20 อันดับสาขาด้านโอกาสการมีงานทำ สายวิทยาศาสตร์

[~TaetaeLoVeR~]

20 อันดับสาขาด้านโอกาสการมีงานทำ สายวิทยาศาสตร์

อันดับ	มหาวิทยาลัย	คณะ/สาขา	ระดับ	รูป
1	มหาวิทยาลัยเชียงใหม่	คณะวิทยาศาสตร์ ธรณีวิทยา
2	มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง	คณะเทคโนโลยีการเกษตร วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร
3	มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร	คณะเทคโนโลยีการเกษตร วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางอาหาร
4	จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย	คณะวิทยาศาสตร์ ธรณีวิทยา
5	มหาวิทยาลัยเชียงใหม่	คณะวิทยาศาสตร์ เคมีอุตสาหกรรม
6	มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์	คณะสาธารณสุขศาสตร์ วิทยาศาสตร์สุขภาพ
7	มหาวิทยาลัยนเรศวร	วิทยาศาสตร์การแพทย์ จุลชีววิทยา
8	มหาวิทยาลัยมหิดล	คณะวิทยาศาสตร์ เคมีอุตสาหกรรม
9	มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา	คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
10	มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช	คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
11	มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา	คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยีอุตสาหกรรม แขนงเทคโนโลยีออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
12	มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา	คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยีอุตสาหกรรม แขนงเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์
13	มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา	คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยีไฟฟ้าอุตสาหกรรม
14	มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา	คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยีอุตสาหกรรม
15	มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม	คณะเกษตรศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร
16	มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม	คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์สุขภาพ
17	มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม	คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ วิทยาการคอมพิวเตอร์
18	มหาวิทยาลัยเชียงใหม่	คณะวิทยาศาสตร์ ชีวเคมีและชีวเคมีเทคโนโลยี
19	มหาวิทยาลัยทักษิณ	คณะวิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ประยุกต์ ? พลังงาน
20	มหาวิทยาลัยมหิดล	คณะวิทยาศาสตร์ ธรณีศาสตร์

อ้างอิงจาก URANK.INFO

---

PS.  PS. @*Graduate*@[==lloOChulalongkorn UniversityOoll==]@*Graduate*

Comments

[SynCyTiUM FoR$Z]

เอ๊ะยังไง....

[rrrr]

ไม่เอาโอกาสได้มั๊ย

ขออันดับแบบมีงานทำมากที่สุดในสายนี้

ปล.น้องๆโปรดใช้วิจารณญาณ อย่าเพิ่งเชื่อ หรือเลือกตามโพล ต้องเลือกตามใจชอบ
ไม่งั้นจะเสียใจ เรียนมหาลัยใครเลือกเพราะงานดี ตอนเรียนไม่มีความสุขหรอก ถ้าเรียนอันที่ไม่ชอบ

[~TaetaeLoVeR~]

ยังไงก็ไม่รุ้เหมือนกัน

พอดีได้มาจาก URANK หน่ะครับ

เลยเอามาให้ดูเล่นๆ

คาดว่าน่าจะคิดจากจำนวนคนที่ได้งานต่อคนที่จบในปีนั้นๆแล้ว

เอาเป็นเปอร์เซ็นต์มาเทียบแล้วเรียงลำดับ เช่น

ถ้ามีคนจบ 1 คนแล้วได้งานเลย = 100%

ถ้ามีคนจบ 4 คนแล้วได้งาน 3 คน = 75%

ถ้ามีคนจบ 40 คนแล้วได้งาน 24 คน = 60% อะไรประมาณนี้

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 5 เมษายน 2552 / 21:08

---

PS.  PS. @*Graduate*@[==lloOChulalongkorn UniversityOoll==]@*Graduate*

[มีน]

เราว่าที่จุฬา น้อยอ่ะ
เพราะคนเรียนเสร็จ ต่อโท ต่อนนอกกันก่อนอ่ะ - -

[~TaetaeLoVeR~]

