Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เวทมนต์ เรื่องราง คาถาอาคม ยิปซีโบราณ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ใครมีความรู้ มาแลกเปลี่ยนกันน๊ะคะ ดีกว่าให้มันสูญหายไปกับกาลเวลา
wasant2521@yahoo.co.th

แสดงความคิดเห็น

>

39 ความคิดเห็น

arab 14 ธ.ค. 51 เวลา 23:15 น. 1
รูปนี้เรียกว่า บาโฟเมต (Baphomet) นะครับ เป็นรูปเคารพบูชา ของ อัศวินนักรบ เป็นจ้าแห่งความสมบูรณ์ แต่ในคริสตจักรกล่าวหาว่าเป็นลัทธินอกรีต บาโฟเมต มีศีรษะเป็นแพะที่มีเขางอกออกมา 2 ข้าง ของแพะในโบราณเป็นสัตว์ที่ให้นมเป็นอาหารของมนุษย์ จึงเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์

 
 
0
arab 14 ธ.ค. 51 เวลา 23:17 น. 2
 
 รู้สึกว่าพวกมนตร์ดำเขาจะบูชาเลข 666 กับเลขส่วนทองคำกันด้วยนะ

เลขพวกนี้มันสำคัญอะไรนักรึ พวกมีคาถาอาคมถึงให้ความสำคัญกันนัก

2
I'm Princess. 10 เม.ย. 60 เวลา 09:55 น. 2-1

เป็นวันเกิดของลูซิเฟอร์มั้งคะ ว่ากันว่าใครเกิดวันที่ 6 เดือน 6 เป็นบุตรซาตาน... 6 อีกตัวเราไม่รู้แล้วค่ะ

0
Vincent 19 เม.ย. 60 เวลา 20:53 น. 2-2

เลข6 ในศาสนาคริสถือว่าเป็นอัปมงคลครับ แล้วไอเลข666 เนี่ยคือตัวเลขที่ลัทธิบูชาซาตานเขาเชื่อว่าจะบัญเชิญซาตานมายังโลกได้

0
arab 14 ธ.ค. 51 เวลา 23:22 น. 3
ใครรู้จักแพนดูรั่มบ้าง ยกมือขึ้น ตอนนี้เรามีของแท้จำหน่ายแล้ว รอกันมานานสิท่า พร้อมตาราง และวิธีการดูแปลเป็นภาษาไทย ราคา 499 บาทเน้นค่ะ ที่อื่นขาย2000-3000 บาท แต่เราขายให้กับเพื่อนกันเอง ชาวยิปซีงัยคะ แต่ต้องสั่งจองก่อนน๊ะค๊ะ ของมีจำกัด สนใจส่งมาที่ wasant2521@yahoo
co.th
0
arab 14 ธ.ค. 51 เวลา 23:24 น. 4

เพนทาเคิล-Pentacle ดาว 5 แฉกกับโลกของเวทย์มนตร์


เพนทาเคิล-Pentacleคือสัญลักษณ์รูปดาว 5 แฉก คำว่า "Penta" แปลว่า ห้า มีความหมายเช่นเดียวกับคำว่า "เบญจ" หรือ "ปัญจ"

ในดินแดนเริ่มต้นของประวัติศาสตร์โลก คือ เมโสโปเตเมีย หรือ ประมาณกว่า ห้าพันปี ประชากรที่นั่นให้การบูชานับถือเทพแห่งดวงจันทร์ซึ่งเป็นเพศหญิง และดวงอาทิตย์เป็นเพศชาย มีดวงดาวที่เป็นผู้หญิงนามว่า "อีนานนา Inanna หรือ อิชทาร์ Isthar เป็นเทพีแห่งความรัก โดยชนเผ่าโบราณได้ตั้งชื่อให้กับดาวดวงนี้ และเป็นเทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์

ต่อมานักประวัติศาสตร์ได้นำตำแหน่งมาเปรียบเทียบกันกับเทพเจ้าของกรีกและโรมัน ตำแหน่งนี้จะเท่ากับ ดาววีนัส Venus เทพีของโรมัน ซึ่งกรีกเรียกว่า "อโพรไดต์ Aphrodite"

เพนทาเคิลนี้ เป็นตัวแทนของพลังธรรมชาติทั้งห้า คือ ดิน-น้ำ-ลม-ไฟ-จิตวิญญาณ โดยสัมผัสทั้ง 5 ตาดู-หูฟัง-จมูกได้กลิ่น-ลิ้นได้รส-กายได้รับสัมผัส ในความเชื่อของโรมันคาทอลิกเชื่อว่า ดวงดาวเป็นสัญลักษณ์ของการนำทาง หรือความโปรดปรานของพระผู้เป็นเจ้า 

เรื่องของโหราจารย์ที่ติดตามดวงดาวมาจากทิศตะวันออกเพื่อมานมัสการกษัตริย์ที่จะบังเกิดใหม่ทำให้ 3 โหราจารย์ได้ค้นพบพระกุมารเยซูที่เมืองเบธเลเฮม นั้นดูได้จากภาพที่ศิลปินวาด และดาวยังคงค้างอยู่เหนือรางหญ้าสถานที่ประสูติของพระกุมาร หาดูได้จากภาพยนตร์เรื่อง The Nativity Story  ได้นะคะเป็นเรื่องราวของการประสูติของพระเยซูที่เชื่อมโยงกับดาว 5 ดวง...

