Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

10 อภิมหาสุดยอด..หนังซอมบี้...ดีที่สุดตลอดกาล

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งแต่ดู หนังเรื่อง "คิโยตี้แข้งปืนกล" ก็ติดใจหนังซอมบี้มากเลย ลงทุนหาเรื่องแนวนี้ในเน็ต หาซื้อตามกะบะหนังถูกตามที่หลายแห่ง ผลคือหายากมากเลย เพราะมันหนังเกณฑ์บี มันไม่ดังง่ะ ไม่เป็นไรในเมื่อหาไม่เจอตูก็ดูพล้อตมันก็ได้ฟ่ะ สนุกเหมือนกัน และไปค้นจากเว็บต่างๆ ผลคือ

           และนี้คือ
10 อันดับหนังซอมบี้ที่ดีที่สุดที่คนทั่วโลกต้องดู (ผมจัดอันดับเองแหละ)

 

White Zombie (1932)

 

กำกับ: Victor Halperin  เขียนบท:Garnett Weston

ในประเทศไฮติ Madeline Short (Madege Bellamy) และ Neil Parker (John Harron) ได้เดินทางโดยรถม้าไปยังที่พักของ Charles Beaumont(Robert Frazer) ซึ่งที่นี่เองที่พวกเขาจะใช้เป็นที่จัดงานแต่งงาน ระหว่างทางก็ได้พบพิธีกรรมอยู่บนถนนซึ่งคนบังคับรถม้าอธิบายให้ฟังว่า ที่ นี่บางครั้งก็ฝังศพไว้ใต้ถนนเพื่อปกป้องคนที่เดินทางผ่านไปมา เมื่อรถม้าเคลื่อนต่อไปก็ได้หยุดรถเพื่อถามทางกับชายแปลกหน้าMurder Legendre(Bela Lugosi) เขาไม่ตอบแต่กลับจ้องมองมายัง Madeline ตาไม่กระพริบเมื่อรถม้าออกเดินทางเขาก็ได้ดึงผ้าพันคอจากเธอเอาไว้ เมื่อพวกเขามาถึงที่พักและพบกับ บาทหลวงผู้ที่จะทำพิธีสมรสDr.Bruner (Joseph Cawthorn) และ Beaumont ซึ่งมีทางทางพอใจในตัวMadeline มากในคืนนั้นเองก็มีรถม้า ประหลาดมารับ Beaumont ไปพบกับ Legendre ที่โรงงานผลิตน้ำตาลซึ่งที่นี่เขามีคนงานเป็นซอมบี้ !!Beaumont มาขอร้องให้ Legendre ยับยั้งพิธี แต่งงานในวันพรุ่งนี้ซึ่งดูเหมือนว่า Legendre ได้วางแผนเอาไว้แล้วและไม่มีสิ่งใดมายับยั้งเขาได้

White Zombie (1932) ถือว่าเป็นหนังซอมบี้เรื่องแรกๆที่แสดงภาพคนที่ถูกทำเป็นซอมบี้ไว้ใช้แรงงานและเป็นทาสโดยกรรมวิธีตามแบบชาวไฮติ ซึ่งถือ เป็นถิ่นกำเนิดของเหล่าซอมบี้ก่อนที่จะติดเชื้อลุกลามไปทั่วโลก เป็นหนังขาวดำ ยิ่งทำให้บรรยากาศ ความลึกลับ ความน่าสะพรึงกลัว(และเก่าจะหาดูที่ไหนไม่ได้)

 



              The Omega Man (1971)

 

