Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

(แฟนลิเดีย)ชีวิตสีเทาของผู้ชายที่ไม่มีอะไรดีสักอย่าง แมทธิว ดีน

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
จากมติชน

"คุณด่าผม ผมก็ด่ากลับ"




กระชากกล้องนักข่าวที่ตามถ่ายรูป

ให้สัมภาษณ์แบบกวนโอ๊ยตลอดเวลา

ประพฤติตัวต่างๆ นานาจนพ่อแม่ของแฟนสาว ลิเดีย-ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา ไม่ปลื้ม

แถมล่าสุดยังเปิดก้นกลางห้างสรรพสินค้า ใส่พวกปาปาราซซี่ซะงั้น


ทั้งหมดนี้คือพฤติกรรมของ ฿แมทธิว ดีน฿ ที่ใครต่อใครได้รับรู้

จริงมั่ง-ไม่จริงมั่ง คือคำอธิบายจากเจ้าตัว

แต่ทั้งหมดมีที่มาที่ไป

...

"จริงๆ ผมใจเย็นนะ ไม่ได้ใจร้อนเหมือนภาพที่คนคิดจากการออกสื่อหรอก แต่เวลาเจอบางเรื่องที่รู้สึกว่าไร้สาระก็ทนไม่ได้" เขาบอก

"ผมคงเป็นตัวของตัวเองมากไป"

"เหมือนคุณเดินอยู่ข้างถนน แล้วมีคนมากวนโอ๊ยคุณ คุณจะปล่อยไปเหรอ คุณด่าผม ผมก็ด่ากลับ ผมต้องดูแลปกป้องทั้งเดียและตัวผมเองจากเรื่องไร้สาระพวกนี้ หรือการด่าโดยไม่มีเหตุผล"

"แล้วคนนะ ยังไงก็มีความรู้สึก"

พอเริ่มพูดปุ๊บ แมทธิวก็เผยความรู้สึกยาว

บอกด้วยว่าความจริงก่อนหน้าจะมีเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับลิเดีย ทุกอย่างดูเหมือนจะราบรื่นดี แต่พอคบกับลิเดียไปได้ปีกว่า พอข่าวเริ่มออกมา เขากับแฟนสาวก็เริ่มได้รับผลกระทบ

"จริงๆ ไม่สนใจข่าวพวกนี้เลยด้วยซ้ำ จะรู้ก็เมื่อมีคนโทร.มาบอก หนังสือนี่เขียนอย่างนี้นะ..."

แรกๆ แมทธิวว่าได้ยินแล้วบอกความรู้สึกอะไรไม่ถูก นอกจาก "อึ้ง"

"แต่บ้างก็เฮ้ย! อะไรวะ เหมือนมีคนคนหนึ่งมาพูดเกี่ยวกับคุณน่ะ ว่าคุณเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ หลักฐานอะไรก็ไม่มี นี่มันคืออะไร นึกอยากเขียนก็เขียน อยากด่าก็ด่า พอผมออกไปพูด ก็ถูกด่าแทน ก้าวร้าว พูดจาไม่ดี ทั้งที่เราต้องการปกป้องคนที่เรารัก"

เขายังว่าความจริงถ้าสื่อไม่มีอิทธิพลต่อคนอ่าน เขาจะไม่แคร์เลย แต่นี่ไม่ใช่

"เพราะลงทุกวัน อ่านไปทุกวัน ก็เชื่อเหมือนกันแหละ ไม่ว่าจะชนชั้นไหนของสังคม"

ด้วยเหตุนี้เวลาเดินไปไหนมาไหนด้วยกัน เขาจึงได้เห็นสายตาคนที่มอง เห็นคนซุบๆ ซิบๆ แล้วก็อดรู้สึกไม่ได้สักที

"แต่ไม่ได้โทษคนพูด คนมองหรอก โทษคนที่เขียนมากกว่า"

แมทธิวยังว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เวลามีข่าวขึ้นมาที ก็มีสื่อพยายามติดต่อจะขอสัมภาษณ์ทั้งเขาและลิเดีย

แต่..

"สัมภาษณ์ให้ตายเถอะ คนก็ไม่เปลี่ยนความคิดหรอก เพราะเชื่อแล้ว"

"คนเปลี่ยนความคิดจากที่เห็นเดียเป็นคนธรรมดา ที่บ้านมีฐานะบ้าง เป็นนักร้องที่ดี หน้าตาน่ารัก เป็นอีกอย่าง ถ้าเห็นพ่อเขาขับเบนซ์ ก็ทักษิณซื้อให้นี่หว่า บ้านเขาสวยๆ โห ทักษิณจัดให้แหง เด็กทักษิณชัวร์ ขับรถสปอร์ตโว้ย มันแย่มากเลยนะ"


ตัวแมทธิวเองก็โดนหางเลขไปเหมือนกัน

"กลายเป็นว่าคนมองช่วงหลังๆ แล้วดูถูก โห หลอกผู้หญิงนี่หว่า เป็นแมงดามาเกาะ หลอกเขาอีกทีหนึ่ง ทั้งๆ ที่ทุกคนทำมาหากินมาเป็นสิบๆ ปีแล้ว"

