Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เครื่องทรมานคนของไทย

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

เครื่องทรมานของไทย

1. ไม้บีบเล็บ
ลักษณะ เป็นไม้เนื้อแข็ง 2 อัน ปลาย 2 ข้างเป็นปุ่ม และ เรียวลงไปตอนกลางโป่ง ยึดปลายข้างหนึ่งไว้ด้วยเชือกให้แน่น เมื่อเอาบีบลงตรงเล็บผู้ที่ถูกสอบสวนแล้ว ก็เอาเชือกรัดขัน ปลาย อีกข้างหนึ่ง ให้แน่นแล้วใช้ค้อนไม้เนื้อแข็งทุบลงไป ตรงกลางที่วางเล็บไว้ ตามหลักฐานใช้สำหรับทรมานผู้ร้าย เวลาไต่สวนเพื่อให้รับสารภาพ ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่า เริ่ม ใช้สมัยกรุงศรีอยุธยาโดยกฎหมาย "พระอัยการ ขบถศึก" จุล ศักราช 796 (พ.ศ. 1978) เลิกใช้สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ (รัชกาล ที่ 5) โดยประมวลกฎหมายลักษณะอาญา ร.ศ.127 (พ.ศ. 2451)
  
2. ไม้บีบขมับ
เป็น เครื่องมือทรมานทำด้วยไม้เนื้อแข็ง มี 2 อัน ปลายข้างหนึ่งใช้ เชือกผูกไว้ส่วนปลายอีกด้านหนึ่งมีเชือกขันตรงกลางมีปุ่ม 2 ปุ่ม สำหรับ ใส่ตรงขมับทั้ง 2 ข้าง ละขันเชือกอีกปลายด้านหนึ่งให้แน่น กดขมับให้เจ็บปวดจนกว่าจะให้ถ้อยคำเป็นที่เชื่อถือได้ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่า เริ่ม ใช้สมัยกรุงศรีอยุธยาโดยกฎหมาย "พระอัยการขบถศึก" จุลศักราช 796 (พ.ศ. 1978) เลิกใช้สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ (รัชกาลที่ 5) โดยประมวลกฎ หมายลักษณะอาญา ร.ศ.127 (พ.ศ.2451)
  
 
3. ฆ้อนตอกเล็บ
ทำ ด้วยไม้แก่นปลายไม้ข้างหนึ่งแหลมใช้สำหรับใส่เข้า ไประหว่างเล็บและเนื้อแล้วใช้ฆ้อนตอกไม้ปลายแหลมเข้าไป ในเล็บปรากฏหลักฐานแน่ชัด ว่าเริ่มใช้สมัยกรุงศรีอยุธยา โดย กฎหมาย "พระอัยการขบถศึก" จุลศักราช 796 (พ.ศ. 1978) เลิก ใช้สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ (รัชกาลที่5) โดยประมวลกฎหมาย ลักษณะอาญา ร.ศ.127 (พ.ศ. 2451)
  
4. บทรมาน
ทำด้วยไม้เนื้อแข็ง มีลักษณะคล้ายบศพขนาดพอดีกับตัวคน ที่ฝาปิด
มี รูเจาะไว้ 2 รู เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณครึ่งนิ้ว สำหรับให้พอหายใจได ท่านั้น เมื่อเอาผู้ร้ายเข้าไปนอนในบ ปิดฝาแล้วจะพลิกหรือตะแคงตัว ไม่ได้อาจวางนอน หรือวางยืนไว้กลางแดดก็ได้ ร้อนจนอึดอัดแทบขาดใจ ตาย เป็นการทรมานเพื่อให้รับสารภาพ ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าเริ่มใช้ สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยกฎหมาย "พระอัยการขบถศึก" จุลศึกราช 796 (พ.ศ.1978) เลิกใช้ สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ (รัชกาลที่ 5) โดยประมวลกฎหมายลักษณะอาญา ร.ศ.127 (พ.ศ. 2451)
  
5. ไม้ขาหย่าง
เป็นเครื่องมือลงทัณฑ์ ซึ่งมักใช้เป็นโทษประจานให้ได้อาย มีลักษณะเป็นไม้
กลม 3 ท่อน ยาวท่อนละประมาณ 1.60 เมตร ปลายมีเหล็กแหลมหุ้มสำหรับเสียบ
ลงในดินให้แน่น ปลายอีกข้างหนึ่งใช้เชือกมัดรวมแล้วมัดผู้กระทำผิดไว้บนไม้สาม
ขา หรืออาจแขวนห้อยไว้ไม่ให้เท้าหยั่งพื้นถึง มีเจ้าหน้าที่ตีฆ้องร้องป่าว มิให้คนอื่น
เอาเยี่ยงอย่าง
  