หนังสร้างจากนิยายปี 1954 ของ ริชาร์ด แมธธีสัน  เคยสร้างเป็นหนังปี 1964 มาแล้วในชื่อ The Last Man on Earth นำแสดงโดย วินเซนต์ ไพรซ์ และEdward Scissorhands ของ ทิม เบอร์ตั้น ส่วนภาพที่นำมาลงนี้เป็นอีกเวอร์ชั่นหนึ่งในปี 1971 ชื่อ The Omega Man ฉบับนี้นำแสดงโดย ชาร์ลตั้น เฮสตั้น Charlton Heston ในบทมนุษย์คนสุดท้ายบนโลกที่ต้องหาทางเอาชีวิตรอดจากเหล่าประชากรโลกที่ตัดเชื้อจนกลายเป็นสัตว์กระหายเลือด ซึ่งตลอดเรื่องต่อสู้กับฝูงซอมบี้ครองเมืองแบบข้ามาคนเดียว โดยตระเวนไล่ยิงอย่างเมามันในเมืองร้าง ที่ตลกไม่ออกคือสามสิบกว่าปีต่อมาเขาโดน ไมเคิล มัวร์ ดักสัมภาษณ์ใน Fahrenheit 9/11 เรื่องสนับสนุนการพกปืนและใช้ความรุนแรง


 

H.P. Lovecraft's Re-Animator (1985) คนเปลี่ยนหัวคน

 

เรื่องราวของเฮอร์เบิร์ต เวสต์ (Jeffrey Combs) นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องผู้สามารถค้นคิดยาพิเศษที่ปลุกชีพศพให้ฟื้นคืนชีพได้ ...โดยร่วมมือโดย Bruce Abbott ในบทแดน เคน นักศึกษาแพทย์ที่กระหายใคร่รู้และหวังในความสำเร็จ , Barbara Crampton เป็นเมแกน ฮัลซี่ย์ แฟนสาวสุดสวยของแดน, David Gale เป็นดร.คาร์ล ฮิล หมอเจ้าเล่ห์ที่เป็นศัตรูตัวฉกาจของเวสต์ แต่ผลที่ตามมาคงเดาได้นะครับ เมื่อศพทั้งหลายมันดันเกินความควบคุมของเขา ความสยองก็เริ่มเกินควบคุมตามมา

หนังกำกับโดย Stuart Gordon และอำนวยการสร้างโดย Brian Yuzna ส่วนเรื่องราวก็ดัดแปลงมา จากงานเขียนของ H.P. Lovecraft นักเขียนนิยายสยองชื่อดังตอนต้นยุค 1900 นะครับ กับภาพยนตร์แนวสยองขวัญปนตลกที่ทำออกมาได้อย่างมันส์ ช่วงต้นอาจมีอืดบ้างตามมาตรฐานของหนังแนวนี้ครับ มีแนะนำตัวละคร แต่พอมาช่วงกลางนี่น่าติดตามมากๆๆ

ผมไม่รู้ว่าคนทั่วโลกวิจารณ์เรื่องนี้อย่างไรแต่พี่ดร.เวสต์นี้แสดงสุดยอดมาก ดูโรคจิตดี ชื่อว่าท่านต้องชอบตัวละครนี้แน่ (หรือเปล่า)

(ปล รูปจากภาคสอง)



               28 days Later วันให้หลัง เชื้อเขมือบคน

 

                เนื้อหาง่ายมาก คอหนังซอมบี้คงคุ้นเคย เปิดเรื่องมาก็เล่าถึงกลุ่มนักอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ที่ต่อต้านการจับสัตว์ไปทดลองในแล็ป เลยแอบเข้าห้องแล็ป ปล่อยลิงในห้องทดลองลับแห่งหนึ่งออกมา แต่หารู้ไม่ว่าลิงทั้งฝูงติดเชื้อโรคร้ายที่จะส่งผลให้ใครก็ตามที่โดนกัด กลายเป็นสัตว์กระหายเลือด ไล่กัดกินคนดั่งซอมบี้ และพวกเขาก็โดนมันกัด!ทีนี้เชื้อร้ายลามไปยิ่งกว่าไฟลามทุ่งไปเลย