อ่อแล้วก็จากที่ดู(ในโพลอ่ะ)

สาขาที่มีโอกาสมีงานทำมากที่สุดจะเป็นพวกที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมซะเป็นส่วนใหญ่นะครับ

ที่เหลือก็จะเป็นพวกที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีการอาหาร ธรณีวิทยา คอมพิวเตอร์ และก็พวกเคมีหน่ะครับ

---

PS.  PS. @*Graduate*@[==lloOChulalongkorn UniversityOoll==]@*Graduate*

[เด็กมหิดล]

มหิดล คณะวิทย์ไม่มีสาขา เคมีอุตสาหกรรมน่ะครับ

เรียนมา2ปียังไม่เคยเจอ

งงเลย

[ฝ้าย]

ใครตอนนี้ที่กำลังเสียใจกับการพลาดการเรียนต่อแพทย์แผนปัจจุบัน กรือ การสอบทางกสพท.อย่าเพิ่งเสียใจ จนทำอะไรไม่ถูก
ขอให้น้องๆอ่านบทความต่อไปนี้ ซึ่งจะเป็นอีกทางเลือกของว่าที่คุณหมอหลายๆคน  เขียนโดยนักศึกษาแพทย์แผนไทยประยุกต์ธรรมศาสร์

'''มารู้จักการแพทย์แผนไทยประยุกต์ให้ชัดจน''''


ตอนนี้คำนำหน้าชื่ออยู่ระหว่างมติ ของคณะกรรมการ ซึ่งเราต้องมีแน่ๆ แต่เป็นอะไรนั้นยังไม่ลงตัว
เท่าที่คุยกับอาจารย์ อาจจะเป็นแพทย์ แผนไทย แล้วตามด้วยชื่อเรา หรือจะย่อด้วย พท. อ่ะนี้ก็แล้วแต่ท่านคณะกรรมการอีกที
และการศึกษาของแพทย์แผนไทยประยุกต์ที่มธ.
มีการปรับปรุงหลักสูตร ให้อิงกับแพทย์แผนปัจจุบันมากขึ้น ในปี 52
หลักสูตรการเรียนหัตถเวช จะน้อยลง
และจะเน้นการรักษาแบบแผนปัจจุบันมากขึ้น แต่ยังการใช้ยาสมุนไพรไว้ รวมถึง การเรียนเภสัชกรรมไทยด้วย

ปัจจุบัน คนมักคิดว่า คำว่า"แผนไทย" คือการนวด แสดงว่าคณะนี้เรียนแต่นวด เป็น"หมอนวด" ใช่ เราคือ"หมอนวด"แต่ไม่ใช่เรียนแต่นวดอย่างที่ทุกๆคนเข้าใจ แล้วไม่ใช่หมอนวด แบบตามร้าน ที่เขียนว่านวดแผนไทย ผ่อนคลาย ความเครียด หรืออะไรก็แล้วแต่

แต่การนวดของเรา นวดเพื่อรักษา เป็นการนวดกดจุดแบบราชสำนัก ซึ่งหาได้น้อยคนมากนัก ที่จะนวดได้ถูฏตามหลักต้นฉบับ จะมีก็แต่ แพทย์แผนไทยผระยุกต์ เท่านั้น ที่จะสามารถทำได้ ซึ่งจะถูกฝึกมา จากท่านอาจารย์ โรงเรียนแพทย์อายุรเวชที่จบจากทางด้านนี้โดยเฉพาะ เพราะฉะนั้นเราไม่ต้องแคร์คำว่าหมอนวด เพราะยังไงเราก็คือ หมอ ที่มีดีดรีปริญญาตรี และใบประกอบโรคศิลป์ เป็นเดิมพัน ไม่ใช่หมอนวด 150 ตามสปาทั่วไป