 

                                           

ส่วนเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ พ่อมดแม่มดนั้น ดาว 5 แฉก ถือว่าเป็นเครื่องรางประจำตัว และถ้าได้เคยดูภาพยนตร์เรื่อง พ่อมดแฮรี่ Harry Dresden จะเห็นว่า แวมไพร์กลัวดาว 5 แฉกเช่นกัน ได้ดูหนังเรื่องนี้แล้วคนที่ชอบแนวพ่อมด ต้องไม่พลาดเรื่องนี้นะคะ มีเกร็ดความรู้เรื่องของเวทย์มนตร์คาถามากมายให้เราได้ชมกันแบบวิถีของพ่อมดว่าปัจจุบันเขาใช้ชีวิตอย่างไร 

สมัยกษัตริย์โซโลมอนเองนั้น ทรงได้นำดาว 5 แฉกนี้ทำเป็นสัญลักลักษณ์ประจำตัวพระองค์อีกจากภาพด้านล่างนี้

ติดตามเรื่องราวของสัญลักษณ์ตอนต่อไปนะคะ ขอบคุณมากค่ะ     

0
arab 14 ธ.ค. 51 เวลา 23:31 น. 5

Baal ใน Dictionnaire Infernal

Baal [บาอาล] นั้น เป็นปีศาจของชาวคริสเตียน

ระหว่างการขุดค้นทางโบราณคดีเกี่ยวกับการอธิบายถึงวิหารแพนธีออนแห่งไซเรียนที่ Ras Shamra และ Ebla

มีปีศาจตนหนึ่งที่มักจะทำให้วิญญาณของชาวเซไมท์ (Semite ชาวยิวและพวกอาหรับตะวันตก) ปั่นปวน และผู้เป็นพระเจ้าได้ให้ชื่อว่า บาอาล ชาวคริสเตียนได้จากรึกบาอาลไว้ว่า เป็นปีศาจที่อยู่ในระดับสูงหรืออาจจะเป็นร่างหนึ่งของซาตาน

บาอาลนั้นเป็นกษัตริย์อันดับแรกของนรก ปกครองฝั่งตะวันออก ในบางตำรากล่าวว่า Baal นั้นเป็น Duke ที่มีกองทัพปีศาจถึง 66 กองทัพอยู่ภายใต้การปกครอง

ว่ากันว่าผู้ใดที่อัญเชิญบาอาลจะสามารถล่องหนได้ ในตำราปีศาจฉบับอื่นๆได้กล่าวไว้ว่าบาอาลจะมีพลังมากในช่วงเดือนตุลาคม และยังทำให้ผู้คนพูดด้วยเสียงแหบห้าว

บาอาลนั้นมีบันทึกในเงื่อนไขของตำราเวทย์มนต์ว่าเมื่ออัญเชิญมาจะมีรูปร่างเป็นกบ คน และแมว หรือผสมปนเปกัน ใน Dictionnaire Infernal ของ คอลลิน ดี แพลนซี วาดไว้ว่าจะมีศีรษะเป็น กบ คน แมว อยู่ในร่างเดียวกัน และมีขาเป็นแมงมุม

Baal Seal :

Baal Seal

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Duke Agares

Agares

Agares [อากาเรส] เป็นดยุค หรือขุนนางชั้นสูงสุดนั่นเอง ปกครองนรกฝั่งตะวันออก มีกองทัพปีศาจ 31 กองทัพอยู่ในอำนาจ

Agares มีอำนาจทำให้ผู้ที่หลบหนีกลับคืน เป็นผู้ทำให้เกิดแผ่นดินไหว และเป็นนักสอนภาษา เป็นผู้ที่มีพลังในการทำลายเกียรติยศ

Agares มักปรากฏตัวในรูปของชายแก่ผู้ขี่จระเข้ และมีนกอินทรีย์เกาะบนกำมือ

Agares Seal :

 Agares Seal

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

edit @ 21 Apr 2008 15:32:08 by nekoma

0
arab 14 ธ.ค. 51 เวลา 23:33 น. 6

72 ปิศาจที่ถูกผนึก

posted on 11 Oct 2007 00:50 by nekoma  in Demonology

บทความต่อไปนี้เป้นเรื่องเกี่ยวกับตำนาน ความเชื่อ พิธีกรรม โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

Demon Seal คืออะไร?

Demon Seal คือตราผนึกที่เกิดจากการผนึกปิศาจ ตรานี้สามารถที่จะใช้อัญเชิญปิศาจได้ ซึ่งต้องผ่านการทำพิธีกรรมต่างๆนาๆ เช่น สังเวยเลือด สังเวยของเซ่นไหว้ เป็นต้น (ในที่นี้จะไม่กล่าวถึงวิธีการทำพิธีกรรม)

 Solomon คือใคร ?

