Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

5 สถานที่ท่องเที่ยวสยองขวัญของญี่ปุ่น

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

                ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมที่ยาวนาน และมีสถานที่เก่าแก่มากมาย และสถานที่จำนวนหนึ่งก็เป็นสถานที่น่ากลัว สยองขวัญ สั่นประสาท และเรื่องเล่าลื่อว่า "ผีดุ" แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ได้ทำให้นักท่องเที่ยวลดน้อยลงหรอกนะ กลับกันมันก็กลายเป็นสถานที่ ที่หลายคนอยากลองไปสักคนในชีวิต เพื่อพิสูจน์ว่า "ผีมีจริงหรือ??"

 

                อันดับ 5 ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)

               

                ปราสาทฮิเมจิ เป็นปราสาทญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ เป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งที่เหลือรอดมาจากยุคสงคราม และได้รับให้เป็นมรดกโลกและสมบัติประจำชาติญี่ปุ่น และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ที่ชาวญี่ปุ่นชอบมาที่สุด

                ว่ากันว่าปราสาทแห่งนี้เป็นมีผีสิง เป็นวิญญาณทรมานของหญิงสาวที่ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมที่ชื่อ "โอกิกุ(Okiku)" ซึ่งที่มาก่อนที่โอกิกุค่อนข้างสับสน มีหลายเวอรชั่น ว่ากันว่าเธอเป็นสาวใช้ของอาโอยาม่า(Aoyama) และบังเอิญไปได้ยินความลับสุดยอดของเจ้านายเข้า และนำความลับไปเล่าให้คนรักของเธอฟัง ทำให้แผนการของอาโอยาม่าล้มเหลวในที่สุด เมื่ออาโอยาม่ารู้ว่าโอคิคุเป็นคนแอบได้ยินเรื่องแผนการ เป็นต้นเหตุทีทำให้แผนล้มเหลว อาโอยาม่าจึงวางแผนจะสังหารเธอซะ อาโอยาม่าจึงใส่ความโอกิกุว่า เธอขโมยจานที่ล้ำค่าไป 1 ใบซึ่งในชุดจานนั้นจะมี 10 ใบด้วยกัน โอคิคุถูกทรมานจนตาย และถูกทิ้งศพลงบ่อน้ำ

                
                จากนั้นเป็นต้นมาโอกิกุก็กลายเป็นผีนับจาน หรือ ซารายาชิกิ(Sarayashiki
) มันเริ่มขึ้นในสมัยเอโดะ ค.ศ.1590 วันดีคืนดี จะมีเสียง โหยหวนออกมาจากบ่อหน้าบ่อหนึ่งปราสาท โดยเสียงนั้นเป็นเสียงนับจาน1 ใบจนถึง 9 ใบ จากนั้นก็ร้องไห้หัวใจสลาย หรือมีดวงไฟวิญญาณพวยพุ่มออกจากบ่อน้ำยามค่ำคืน(นอกจากนี้ยังอ้างถึงบ่อผีสิงอีกแห่ง คือ บ่อน้ำของสวนในสถานทูตประเทศแคนาดาที่กรุงโตเกียว ซึ่งเดิมทีเป็นที่ดินของตระกูลอาโอยาม่า) และยังมีเรื่องผีๆ ในปราสาทแห่งนี้อีก เช่น ศาลเจ้าโฮซาตาเบะ ชินโต ที่ตั้งบนสุดของญี่ปุ่นว่ากันว่าเป็นที่สิงสู่วิญญาณของมิยาโมโต มูซาซิ หรือถ้าใครอยู่ภายในปราสาทประมาณ 4 โมง ถ้าไม่กลับออกปราสาทภายในเวลา 2 ชั่วโมง จะหลงทาง(เพราะมืดนี้น่า)

 

                อันดับ 4 โอซาระ(Osore)

               

                โอซาระเป็นอดีตภูเขาไฟในเขตอาโอโมริ ซึ่งถูกค้นพบในศตวรรษที่ 16 เป็นภูเขาหินที่ทบไม่มีสิ่งมีชีวิต เนื่องจากบริเวณแถบนั้นเต็มไปด้วยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซน์หรือก๊าซไข่เน่าที่ออกจากทะเลสาปโดยรอบ ซึ่งชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่ากันว่าเป็นดินแดนแห่งโลกวิญญาณเชื่อมต่อกับโลกมนุษย์

