ลับขั้นเทพ!!! สอบให้ติดแพทย์และทุกคณะ!!!
ตั้งกระทู้ใหม่
พี่ว่า ตามส่วนตัวพี่นะครับ
พี่เห็นน้องๆหลายคนกวดวิชาเป็นบ้าเป็นหลัง กวดแบบตั้งแต่เลิกเรียนยัน 3-4 ทุ่ม
พี่เห็นแล้วก็อดสงสารน้องๆไม่ได้ครับ และที่สำคัญเงินในการกวดวิชาแต่ละสถาบันถึอว่าต้องใช้ตังค์เยอะพอสมควรครับ
พี่จะบอกว่า ถ้าหนูตั้งใจเรียนในห้องเรียน และกลับมาทบทวนหนังสือสม่ำเสมอ
ย้ำนะครับ สม่ำเสมอคับ การเรียนทุกอย่างต้องอาศัยการสม่ำเสมอ นะครับ
ยกตัวอย่างอย่างพี่นะครับ
พี่ไม่ได้กวดวิชาเลยสักครั้ง เพราะพี่ไม่ใช่คนรวย แม่พี่ค้าขายครับ แต่พี่ก็ติดแพทย์ได้ครับ
เพราะพี่อ่านหนังสือทุกวัน และฝึกทำแบบฝึกหัด ยังไงการทำแบบฝึกหัดสำคัญมากๆครับ
ยังไง บางคนอาจจะไม่มีเงินหรืออะไรนานา และกลัวว่าจะไม่ติด พี่เลยกล้าบอกว่า
ทุกอย่างนั้นอยู่ที่ใจครับ ใจเท่านั้นครับ จงมุ่งมั่นพอครับ
พี่แนะนำตัวอย่างพี่ชายพี่นะครับ ขอเอ่ยนามนะครับ ชื่อพี่ดีครับ เป็นแพทย์ศิริราช (ตอนนี้ก็ intern เรียบร้อยแล้ว
พี่เขาบอกกับพี่ว่า
พี่ดีเป็นคนอ่านหนังสือทุกวัน เฉลี่ยวันละ 16-17 ชม. อ่านยังกับที่หนึ่งของประเทศครับ
พี่ดีไม่เคยกวดวิชาเลย ไม่เคยเสียตังค์ แต่พี่ดีจะใช้เวลาส่วนมากับการอ่านหนังสือ
พี่ได้คำหนึ่งจากพี่ดี ถ้าอยากติดอะไรหรือทำอะไร พยายามสร้างแรงกระตุ้นครับ
แรงกระตุ้นที่ดี จะนำเราไปสู่เป้าหมายครับ
และสุดท้ายพี่ดีบอกพี่ว่า
ขอแค่เราอ่านนนนนนนนน อ่านนนนนนนนนนนนน อ่านนนนนนนนนนนนนนน อ่านนนนนนนนนนนนนนน อ่านนนนนนนนนนนนน อ่านนนนนนนนนนนนนนน อ่านนนนนนนนนนนนนนน อ่านนนนนนนนนนนนน อ่านนนนนนนนนนนนนนน อ่านนนนนนนนนนนนนนน อ่านนนนนนนนนนนนน อ่านนนนนนนนนนนนนนน อ่านนนนนนนนนนนนนนน อ่านนนนนนนนนนนนน อ่านนนนนนนนนนนนนนน อ่านนนนนนนนนนนนนนน อ่านนนนนนนนนนนนน อ่านนนนนนนนนนนนนนน อ่านนนนนนนนนนนนนนน อ่านนนนนนนนนนนนน อ่านนนนนนนนนนนนนนน อ่านนนนนนนนนนนนนนน อ่านนนนนนนนนนนนน อ่านนนนนนนนนนนนนนน อ่านนนนนนนนนนนนนนน
คำนี้คงจะพอทำให้น้องๆเข้าใจ ว่าทำไมพวกพี่ถึงติดหมอได้นะครับ
ยังไงก็ลองหาแรงจูงใจและจงรีบลงมือทำ
ถ้าต้องการกำลังใจหรือคำแนะนำอะไรก็ปรึกษาได้ครับ
ที่นี่ครับ http://writer.dek-d.com/dr3imd/writer/view.php?id=520477
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 18 พฤษภาคม 2552 / 21:45
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 18 พฤษภาคม 2552 / 22:00
แก้ไขครั้งที่ 3 เมื่อ 18 พฤษภาคม 2552 / 22:42
แก้ไขครั้งที่ 4 เมื่อ 19 พฤษภาคม 2552 / 02:08
แก้ไขครั้งที่ 5 เมื่อ 19 พฤษภาคม 2552 / 02:10
แก้ไขครั้งที่ 6 เมื่อ 20 พฤษภาคม 2552 / 00:55
แก้ไขครั้งที่ 7 เมื่อ 20 พฤษภาคม 2552 / 01:16
แก้ไขครั้งที่ 8 เมื่อ 20 พฤษภาคม 2552 / 02:17
แก้ไขครั้งที่ 9 เมื่อ 21 พฤษภาคม 2552 / 23:28
PS. หมอทรีไอน้อย
122 ความคิดเห็น
เราติด นิติ จุฬาอะ
เรียนพิเสดแค่ตอนม.6 เทอม 2
เพื่อนเราเรียนตั้งแต่ม.2ถึงม.6
สอบได้ นิติ ที่ไม่ใช่จุฬาอะ
สู้ๆ นะ เพื่อนๆม.6
ปีสุดท้ายแล้ว !!