Solomon เป็นกษัตริย์ในตำนานอิสราเอล เขาเป็นผู้ที่เปี่ยมไปด้วยพลัง ความรู้ และอำนาจบารมี อนึ่งเขาได้ครอบครองตราผนึกที่เรียกว่า "ผนึกแห่งโซโลมอน" ซึ่งสามารถที่จะทำให้เขาใช้เวทย์มนต์หรืออัญเชิญปีศาจต่างๆได้ ปีศาจที่โซโลมอนอัญเชิญมีถึง 72 ตัวด้วยกัน

Seal Of Solomon

นี่คือตัวอย่างของตราเวทย์มนต์ของโซโลมอน

 ปิศาจ 72 ตนที่โซโลมอนอัญเชิญได้นั้นล้วนแต่เป็นตัวเบ้งๆ เช่น Baal Amon ซึ่งเป็นทั้งกษัตริย์ในนรก เป็นขุนนาง แม่ทัพ บลาๆ

นี่คือรายชื่อของ 72 ปิศาจ

1. ราชาบาอาล

2. ดยุคอากาเรส

3. เจ้าชายวอสซาโก้

4. มาร์ควิสซามิกินา

5. ประมุขมาร์บาส

6. ดยุคเวลฟาร์

7. มาร์ควิสอามอน

8. ดยุคบาร์บาทอส

9. ราชาไพมอน

10. ประมุขบัวร์

11. ดยุคกิวเชียน

12. เจ้าชายซิตริ

13. ราชาเบเลท

14. มาร์ควิสเลเรจ

15. ดยุคเอลิกอส

16. ดยุคเซพาร์

17. เคาท์โบทิส

18. ดยุคบาธิน

19. ดยุคแซลลอส

20. ราชาเพอร์ซอน

21. เคาท์โมแร็กซ์

22. เคาท์ไอพอส

23. ดยุคไอม์

24. มาร์ควิสเนบีเรียส

25. เคาท์กลาสยา

26. ดยุคบูน

27. เคาท์โรโนฟ

28. ดยุคเบริธ

29. ดยุคแอสทารอท

30. มาร์ควิสโฟร์เนียส

31. ประมุขฟอราส

32. ราชาแอสโมเดอุส

33. เจ้าชายกาอัพ

34. เคาท์เฟอร์เฟอร์

35. มาร์ควิสมาโชเสส

36. เจ้าชายสโตลาส

37. มาร์ควิสเฟเนกซ์

38. เคาท์ฮาลพาส

39. ประมุขมาลพาส

40. เคาท์รัม

41. ดยุคโฟคาลอร์

42. ดยุคเวพาร์

43. มาควิสแซ็บน็อค

44. มาร์ควิสแช็ก

45. เคาท์ไวน์

46. เคาท์ไบฟรอน

47. ดยุคอูวาล

48. ประมุขฮาเกนติ

49. ดยุคโครเซล

50. อัสวินเฟอคาส

51. ราชาบาลัม

52. ดยุคอัลโลเซส

53. ประมุขเคม

54. เคาท์เมอร์เมอร์

55. เจ้าชายอโรบาส

56. ดยุคเกรโมรี่

57. ประมุขโอซ

58. ประมุขเอมี่

59. มาร์ควิสโอเรียส

60. ดยุควาพูลา

61. ราชาซากาน

62. ประมุขโวแลค

63. มาร์ควิสแอนดราส

64. ดยุคเฮาเรส

65. มาร์ควิสแอนเดรียลฟัส

66. มาร์ควิสซิเมเจส

67. ดยุคแอมดูเซียส

68. ราชาเบเลียล

69. มาร์ควิสเดคาราเบีย

70. เจ้าชายซีเร

71. ดยุคแดนทาเลียน

72. เคาท์แอนโดรมาเลียส

-------------------------------------------------------------------------

 คร่าวๆก้เท่านี้แหละฮะ =A=" 72 ปิศาจ ไว้ทีหลังจะมาพุดถึงปิศาจแต่ละตัวกัน

เอกสารอ้างอิง : หนังสือ The Goetia : The lesser key of Solomon เขียนโดย S.L.M.Mathers และ Aleister Crowley

 

2
Jaoning 9 พ.ย. 59 เวลา 17:27 น. 6-1

อยากได้ข้อมูลปีศาจแต่ละตัวจังเลยค่ะ ^^ มาลงให้อ่านบ้างนะคะ ขอบคุณค่ะ

0
Yusree 15 ส.ค. 60 เวลา 12:03 น. 6-2

ที่ว่า โซโลเมน หรือ นบีสุไลมาน มีวิชาอาคมที่แข็งแกร่งและมีอำนาจ นั้นเป็นแค่ข่าวลือที่สะพัด ในสมัยก่อน ซึ่งข่าวลือนี้ ได้กระจาย หลังจากท่านนบีสุไลมาน ได้เสียชีวิต


นี่คือหลังฐานจากอัลกุรอาน...