แต่หนังก็ตัดชึ้บมาเล่าถึงเหตุการณ์อีก 28 วันให้หลัง แนะนำตัวเอกที่ชื่อ จิม (Cillian Murphy) ตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลที่ร้างผู้คน มีแต่ซากกาทำลายเกลื่อนกลาดไปหมด แล้วเขาก็ออกมาเดินถนนข้างนอก ออกสำรวจลอนดอนที่เข้าอาศัยก็พบว่ามันกลายเป็นเมืองร้างไร้ผู้คน เขาพยายามตะโกนเรียกหวังว่าจะมีใครสักคนหลงเหลือ

แต่พอเขาได้เจอผู้รอดชีวิตเท่านั้นแหละเขาแทบจะอยากให้ตัวเขาเหลืออยู่เพียงผู้เดียว เพราะคนรอดที่เหลือติดเชื้อหมดเรียบครับ จิมเลยต้องวิ่งหนีแทบตาย หาคนที่ยังไม่ติดเชื้อแล้วหนีไปยังที่ห่างไกล แต่พวกเขาจะรอดไปได้หรือไม่!!

เขาว่าหนังเรื่องนี้สนุก เพราะฉีดกฎหนังซอมบี้ที่มาเกือบทั้งหมด ซึ่งตามปกติหนังแนวนี้จะเป็นการเผชิญหน้ากับซอมบี้ในพื้นที่จำกัด เช่น ในบ้านหลังหนึ่ง หรือไม่ก็ห้างสรรพสินค้า แต่กับ 28 นี่ไม่ใช่ครับ เพราะมันตระเวนกันทั้งลอนดอน ทั้งเกาะอังกฤษเลย ถือเป็นการสร้างแนวทางใหม่เลย

 



                Shaun of the Dead (2004) รุ่งอรุณแห่งความวาย (ป่วง)

 

ผู้กำกับ Edgar Wright

ดูชื่อก็รู้แล้วครับว่าทำออกมายำ Dawn of The Dead เรื่องราวเกี่ยวกับนายชอว์น (Simon Pegg) หนุ่มที่ไม่เป็นโล้เป็นพายอะไรซักอย่าง วันๆ ก็ได้แต่ทำงาน แล้วตกเย็นก็มานั่งดื่มเหล้าไปตามเรื่องจนแฟนสาวของเขา (Kate Ashfield) ขอเลิกครับ ทำให้ชอว์นตาสว่าง คิดจะกลับตัวใหม่เป็นยอดชายที่เต็มไปด้วยความรับผิดชอบ เพื่อให้เธอกลับมาหาเขาอีกครั้ง แต่ก็พอดี วันที่เขาคิดจะเริ่มมาดใหม่ ซอมบี้ก็เจือกยกโขยงมาบุกเมืองพอดี งานนี้ชอว์นเลยต้องออกโรงลุยไปรับเอาตัวแฟน พ่อเลี้ยงและแม่ของเขามายังสถานที่ปลอดภัย ... นั่นคือบาร์ที่เขาไปดื่มทุกคืนนั่นแหละ

เป็นหนังซอมบี้ที่ตลกมากกว่าฮาครับ แม้ฉากอมตะโหดประเภทซอมบี้ฉีกเนื้อคน แขนเขินนี่ฉีกจะๆ ไส้กองเลือดนองพื้นเลยแหละ แต่มีโรแมนติก แอ๊คชั่น ที่แปลกใหม่มากๆ

 



Dead Alive (Braindead) (1992)

 

กำกับ: Peter Jackson เขียนบท: Stephen Sinclair

หากเอ่ยชื่อของปีเตอร์ แจ๊คสัน หลายคนคงนึกถึงหนังเรื่อง The Lord Of The Ring หนังไตรภาคที่สร้างชื่อให้กับผู้กำกับชาวนิวซีแลนด์คนนี้มาแล้ว แต่ใช่ว่าผู้กำกับคนนี้จะมีดีแค่การกำกับหนังมหากาพย์เรื่องเยื่ยมแต่เพียงอย่าง  แท้จริงแล้วเขากำกับหนังเรื่องหนึ่งจนโด่งดังจนเป็นที่รู้จักในวงการและสร้างชื่อมาแล้วก็คือ Dead Alive ( 1992 )