6. เบ็ดเหล็ก
ใช้เพื่อลงทัณฑ์ผู้ต้องโทษโดยเกี่ยวเบ็ดเหล็กเข้าใต้คาง ปลายแหลม
ของ เบ็ดเหล็กเสียบทะลุคางถึงใต้ลิ้นแล้วชักรอกดึงรั้งคางของผู้ต้องโทษ ให้ตัวลอยขึ้นจนปลายเท้าลอยพ้นจากพื้นดิน โดยไม่ให้คางหลุดจากเบ็ด เหล็ก เบ็ดเหล็กนี้ทำด้วยเหล็กท่อนขนาด 4 หุน ปลายแหลมเหมือน เบ็ดตกปลา ยาวประมาณ 16 นิ้ว เริ่มใช้ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ตรงกับสมัยแผ่นดินของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 จุลศักราช 796 (พ.ศ. 1978) ซึ่งปรากฎใน กฎหมายพระอัยการขบถศึกและเลิกใช้ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ร.ศ. 127 (พ.ศ. 2451) เมื่อประกาศใช้ประมวลกฎหมายลักษณะอาญา
  
7. ตะกร้อลงโทษ (ตะกร้อช้างเตะ)
เป็นเครื่องมือลงทัณฑ์ มีลักษณะทรงกลมทำด้วยหวาย
เส้นสานกันห่างๆ หวายที่สานมีด้วยกันแผงละ 13 เส้น เส้นผ่า
ศูนย์กลางประมาณ 80 เซนติเมตร มีช่องขัดเสียบเหล็กแหลม
ลงไปช่องละ 6-9 ตัว วิธีการลงทัณฑ์จับคนโทษ ยัดใส่ตะกร้อ
แล้วใช้ช้างเตะให้เลียดกลิ้งไปกับพื้นเหล็กแหลมจะทิ่มแทง
ตามร่างกายให้ได้รับความเจ็บปวด ตะกร้อที่จัดแสดงไว้ที่
พิพิธภัณฑ์ ตามหลักฐานได้มาจากคุกเมืองโคราชหรือเรือนจำ
กลางนครราชสีมาปัจจุบัน
  
8. หวาย

เป็นเครื่องมือทรมานในการไต่สวนคนร้ายที่ถูกกล่าวหาให้รับสัตย์
(รับผิด) เริ่มใช้สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์และเลิกใช้สมัยรัชกาลที่ 5
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ร.ศ. 115 (พ.ศ. 2439) หวายที่ใช้ลงโทษผู้ต้อง
ขัง มี 3 ลักษณะ
  
8.1 หวายแช่น้ำแสบ (น้ำเกลือ)
ทำด้วยหวายขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เซนติเมตร ยาวประมาณ 1.10 เมตร ที่ด้านมือจับควั่นด้วยเปลือก
หวาย เส้น วิธีการทรมาน จับคนร้ายมัดหันหน้าติดพื้นหรือนอนคว่ำหน้ากับพื้นราชทัณฑ์จะใช้หวายแช่น้ำ แสบ (น้ำเกลือ) ที่เตรียมเอาไว้ หวดเฆี่ยนบนหลังคนร้ายตามกำหนดการเฆี่ยนใช้ นับเป็นยก "ยกหนึ่ง" หมายถึง
30 ขวับ จนกว่าคนร้ายจะรับสัตย์ (รับผิด)
 
8.2 หวายกระชากหนังกำพร้า
ทำด้วยหวาย 3 เส้นมัดรวมกัน แต่ละเส้นวันเส้นผ่าศูนย์กลางได้ประมาณ 1 เซนติเมตร ยาวประมาณ
1.25 เมตร ครึ่งปลายของหวายหุ้มด้วยเปลือกหวายขัด เพราะเปลือกหวายขัดนี่เอง เวลาหวดลงหวายไปแต่ละ ทีหนังกำพร้าจะหลุดติดออกมาเป็นริ้วๆ การนับก็เป็น "ยก" เช่นเดียวกับ หวายแช่น้ำแสบ
 
8.3 หวายสามแนว
ทำด้วยหวาย 3 เส้น แต่ละเส้นวัดเส้นผ่าศูนย์กลางได้ประมาณ 1 เซนติเมตรยาวประมาณ 1.25 เมตร
โดย เอาหวาย 3 เส้นมัดรวมกัน แค่ครึ่งหนึ่งของตัวหวายไว้เป็นที่จับ อีกครึ่งหนึ่งของส่วนปลายปล่อยเปลือย การเฆี่ยนตีหรือโบยด้วยหวายสามแนวเหมือนกับหวายแช่น้ำแสบ และหวายกระชากหนังกำพร้า

เครดิต: http://board.bodinzone.com/view.php?id=18493


กะจะตอบกระทู้นี้ http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1408301 แต่มันไม่ขึ้นสักที อะไรก็ไม่รู้ ตั้งกระทู้ใหม่ซะเลย -3-


PS.  -0- โอ้วเยวว~~!!