ผมก็ไม่ได้เรียนกวดวิชาอะไรเลยอ่ะครับ
อ่านเอาเอง เพราะคิดว่าเรียนไปก็ต้องกลับมาอ่านอยู่ดี
สู้อ่านเอาเองเลยไม่ดีกว่าหรอ
ทำความเข้าใจด้วยตัวเองมันน่าจะจำไปได้นานกว่าอะไรที่มีคนมายัดให้ไม่ใช่รึ
อยู่มหา'ลัยก็ไม่มีกวดวิชา ระวังจะปรับตัวไม่ทันล่ะถ้าเอาแต่กวดวิชาจนชิน
ตอนนี้ก็เรียนหมออยู่อ่ะครับ
ชอบสีที่พี่ใช้เป็นไฮไลท์พื้นหลังอ่ะ สวยดี
อ่านมากขนาดนั้นเชียวเรอะ เอาเวลาที่ไหนไปทำอย่างอื่นอ่ะ พี่
กวดก็ได้ ใช้เวลาน้อยกว่า
PS. กำ = ="Let's go to the temple to make merit
เรากวดยังโง่อ่ะ
ไม่ช่วยอะไรเลย 55555+
มหาลัยก็มีกวดน๊าค๊าบบบบบ ความคิดเห็นที่3
อือ ทำโจทย์เยอะๆ พวกคณิต อ่ะโปร
แต่สังคม ไทย เหนเพื่อนที่เรียนดาว๊องเขาก้อเก่งดี
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 20 พฤษภาคม 2552 / 23:07
เราก้เรียนกวดบ้างนิดหน่อย
แต่ก่อนสอบเดือนนึง
อ่านหนังสือหน่อย
วันละ12ชมเอง ขำๆ
แล้วสุดท้ายก้ติดหมอ ^^~
เราว่าถ้ากวดวิชาแล้ว ทำให้เรามีเวลาไปทำอย่างอื่น นอกเหนือจาก อ่านหนังสือเนี่ย เช่นเล่นกีฬา ทำกิจกรรม อะไรพวกนี้ ก็ดีกว่าน่ะ
อ่านหนังสือ 16 - 17 ชม เนี่ย บั่นทอน สุขภาพ นะครับ
ปล แต่ก็ไม่ใช่ว่า กวดวิชา จะดีนะ กวดแล้วไม่จำนานหรอก ใช้เสร็จ ลืม แต่อะไรที่อ่านเองหาเอง มันจะอยู่กับเรา นาน...
กวดวิชาเคยเรียนอยู่ 2 คอร์ส
ยอมรับว่าเราเรียนแค่2คอร์สเรายังเหนื่อยเลย 
เพื่อนที่เรียนเช้ายันเย็นนี่เก่งจริงๆ
แต่ก็จริงอย่างที่พี่พูดอ่านเองสำคัญกว่าอ่ะ
แต่ก็อดขี้เกียจไม่ได้ (ที่มาเล่นบอร์ดนี้ก็โดดเวลาอ่านหนังสือมาเล่น)
ต่อไปจะขยันมากกว่านี้ อีก1ปี สู้ๆ
ตอนนี้เราติดหมอแล้ว
แต่ก่อนสอบเอเนทเราไปกวดวิชาสังคมเสียเงินหลายตังค์อยู่
แต่ขอบอกไม่ตรงเลยคับพี่น้อง
เสียดายตังค์ของพ่อแม่จังเลย101
Intern ครับ....