ตัวหนังกล่าวไว้เกียวกับชายหนุ่มผู้แสนดี (ไลโอเนล ) ผู้มีความรักและ เชื่อฟังต่อแม่อย่างเต็มเปื่ยม มาพบรักกับหญิงสาวรูปงาม (พาคิต้า) ความรัก ของคนทั้งสองต้องมีอุปสรรคมาขวางกั้น เมื่อแม่ของไลโอเนล เกิดโดนลิง ชนิดหนึ่งกัดเข้าทำให้กลายเป็นซอมบี้ที่กระหายเลือด ตัวไลโอเนลเองจำต้องตี ตัวออกห่างจากพาคิต้าเพื่อที่จะมาดูแลแม่ของตัวเองและ คอยปิดข่าวไม่ให้ คนภายนอกรู้ว่าแม่ของตนเองป่วยหนักและกำลังกลายเป็นซอมบี้ แต่เรื่องราว ยังไม่จบลงเพียงแค่นั้น เมื่อแม่ของ ไลโอเนล ได้กัดคนอื่นเข้าจึงทำให้มี จำนวนคนติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกหลายคน จนไลโอเนล ต้องจับแม่ของตนเองและ ซอมบี้ตัวอื่น ๆ มาไว้ในห้องใต้ดินในบ้านของตนเองเพื่อไม่ให้ซอมบี้เหล่านี้ไป กัดคนอื่นและขยายพันธ์ต่อไป แต่ทว่ากลับเป็นผลดีหรือผลร้ายก็ไม่รู้เมื่อน้า ชายของ ไลโอเนล ผู้หวังในทรัพย์สมบัติในบ้านหลังนี้ได้พาเพื่อน ๆ ยกโขยง กันเข้ามาจัดปาตี้กันที่บ้านแล้วทีนี้อะไรจะเกิดขึ้นต้องติดตามกันเอา เอง

สำหรับฉากเด็ด ๆ ในเรื่องนี้ก็มีอยู่หลายฉากอยู่ด้วยกันไม่ว่าจะเป็นฉาก ที่ไลโอเนลต้องไปซื้อ น้ำยากล่อมประสาทและเข็มฉีดยาเพื่อที่จะเอามาฉีดให้ แม่ของตนเองและซอมบี้ตนอื่น ๆ หมดฤทธิ์ลง หรือไม่ว่าจะเป็นฉากที่หลวง พ่อต้องต่อสู้กับเหล่าซอมบี้ที่หลุมฝังศพกันอย่างเมามัน โอ้ว คิดได้ไงเนี่ย และที่พลาดไม่ได้คือฉากที่หลวงพ่อที่ต้องกลายเป็นซอมบี้มีเซ็กส์กับซอมบี้พยาบาลสาว แม็คทาวิช โชว์บทรักและส่งเสียงร้องกันอย่างเมามันจนทำให้มีเด็ก คลอดออกมาจากท้องของพยายบาลสาว เรียกว่า ปีเตอร์ แจ็คสัน มีลูกบ้าอะไร ก็ปล่อยออกมาในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ทั้งแหวะทั้งตลกโปกฮา สยองปนเสียว มี มุกเท่าไหร่ก็ปล่อยออกมาในเรื่องนี้อย่างเต็มเหนี่ยว ฉากที่เด็ดสุด ๆ สำหรับ คอหนังสยองขวัญทั้งหลายคงอยู่ที่ตอนท้ายเรื่องเมื่อน้าชายของ ไลโอเนล ที่ มีชื่อว่า เลส ได้พาเพื่อน ๆ มาฉลองในบ้านท่ามกลางฝูงซอมบี้ลองคิดดูละกัน ครับว่าอะไรจะเกิดขึ้น