102. และพวกเขาได้ปฏิบัติตามสิ่งที่บรรดาชัยฏอน(*1*) ในสมัยสุลัยมานอ่านให้ฟัง และสุลัยมานหาได้ปฏิเสธการศรัทธาไม่ แต่ทว่าชัยฏอนเหล่านั้นต่างหากที่ปฏิเสธการศรัทธา(*2*) โดยสอนประชาชนซึ่งวิชาไสยศาสตร์และสิ่งที่ถูกประทานลงมา(*3*)แก่มะลาอิกะฮ์ทั้งสอง คือ ฮารูต และมารูต ณ เมืองบาบิล และเขาทั้งสองจะไม่สอนให้แก่ผู้ใดจนกว่าจะกล่าวว่า แท้จริงเราเพียงเป็นผู้ทดสอบเท่านั้น ท่านจงอย่าปฏิเสธการศรัทธาเลย(*4*) แล้วเขาเหล่านั้นก็ศึกษาจากเขาทั้งสอง สิ่งที่พวกเขาจะใช้มันยังความแตกแยกระหว่างบุคคลกับภรรยาของเขา และพวกเขาไม่อาจทำให้สิ่งนั้นเป็นอันตรายแก่ผู้ใดได้ นอกจากด้วยการอนุมัติของอัลลอฮฺเท่านั้น(*5*) และพวกเขาก็เรียนสิ่งที่เป็นโทษแก่พวกเขา และมิใช่เป็นคุณแก่พวกเขา และแท้จริงนั้นพวกเขารู้แล้วว่าแน่นอนผู้ที่ซื้อมันไว้นั้น(*6*) ในปรโลกก็ย่อมไม่มีส่วนได้ใด ๆ และแน่นอนเป็นสิ่งที่ชั่วช้าจริง ๆ ที่พวกเขาขายตัวของพวกเขาด้วยสิ่งนั้น หากพวกเขารู้

(1) หมายถึงพวกประพฤติชั่วในสมัยท่านนะบีสุลัยมานได้นำวิชาไสยศาสตร์ ออกเผยแพร่ และปฏิบัติกัน

(2) หมายถึงการยึดถือวิชาไสยศาสตร์ เพราะปฏิบัติการดังกล่าวนี้ถือว่าเป็นการปฏิเสธศรัทธา

(3) หมายถึงวิชาไสยศาสตร์ที่อัลลอฮฺทรงให้มะลาอิกะฮ์ทั้งสองนำมาเพื่อทดสอบการอีมาน ของวงศ์วานอิสรออีล

(4) จงอย่าศึกษาวิชาไสยศาสตร์เลย เพราะเป็นการปฏิเสธศรัทธา

(5) นอกจากเป็นไปตามกฎสภาวะการณ์ของอัลลอฮ์เท่านั้น

(6) ผู้ที่เชื่อวิชาไสยศาสตร์ และยึดถือมั่น


สอบถามได้ทางเฟสบุ้ก YusRee IsmaEl Siddiq

0
arab 14 ธ.ค. 51 เวลา 23:45 น. 7

เพนดูรั่ม ที่เรามีเป็นหินแท้น๊ะค๊ะ หินสีชมพูเหมาะกับการดูความรัก หินใส(คริสตัล)เหมาะกับการดูทุกเรื่องและนักแพนดูรั่มทั่วโลกจะใช้หินชนิดนี้ค่ะ หินทุกชิ้นผ่านการบรรจุพลังแล้ว ทั้งทางหลักชาวยิปซี และชาวพุธ จึงเชื่อได้ว่า มีพลังมากกว่า ธรรมดาหลายเท่า และหลังจากที่เราได้นำกล้องออร่าถ่ายภาพ พลังงานของหินเปล่งรัศมีมากกว่าเดิมหลายเท่า

0
arab 14 ธ.ค. 51 เวลา 23:48 น. 8

บทความจาก สถาบัน PhD

      ในปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์อธิบายปรากฏการณ์ ออร่า aura ว่าเกิดจากการที่ อะตอมของสารต่างๆเกิดการสั่นสะเทือนโดยอิเลกตรอนที่วิ่งรอบๆแกนอะตอมและเมื่อมีการเคลื่อนที่ก็มีการ รับและส่งพลังงานออกมาเพื่อให้ตัวเองมีเสถียรภาพ พลังงานที่ปล่อยออกมาจะออกมาในรูปแสงและคลื่นเสียง ออร่าเป็นผลพวงจากกระบวนการดังกล่าวในปัจจุบัน มีการบันทึกภาพออร่าด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรียกว่า เทคนิคแบบเกอร์เลี่ยน ซึ่งเป็นชื่อของผู้ค้นพบชาวรัสเซียและปัจจุบันได้พัฒนาเทคนิคนี้ จนเป็นที่ยอมรับโดยนักวิทยาศาสตร์ได้ใช้ภาพถ่ายเกอร์เลี่ยนนี้ในการศึกษา พลังของสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะพลังอำนาจของชีวิต เช่น ใช้ในการวิเคราะห์โรค ตรวจอำนาจหรือคุณสมบัติบางประการในวัตถุหรือสสาร (วิเคราะห์จากสเปคตัม)ความหมายของสีออร่า ในวัตถุที่มีชีวิตและไม่มีชีวิตล้วนก็มีพลังงานทั้งสิ้น ฉะนั้นจึงมีผลต่อคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าโลก สีออร่าที่แผ่รัศมีออกจากวัตถุนั้น จะเป็นการสื่อว่าวัตถุชนิดนั้นๆ มีสภาพเป็นเช่นไร จึงมีการจำแนกสีเพื่อเป็นเครื่องชี้วัดให้เกิดความเข้าใจถึงสถานภาพของวัตถุนั้นๆ

