อัมพาตใบหน้า
มีใครเคยเป็น หรือกำลังเป็นอยูบ้าง
มันใช้เวลารักษานานไหม
แล้วหน้าจะเบี้ยวไหมอะ
ถ้ารู้บอกหน่อยน้า
เอามาฝาก
โรคอัมพาตใบหน้า
โรคอัมพาตใบหน้าคืออะไร?
โรคนี้เป็นโรคทางระบบประสาทที่พบได้บ่อยโรคหนึ่งซึ่งในปัจจุบันเรายังไม่ทราบสาเหตุแน่นอน แต่เชื่อว่าเชื้อไวรัสน่าจะเป็นตัวการสำคัญ โดยเฉพาะเชื้อเริม โรคนี้ถือว่าเป็นโรคที่ไม่รุนแรง แต่มักจะมีความผิดปรกติเกิดขึ้น โดยมีอัมพาตของกล้ามเนื้อใบหน้าซีกใดซีกหนึ่งเพียงซึกเดียว และมักมีอาการเกิดขึ้นแบบปัจจุบันทันด่วน โรคนี้มักจะก่อให้เกิดความวิตกกังวลอย่างสูงขึ้นกับผู้ป่วยเพราะกลัวว่าจะมีโรคอัมพาตหรือโรคหลอดเลือดสมองตามมา ซึ่งอาจทำให้เกิดความพิการจนเดินไม่ได้และต้องนอนอยู่เตียงตลอดไป
อะไรเป็นสาเหตุของโรคอัมพาตใบหน้า?
แม้ว่าในปัจจุบันเราจะยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงของโรคนี้ แต่ก็มีคนสงสัยว่าอาจเกิดจากเชื้อไวรัสตัวใดตัวหนึ่ง แต่จากการศึกษาค้นคว้าในปัจจุบันก็ยังไม่ยืนยันถึงข้อสนับสนุนว่าโรคนี้เกิดจากไวรัสชนิดใดชนิดหนึ่ง โดยเฉพาะล่าสุดมีการศึกษาจากญี่ปุ่นว่าเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคเริมเป็นสาเหตุใหญ่ของโรคนี้ อย่างไรก็ตาม ไวรัสตัวที่สามารถก่อให้เกิดอาการอัมพาตของกล้ามเนื้อใบหน้าได้แน่นอนคือไวรัสจากโรคงูสวัด แต่พบได้น้อยและไม่เรียกกันว่าเป็นโรค Bell palsy แต่ก็มีชื่อเรียกพิเศษต่างหากออกไปว่า Ramsay-Hunt syndrome โรคอัมพาตใบหน้าชนิดเบลล์นี้มีข้อมูลจากการศึกษาทางระบาดวิทยาพบว่าคนที่เป็นโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูงหรือสตรีในขณะตั้งครรภ์ มีอัตราความเสี่ยงกับการเกิดโรคนี้สูงกว่าคนปรกติทั่วไป
ลักษณะของโรคอัมพาตใบหน้ามีอะไรบ้าง?