เราก้อกวนวิชานะ
แต่จำมะได้สักกะตัวเลยยยยยยย
แต่ดีนะที่เรายังอ่านหนังสือ...มะงั้นสอบมะติดแน่ๆ
PS. สุ้ต่อไป...ทาเคชิ
เรากวดวิชาไป 3 วิชา
เรียนพิเศษแล้วก็ ต้องไปอ่านทบทวนเองด้วย มันถึงจะได้ผล
แต่เห็นเพื่อนบางคนลงมันทุกวิชา อันนั้นก็ไม่ไหว
แค่ 3 วิชาก็ขี้เกียจแล้วค่ะ เหอๆ - - ''
PS. รัก [Tamaki Hiroshi] คลั่ง [Hiro Mizushima] กรี๊ด [Arashi] ปลื้ม [Ueno Juri]
เราเรียนโปรแกรม ภาษาอังกฤษ อ่ะ ที่เรียกว่า อีพี (ไม่ใช่อินเตอร์นะ)
แต่เราไมได้อยากเข้า อินเตอร์ หรือไปต่อนอก
เราเลย "จำเป็น" ที่ต้องเรียน อย่างชีวะ บางคนไม่เคยเรียนเลย ก็ติดหมอ
แต่เราต้องเรียน เพราะเนื้อหา หลักสูตรที่เราเรียน ถึงจะเป็นเรื่องเดียวกัน แต่สอนลึกไม่เท่ากัน
เรากลัว จะ เอนท์ ไม่ติด เราเลยเรียน เลยเหมือนเราเรียนเยอะ
แต่คนที่เรียนเยอะกว่าเราก็มี เราหวังไว้สูง เราไม่อยากผิดหวัง
เราเลยเรียนๆๆ มันทั้งวัน แต่ก็แค่ เสาร์-อาทิตย์
วันธรรมดา ไม่ค่อยจะเรียน เนื่องจากก้ไม่ไหวเหมือนกัน
ส่วนเพื่อนเรา ในโปรแกรม เดียวกัน ส่วนใหญ่เรียนน้อยกว่าเรา
เพราะเค้าไมได้หวังไว้แบบเรา เค้าก็หวังพอประมาณ อ่านะ
ตอนนี้เราอยู่ ม.5 เราตั้งใจจะอ่านหนังสือตั้งแต่วันนี้
และก็จะพยามกวดวิชาให้น้อยลง..
กวดแล้วมันเข้าใจไวกว่า สำหรับเรานะ
แต่เราไม่ได้กวดวิชาจนเคยตัวอะ
เราเรียนแค่เท่าที่จำเป็น และคิดว่าไม่รู้เรื่องจริงๆ
แต่สุดท้ายก็ต้องกลับมาทบทวนอยู่ดีแหละ
แต่มันดีกว่าที่มีคนอธิบายให้ฟังไง
เพราะเราเคยลองแล้วอะ อย่างคณิตศาสตร์อะ
อ่านเอง เข้าใจยากมาก มึนไปหมด
คงแล้วแต่คนด้วยแหละค่ะ หัวสมองดีๆ ไม่จำเป็นต้องกวดเลย น่าิอิดฉา ไม่เปลืองตังด้วย
PS. โลกสดใสเสมอ อยู่ที่เราจะมอง
เราไม่ได้เรียนกวดวิชาเลยอ่ะ
คือถ้าไปเรียนกวดวิชามา แล้วไปนั่ง...ไม่สนใจที่เขาสอนก็จบ ไปเรียนแล้วไม่กลับมาทบทวน แบบฝึกหัดไม่ทำก็จบ
มันสำคัญที่ว่าจะเรียกวดวิชาหรือไม่ตามแต่เราต้องเอาใจใส่ต่อการเรียน ทบทวนบ้าง ไม่ใช่อะไรก็ไม่รู้...
