาธิต "พิบูลบำเพ็ญ" มหาวิทยาลัยบูรพาค่ะ
9.แล้ว "พิบูลบำเพ็ญ" นี่เป็นชื่ออเฉพาะหรอ เป็นชื่อคนก่อตั้งหรือเปล่า
-แต่เดิมโรงเรียนสาธิต "พิบูลบำเพ็ญ" เคยเป็นโรงเรียนประชาบาลที่ชื่อว่า"พิบูลบำเพ็ญ"ค่ะ
10.อ้อ ม.บูรพานี่ ใหญ่ไหม
-ก็ไม่มากค่ะ
11.มีตึกสร้างใหม่เต็มหมดเลยใช่ไหม
-ใช่ค่ะ สร้างตึกใหม่เยอะมาก
12.แล้วมีทุกคณะใช่ไหม วิศวะมีไหม
-มีค่ะ
13.แล้ว ประมงล่ะ
-ไม่มีค่ะ
14.แล้วทำไมคุณไม่เรียนที่ ม.บูรพาล่ะ
-คือหนูเรียนที่ โรงเรียน สาธิต ซึ่งอยู่ในรั้ว ม.บูรพามาถึง 6 ปีแล้ว สิ่งแวดล้อมต่างๆหนูก็คุ้นเคยดีแล้ว
15.รู้แล้ว ว่างั้นเหอะ
-ค่ะ หนูจึงอยากมาลองหาประสบการณ์ใหม่ๆ ดูบ้างค่ะ แล้วบรรยากาศที่นี่ก็ร่มรื่น สงบ และช่วยส่งเสริมการเรียนก็คือ ช่วยให้หนูมีสมาธิมากขึ้นน่ะค่ะ
16.บุรพานี่ตึกเยอะนะสิ
-ใช่ค่ะ บรรยากาศก็ค่อนข้างจะแตกต่างกัน (แตกต่างกันจริงๆนะ ศิลปากรดูขลังๆ เก่าๆ เป็นธรรมชาติ ส่วนบูรพา นี่ดูใหม่นะ ตึกเรียนเยอะ คือมาเรียนที่นี่ไม่อดอยาก แหล่งอาหาร แหล่งชอปเยอะมาก แต่กลางวันแดดร้อนจิงๆ)
17.คุณอยากเป็นนักแปลใช่มะ
-ใช่ค่ะ
18.ถ้างั้นคุณก็ต้องชอบอ่านหนังสือละสิ
-ค่ะ
19.แล้วคุณอ่านหนังสือแนวไหนบ้างล่ะ
-ค่ะ หนูก็จะอ่านพวกวรรณกรรมเยาวชนอย่างแฮร์รี่ พอตเตอร์ ค่ะ หรืออย่างเรื่องรหัสลับ ดาวินซี
20.คืออ่านได้ทุกแนว ว่างั้น
-ค่ะ
21.แล้ววรรณกรรมเยาวชน อย่างแฮร์รี่ พอตเตอร์ ให้อะไรกับคุณบ้าง
-ค่ะ แฮร์รี่ พอตเตอร์เป็นวรรณกรรมเยาวชนที่ช่วยส่งเสริมจินตนาการ แล้วก็ให้แง่คิดต่างๆค่ะ
22.ยังไงบ้างล่ะ
-ค่ะ ก็อย่างเช่นเฮอร์ไม่โอนี่ เธอจะเป็นคนที่เก่ง ตั้งใจเล่าเรียน ใฝ่รู้ พออ่านแล้วทำให้ตั้งใจเรียน ตั้งใจอ่านหนังสือ เพราะว่าอยากจะเป็นอย่างเธอค่ะ
23.แล้ววรรณกรรมไทยล่ะ คุณอ่านเรื่องอะไรบ้าง
-ค่ะ ก็เป็นพวกหนังสือของสำนักพิมพ์แจ่มใสน่ะ จะเป็นวรรณกรรมของเยาวชน เกี่ยวกับความรัก แล้วก็นิยายย้อนยุคต่างๆ อย่างเช่น อมฤตาลัย ก็อ่านได้อ่ะค่ะ
24.คืออ่านได้ทุกแนว
-ใช่ค่ะ อีกอย่างคือที่โรงเรียนหนูจะมีเรียนวิชาที่เกี่ยวกับการพิจารณาวรรณกรรม จึงทำให้ได้อ่านหนังสือที่หลากหลาย
25.คุณสนใจภาษาอังกฤษใช่มะ แล้วคุณเคยทำกิจกรรมอะไรเกี่ยวภาษาอังกฤษบ้างล่ะ(เปิดแฟ้มสะสมผลงานดูด้วย)
-ค่ะ คือที่โรงเรียนของหนูจะไม่ค่อยมีกิจกรรมทางวิชาการ จะเน้นไปในกิจกรรมด้านกลุ่มสัมพันธ์มากกว่า แต่ตอนต้นม.ต้น หนูก็มีไปแข่งบ้าง ก็จะเป็นแข่ง spelling bee เกมสะกดคำศัพท์น่ะค่ะ
26.(ตอนเปิดไปตรงความสามารถพิเศษ) คุณมีความสามารถพิเศษด้านศิลปะใช่ไหม
-ค่ะหนูรำไทย และเล่นดนตรีได้นิดหน่อย
27.คุณเล่นดนตรีอะไร
-ซอด้วงค่ะ
28.ผลการเรียนก็ดีนะ
-ค่ะ
29.อืม..ถ้างั้นคุณก็รอลุ้นละกันนะ (พูดเหมือนไม่ติดอ่ะ เหมือนจะตกสัมภาษณ์ จริงๆนะ พูดเสร็จแล้วก็เปิดดูแฟ้ม)
-ค่ะ
(โชคดีที่กรรมการถามต่อ ไม่งั้นคงตกชัวร์ๆ)
30.ถ้าคุณไม่ได้ที่นี่ คุณจะไปที่ไหน
-ค่ะ หนูคงจะยื่นคะแนนแอดมิสชั่นแล้วเลือกคณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากรเหมือนเดิมค่ะ
31.แล้วคุณเลือกอันดับที่เท่าไหร่
-อันดับที่1 ค่ะ
32.วันที่เท่าไหร่นะ 28 ธันวา ใช่มะ (วันประกาศผล)
-ใช่ค่ะ
33.งั้นคุณรอลุ้นข่าวดีละกันนะ
-จะ
34.เรียบร้อยแล้ว
-ค่ะ ขอบคุณค่ะ