งานนี้แมทธิวจึงสรุปว่าพวกเขาน่ะเป็นเหยื่อ แต่เป็นเหยื่อของอะไร เขาเองก็ไม่เข้าใจหรอก

"ตอนนี้ผมแค่มีความรู้สึกว่าเวลาบางคนมาสัมภาษณ์ผม เหมือนไม่อยากสัมภาษณ์หรอก เพราะเขามีคำตอบในใจแล้ว มาแค่ให้ได้ภาพกับสักประโยคจากผม แล้วก็ใส่ตามที่ตัวเองอยากลง พูดให้ตายยังไง ก็เขียนตามใจชอบ"

"ง่ายๆ เลยที่เขียนว่าพ่อแม่ (ลิเดีย) ไม่ชอบผม ด้วยความที่ผมพูดตรงๆ คนก็คงไม่ชอบเยอะอยู่เหมือนกัน แล้วข่าวก็ออกมาในทางที่ผมไม่เคยมีดีสักอย่าง แล้วคนก็เชื่อ เห็นผมแย่มากๆ พ่อแม่เขาเกลียดสุดสุด ไม่มีใครคบ แต่ในความเป็นจริงผมก็ใช้ชีวิตปกติไง"

นั่นคือมีคนรัก มีเพื่อนฝูง มีทั้งมุมดีและไม่ดี เหมือนอย่างที่ใครๆ ก็เป็นกัน

"ชีวิตผมไม่ใช่ทั้งสีขาว ไม่ใช่ทั้งสีดำ จริงๆ ก็พยายามไปทางขาวนะ พยายามอยู่ในชีวิตเทาๆ ของผมนี่ละ" แมทธิวบอก

เขายังว่าที่ผ่านมาแม้จะเจอข่าวจากสื่อเยอะ แต่เอาเข้าจริง เขาก็ไม่ได้รู้สึกเกลียดหรืออะไร

"เฉยๆ ไม่ได้เกลียด แต่ไม่ได้ชอบ" ประสาคนพูดตรง แมทธิวเลยบอกชัดๆ

"ตอนแรกโกรธนะ แต่ก็เออวะ เจอจนชิน เลยพยายามทำความเข้าใจ ก็จะให้ทำไงล่ะ มันทำอะไรไม่ได้ นอกจากชินๆ ไป" ว่าพลางเขาก็หัวเราะขำกับสภาพตัวเอง

และแม้จะรู้สึกว่าเรื่องที่สื่อลง บางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องจริง-นี่เขาวัดจากข่าวเกี่ยวกับตัวเองและแฟนสาวที่เจอ แต่แมทธิวก็ว่า ถ้ามีข่าวอะไรออกมาก็อ่านไปเถอะ

"แต่ฟังหูไว้หู อย่าเพิ่งรีบตัดสิน ถึงจะอยากอ่านอย่างเมามัน ก็นิดนึง อย่าเพิ่งรีบตัดสิน"

รวมถึงบทสัมภาษณ์ชิ้นนี้ด้วยซิ-เราแซว

เขายิ้มกว้าง ก่อนจะว่า "ยังไง ถึงลงเรื่องนี้ไปก็ไม่มีใครเชื่อผมหรอก คนชอบอะไรที่เป็นลบมากกว่าบวก มันตื่นเต้นดี"

"แล้วสังคมไทยเลือกที่จะรับรู้ในสิ่งที่อยากรับรู้"


"ช่วงก่อนมีมาถามว่าจริงหรือเปล่าที่เดียท้อง เอามาจากไหนเนี่ย แล้วถึงเขาจะท้อง จะสนใจทำไม สังคมมีเรื่องร้ายๆ แย่ๆ อีกเยอะที่ต้องแก้ไข ดันไปสนใจเรื่องไร้สาระ"

ตลอด 3 ปีที่คบกันมา แมทธิวบอกว่าเขาเชื่อใจลิเดีย 100%

"เขาเป็นคนธรรมดาที่จิตใจดี แล้วไม่เคยทำอะไรให้ผมต้องระแวง ถามก็ไม่เคยถาม ไม่มีความจำเป็น แต่ถ้าวันหนึ่งเขาทำอะไรแปลกๆ มุมมองผมอาจเปลี่ยน"

แต่ยังไม่ใช่วันนี้แน่ๆ

แสดงความคิดเห็น

>

4 ความคิดเห็น

เห็นใจ 24 พ.ย. 51 เวลา 12:24 น. 1

น่าเห็นใจนะ เราเชื่อเพราะลูกอยู่ในวงการด้วย&nbsp ข่าวเต้าเยอะวันๆฟังแล้วฟังหูไว้หูดีกว่า&nbsp ถ้าไม่โดนกับตัวเองก็ไม่รู้

0
Optimustz 26 มี.ค. 55 เวลา 00:14 น. 4

ทำไมละพูดตรงๆซิดี ดีกว่าตอแหล พอเค้าพุดตรงๆก้อไปหาว่าเค้าแย่&nbsp ตัวเองละดีพอหรือยัง สังคมไทยก้อเป็นแบบนี้ละชอบจั้ด (Judge) คนอื่นไปในทางที่ตนอยากให้เค้าเป็น เชื่อในสิ่งที่ผิดๆ แล้วเชื่อแบบหูตามัวทีนี้&nbsp Thailand Only! เฮ้อ

0