Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

โรคที่น่ากลัวของโอตาคุคือ......

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
โรคที่น่ากลัวกว่าโอตาคุ มันคือ.....
ขอบอกใว้ก่อนว่ามันเป็นโรคที่ทุกคนเป็นได้ แต่ว่าพวกโอตาคุจะเป็นเร็วกว่า

และผมขอสงวนนามทั้งหมดด้วย

เริ่มแรกครอบครัวผม พ่อแม่มักไปทำงานต่างจังหวัดบ่อยครั้ง  พ่อผมเป็นข้าราชการที่พอมีชื่อเสียง  สายงานของท่านมักไปทำงานต่างจังหวัดบ่อยมาก  ส่วนแม่ผมต้องไปด้วย

ผมกับพี่ชายมักจะอยู่กับป้าที่อายุมากกว่าพ่อมากกับลูกพี่ลูกน้องที่เป็นพี่สาวที่มีอายุห่างจากผมเกือบ10ปีอยู่ในบ้านเดียวกัน แต่แล้วป้าผมเสียประกอบกับพี่สาวผมได้เป็นอาจารย์ที่มหา’ลัยแห่งหนึ่งเลยมักไปอยู่ที่หอพักอาจารย์ ผมกับพี่เลยต้องอยู่แค่2คนตอนนั้นผมอยู่ม.5 ส่วนพี่ผมปี 3  

ผมเริ่มเป็นโอตาคุเมื่ออยู่ม.3 เพราะพี่ผมเขาเริ่มเป็นตอนเขาอยู่ม.5มั้ง เพราะว่านานมากเลยจำไม่ค่อยได้ แต่จำได้ว่าพี่ผมเป็นก่อน

พอผมเข้ามหาลัยได้แถมอยู่ที่มหา’ลัยที่มีชื่อเสียงมากแต่ว่าอยู่ไกลมาก ผมมักโทรกับพี่ชายบ่อยครั้ง นาน ๆ ทีผมจะกลับไปบ้านเป็นครั้งคราว

แต่มีช่วงหนึ่ง  น้ำเสียงพี่ผมเริ่มแปลกไป  ผมเคยลองถามแม่ในช่วงที่แม่กลับบ้านซึ่งตอนนั้นแม่เริ่มเลี่ยงที่จะพูดถึงพี่ชายผมแล้ว  

แล้วมีครั้งหนึ่งหลังสอบปีใหม่ผมมีเวลาหยุดยาวเลยอยากกลับบ้านสักครั้ง  ตอนแรกพี่สาวไม่อยากให้ผมมาบ้านเท่าใดนัก  พี่เขาไม่ยอมบอกเหตุผลตอนแรก  แต่สุดท้ายก็บอกว่าผมอาจช่วยพี่ชายได้  ผมไม่เข้าใจสิ่งที่พี่สาวพูดเลย แล้วนั่งคิดในรถตลอดเวลาว่ามันเกิดอะไรกันแน่

พอกลับบ้านไปพบว่าบ้านนั้นล็อคกุณแจเอาใว้  ไม่รู้เรียกว่าโชคดีหรือโชคร้ายผมมีกุนแจสำรองอยู่แล้ว  พอเปิดไป เหมือนไม่มีใครอยู่เลยจนกระทั้ง

"เหมียว!"  เสียงเจ้าอิจิโกะ  แมวที่ผมกับพี่เคยเก็บได้เมื่อปีก่อน มันมีสีขนขาวดำและมีลายคล้ายสตอเบอร์รี่เลยได้ชื่อนั้น  มันมาคลอเคลียผม   ผมเห็นว่ามันมีแผลคล้ายรอยถูกฟาดกับรอยมีดเล็กน้อย  มันไม่เคยอ้อนผมขนาดนี้มาก่อน  พอผมอุ้มมันไปห้องผมซึ่งติดกับห้องพี่ชาย มันรีบโดดหนีไปไกลมาก  เหมือนกลัวสุดขีด  ผมนั่งพักก่อนที่ห้องผม  พบว่าการ์ตูนกับฟิกเกอร์ที่เคยอยู่ที่ห้องผมได้หายไปกับคอมพิวเตอร์ที่ตั้งในห้องผมก็ได้หายไปด้วย  ผมได้ยินเสียงเพลงของอนิเมดังออกมาจากห้องพี่ชายผม  ผมเลยรีบเปิดห้องพี่ผมแต่มันล็อคอยู่