การเรียนที่มธ. ดีจากที่อื่นอย่างไร

พี่มั่นใจว่า ไม่มีสังคมนศ.แพทย์ที่ไหน ดีเท่า มธ. ที่นี่รักกันฉันพี่น้อง ดูแลน้องในคณะดีเท่าเทียมกัน เพราะเราคือหมอเหมือนกัน
เราอย่าไปคิดว่า เค้าดีกว่าเรา มีค่ามากกว่าเรา เก่งกว่าเรา นั่นเพระเราเป็นคนไปยกเค้าให้สูงเอง ในความจริง เรากับเค้าเป็นหมอเช่นเดียวกัน ต่างกันเพียงแค่ศาสตร์ที่เรียน บางอย่าง เค้าก็ไม่รู้เท่าเรา และบางอย่างเราก็ไม่รู้เท่าเค้า ในการรักษาผู้ป่ายจิงๆ แพทย์แผนปัจจุบันนั่นหล่ะ ที่ต้องการเรามากที่สุด

น้องๆคงเคยได้ยิน ผู้ป่วยที่แพ้ยา และสารเคมี ซึ่งเราจะได้ยินเป็นประจำเวลาไปหามอ คุณแพ้ยาอะไรคะ?
นั่นหล่ะคือจุดอ่อนทางการแพทย์แผนปัจจุบัน

ในการรักษาแบบแพทย์แผนไทยประยุกต์ของเรา เราจะใช่ยาสมุนไพร ซึ่งบรรจุในรูปที่สามารบริโภค อุปโภคได้สะดวก และเปอร์เซนต์การแพ้ มีน้อยมาก หรือแทบจะไม่มีเลยทีเดียว

กว่าที่การแพทย์แผนตะวันตกจะเป็นที่ยอมรับนั้นก็ใช้เวลามิใช่น้อย และก่อนน่านั้น ผู้ที่รักษาผู้ป่วย นั่นคือ พวกเรา แพทย์แผนไทยประยุกต์นั่นเอง

ถ้าน้องๆ อยากเป็นผู้พลิกฟื้นการแพทย์ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สูญหายไปนาน ก็อย่าลืมตัดสินใจเค้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นหมอแผนไทยด้วยกันนะคะ

เป็นกำลังใจให้น้องๆทุกคนนะคะ ขอให้น้องๆโชคดี
น้องๆสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจาก
http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=143101
มีอะไรโทรมาถามพี่ได้นะ
พี่ฝ้าย ATTM 4 081-6674536

[ฝ้าย]

ใครตอนนี้ที่กำลังเสียใจกับการพลาดการเรียนต่อแพทย์แผนปัจจุบัน กรือ การสอบทางกสพท.อย่าเพิ่งเสียใจ จนทำอะไรไม่ถูก
ขอให้น้องๆอ่านบทความต่อไปนี้ ซึ่งจะเป็นอีกทางเลือกของว่าที่คุณหมอหลายๆคน  เขียนโดยนักศึกษาแพทย์แผนไทยประยุกต์ธรรมศาสร์

'''มารู้จักการแพทย์แผนไทยประยุกต์ให้ชัดจน''''


ตอนนี้คำนำหน้าชื่ออยู่ระหว่างมติ ของคณะกรรมการ ซึ่งเราต้องมีแน่ๆ แต่เป็นอะไรนั้นยังไม่ลงตัว
เท่าที่คุยกับอาจารย์ อาจจะเป็นแพทย์ แผนไทย แล้วตามด้วยชื่อเรา หรือจะย่อด้วย พท. อ่ะนี้ก็แล้วแต่ท่านคณะกรรมการอีกที
และการศึกษาของแพทย์แผนไทยประยุกต์ที่มธ.
มีการปรับปรุงหลักสูตร ให้อิงกับแพทย์แผนปัจจุบันมากขึ้น ในปี 52
หลักสูตรการเรียนหัตถเวช จะน้อยลง
และจะเน้นการรักษาแบบแผนปัจจุบันมากขึ้น แต่ยังการใช้ยาสมุนไพรไว้ รวมถึง การเรียนเภสัชกรรมไทยด้วย