นอกจากนี้ Dead Alive ได้แฝงข้อคิดเอาไว้หลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องความ รักที่ลูกมีต่อแม่ความผูกพันธ์ต่าง ๆ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าแม่ของตนเอ งไม่ใช่แม่คนเดิมอีกแล้วการตัดใจเพื่อฆ่าแม่ของตนเองนั้นช่างเป็นเรื่องที่ทำใจลำบากเหลือเกิน หรือฉากที่ ไลโอเนล และ พาคิต้า คอยช่วยเหลือซึ่งกัน และกันยามมีปัญหา แสดงให้เห็นถึงอนุภาพแห่งความรักที่สามารถสละตัว เองและยอมเอาตัวเข้าแลกได้ โอ้ว แน่ใจเรอะว่านี้คือหนังซอมบี้

 



                The Return of the Living Dead (1985) ผีลืมหลุม

 

หนังภาคต่อกลายๆ ของหนังชุด Night of The Living Dead

เนื้อหาคือยังมีซอมบี้เหลืออยู่และถูกกักไว้ในแคปซูล แล้วบังเอิญแคปซูลที่ว่าก็อยู่ใต้ฝ่าเท้าของคนกำลังขุดหลุมพอดี๊พอดี จากนั้นเป็นไงละ แคปซูลบ้านั่นเกิดรั่วและผีดิบที่ถูกกักก็หลุดออกมา ไล่ฆ่าคน จากนั้นจำนวนของพวกมันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คนที่ดวงดีฝีเท้าไวก็หนีตายกันไปตามระเบียบ

หนังนี้ฉีกกฎซอมบีอีกแล้วครับ เพราะซอมบี้ในหนังเรื่องนี้ยิงหัวไม่ตาย วิธีเดียวที่จำกำจัดมันได้คือ ต้องถล่มมันให้เป็นจุล เผาให้วอดไปเลย

Dan O'Bannon กำกับ หนังสยองเอาแหวะ ทุนต่ำเกรดบีแต่คนทั่วโลกติดใจ

 


 

Day of the dead (1985) ฉีกแล้วงาบ

 

กำกับและเขียนบท: George A. Romero เจ้าพ่อหนังซอมบี้

ในต่อจากเรื่อง Night of the Living Dead อีกแล้วครับ 10ปีต่อมาหลังเหตุการณ์นั้น  สถานการณ์กลับยิ่งเลวร้ายลงอีก ศพคืนชีพได้แพร่ขยายเผ่าพันธุ์ของมันอย่างไม่สิ้นสุด ผู้คนต่างพากันหลบหนีกระจัดกระจาย แต่มีกลุ่มผู้รอดชีวิตคนหนึ่ง ซึ่งมีทั้งทหาร และนักวิทยาศาสตร์ พวกเขาหลบหนีอยู่ใต้ดิน หาทางติดต่อ ค้นหา ผู้รอดชีวิตกลุ่มอื่น และดำเนินการทดลองเพื่อจะควบคุมเหล่าศพคืนชีพที่เดินอยู่เกลื่อนเมือง ให้อยู่ในโอวาท (เหมือนสอนลิงแสดงละครสัตว์) ความพยายามทั้งหลายดูเหมือนจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จ บวกกับความการแตกความสามัคคี (อีกแล้ว) รวมทั้งแนวคิดเผด็จการของผู้กุมอำนาจในมือ ทำให้ความวอดวายมาเยือนท้ายสุดก็ต้องกลายเป็นมื้ออาหารอันโอชะให้ซอมบี้ยิ้ม แย้มได้สวาปามชิ้นเนื้อ ตับไตไส้พุงสดๆกันเอร็ดอร่อย