"พี่ นี่ผมเองพี่อยู่ในห้องใช่มั้ย" ผมพูดพร้อมเคาะประตู  ผมคิดว่าได้กลิ่นอะไรบางอย่างจนประตูแง้มออกมา
"แกเองเรอะ"พี่ผมจ้องมองผมมาจากช่องประตู"นึกว่าพวก'นั้น'ซะอีก  มะเข้ามาเลย"

สิ่งที่พี่ผมเห็นในห้องนั้นเหลือเชื่อมากเกินไป  มันยิ่งกว่าที่ผมเคยมาบ้านครั้งล่าสุด  ห้องนั้นกลิ่นอบอวลด้วยกลิ่นฮารท์ดีสไหม้ คอมตัวแรกของพี่ปิดอยู่กับคอมของผมซึ่งกำลังเล่นอนิเมการ์ตูนสาวน้อยอยู่  ฟิกเกอร์ที่มีขนาดต่าง ๆ กันวางเรียงรายอยู่บนโต๊ะ หนังสือการ์ตูนวางเรียงรายอยู่ใต้เตียง  ผ้าปูเตียง หมอน และหมอนข้างเป็นตัวการ์ตูนจากเรื่องต่าง ๆ ที่เหล่าโอตาคุชอบมาก  และโปสเตอร์ต่าง ๆ เต็มห้อง

"พี่ นี่มัน"

"สุดยอดใช่มั้ย แต่ขอโทษทีที่ต้องยืมคอมแก เพราะว่ามันโหลดไม่ได้ตลอด24ชั่วโมง เครื่องเฮงซวย"

"ไม่ใช่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่"

"ไม่มีอะไร แค่อยากเปลี่ยนอะไรนิดหน่อยให้มันเข้ากับฉันเท่านั้นเอง”

"หมายความว่าอะไรกัน"

"ก็แค่อยากลองสร้างสวรรค์บนดินเท่านั้นเองแหละ  แต่ดันมีมารมาทำร้ายพวกเธอนิดหน่อยน่ะ  เจ้าสัตว์นรกที่เราเคยเก็บมันมาเท่านั้นเอง"

"สัตว์นรก ? หมายถึงอิจิโกะเหรอ"

"ใช่ มันบังอาจมาทำร้ายพวกหล่อนน่ะสิ  ดูสิ"  เขาพูดพลางชี้ไปที่โปสเตอร์อันหนึ่งที่มีรอยแมวข่วน"เป็นแกคงเข้าใจนะความเจ็บปวดอันนี้"

"แต่ว่า  แล้วเรื่องงานล่ะ"

"ฉันก็ลองแต่งนิยายดูก่อน  เผื่อดังมาก็ได้รวยเอง  ไม่จำเป็นต้องไปทำงานแข่งกับพวกนั้นสักหน่อย  เห็นไหม  ไม่จำเป็นต้องไปทำงานเหมือนพ่อเลย"

"หมายความว่าพี่น่ะ  ไม่ได้ออกไปข้างนอกเลย"

"ถูกต้อง  น้องรัก"

"แล้วแฟนพี่ล่ะ  อย่าบอกนะว่า"

"ใช่ เราเลิกกันแล้ว  ยัยสามมิตินั่นมันไม่เข้าใจเราเลย  ไม่เหมือนพวกหล่อนที่เอาอกเอาใจเราเลย"แล้วพี่ผมก็จ้องมองอนิเมต่อพร้อมทำหน้าหื่นกระหาย แล้วผมก็เริ่มถอยห่าง

"อ่าว ไม่ดูด้วยกันหน่อยหรือ"

"ไม่ล่ะ" ตอนนั้นผมเผลอทำหน่าคล้ายขยะแขยงพี่ตนเอง

"หรือว่าแก ไม่สิ หรือว่าเป็นพวกนั้นปลอมตัวกัน"

"หมายความว่าอะไรกัน"

"ออกไปนะออกไป"แล้วพี่ที่เคยฝึกเทควอนโดก็ถีบผมซึ่งหนักเกือบร้อยกระเด็นออกนอกห้อง แล้วล็อคประตู ผมกำลังคิดเรื่องที่ผมเคยอ่านตอนว่าง ๆ พี่ผมอาจจะเป็น...