ผู้ป่วยโรคอัมพาตใบหน้านั้นพบว่ามักจะเกิดอาการขึ้นแบบปัจจุบันทันด่วนหรือแบบทันทีทันใด และไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัวมาก่อน กล่าวคืออาจพบว่ามีอาการแสบตาข้างเดียวเพราะไม่สามารถปิดตาได้สนิทในเวลาถูกลม หรือมีอาการรับประทานอาหารแล้วน้ำลายไหลออกทางมุมปากข้างใดข้างหนึ่ง ต่อมาอาการของโรคอาจจะเป็นมากขึ้นจนปากเบี้ยวและปิดตาไม่สนิท จนสามารถสังเกตเห็นได้ชัดเจนเวลาผู้ป่วยพูด ยิ้ม หรือกระพริบตา บางรายอาจมีอาการมากจนไม่สามารถขยับมุมปาก หลับตา หรือยักคิ้วหลิ่วตาได้เลย บางคนมาพบแพทย์เพราะสังเกตว่าพูดไม่ชัดหรือผิวปากไม่ดัง หรือดูดโอเลี้ยงไม่ได้ เนื่องจากกล้ามเนื้อใบหน้าข้างใดข้างหนึ่งทำงานไม่ได้ดีเช่นปรกติ หลายคนบ่นว่ามีความรู้สึกเหมือนหน้าบวมหรือตึงและชาที่ใบหน้าครึ่งซีก ทั้งนี้เป็นเพราะเวลากล้ามเนื้อใบหน้าไม่ทำงานก็จะมีผลทำให้เลือดมาคั่งในบริเวณนั้นมากกว่าปรกติ และจะมีผลกระตุ้นต่อเซลล์ประสาทรับความรู้สึกที่บริเวณใบหน้า จึงเกิดลักษณะอาการชาขึ้นมาได้ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีการสูญเสียประสาทรับความรู้สึกที่ใบหน้าแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ยังมีอาการอื่น ๆ ที่อาจพบได้ในผู้ป่วยโรคอัมพาตใบหน้า เช่น
๒. อาการน้ำตาแห้งหรือไม่มีน้ำตาไหลข้างเดียวกับที่มีอัมพาตใบหน้า แต่บางรายกลับมีน้ำตาไหลออกมามากอันเนื่องจากมีการระคายเคืองจากลมหรือฝุ่นละอองที่มีผลต่อลูกนัยน์ตาที่ปิดไม่สนิท
๓. อาการมีเสียงดังในหูข้างเดียวกับด้านที่มีอัมพาตของใบหน้า
สรุป
โรคอัมพาตใบหน้าเป็นโรคทางระบบประสาทที่เกิดกับเส้นประสาทสมองคู่ที่ ๗ ซึ่งพบได้บ่อยในคนทุกอายุ ทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ และทุกเชื้อชาติ ในช่วงชีวิตหนึ่งของคนเรานั้น มีโอกาสที่จะเป็นโรคนี้สูงถึง ๑ ใน ๕๐๐ คน อย่างไรก็ตามโรคนี้ไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงหรือรุนแรงแต่อย่างใด และมักจะรักษาให้หายได้เกือบ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ภายในเวลาไม่เกิน ๒ เดือน ถ้าหากผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ถูกต้องอย่างรวดเร็วและทันเวลา โรคนี้ต่างจากโรคหลอดเลือดสมองซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดอัมพาตของร่างกายครึ่งซึก ซึ่งมักจะมีความพิการทางสมองตามมาอย่างถาวร แต่โรคอัมพาตใบหน้าเกิดจากเส้นประสาทสมองคู่ที่ ๗ ทำงานผิดปรกติอันเนื่องมาจากมีการบวมและขาดเลือดไปหล่อเลี้ยง โดยที่เรายังไม่ทราบสาเหตุของโรคที่แท้จริงในปัจจุบัน แต่เชื่อว่าเกิดจากเชื้อไวรัสเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นจึงขอให้ผู้ที่เป็นโรคนี้ตลอดจนญาติมิตรและพี่น้องของผู้ป่วยทั้งหลายคลายความวิตกกังวลใจไปได้ เพราะโรคนี้สามารถรักษาให้หายได้จนกลับมาเป็นปรกติเหมือนเดิมทุกประการ
PS. ~@~ไม่ผิดใช่ไหมที่ฉันยังรอเทอ~@~
4 ความคิดเห็น
ขอบคุณคับ ที่มาให้ความรู้ใหม่ๆ
*0*
น่า กลั ว นะ
PS. ห ล่อ ไม่ จริง อย่า หยิ่ง นะ ว้อ ย !!
โรคนี้สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้มั้ยคะรบกวนตอบหน่อยค่ะพอดีสามีเป็นอยู่ค่ะ
โรคนี้สามารถรักษาได้แฟนเป็นอยู่แต่ตอนนี้หายแล้วเป็นประมาณ 1 เดือน ไปหาหมอที่รพ.บางนา 2
หมอให้ยามาทานอาทิตย์นึงก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ เริ่มหายจากด้านบนก่อนที่ปากจะหาย สำหรับคนที่เป็นไม่
ต้องกลัวสามารถรักษาหาย เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?