แม้จะหนังซอมบี้ แต่เรื่องนี้เน้นอารมณ์ขันสอดแทรกพอให้ยิ้มแฝงด้วย เนื้อหาเสียดสีสังคมอย่างแยบยล แถวฉีดกฎซอมบี(อีกแล้ว) เพราะมีซอมบี้ไอคิวสูงรู้มากที่ครองใจแฟนหนังเรื่องนี้ยิ่งกว่าคนเป็นๆอีก นอกเหนือจากฉากฉีกร่างขาดครึ่งไส้ปลิ้น, นอนอยู่บนเตียงแล้วหันตะแคงเครื่องในหล่นมากองกับพื้น, พลั่วทิ่มปากแล้วแบะหัวส่วนบนกลิ้งกระเด็นกระดอนไปวางกะพื้นแต่ลูกตายังเกลือกกลิ้ง, ฟันแขนกันสดๆแล้วเอาไฟลนไม่ให้ติดเชื้อ, นิ้วฉีกจิกหัวลูกตาโปนทะลัก ...ฯลฯ

นอกเหนือจากนี้หนังยังมีมุกเด็ดอีกครับมีซอมบี้แห่กันมาจากหลากหลายสายอาชีพ เดินกันขวักไขว่ ทั้งซอมบี้นักเต้นบัลเลย์, ซอมบี้ตัวตลก, ซอมบี้ทหาร, ซอมบี้ชุดเจ้าสาว, ซอมบี้ชุดครุย, ซอมบี้นักกีฬา...ฯลฯ ว่ากับว่าชาวเมืองที่เป็นตัวประกอบต่างอาสาแต่งตัวเป็นซอมบี้เล่นแบบลืมตายเลยครับ

 


 

Night of the living dead(1968)ซากดิบ ไม่ต้องคุมกำเนิด

 

กำกับและเขียนบท: George A. Romero เจ้าพ่อหนังซอมบี้

"ซากดิบไม่ต้องคุมกำเนิด" หรือ "night of the living dead" ถือเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นโบว์แดงอีกชิ้นหนึ่งของ "จอร์น เอ โรเมโร่" บรมครูแห่งหนังแนวซอมบี้ที่หลายคนชื่นชอบ  อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อเมืองทั้งเมืองกลายเป็น "นรก" !!!! ชาวเมืองต่างป่วยเป็นโรคประหลาดทั้งเมือง และพร้อมที่จะลุกขึ้นมาไล่ล่าผู้รอดชีวิต  กัด กิน ขย้ำ ขยี้ เคี้ยวจนหมดตัว !!!! หนังรื่องนี้เน้นสาระการเอาชีวิตรอดของเหยื่อเป็นสำคัญ และมีทุกอย่างที่คนชอบหนังแนว "ซอมบี้" ต้องการ ที่สำคัญหนังเรื่องนี้ยังเป็นต้นแบบของเกมส์สยองขวัญชื่อดัง "ไบโอฮาซาร์ท" อีกด้วย ใครไม่เคยดูควรลองหามาดูเป็นอย่างยิ่งเพราะหนังเรื่องนี้สร้างได้ยอดเยี่ยมมากจนต้องนำมาฉายซ้ำทางช่อง 7 สี

ตัวต้นฉบับเป็นหนังขาว-ดำครับ เปิดฉากโดยการเดินทางไปเคารพหลุมศพที่สุสานของสองพี่ น้องJohny และ Barbara ปรากฏว่าซอมบี้โผล่มา Barbaraวิ่งหนีมาเจอบ้านหลังหนึ่งข้างสุสาน และมาเจอผู้ร่วมชะตากรรม ตัวหนังไม่ได้เน้นไปที่ซอมบี้ แต่ชี้ให้เห็นถึง ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมากมายภายในบ้าน แสดงให้เห็นถึงความเห็นแก่ตัว การแตกความสามัคคี คิดว่าคงเป็นการจงใจประชดประชันการเอาตัวรอด ของคนในสังคม เนื้อเรื่องดำเนินเรื่อยๆภายในบ้าน ใช้รายการข่าวสดทางทีวี เป็นตัวบอกเหตุการณ์ปัจจุบันที่เกิดขึ้น และแบบ อึ้ง