                ตามความเชื่อของญี่ปุ่นที่นี้เปรียบเสมือนประตูนรกที่คนตายและคนใกล้ตายจะมารวมตัวกัน โดยมีแม่น้ำสามสายไหลผ่าน กล่าวกันว่าหากเด็กคนไหนเสียชีวิตลงก่อนพ่อแม่จะถูกลงโทษฐานทำให้พ่อแม่ทุกข์ใจ วิญญาณของเด็กๆ เหล่านี้จะต้องเรียงหินก้อนเล็กๆ แต่ละก้อนเพื่อสร้างเจดีย์ แต่พอใกล้สำเร็จจะถูกปีศาจ "จิโซคากุ" ออกมาทุบทำลาย ทำให้เด็กเหล่านั้นไม่มีทางสร้างเจดีย์เสร็จได้

                ดังนั้น โอซาระแห่งนี้ จึงมีผู้นิยมนำของเล่นโบราณต่างๆ นาๆ เช่นกังหันเล็กๆ หรือขนมไปไว้บริเวณหอนหรือศาลเจ้าเพื่อสร้างบุญกับเด็กนั้นเอง

 

 

                อันดับ 3 ฮะชิมะ(Hashima)

               

                เกาะแห่งนี้ต้องเดินทางด้วยเรือจากฝั่งทะเลของเมืองนางาซากิ ออกไปประมาณ 15 กิโลกเมตร บนทะเลจีนตะวันออก จะพบเมืองเล็กๆ ที่ดูทันสมัย กลางทะเล แต่ถ้าเกิดมองลึกๆ จะพบว่ามันร้างอย่างน่ากลัว และได้รับการโจษจันว่าผีดุ!!

                ความเป็นมาดั้งเดิมของเกาะนี้  แต่เดิมเมืองนี้ชื่อ Gunkanjia หรือ Battleship Island เกิดขึ้นในยุคที่อุตสาหกรรมถ่านหินเฟื่องฟู ค.ศ. 1887 ก่อสร้างโดยบริษัทมิตซูบิชิ(Mitsubishi) ซึ่งใช้เป็นที่พักในลักษณะเมืองขนาดเล็ก มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับพนักงานจำนวนมาก มีทั้งอพาร์เมนต์ โรงเรียนประถม สนามเด็กเล่น โรงภาพยนตร์ บาร์ โรงพยาบาล ทว่า.......ในยุค 60 อุตสาหกรรมถ่านหินในญี่ปุ่นค่อยๆ ทยอยปิดตัวลง เนื่องจากถ่านหินหมอความนิยมจากการใช้พลังงานเชื่อเพลิงอย่างอื่น...จนกระทั่งปิดตัวลงอย่างถาวรในปี 1974...ทุกวันนี้เหลือเพียงแต่เศษซากของความรุ่งเรืองทิ้งไว้ให้ระลึกถึงอดีต

                
              ในเวลากลางวัน สถานที่แห่งนี้กลายเป็นที่ท่องเที่ยวสำหรับผู้สนใจ สัมผัสบรรยากาศสมัยก่อน ที่หลอนๆ นิดๆ ขนาดตอนกลางวันยังดูน่าหดหู่น่ากลัว ตอนกลางคืนยิ่งน่ากลัวหลายเท่าโดยเฉพาะในช่วงมรสุมหรือพายุเข้าชาวประมงมักเห็นแสงไฟจำนวนหนึ่งลอยละล่องวนเวียนเหนือตึกสูงทั้งๆ ที่ไม่มีไฟฟ้า และได้ยินเสียงน่ากลัวดังเหมือนกับโหยหาใครซักคนไปอยู่ด้วย!! " .....นอกจากนี้สถานที่นี้เคยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง "Battle Royale" และทีมงานก็ได้เจอสิ่งผิดปกติในกองถ่ายอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น "มีคนอื่นที่ไม่ใช่ทีมงานถูกถ่ายติดเข้ามาในฉาก" หรือไม่ก็ "ฟิล์มเสียทั้ง ๆ ที่เพิ่งใช้งาน" หรือแม้แต่นักแสดงบางคนถูกผีสิง!!