*ที่ศิลปากรนี่ เราได้สัมภาษณ์กับอาจารย์ผู้ชาย เป็นอาจารย์อาวุโส ค่อนข้างจะเคร่งๆ เลยเกร็งนิดๆ ทีแรกคิดว่าตัวเองจะไม่ผ่านสัมภาษณ์ เพราะเค้าต้องคัดสัมภาษณ์+ดูคะแนน รับจาก 403คน เหลือแค่ 150คน
แล้วเราก็ติด เราก็ดีใจมากๆ เลย คิดว่าคงจะเรียนที่นี่แน่ๆ เพื่อนๆ คนไหนที่ติดและจะเรียนอักษรศาสตร์ ม.ศิลปากร ก็เอาไว้เจอกันนะ (อยู่หอเพชรรัตน์ 7 กันเถอะ...อิอิ)*

**ก้เพื่อนคนไหน ที่จะไปสอบสัมภาษณ์ก็ลองเอาข้อมูลของเราไปประยุกต์ใช้ดูนะ
คือว่ามันก็ขึ้นอยู่กับว่าเพื่อนๆ จะไปสัมภาษณ์คณะ+มหาวิทยาลัยใด
เพราะว่าการสัมภาษณ์ของแต่ละคณะ แต่ละที่ จะต้องตอบต่างกัน
ถ้าสงสัยยังไง ถามได้นะ
ตั้งกระทู้ถาม หรือจะโพสไว้ในนี้ก็ได้
แล้วบอกคณะ+มหาวิทยาลัยที่เพื่อนๆ จะไปสัมภาษณ์มานะ
ถ้าเราช่วยได้เราจะช่วย
แต่ถ้าอันไหนเราไม่รู้ เราจะไปถามอาจารย์แนะแนวมาให้นะ**

*สุดท้าย ถ้าหากอ่านแล้วไม่พอใจ หรือ มีความผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยนะ
แล้วถ้านึกอะไรออกจะมาบอกอีกจ้ะ*

แสดงความคิดเห็น

>

36 ความคิดเห็น

Cream 25 ต.ค. 56 เวลา 23:19 น. 3

สอบสัมภาษณ์ ธุรกิจระหว่างประเทศ ม.บูรพา ช่วยๆ หน่อยนะคะ กราบขอบคุณมากคะรักเลย

0