สัตวแพทย์ม.เทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก ได้การยอมรับจากสัตวแพทยสภา รึยังครับ??
ตั้งกระทู้ใหม่
เเล้วเปิดได้กี่รุ่นเเล้ว
เดียวต้องไปสอบ+สัมภาษณ์
ขอบขอบคุณเป็นอย่างสูง
(ไม่รู้เพื่อนๆๆจะรู้จักมหาลัยนี้หรือเปล่าเราถามใครเค้าก็บอกว่ามีด้วยหรอคณะสัตวเเพทย)
29 ความคิดเห็น
ตะวันออกมีด้วยหรอ
นึกว่าแต่ศรีวิชัย -*
หลักสูตรสัตวแพทยศาสตรบัณฑิต มีสถาบันที่เปิดสอน 10 แห่ง ดังนี้
1. คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
2. คณะสัตวแพทยศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์
3. คณะสัตวแพทยศาสตร์ ม.มหิดล
4. คณะสัตวแพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่
5. คณะสัตวแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น
6. คณะสัตวแพทยศาสตร์ ม.เทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก
7. คณะสัตวแพทยศาสตร์ ม.เทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
8. คณะสัตวแพทยศาสตร์ ม.เทคโนโลยีมหานคร (เอกชน)
9. คณะสัตวแพทยศาสตร์ ม.เวสเทิร์น (เอกชน)
10. คณะสัตวแพทยศาสตร์และสัตวศาสตร์ สาขาวิชาสัตวแพทยศาสตร์ ม.มหาสารคาม
เหมือนว่ารุ่นเราจะเป็นรุ่นที่2นะ รุ่นพี่บอกมา
แต่เราก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ รอผู้รู้มาตอบอีกทีนะ
ราชมงคลตะวันออกอยู่ที่ชลบุรีจ๊ะ บ้านเราเอง  ^^
รุ่นนี้รุ่นที่สองครับ
จะผ่านประเมินหรือไม่ พอรุ่น 53 เข้าไป ก็น่าจะรู้พอดีครับ ^^!
ยังไม่ได้รีบการรับรองจากสัตวแพทยสภาครับ
ทั้งหมด ทั้ง สี่มหาวิทยาลัยใหม่เลยครับ
ม.ราชมงคลศรีวิชัย
ม.ราชมงคลตะวันออกบางพระ
ม.เวสเทิร์น
ม.มหาสารคาม
(มีบางที่เพียงแค่ได้รับการรับรองจาก สกอ.)
เท่ากับว่าตอนนี้(ย้ำว่าตอนนี้) จะมีสิทธิ์ได้แค่ใบปริญญาสัตวแพทยศาสตร์บัณฑิต แต่ไม่มีสิทธิ์ได้รับใบประกอบวิชาชีพฯ(ใบประกอบโรคศิลป์)จนกว่าสัตวแพทยสภาจะรับรอง
ถ้าไม่มีใบประกอบโรคศิลป์ แล้วไปรักษา สัตว์ ก็ผิด กม.ครับ ถือว่าเป็นหมอเถื่อน
ถ้าคิดจะเข้าที่ใหนกรุณาศึกษาหาข้อมูลกันให้ดีๆก่อนนะครับ เพราะผมว่าสุดท้าย น่าจะไปจบกันที่ศาลปกครองครับ(เรื่องนี้ดูกันยาว)
ส่วน หกสถาบันเดิม ไม่มีปัญหาครับ
จุฬา เกษตร ขอนแก่น มหานคร เชียงใหม่ มหิดล
ผมว่า rep บน กล่าวแรงไปนิดนึงน่ะครับ
ลองไปอ่านข้อตกลงใหม่ของ สัตวแพทยสภาก่อนดีกว่า ที่เค้าว่าสถาบันใหม่ให้ยื่นประเมินใน 6 เดือน สถาบันเก่าใน 5 ปี
ปัจจุบันยังไม่มีสถาบันได้รับการประเมินให้สามารถสอบใบประกอบโรคศิลป์ได้ครับ ยกเว้นแต่จะเป็นนักศึกษาในสองรุ่นก่อน ที่จะได้รับใบประกอบทันทีที่จบการศึกษา โดยไม่ต้องสอบ
แล้วถ้าการที่ต้องสอบใบประกอบด้วยข้อสอบฉบับเดียวกันแล้วยังจะกีดกัน ทั้งๆที่มหาลัยอื่นผ่านเกณฑ์ก็น่าคิดครับ
แนะนำว่่า rep 5 ควรจะไปหาข้อมูลมากกว่านะครับ ...