 

                อันดับ 2 อาโคคิกาฮาระ(Aokigahara)

               

                ญี่ปุ่นถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีสถิติคนฆ่าตัวตายเป็นอันดับต้นๆ ของโลกเพราะวัฒนธรรมของญี่ปุ่นมองว่า การฆ่าตัวตายเป็นทางเลือกที่มีเกียรติ(อย่างฮาราคีรีไงล่ะ) และสถานที่ชาวญี่ปุ่นนิยมไปฆ่าตัวตายที่สุดคือป่าอาโคคิกาฮาระ

                ป่าอาโคคิกาฮาระ มีชื่อเรียกอีกอย่างว่าจูไคซึ่งคนญี่ปุ่นเรียกขานว่า "ป่าฆ่าตัวตาย"สถานที่แห่ง อยู่บริเวณตีนภูเขาไฟฟูจิ มีพื้นที่ประมาณ 3000 เอเคอร์  ซึ่งเป็นจุดชมความงามของภูเขาฟูจิ แต่ขณะเดียวกันก็เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับคนที่คิดฆ่าตัวตายด้วยเช่นกัน โดยสถิตพบว่าสถานที่แห่งนี้มีคนมาฆ่าตัวตายเป็นอันดับ 2 ของโลก!!(อันดับหนึ่งคือสะพานโกลเด้นเกต(Golden Gate) เมื่อเดือนมกราคม ปีนี้ ตัวเลขคนฆ่าตัวตายอยู่ที่ 2,645 คน ซึ่งทำลายสถิตของปีที่แล้ว (2,305 คน) โดยจุดบริเวณที่คนชอบไปฆ่าตัวตายที่สุดคือจุดที่เรียกว่า "ทะเลป่า" ดยล่าสุด ชายวัย 46 ปีคนหนึ่ง ซึ่งถูกปลดออกจากงานที่โรงงานเหล็กแห่งหนึ่งและคิดว่า อนาคตที่เหลือนั้นมืดมน เนื่องจากขาดเงิน และตกอยู่ในสภาพหนี้ท่วม รวมถึงไร้ที่อยู่เพราะโดนไล่ที่อยู่ จึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย โดยเขาได้ซื้อตั๋วเที่ยวเดียว มุ่งหน้าไปยังป่าแห่งนี้ เมื่อไปถึงเขาก็เชือดข้อมือตนเอง แตแผลไม่ลึกพอที่จะทำให้สิ้นใจในทันที และต้องอยู่ในป่าลึกหลายวันในสภาพที่ร่างกายขาดน้ำ อาหารและเนื้อเยื่อถูกทำลายเพราะอากาศเย็นจัด สภาพที่เกิดขึ้นทำให้เขาอาจต้องเสียนิ้วที่เท้าขวา แต่ไม่ถึงขั้นเสียชีวิต เนื่องจากมีผู้มาพบเขาเสียก่อน

                
                และทำไมสถานที่แห่งนี้ถึงนิยมมาฆ่าตัวตายเหรอ ก็เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากนิยายเรื่อง "คุโรอิ จูไค(Kuroi Jukai)" รวมไปถึงภาพยนตร์เรื่อง "คิโนะอุมิ" ที่นำเสนอเรื่องราวของคู่รักคู่หนึ่งได้ฆ่าตัวตายในป่าแห่งนี้ ซึ่งปัจจุบันแห่งนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว กีฬากลางแจ้ง ท่องป่า ตั้งแคมป์ ซึ่งเวลาใครจะเดินทางมาที่นี้อาจจ๊ะเอ๋กับศพคนฆ่าตัวตายหรือวิญญาณร้ายก็ได้

               

อันดับ 1 โรงเรียน(School)

 

                แน่นอนโรงเรียนคือสถานที่ที่ชาวไทยอย่างเราๆ อยากไปสักครั้งในชีวิต ก็เพราะเวลาเราอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นแนวไหนๆ ก็ต้องมีโรงเรียนให้เห็นทุกครั้งจึงอยากจะสัมผัสว่าโรงเรียนญี่ปุ่นจะเป็นอย่างไร และแน่นอนทุกโรงเรียนของญี่ปุ่นมักจะมีเรื่องสยองประจำโรงเรียนที่เล่าจากรุ่นสู่รุ่น และที่น่าแปลกคือแทบทุกโรงเรียนจะมีเรื่องเล่าสยองขวัญ 7 เรื่องและแต่ละเรื่องแทบเหมือนกันหมดอย่างอัศจรรย์