0
arab 15 ธ.ค. 51 เวลา 00:25 น. 9


เพนดูลั่มรูปดิ่ง Aventurine (อเวนเจอรีน)
อเวนเจอรีนเป็นหินที่นำมาซึ่งพลังแห่งการสร้างสรรค์ และการมีโลกทัศน์ที่ดีและการมีจิตใจที่สงบ ชำระล้างอารมณ์ขุ่นมัวให้ใสสะอาด ทำให้สุขภาพดี เลือดในร่างกายไหลเวียนดี เสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงผลิตเม็ดเลือดอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้รากผมแข็งแรง พร้อมคู่มือ และตาราง 499.00


เพนดูลั่มรูปดิ่ง Rose Quartz (โรส ควอตซ์)
สีชมพูอ่อนใส เป็นหินแห่งความรักและการให้อภัย เชื่อกันว่าจะนำความรักมาให้ผู้สวมใส่ เป็นหินแทนคำบอกรัก ห่วงใยการขออภัยให้แก่กัน หรือฟื้นฟูสภาพจิตใจในคนอกหัก ช่วยให้รักตัวเองมากขึ้น พร้อมคู่มือ และตาราง
ราคา 499.00


เพนดูลั่มรูปดิ่ง Amethist (อเมทิสต์)
เป็นหินที่มีพลังในการบำบัดสูงมาก ทั้งยังปกป้องผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี ก่อให้เกิดความยุติธรรมขึ้นในจิตใจและขจัดความคิดในด้านลบ กระตุ้นการเรียนรู้และปลุกสำนึกทางจิตวิญญาณ เป็นการเพิ่มพูนความรับรู้ทางประสาทสัมผัสได้ดี พร้อมคู่มือ และตาราง
ราคา 499.00


Lapis Lazuli ลาพิส ลาซูลี
เปิดดวงตาที่ 3 เสริมพลังแห่งความหยั่งรู้ ประกายทองในสีน้ำเงินเข้มนำพาทรัพย์สินมาให้ เป็นหินแห่งอำนาจเร้นลับเหนือคนทั้งปวง ช่วยการนั่งสมาธิ พร้อมคู่มือ และ ตาราง

ราคา499.00


Star of David cดาวแห่งโชค สัญญลักษณ์เดวิด
บอกความตั้งใจอันแรงกล้า มีความใฝ่ดีมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ กระตุ้นความก้าวหน้ามุ่งสู่เป้าหมายไม่สั่นไหวคลอนแคลน มีไว้ช่วยประสบความสำเร็จในชีวิตและสมหวังในรัก
Wish to be a star, hold the srar with you. Luck and success will be attracted and garthered in you. Tell people you have guts and concentrate to the sky.
ราคา 350.00


Star of David ดาวแห่งโชค สัญญลักษณ์ดาวของเดวิด
อีกแบบหนึ่ง
ราคา 350.00
สนใจสั่งจองมาที่ wasant2521@yahoo.co.th 

0
เหอๆ 15 ธ.ค. 51 เวลา 18:48 น. 11

อยากรู้ว่า...
72 ปีศาจอ่ะ มีวิธีทำพิธีกรรม
แต่มีใครเคยทำไหม แล้วสำเร็จรึป่าว ???

2
ผู้ต้องการเป็นปีศาจ 15 ต.ค. 62 เวลา 01:37 น. 11-1

กำลังจะลองอันเชิญ2แบบอยู่ครับ แบบแรกจะมีกระดาษ2แผ่น แผ่นใหญ่แผ่น แผ่นเล็กแผน วาดตราโซโลมอนที่เรียก72ปีศาจลงไปทั้ง2แผ่น นำเทียนไปวางกลางตราโซโลมอนในกระดาษแผ่นใหญ่ แล้วนำเลือดตัวเองวาดวงกลมรอบวงกลมของตราในกระดาษแผ่นเล็ก แล้วนำไปจุดไฟปลายกระดาษ(อย่าลืมจุดไฟเทียนแล้วนำปลายกระดาษจุดไฟ ก่อนจุต้องคว้ำหน้ากระดาษลงแล้วจุด)

แบบที่2 เอาเลือดวาดรอบวงดลมตราโซโลมอนในกระดาษแล้วเรียกปีศาจ(หลับตาเรียกนะจ้ะ)

จะลอง2อันนี้ก่อน อันแรกจำไม่ผิดเหมือนเรียกอสูรรับใช้แต่ว่ามันเป็นของพี่ศาจในนรก แต่นี่มนุษย์เรียกอาจจะเรียกปีศาจได้

แบบ2คือการเรียกแบบมีข้อแรกเปลี่ยนหรืออันตรายกว่านั้นคือจะโดนปีศาจกินถ้าคนเรียกกลัวหรือพลังอ่อนแอจากที่เรียกมันก็จะกินวิญาณทันทีแต่ปัญหาคือเทียน666เล่ม เพราะต้องจุดรอบๆตัวแล้วเราอยู่ตรงกลางเนี้ยแหละ โซโลมอนมีคาถ่เรียกเลยง่ายพวกเราๆไม่รูคาถาเลยต้องเรียกแบบอันตรายเนี้ยแหละ