กวดวิชา คณิต เคมี ฟิสิกส์
คณิตได้ผลหน่อย เคมีก็โอเค แต่ฟิสิกส์ไม่กระเตื้อง
แบบฝึกหัดทำแค่ pre test ข้อสอบย้อนหลัง กับทำในชั่วโมงกวดวิชา
หนังสือไม่ได้อ่าน ... (ยกเว้นสังคม ภาษาไทย ชีวะ เพราะสามวิชานี้โง่จับใจ)
แม้ไม่ติดแพทย์ แต่ก็นะ เลือกได้ ><~
บางทีการกวดวิชาก็จำเป็นครับ
อย่างคณิต อ่านเองก็ไม่รู้เรื่อง อาจารย์ในโรงเรียนสอนไม่รู้เรื่องก็คือไม่รู้เรื่อง (ผมเรียนมาตั้งกะ ม.2 ยัน ม.5 ไม่เคยรู้เีืิ่รื่อง ได้เกรด 0-1 ตลอด อ่านโจทย์ยังงงเลยมะรุมานให้ทำไร ไปกวดกับอาจารย์สมัยแค่ 3 เดือน เข้าใจทุกอย่างทะลุปรุโปร่ง)
เคมีอีกวิชา ที่ควรมีคนชี้แนะ เพราะให้อ่านเองมันซึมซับไม่ค่อยดีนัก
และสุดท้ายสังคมภาษาไทย ถึงจะอ่านให้ตาย จำได้ยังไงก็ตาม แต่ถ้าไม่มีแนวการคิดว่าควรตอบข้อไหน สิ่งที่เราพยายามก็เท่านั้น การไปกวดวิชาก็เป็นหนึ่งในวิธีที่ทำให้เราซึมซับสิ่งเหล่านั้นไปได้ อันนี้ประสบมากับตัวเอง เพราะสอบที่ผ่านมาขนาดว่าตอบตรงกับหนังสือแล้ว ก็ยังได้คะแนนน้อยเลย สังคมอะ
คนเรามีหลายแบบ
บางคนอาจจะถนัดในการฟังจากคนอื่นและวิเคราะห์ตาม หนังสืออาจจะไม่จำเป็น
บางคนอาจจะอ่านหนังสือเข้าใจง่ายและรักการอ่าน
บางคนอาจจะเข้าใจยาก จำเป็นต้องมีคนอธิบาย
บางคนอาจจะใช้วิธีจำจากการทำแบบฝึกหัดหลายๆรูปแบบ และจำแนวของมันไว้
บางคนอาจจะอ่านไม่เข้าใจ ใครอธิบายไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง
บางคนอาจจะถนัดการฟังแล้วจดเลคเชอร์ แล้วกลับมาอ่านอีกรอบ
เลือกวิธีการที่เหมาะกับตนเองที่สุดละกันครับ ทั้งนี้ก็ดูจากทรัพย์สินเงินทองด้วย ว่าพอดีพอเหมาะแค่ไหน การลงกวดวิชามากเกินความจำเป็น หรือการซื้อหนังสือมาทิ้งๆขว้างๆ ก็เป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุครับ บางคนหนังสือวิชาหนึ่งๆ เสียไป 2000 กว่าบาท เพิ่มอีกหน่อยก็พอหากวดวิชาได้แล้วก็มี แถมซื้อมาไม่อ่านก็มีเยอะ (ผมก็เป็นตัวอย่างนึง)
*เคยได้ยินตามหนังจีนมะ วรยุทธทุ่มฝึกสิบปี มิเท่าหนึ่งปราชญ์ดีแนะนำ (อาไรปามานนั้นอะ จำไม่ได้)
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 20 พฤษภาคม 2552 / 05:01
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 20 พฤษภาคม 2552 / 05:02
ออ ลืมบอกอีกอย่างอะ เรื่องกวดวิชาอะ อย่าง..
วิชาถนัดแพทย์ หากไม่ใช่พวกอัจฉริยะแล้ว ถ้าไม่กวดวิชา
ให้ตายยังไงก็แพ้คนกวดอะ ...
เพราะการเชื่อมโยงมีผลมากๆ พวกกวดวิชามักได้ 80+ กัน แถมฉบับสองคนที่กวดวิชาเค้าจะรู้วิธีตอบได้คะแนนเยอะๆ (วิธีเฟค ไม่ให้เสียคะแนน)
เพราะงั้นสุดท้ายมันจะวัดกันได้จริงๆก็แค่ฉบับแรกที่เป็นไอคิว สปีดเทสท์ แค่นั้นเอง
พวกกวดวิชาได้การเชื่อมโยงกัน 80-100 กันหลายคน ในขณะที่คนที่ไม่ได้กวดมีปัญญาเต็มที่แค่ 60-80 เท่านั้นเอง บางคนแค่เข้าไปอ่านโจทย์ก็หมดเวลาไปเยอะละ บางรายก็ฝนไม่ทัน ...
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?