                7 สิ่งสยองในโรงเรียนเป็นตำนานที่ช่วยเสริมบรรยากาศในโรงเรียนให้ชวนหลอน บวกกับสถานที่ที่ใช้งานมายาวนานและบรรยากาศยิ่งส่งผลให้ 7 เรื่องเล่าสยองขวัญในโรงเรียนกลายเป็นเรื่องที่หลายๆ คนอยากพิสูจน์ว่ามันมีจริงหรือเปล่า โดย7 เรื่องสยองในโรงเรียนที่ว่าก็มีต้นคาเมลเลียสีเลือดที่ว่ากันว่าต้นไม้ที่อายุ 100 ปีจะมีผีสิงอยู่, ผีลู่ว่ายที่4 ที่มีผีเด็กชายที่ตายในขณะว่ายน้ำในวิชาพละที่ลู่ว่ายที่ 4 , รูปปั้นนิโนมิยะ คินจิโย่เดินได้, บันได 13 ขั้นที่คอยจับเด็กที่พลาดเหยียบบันไดขั้นที่ 13 ลงไปยังโลกแห่งความตายพร้อมกับตน, ฮานาโกะประจำห้องน้ำ, ผีในห้องน้ำห้องที่ 2 อยู่อยู่ๆ ก็มีมือโผล่ที่ส้วมและลากเหยื่อลงไปบี้แบนที่รูส้วมตายอนาถ,สนามรบในสนามโรงเรียนที่วิญญาณซามูไรญี่ปุ่นโบราณยังทำการสู้รบอยู่ตลอดกาล,ซาโตรุคุง ฯลฯ

                
               โดยเฉพาะเรื่องฮานาโกะประจำห้องน้ำ นั้นเป็นเรื่องที่เด็กญี่ปุ่นนิยมท้าพิสูจน์มากที่สุด โดย
หากเราเดินเข้าไปในห้องน้ำของโรงเรียนตอนห้าโมงเย็นหรือกลางคืน ถ้าเดินไปที่ห้องที่ 3 แล้วเคาะประตู 3 ครั้ง แล้วพูดว่า "ฮานาโกะ มาเล่นกันเถอะ" หรือ "ฮานาโกะซังอยู่ไหม"ถ้ามีเสียงตอบกลับมาว่า ได้สิ แล้วถ้าเปิดห้องน้ำนั้นดูจะพบเด็กหญิงในห้องน้ำ....นั้นแหละคือเธอ...คุณฮานาโกะซัง

                 

            

 

(เนื้อหาบางส่วนจาก ตำนานอาถรรพ์สยองผีญี่ปุ่น ของกฤษฏา กฤษณะเศรณี)

(ดัดแปลงโดย อริสโตเติ้ล ปรสิต ปอตุกีส)

(ขอบคุณ หวายที่ส่งข้อมูลมาให้)



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 5 กรกฏาคม 2552 / 16:06

PS.  ทำดีร้อยครั้ง ไม่เท่ากับทำชั่วครั้งเดียว(ใช่เปล่าล่ะ)

แสดงความคิดเห็น

>

63 ความคิดเห็น

[Z]aViE[r]♪ 5 ก.ค. 52 เวลา 15:51 น. 1

มะ .. ไม่น่ามาอ่านเลย กลัวT^T!!!

ในห้องน้ำที่ไทยไม่มีใช่ไหม=_=;;
(กำลังอยากเข้าห้องน้ำ)


PS.  ขอโทษ...สำหรับทุกอย่าง...
0
Patora 5 ก.ค. 52 เวลา 16:05 น. 3

ลำดับที่ 1 แล้วถ้าเคาะแล้วมีเสียงออกมาต้องทำไงต่อ
ระหว่าง ...
1. ไปเล่นด้วย
2. เผ่น


PS.  โปรดใช้วิจารณญานในการอ่านความคิดเห็น...เพราะความคิดเห็นนี้มันบ้า!!
0
BIGBALL 5 ก.ค. 52 เวลา 16:08 น. 4
ผมว่าอันดับ 3 นี่น่ากลัวที่สุดแล้วนา  (ขนาดกลางวันยังหลอนซะ)

ว่าแต่ตามพวกอุโมงค์นี่เขาก็ว่าผีดุไม่ใช่เหรอ? พวกรายการชอบไปถ่ายกัน  บรื๋อ... สยอง...