ปัจจุบัน คนมักคิดว่า คำว่า"แผนไทย" คือการนวด แสดงว่าคณะนี้เรียนแต่นวด เป็น"หมอนวด" ใช่ เราคือ"หมอนวด"แต่ไม่ใช่เรียนแต่นวดอย่างที่ทุกๆคนเข้าใจ แล้วไม่ใช่หมอนวด แบบตามร้าน ที่เขียนว่านวดแผนไทย ผ่อนคลาย ความเครียด หรืออะไรก็แล้วแต่

แต่การนวดของเรา นวดเพื่อรักษา เป็นการนวดกดจุดแบบราชสำนัก ซึ่งหาได้น้อยคนมากนัก ที่จะนวดได้ถูฏตามหลักต้นฉบับ จะมีก็แต่ แพทย์แผนไทยผระยุกต์ เท่านั้น ที่จะสามารถทำได้ ซึ่งจะถูกฝึกมา จากท่านอาจารย์ โรงเรียนแพทย์อายุรเวชที่จบจากทางด้านนี้โดยเฉพาะ เพราะฉะนั้นเราไม่ต้องแคร์คำว่าหมอนวด เพราะยังไงเราก็คือ หมอ ที่มีดีดรีปริญญาตรี และใบประกอบโรคศิลป์ เป็นเดิมพัน ไม่ใช่หมอนวด 150 ตามสปาทั่วไป

การเรียนที่มธ. ดีจากที่อื่นอย่างไร

พี่มั่นใจว่า ไม่มีสังคมนศ.แพทย์ที่ไหน ดีเท่า มธ. ที่นี่รักกันฉันพี่น้อง ดูแลน้องในคณะดีเท่าเทียมกัน เพราะเราคือหมอเหมือนกัน
เราอย่าไปคิดว่า เค้าดีกว่าเรา มีค่ามากกว่าเรา เก่งกว่าเรา นั่นเพระเราเป็นคนไปยกเค้าให้สูงเอง ในความจริง เรากับเค้าเป็นหมอเช่นเดียวกัน ต่างกันเพียงแค่ศาสตร์ที่เรียน บางอย่าง เค้าก็ไม่รู้เท่าเรา และบางอย่างเราก็ไม่รู้เท่าเค้า ในการรักษาผู้ป่ายจิงๆ แพทย์แผนปัจจุบันนั่นหล่ะ ที่ต้องการเรามากที่สุด

น้องๆคงเคยได้ยิน ผู้ป่วยที่แพ้ยา และสารเคมี ซึ่งเราจะได้ยินเป็นประจำเวลาไปหามอ คุณแพ้ยาอะไรคะ?
นั่นหล่ะคือจุดอ่อนทางการแพทย์แผนปัจจุบัน

ในการรักษาแบบแพทย์แผนไทยประยุกต์ของเรา เราจะใช่ยาสมุนไพร ซึ่งบรรจุในรูปที่สามารบริโภค อุปโภคได้สะดวก และเปอร์เซนต์การแพ้ มีน้อยมาก หรือแทบจะไม่มีเลยทีเดียว

กว่าที่การแพทย์แผนตะวันตกจะเป็นที่ยอมรับนั้นก็ใช้เวลามิใช่น้อย และก่อนน่านั้น ผู้ที่รักษาผู้ป่วย นั่นคือ พวกเรา แพทย์แผนไทยประยุกต์นั่นเอง

ถ้าน้องๆ อยากเป็นผู้พลิกฟื้นการแพทย์ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สูญหายไปนาน ก็อย่าลืมตัดสินใจเค้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นหมอแผนไทยด้วยกันนะคะ

เป็นกำลังใจให้น้องๆทุกคนนะคะ ขอให้น้องๆโชคดี
น้องๆสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจาก
http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=143101
มีอะไรโทรมาถามพี่ได้นะ
พี่ฝ้าย ATTM 4 081-6674536