ซอมบี้ได้ถูกปฎิวัติใหม่หมด เมื่อมันถือกำเนิดโดยไม่ต้องมีมนต์ดำ วูดู ไม่ต้อง รอเวลาค่ำคืน แต่มันเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา และมันโจมตีอย่างรุนแรงกว่าเดิม

ความหลอกหลอน แสดงพลังออกมากดดันคนดูได้อย่างเต็มที่ และมีรสนิยม อย่างที่หาได้ยากในหนังสมัยนี้!!!




"              DAWN OF THE DEAD (1978) รุ่งอรุณแห่งความตาย

 

กำกับและเขียนบท: George A. Romero เจ้าพ่อหนังซอมบี้

ความจริงหนังแนวซอมบี้ มันก็โหดอยู่แล้ว แต่หลายคนบอกว่าหนังต้นฉบับเรื่องนี้ดีที่สุด แหวะที่สุด กำกับโดยจอร์จ โรเมโร เจ้าพ่อหนังซอมบี้

เมื่อประชากรทั่วทั้งโลก ถูกจู่โจมโดยโรคระบาดที่หาสาเหตุและอธิบายไม่ได้ และคนตายไม่อยู่ในสภาพคนตายอีกต่อไป ศพที่หิวกระหายในเนื้อสดๆ ของคนเป็น ลุกออกมาเดินตามล่าผู้รอดชีวิตที่เหลืออยู่น้อยนิด หลังจากหลบหนีออกมาจากบ้านในย่านชานเมือง หนีไปอยู่ในป้อมปราการห้างสรรพสินค้า ในขณะที่กองทัพซอมบี้ที่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ผู้รอดชีวิตกลุ่มนี้ต้องต่อสู้ทั้งกับศพเดินได้ ต้องต่อสู้กับคนในกลุ่มเดียวกัน ต้องต่อสู้กับความหวาดกลัว และความสงสัยของพวกเขาเอง ผู้รอดชีวิตต้องเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน และใช้แหล่งทรัพยากรทุกอย่างเท่าที่จะหาได้ ในการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด และที่สำคัญกว่านั้น... ก็คือเพื่อให้เป็นมนุษย์ต่อไป

แน่นอนนี้คือหนังซอมบี้ที่ดีที่สุดของโรโมโร เป็นภาคต่อจาก Night of the living dead(1968) และแน่นอนก็ต้องมีฉากโหดดิบและสิ่งที่ทำให้แหวะประเภท กัดเนื้อฉีก คอหลุด แขนขาด หัวกระจุย ล้วงควักไส้ตับม้ามมาเปิบ ฯลฯ สารพัดเท่าที่หนังซอมบี้จะมี แม้ดูจะไม่เนียน ไม่สมจริงนี้แต่กลับทำให้หลายคนประทับใจ  

Dawn of the Dead 1978 หรือ"ต้นฉบับ"รุ่งอรุณแห่งความตาย เป็นอีกเรื่องหนึ่งในตระกูลหนังซอมบี้ที่ถือเป็นแบบอย่าง, ถูกนำไปต่อยอด, เป็นแรงบันดาลใจ, นำไปสร้างภาคต่อโดยผู้กำกับคนอื่นๆในแนวทางนี้อีกมากมายจนกลายเป็นหนังคลาสสิคและเป็นที่ยอมรับของคอหนังแหวะรุ่นต่อๆ มา


(โหวตให้ก็ดีนะครับ)

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 5 มีนาคม 2551 / 17:18

PS.  อ้วนนรก ณ ทุ่งสังหาร

แสดงความคิดเห็น

>

67 ความคิดเห็น