PS.  ไม่ชอบ ไม่เม้นต์ ไม่เป็นไรครับ
0
แมวบ้าเฉยๆ 5 ก.ค. 52 เวลา 16:12 น. 5

เห้ยย ย

พี่แคมมี่หายไปไหนมาเสียตั้งนาน??

หรือคนหายคือแมวบ้า??

อืมม ม  มันก็น่าไปเที่ยวอยู่อะนะ

แต่เกรงว่ากลับมาสติจะไม่เต็มยิ่งกว่าเดิม


PS.  -l e a k m e d - ## - เ ล็ ค เ ม ท ท์-
0
Nuchii-chan! 5 ก.ค. 52 เวลา 16:22 น. 7

ฮานาโกะ...

ได้ยินมาบ่อย - -* ที่ไทยจะมีอย่างงี้ในห้องน้ำร.ร.บ้างมั้ยเนี่ย


PS.  จะหม่ำข้าวปั้นล่ะนะค้าาา~ >O
0
cammy 5 ก.ค. 52 เวลา 17:28 น. 8

ที่หายไปเพราะติดเกมส์สามก๊ก 11 -_-
&nbsp &nbsp  สัปดาห์ก่อนมีคนออนเอ็มให้ผมเส้อเกมโป๊ในเว็บไซต์หนึ่ง บอกว่า "SummerDays มันโครตเลย มาโคโตะบี้นางเอกมันสุด"
ตรูก็หลงเชื่อสิ ด้วยอารมณ์หื่น ผมสั่งเลยซื้อเกมส์ 3D CUSTOM GIRL และ SummerDays(300บาท) หวังจากหวังจะได้ดับอารมณ์หื่นๆ
&nbsp &nbsp  และเมื่อของมาส่ง(ส่งวันพุธ) ปรากฏว่าเมื่อเปิดแผ่นแล้ว ปรากฏว่าแผ่นมันไม่บอกวิธีติดตั้งง่ะ!!(ปกตินี้มันควรแถมวิธีติดตั้งด้วยนะ)
&nbsp &nbsp  แถมในแผ่นดันเป็นภาษายุ่นอีก โอ...........เวรกรรม ภาษาอังกฤษหน่อยก็ไม่ได้ เลยมานั่งงมๆ หาวิธีติดตั้งด้วยต้นเอง ทั้งวันเลยครับ งานการไม่ทำ บทความอะไรก็ไม่ได้ ทุ่มเวลาทั้งหมดเพื่อติดตั้งเกมโป๊ให้ได้
&nbsp &nbsp  สรุปคือติดตั้งแค่เกมเดียวอ่ะ 3D CUSTOM GIRL&nbsp กว่าจะติดตั้งได้ โง่ไปหลายรอบ
&nbsp &nbsp  SummerDays ขี้เกียจนั่งงม เลยไปถามเจ้าตัวดีที่มาบอกตรูซื้อ แต่มันไม่ยอมตอบง่ะ.....งอน บล็อกเ ม่ ง ตรูหาวิธีติดตั้งเองก็ได้
&nbsp &nbsp  จนบัดนี้ก็......5 วันแล้วครับ ที่ติดตั้งเกมส์ SummerDays ไม่ได้ อารมณ์หื่นหมด ว่าจะหยุดเล่นเน็ตสัก 5 วัน เอาคอมให้ร้านติดตั้งเกมส์นี้ให้ได้ ตรูจะดู.....แฮ่


PS.  ทำดีร้อยครั้ง ไม่เท่ากับทำชั่วครั้งเดียว(ใช่เปล่าล่ะ)
0
Gudomana 5 ก.ค. 52 เวลา 18:11 น. 11

ฮะชิมะนี่ดูหลอนๆดีแฮะ (แต่ก็น่าไปดี หึหึ)


PS.  ตัวเราไม่สามารถลากของหนักได้ด้วยตนเองแต่พวกเราสามารถลากของหนักได้ด้วยตัวพวกเราเอง
0
Demon-Er 5 ก.ค. 52 เวลา 18:26 น. 12

แบทเทิลรอยัลนี่ ทั้ง2ภาคเลยเปล่าเนี่ย??