0
arab 15 ธ.ค. 51 เวลา 19:14 น. 12

ลัทธิเวทมนต์

สำหรับประวัติความเป็นมาของ ลัทธิแม่มดนั้น แต่เดิมในยุโรปสมัยโบราณ ผู้หญิงเป็นผู้ที่ควบคุมพลังทางจิตวิญญาณของสังคม เนื่องจากผู้หญิงเป็นทั้งผู้ให้กำเนิด และเลี้ยงดูเด็กทารกให้เจริญวัย เป็นผู้ปรุงยาสมุนไพรเพื่อการรักษาโรค ดูแลเกษตรกรรม และกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับพื้นดิน ผู้หญิงจึงเป็นผู้นำของ ภูมิปัญญาท้องถิ่น(wicca) อย่างแท้จริง มีการบูชาธรรมชาติ เช่น พระอาทิตย์ พระจันทร์ ภูเขา แม่น้ำ และต้นไม้สีเขียวทั้งหลาย เป็นต้น ในสมัยนั้นประชาชนนิยมบูชา เทพธิดา หรือเทพเจ้าที่เป็นเพศหญิง(goddess) มากกว่าเทพเจ้าเพศชาย นับเป็นศาสนาของสังคมในยุคก่อนที่ผู้ชายจะเป็นใหญ่(pre-patriarchal)

ต่อมาเมื่อศาสนาคริสต์เกิดขึ้นและแพร่หลายไปในยุโรป บาทหลวงซึ่งเป็นเพศชายเริ่มต่อสู้แย่งชิงเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจทางจิตวิญญาณนั้นจากเพศหญิง บาทหลวงผู้ชายเริ่มกล่าวหาและประณามผู้หญิงซึ่งเป็นผู้นำของภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่ปรุงยาสมุนไพร รักษาโรค และทำหน้าที่ผดุงครรภ์เหล่านั้นว่า แม่มด คำว่า แม่มด(witch) จึงเป็นคำที่ใช้กล่าวอ้างเพื่อที่จะประณาม ปราบปราม หรือทำลายผู้หญิงซึ่งเป็นเจ้าของภูมิปัญญาและผู้ควบคุมพลังจิตวิญญาณของสังคมในขณะนั้น

ในยุโรปยุคกลางหรือแม้แต่ในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17 ทั้งในยุโรปและอเมริกา มีการออกตามล่า แม่มด กันอย่างขนานใหญ่ ผู้หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น แม่มด จะถูกจับมัดติดกับเสา และถูกเผาไฟทั้งเป็น หรือมิฉะนั้นก็จะถูกขว้างปาด้วยก้อนหินจนถึงแก่ชีวิต นับเป็นการปราบปรามพลังแห่งจิตวิญญาณและสติปัญญาของเพศหญิงอย่างขนานใหญ่ในยุโรป เพื่อที่จะสถาปนาสังคมที่มีผู้ชายเป็นใหญ่(patriarchy)ขึ้นมาแทนที่ นับต่อจากนั้นศาสนาที่ผู้ชายเป็นใหญ่ จึงได้เข้าแทนที่ศาสนาที่มีผู้หญิงเป็นผู้นำ

สำหรับประเทศไทยนั้นกระแสนิยมลัทธิแม่มดเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้เอง ทั้งนี้ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะอิทธิพลของหนังสือเรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์(Harry Potter) ซึ่งแต่งโดย เจ. เค. โรลลิ่ง(J. K. Rolling) ที่ขายดีเป็นอันดับหนึ่งในหมู่เด็กและวัยรุ่นในตะวันตก และต่อมาเนื้อเรื่องของหนังสือเล่มนี้ได้ถูกสร้างขึ้นเป็นภาพยนตร์ที่โด่งดังไปทั่วโลก เหตุที่หนังสือและภาพยนตร์เรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์ ได้รับความนิยมในหมู่เด็กและวัยรุ่นเป็นอย่างสูงนั้น เนื่องจากตัวเอกของเรื่องคือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ นั้น เป็นเด็กผู้ชายที่มีอำนาจเวทมนตร์คาถาอยู่ในมือ สามารถมีอำนาจเหนือผู้ใหญ่ทั้งหลายที่อยู่รอบข้างได้ ผู้ใหญ่ซึ่งโดยปกติแล้วมักจะครอบงำหรือกดขี่เด็ก จะโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม

0
arab 15 ธ.ค. 51 เวลา 19:16 น. 13
หนังสือและภาพยนตร์เรื่องนี้จึงโดนใจเด็กและวัยรุ่นมากที่สุด เพราะเด็กและวัยรุ่นไม่ว่าชาติใดภาษาใดนั้นมักจะถูกครอบงำด้วยอำนาจของผู้ใหญ่ โดยที่เด็กเองไม่มีทางหลีกเลี่ยง ทัดทาน หรือคัดค้านอำนาจครอบงำจากผู้ใหญ่นั้นได้ เด็กส่วนใหญ่จึงอยู่ในภาวะจำยอมที่จะต้องเชื่อฟังผู้ใหญ่ที่มีอำนาจเหนือกว่าตนอย่างเปรียบกันไม่ได้ เด็กส่วนใหญ่จึงมีความรู้สึกอยากจะโตเร็วๆ เพื่อที่จะได้มีอำนาจต่อรองกับผู้ใหญ่ หรือมีอำนาจเสมอกับผู้ใหญ่