ปล.ถึงจะเข้าหกสถาบันเก่า ถ้าสอบใบประกอบไม่ผ่านก็เท่านั้นครับ
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 6 ธันวาคม 2552 / 15:21
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 6 ธันวาคม 2552 / 15:47
เห็นด้วยกับคห.บนครับ
คห.ที่5 พูดเกินไปจริงๆ
ไม่ให้เกียรติสถาบันอื่น ไม่ให้เกียรติเพื่อนร่วมวิชาชีพเลยนะครับ
เปิดมาแค่ปีแรกแล้วจะให้สภารับรองเลย ไม่ว่าที่ไหนก็เป็นไปไม่ได้หรอกครับ
มีโอกาสแล้ว ก็อย่าปล่อยให้มันหลุดไป
เชื่อมั่นในความฝันของตัวเอง และเชื่อสถาบันที่เราจะฝากฝังชีวิตไว้ เท่านั้นก็พอครับ!
เอ...แต่ที่เรารู้มานะ ที่ๆยังไม่ผ่าานการรับรอง(แบบที่คห.5ว่ามาอ่ะ) ใบประกอบโรคศิลป์ต้องไปสอบเอง แต่มหาลัย'ที่ผ่านการรองรับมาแล้ว จะไม่ต้องสอบนี่คะ ประมาณว่าเรียนจบก็ได้เลย...ใช่ป่าวอ่ะ เหมือนเคยได้ยินแบบนี้ ถ้าผิดก็ขอโทษด้วยค่ะ
ตั้งแต่รุ่นปี 51 ขึ้นไป สอบทุกสถาบันครับผม
แต่ 50 ลงมาได้ใบทันที
สถาบันใหม่คือศรีวิชัยรับรุ่นแรก 51 ครับ เพราะงั้นตั้งแต่ศรีวิชัยเปิด จึงต้องสอบใบประกอบ
กรุณาอ่านแล้วทำความเข้าใจซะใหม่หรือ ต้องให้ หมอที่จบกฏหมายอย่างผม อธิบายให้ฟังเป็นรายคำรึไม่ครับ
ขอ ๑๐ ให สถาบั นยื่ นความจํานงตอสัตวแพทยสภาเพื่อขอรับรองปริ ญญาลวงหนาก อนถึง
กํ าหนดการเปดรั บนักศึกษาไมน อยกวา ๑๘๐ วัน มีรายละเอี ยดตามแบบรายการที่สัตวแพทยสภา
ประกาศกําหนด
สัตวแพทยสภามี อํ านาจที่จะไม รั บพิจารณารับรองปริญญา หากหลักสูตรที่สถาบันเปดดํ าเนินการ
รับนักศึกษากอนไดรับความเห็นชอบ
(ในความเป็นจริงตอนนี้มีมหาวิทยาลัยใดบ้างครับที่เปิดใหม่แล้วได้รับความเห็นชอบแล้วจึงเปิดรับนักศึกษา มีแต่รับเข้าไปเรียนก่อนทั้งนั้น)
ขอ ๑๕ ใหสถาบันที่ดําเนินการสอนในวิชาสั ตวแพทยศาสตร และมีผูสํ าเร็ จการศึกษาสาขา
สั ตวแพทยศาสตร มาแล วก อนข อบั งคั บนี้ ประกาศใช เป นสถาบั นที่ ได รับการรั บรองปริ ญญา
ตามข อบั งคั บนี้ และกําหนดให ความเห็ นชอบหลักสูตรเป นระยะเวลา ๕ ป นับแตวั นที่ขอบั งคั บ
ประกาศใช เวนแตสถาบันจะดําเนินการผิดไปจากมาตรฐานตามที่กําหนด 
(เท่ากับว่า 6 สถาบันเดิมยังคงได้รับการรับรองไปจนถึง ปี2557 ซึ่งเท่ากับว่ารุ่นสุดท้าย Vet72 หรือเด็กปี51 ที่คุณบอกว่าต้องขอการรับรองใหม่นั้นความจริงเค๊าได้รับการรับรอง)
ขอ ๑๖ ให หลักสู ตรใหมที่มี อยูแล ว แตยังไมได ผ านความเห็นชอบ และสถาบันใหมที่ยัง
ไมไดรับการรับรอง แตไดดําเนินการขอเปดหลั กสูตรไปแลวกอนขอบังคับนี้ประกาศใช ใหยื่นเสนอ
เพื่อขอรับรองปริญญา ภายใน ๑๘๐ วันนับแตวันที่ขอบังคับนี้ประกาศใช้  (เท่ากับว่าสถาบันที่เปิดใหม่ต้องขยันกันหน่อยนะเพราะนี่ก็ปาเข้าไป ร้อยห้าสิบกว่าวันละ)