PS.  ถ้าไม่มีขนมปังก็กินเค้กแทนสิ...
0
LittlePhantom 5 ก.ค. 52 เวลา 18:51 น. 13

ชอบอันดับสอง (ชอบ...?)
ฟังดูหลอนดี หึหึ

อันดับหนึ่งได้ยินบ่อยมากกกก ของเขาดังจริง


PS.  ความบ้า ไม่เคยปราณี มีมากจนล้นและทะลักออกมา ปกปิดเท่าไรก็ไม่มิด
0
BIGBALL 5 ก.ค. 52 เวลา 19:22 น. 14
คารวะท่านแคมมี่งาม ๆ ท่านช่างเป็นผู้ที่ทุ่มทุนและทุ่มเทให้กับ H-GAME โดยแท้...

ไม่แน่ใจว่าท่านใช้โปรแกรม DAEMON ด้วยหรือเปล่า? หรือไม่ก็ลองก็อปทั้งหมดจากแผ่นเอาไปไว้ในคอมก่อน แล้วลอง ออโต้ รันดูสิท่าน  (อินสตอลสองรอบ) ผมเคยใช้ได้กับเกมฝรั่ง (FALLOUT 3) แต่ไม่แน่ใจว่าใช้ได้กับ H-GAME ด้วยหรือเปล่า...

PS.  ไม่ชอบ ไม่เม้นต์ ไม่เป็นไรครับ
0
นวตา 5 ก.ค. 52 เวลา 20:45 น. 15

ปราสาทกับป่านั่น ทำให้เรานึกถึงเกม Fatal frame เลยแฮะ เหอๆๆ หลอนแต่มันส์


PS.  ♥ หัวใจของนักเขียน คือ ความสุขของผู้อ่าน ♥
0
เทราสเฟียร์ เอล เซราฟีเตอร์ 5 ก.ค. 52 เวลา 20:45 น. 16

ผลงานดีมีคุณภาพจากแคมมี่อีกแล้วครับท่่าน

เรื่องเกมภาษาญี่ปุ่น ให้หาโปรแกรม apploc (application localization) มาใช้นะครับ
ตอนกดจะลงเกม โปรแกรมจะหลอกว่าเราใช้วินโดวส์ภาษานั้นๆอยู่


PS.  In omnibus requiem quaesivi, et nusquam inveni nisi in angulo cum libro.
0
Do Ra Do 5 ก.ค. 52 เวลา 21:52 น. 17

เคยได้ยินแต่เรื่อง ฮะชิมะ
น่ากลัว ...ในห้องน้ำยังมี  งั้นปลดทุกข์ก็ไม่มีสุขน่ะสิ !!


PS.  ชูมือขึ้นแล้วหมุนๆ~
0
Kar'toonie 5 ก.ค. 52 เวลา 22:03 น. 18

น่ากลัวชิบบบ =___= อ่านแล้วไม่กล้าเข้าห้องน้ำหลายวัน..


PS.  ในวันนั้นที่เรายังมีกัน..ฉันก็ยังคงคิดถึงเธอจนถึงวันนี้.. ได้โปรดเถอะนะ..หายไปจากสมอง และหัวใจของฉันได้ไหม..?
0
chockiez 5 ก.ค. 52 เวลา 22:06 น. 19

อันดับ 1 ผิดคาดแฮะเฮีย
แต่ช็อกชอบอันดับ 3 อ่า ดูขลังดี :)


PS.  รั กตั วเ อ งเ ป็ นห รื อเ ปล่ า ? .. .ก่ อ นเ อ าใ จไ ปรั กใ คร ,, ถ้ ารั กตั วเ อ งไ ม่เ ป็ น ใค รจ ะรั กไ ด้ !?
0
WaSsEr 5 ก.ค. 52 เวลา 22:09 น. 20

ผมรู้สึกสงสารอันดับห้ามากเลยครับ ส่วนอันดับที่หลอนสุดๆสำหรับผมคงจะไม่พ้น " ป่าฆ่าตัวตาย " เพราะวิญญาณที่ฆ่าตัวตายนั้นจะไม่ถูกปลดปล่อย บึ้ยยย


PS.  Ich bin maechtiger WaSsEr, der Kampf bis zum Ende der Traum ist, den Tod zu akzeptieren.
0