เมื่อเด็กยังไม่สามารถโตได้เร็วดังใจคิด การมีอำนาจวิเศษอยู่ในมือจึงเป็นสิ่งที่พึงปรารถนา เมื่อเด็กชายที่ชื่อ แฮร์รี่ พอตเตอร์ แสดงอำนาจวิเศษเหนือผู้ใหญ่ออกมาให้เห็น เด็กจึงรู้สึกชื่นชอบและแฮร์รี่ พอตเตอร์ ได้กลายเป็นวีรบุรุษในดวงใจน้อยๆ ของเด็กไปทั่วโลก

เมื่อลัทธิแม่มด ได้เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งในบริบทสมัยใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิม กล่าวคือ เป็นลัทธิความนิยมในวิชาเวทมนตร์คาถาอาคม ที่ทำให้ผู้ฝึกฝนปฏิบัติเกิดอำนาจวิเศษขึ้นในตัวเอง และสามารถใช้อำนาจวิเศษนั้นในการปรับเปลี่ยนความสัมพันธ์กับผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ใหญ่ซึ่งมีอำนาจเหนือตนเอง ทำให้ลัทธิแม่มด กลายเป็นกระแสความนิยมขึ้นมาในหมู่เด็กวัยรุ่นในสังคมปัจจุบัน

ลัทธิแม่มด จึงแตกต่างไปจากไสยศาสตร์(superstition)ทั่วไป ในแง่ที่ว่า ไสยศาสตร์นั้นเป็นลัทธิความเชื่อในอำนาจเหนือธรรมชาติที่อยู่นอกตัว ผู้ที่เชื่อถือไสยศาสตร์จึงเป็นผู้ที่แสวงหาที่พึ่งจากอำนาจศักดิ์สิทธิ์ภายนอก ส่วนลัทธิแม่มดนั้นเชื่อกันว่าเป็นศาสตร์หรือวิชาเฉพาะแขนงหนึ่ง ที่ผู้สนใจศึกษาเล่าเรียนและนำมาฝึกฝนปฏิบัติแล้ว จะเกิดอำนาจเหนือธรรมชาติขึ้นในตนเอง และผู้ปฏิบัติสามารถนำอำนาจเหนือธรรมชาตินั้นไปใช้ต่อรองกับบุคคลอื่นได้ ดังนั้น ลัทธิแม่มดจึงมีเสน่ห์สำหรับเด็กวัยรุ่นเป็นอย่างยิ่ง

ลัทธิแม่มด สมัยใหม่เกิดขึ้นและแพร่หลายในหมู่เด็กวัยรุ่นในตะวันตกก่อน และด้วยระบบการสื่อสารที่รวดเร็วในยุคปัจจุบัน ต่อมาจึงแพร่หลายไปทั่วโลก รวมทั้งเข้ามาในประเทศไทย ด้วยการชักนำของบรรดา พ่อมด และแม่มดทั้งหลายจากตะวันตก มีการสื่อสารกันโดยผ่านระบบอินเตอร์เน็ต การนัดพบปะกันตามสถานที่ต่างๆ การบรรยายพิเศษโดยแขกรับเชิญจากต่างประเทศ การรวมกลุ่มกันจัดตั้งเป็นชมรม เช่น ชมรม แม่มดแห่งสยาม(Witches of Siam) เป็นต้น
_________________

0
arab 15 ธ.ค. 51 เวลา 19:40 น. 14

หัวหน้าลัทธิบูชาซาตานที่อยู่ในนิวยอร์ก และฮิตเล่อ ต่างก็เสาะแสวงหาสิ่งนี้ และอีกหลายๆลัทธิมืด และเหล่านักโบราณคดี มาเป็นเวลาหลายร้อยปี จนถึงทุกวันนี้ยังไม่มีใครหาตำราเล่มนั้นจอ และพระราชวังทองคำที่เชื่อกันว่า ทองคำทั้งโลก ถูกสร้างเป็นพระราชวังของกษัตริย์ เรื่องนี้ที่ทุกคนคิดว่าเป็นตำนาน กลับมีเมืองที่อยู่ในตำนานเพิ่งขุดค้นพบและสิ่งก่อสร้างอีกหลายๆอย่าง ที่อยู่ในยุคนั้น 

ที่มีข่าวเพิ่มจะนำมาลงให้น๊ะคะ

0
arab 15 ธ.ค. 51 เวลา 19:48 น. 16

บางตำนานก็เล่าว่า ผรึกโซโลมอนได้ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน และตอนนี้มีคนเจอส่วนที่ 1 แล้ว คนที่เป็นเจ้าของอยู่ในทวีปยุโรป และไม่เปิดเผยตัว(เกรงจะมีภัยถึงชีวิต) และเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง 100% ค่ะ