"เธอเห็นแล้วสินะ"ลูกพี่ลูกน้องที่เป็นพี่สาวผมเดินมาหา เธอเพิ่งกลับมาเมื่อกี้นี้เอง

"พี่ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่"

"คือว่า ขอเริ่มจากตอนที่พ่อเธอให้ไปฝึกงานน่ะ เธอก็รู้ว่าพ่อเธอน่ะเป็นคนยังไง เขากดดันพี่มากไป บวกกับถูกเปรียบเทียบกับพ่อเขาจากคนที่ทำงาน แถมยังมีคนล้อเลียนเกี่ยวกับเรื่องที่พวกเธอเป็นกัน แล้วสุดท้ายแฟนก็ทิ้ง เลยกลายเป็นแบบนี้ ตอนนี้น่ะ ไม่มีใครสามารถเข้าใกล้ได้เลย แม้แต่จิตรแพทย์ที่มารักษา พี่เลยได้แต่คองส่งอาหารใว้บนโต๊ะน่ะ" พี่สาวถึงกับนำตาร่วง

"ทำไมพี่ถึงไม่บอกผมล่ะ"

"เพราะพี่เห็นว่าเธอใกล้สอบเลยไม่กล้าบอก และน้า(หมายถึงแม่ผม)ไม่อยากให้เธอรู้อีก เพราะกลัวว่าเธอจะกังวลเกินไป"

"บัดซบเอ้ย!"

"เธอคงรู้สินะว่าพี่เธอเป็นอะไร"

"ครับ"

ไม่น่าเชื่อว่าโรคนี้จะเกิดกับคนในครอบครัวผมได้  ผมเคยอ่านเล่นในหนังสือต่าง ๆ กับการ์ตูนบางเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

พี่ผมไม่ใช่รายแรกและอาจไม่ใช่รายสุดท้ายที่เป็น ตอนนี้อาจยังไม่แพร่หลายเพราะยังไม่เป็นที่รู้จักนัก

ใช่แล้ว ตอนนี้พี่ผมเป็นโรคที่เรียกว่า

"ฮิคิโคโมริ"


PS.  คุณมีคลับอะยังถ้ายังไม่มีถ้าคุณชอบการ์ตูนไม่คิดจะมาเป็นสมาชิกในโอตาคุคลับหรอ^o^สนใจไปที่http://writer.dek-d.com/codenamekids/story/view.php?id=502841

แสดงความคิดเห็น

>

9 ความคิดเห็น

Pookpik_< 21 ต.ค. 53 เวลา 21:41 น. 1

อ่า =[]='' เราก็เป็นโอตาคุ จะเป็นมั้ยอ่ะ เเต่เป็นผู้หญิงอ่ะนะ

เเล้วก็มีคนที่เข้าอยู่เเล้วด้วย คงไม่เป็นไรหรอกเนอะ^ ^

0
○•แoบยิ้มคนเดียว•○ 13 ม.ค. 54 เวลา 20:46 น. 3
ใช่ถ้าเป็นเราเราจะโมโหมากถ้ามีเจ้าแมวมาทำร้าย 
 พวกเทอร์  แต่เราไม่อาจจะทำร้ายมันลงทำทำได้เพียง วีน แล้วโวยวายเสียงดัง

เราไม่ค่อยเข้าใจชีวิตของโอคาตุเท่าไหร่
แต่มีสิ่งหนึ่งที่เรา คือ โอตาคุ ไม่ใช่ โรคจิต

PS.  ลองดูมั้ยว่าความตายเป็นยังไง
0
โอตาคุ 14 มี.ค. 56 เวลา 07:11 น. 5

ผมเข้าใจพวกโอตาคุนะ ว่าถ้าติดการ์ตูนแล้วมันรู้สึกยังไง โดยเฉพาะการ์ตูนแนวฮาเร็มหรืออะไรที่เกี่ยวกับผู้หญิงหลายๆคนนะ มันทำให้เราหลงไหล ปลื้มในตัวละครนั้นๆ จนกระทั้งบ้าเลย และอาการที่ว่ามานี้ ผมก็เป้นมาแล้ว เพราะฉะนั้นหาอะไรหนุกๆทำดีกว่ามานั่งติดการ์ตูน เพราะฉะนั้นคุณจะกลายเป็น
"โอตาคุ โรคจิต"ไป

1

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

... 2 ก.ค. 63 เวลา 14:09 น. 7

ผมก็เคยลงไม้ลงมือกับหมาที่เลี้ยงไว้นะแต่ว่า"มันกัดตีนเรานี่หว่า"

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

Alok 16 ม.ค. 64 เวลา 21:08 น. 9

โอตาคุไม่ใช่พวกโรคจิต

....................................

แต่-ูเคยโดนเพื่อนด่าว่าบ้า

การ์ตูน

0