แสดงความคิดเห็น

>

17 ความคิดเห็น

ZtablE 9 ส.ค. 52 เวลา 09:35 น. 1

น่ากลัวมากครับ แต่ละอย่าง


PS.  ขอเชิญเพื่อนๆร่วมงานครบรอบวันเกิดร.ร.กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย 157 ปี ภายในงานพบคอนฯ Modern Dog และ Scrubb 2 ชั่วโมงเต็มครับ http://gunnerz157.hi5.com
0
Mayrifina 9 ส.ค. 52 เวลา 11:12 น. 2

ดีแค่ไหนที่เกิดมายุคนี้

(._.)

เฮ้อออออออ


PS.  ใช้เวลาที่มีอยู่ให้มีค่า ให้อยู่มีคนรัก จากไปมีคนอาวรณ์
0
ปลาคังน้อย 9 ส.ค. 52 เวลา 11:27 น. 3
อันที่ 6 น่ากลัวสุด  เอาเหล็กเกี่ยวคางเลยนะนั่น!!!

รองลงมาก็7 ตะกร้อช้างเตะ โหยย ไม่อยากคิดว่าจะซี้ดแค่ไหน

PS.  Come break me down
0
maii 9 ส.ค. 52 เวลา 11:28 น. 4

อ้าง อิง จาก กระ ทู้ เครื่อง ทร มาน ของ ต่าง ประ เทศ

เห็น ได้ ว่า

"คน ไทย ไม่ แพ้ ชาติ ใด ใน โลก"

-,,-104

0
อิอิ 9 ส.ค. 52 เวลา 11:37 น. 5

อืม ตะกี้ไปดูเครื่องทรมาน ของต่างประเทศมา

มีคล้ายกันบางอย่าง แต่น่ากลัวเหมือนกาน แฮะ

0
AnnArwine★ 9 ส.ค. 52 เวลา 13:34 น. 9

อื้ม น่ากลัวได้อีก สมัยก่อน
คงไม่ค่อยมีคนกระทำความผิดเท่าไหร่แน่เลย

เพราะเครื่องทรมานแต่ล่ะอย่าง
ชวนให้สยองเกล้าจริงๆ 

=[]="


PS.  I'm VIP★ [GD], ,, Too FAST To LIVE Too YOUNG To DIE. ๐___๐". . .
0
Nanuania 9 ส.ค. 52 เวลา 13:50 น. 10

"ชาติไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก"  จริงๆนะ

TT^TT

อ้างอิงจาก กระทู้เครื่องทรมาณของต่างประเทศเช่นกัน


PS.  ตะวัน พระจันทร์ ดวงดาว ทั้งสามมิอาจอยู่ร่วมกันได้ หากมีสิ่งใดปรากฏ อีกสิ่งหนึ่งจะกายไป
0
แค้นฝังหุ่น 9 ส.ค. 52 เวลา 14:49 น. 11
ลองคิดดูว่าถ้าเกิดพ่อแม่พี่น้อง หรือญาติ หรือคนที่คุณรัก เขาถูกใส่ร้าย แล้วถูกจับทรมานด้วยเครื่องพวกนี้ดูซิ
PS.  + เอนท์ไม่ติดคิดจนจะตาย
0
KIIMMIIE,, 9 ส.ค. 52 เวลา 15:21 น. 13

ส่วนมากมายกเลิกในสมัย ร 5 นะ  เป็นพระมหากรุณาธิคุณของท่านทีมีต่อชาวไทยมาก 
คนเมื่อก่อน กฎหมายมันแข็งไง บ้านเมืองเลยเป็นระเบียบ สมัยนี้นี่...

อยากเป็นนักกฎหมายจัง..จะแก้แบบถอนรากถอนโคนเชียว 55+
 


PS.  หากถามเรื่องชาติปางก่อนก็ให้ดูผลที่ได้รับในปัจจุบัน หากถามเรื่องชาติหน้าก็ให้ดูสิ่งที่กระทำในปัจจุบัน "พุทธดำรัส"
0
black_serpent 14 ส.ค. 52 เวลา 19:40 น. 16

น่ากลัวพอๆกับเครื่องมือต่างประเทศเลย

เห็นยกเลิกในสมัยร.5ทั้งนั้นเลยนิ

ดีจังไม่งั้นป่านนี้เราอาจจะใช้แบบเดิมอยู่ก็ได้

=[]=


PS.   หนทางไกลนับหมื่นลี้ เริ่มที่ก้าวแรกเสมอ
0