0
arab 16 ธ.ค. 51 เวลา 00:06 น. 17
ลัทธิซาตาน

                ๑ มนต์ดำและไสยศาสตร์

                สิ่งที่เกี่ยวข้องกับลัทธิซาตานคือ ไสยศาสตร์ มนต์ดำ การใช้ยาเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ การบูชายัญด้วยเลือด

โรเบอร์ต้า แบลนเคนชิพได้เล่าประสบการณ์ว่า “เธอต้องไปที่หลุมฝังศพในเวลาที่มืดสนิทและน่ากลัว ต้องเดินข้ามไม้กางเขนขนาดใหญ่เท่ากับตัวคน และกล่าวปฏิเสธความเชื่อทุกอย่างในพระคริสต์ หลังจากนั้นก็จะเริ่มประกอบพิธี ต้องดื่มเลือดสดๆที่เชือดจากสัตว์เป็นๆ...”

            ลีน แมคมิลลอนกล่าวว่า “รูปแบบหนึ่งของลัทธิบูชาซาตาน เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางเพศ มีการร่วมประเวณีในพิธีกรรมเพื่อบูชาซาตาน และอีกรูปแบบหนึ่งของลัทธิอันชั่วร้ายนี้คือ การใช้ยาเสพติด”

            ๒ การต่อต้านเรื่องพระเจ้า

                แต่เดิมลัทธิซาตานเป็นขบวนการลับ แต่ปัจจุบันเปิดเผยตัวออกมาแล้ว มีลักษณะเป็นการต่อต้านศาสนาหรือต่อสู้กับเรื่องของพระเจ้า มีการนมัสการบุคคลที่ชื่อลูซีเฟอร์ (ซาตาน) ผู้ที่เข้าร่วมประชุมต้องปฏิเสธการเป็นคริสเตียน และยอมให้ลูซีเฟอร์เป็นพระเจ้าของพวกของเขา พบว่ากลุ่มพวกแม่แม่มดได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับลัทธิซาตานอย่างมาก

                ๓ โบสต์ของซาตาน

                โบสถ์ของซาตานตั้งขึ้นในปี คศ. ๑๙๖๖ ที่ซานฟรานซิสโก โดยแอนตัน แซนเดอร์ ลา เวย์ มีสมาชิกจำนวนหลายพันคน และต่อมาโบสถ์ได้แพร่หลายไปทั่วสหรัฐอเมริกา  คำสอนของเขาเน้นในเรื่องวัตถุนิยมและความสุขนิยม เลเวย์มักจะแต่งกายด้วยสีดำทั้งชุด และใช้รถยนต์สีดำด้วย

                ลาเวย์เป็นคนเชื้อสายรัสเซีย ฝรั่งเศสผสมโรมาเนีย  เคยทำงานในโรงละครสัตว์ เคยเป็นตำรวจถ่ายภาพ เป็นนักออร์แกนในไนท์คลับ และชอบศึกษาในเรื่องศาสตร์ที่ลึกลับ เขากล่าวถึงโบสถ์ของตนเองว่า “มีการปล่อยตัวตามราคะตัณหาที่น่าสนุก จุดประสงค์เพื่อรวบรวมบุคคลที่มีความคิดเห็นอย่างเดียวกันเข้าด้วยกัน เพื่อใช้พลังอำนาจแห่งความมืด ซึ่งมีอยู่ในธรรมชาติมา นั่นคือซาตาน”

                สมาชิกทุกคนต้องยอมรับว่าซาตานเป็นตัวแทนของ หนึ่ง การปล่อยตัวตามราคะตัณหา สอง การมีชีวิตตื่นเต้นสนุกสนาน สาม การแก้แค้น สี่ ยอมรับว่ามนุษย์มีธรรมชาติของสัตว์ ห้า ซาตานเป็นตัวแทนของทุกสิ่งที่เรียกว่าความผิดบาป และหก ต่อต้านคริสเตียนอย่างรุนแรง

0
Maxgie 16 ธ.ค. 51 เวลา 19:25 น. 18

จะถามว่าชื่อไรคะ อายุเท่าไหร่

เอ็มก้มีเน้อ แต่เจ๊งชั่วคราว

= =

(คงไม่ว่ากันนิ ที่นอกเรื่อง)

0
arab 16 ธ.ค. 51 เวลา 22:41 น. 19

คาถาทำให้คนที่เราชอบมารักเรา และ พิธีกรรมของชาวยิปซีโบราณ
แนะนำกระทู้ใหม่http://www.yenta4.com/webboard/viewtopic.php?cate_id=57&post_id=1290619&order_reply=0

0
Nakago 17 ธ.ค. 51 เวลา 17:07 น. 20

เราเองก็สนใจเรื่องพวกนี้มากๆเลยอ่ะค่ะ(กำลังอยากศึกษาเรื่องแบบนี้อยู่พอดี) ข้อมูลน่าสนใจมากค่ะ^^ เห็นสร้อยที่เอามาโพสแล้วอยากได้(ว่าแต่หมดไปยังคะ อยากได้อยู่เหมือนกัน) เอาข้อมูลมาลงอีกนะคะจะตามอ่านอีก^^

0