ผมว่าคุณ MiChan คงจะเป็นคนที่ต้องไปอ่านซธใหม่มากกว่า แล้วถามตัวเองว่าอ่านกฏหมายแล้ววินิจฉัยออกรึไม่นะครับ
ผมถึงบอกไงว่าเค๊าหาทางออกไว้เยอะครับสัตวแพทย์สภา ส่วนว่าจะแข็งหรือจะอ่อน นั่นก็ว่ากันที่กรรมการชุดใหม่นี้
ที่มาจาก ราชกิจจาฯ
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2552/E/160/92.PDF
กรุณาอ่านแล้วทำความเข้าใจซะใหม่หรือ ต้องให้ หมอที่จบกฏหมายอย่างผม อธิบายให้ฟังเป็นรายคำรึไม่ครับ
ข้อ ๑๐ ให้สถาบันยื่นความจํานงต่อสัตวแพทยสภาเพื่อขอรับรองปริญญาล่วงหน้าก่อนถึง
กําหนดการเปิดรับนักศึกษาไมน้อยกว่า ๑๘๐ วัน มีรายละเอียดตามแบบรายการที่สัตวแพทยสภา
ประกาศกําหนด
สัตวแพทยสภามีอํานาจที่จะไม่รับพิจารณารับรองปริญญาหากหลักสูตรที่สถาบันเปดดําเนินการรับนักศึกษาก่อนได้รับความเห็นชอบ
(ในความเป็นจริงตอนนี้มีมหาวิทยาลัยใดบ้างครับที่เปิดใหม่แล้วได้รับความเห็นชอบแล้วจึงเปิดรับนักศึกษา มีแต่รับเข้าไปเรียนก่อนทั้งนั้น แต่ข้อนี้ก็ยังอาจยกเว้นได้เพราะในตอนที่เปิด ยังไม่มีข้อบังคับนี้)
ข้อ ๑๕ ให้สถาบันที่ดําเนินการสอนในวิชาสัตวแพทยศาสตร์และมีผู้สําเร็จการศึกษาสาขาสัตวแพทยศาสตร์มาแล้วก่อนข้อบังคับนี้ประกาศใช้เป็นสถาบันที่ได้รับการรับรองปริญญา
ตามข้อบังคับนี้และกําหนดให้ความเห็นชอบหลักสูตรเป็นระยะเวลา ๕ ป นับแต่วันที่ข้อบังคับ
ประกาศใช เว้นแต่สถาบันจะดําเนินการผิดไปจากมาตรฐานตามที่กําหนด 
(เท่ากับว่า 6 สถาบันเดิมยังคงได้รับการรับรองไปจนถึง ปี2557 ซึ่งเท่ากับว่ารุ่นสุดท้าย Vet72 หรือเด็กปี51 ที่คุณบอกว่าต้องขอการรับรองใหม่นั้นความจริงเค๊าได้รับการรับรอง)
ข้อ ๑๖ ให้หลักสูตรใหม่ที่มีอยูแล้วแต่ยังไม่ได้ผ่านความเห็นชอบและสถาบันใหม่ที่ยัง
ไม่ได้รับการรับรองแต่ได้ดําเนินการขอเปิดหลักสูตรไปแล้วก่อนข้อบังคับนี้ประกาศใช้ให้ยื่นเสนอ
เพื่อขอรับรองปริญญา ภายใน ๑๘๐ วันนับแต่วันที่ข้อบังคับนี้ประกาศใช้  (เท่ากับว่าสถาบันที่เปิดใหม่ต้องขยันกันหน่อยนะเพราะนี่ก็ปาเข้าไป ร้อยห้าสิบกว่าวันละ)
ผมว่าคุณ MiChan คงจะเป็นคนที่ต้องไปอ่านซธใหม่มากกว่า แล้วถามตัวเองว่าอ่านกฏหมายแล้ววินิจฉัยออกรึไม่นะครับ
ผมถึงบอกไงว่าเค๊าหาทางออกไว้เยอะครับสัตวแพทย์สภา ส่วนว่าจะแข็งหรือจะอ่อน นั่นก็ว่ากันที่กรรมการชุดใหม่นี้
ที่มาจาก ราชกิจจาฯ
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2552/E/160/92.PDF
ขออนุญาติ Edit ออกครับ ความเห็นแรงไปนิด
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 7 ธันวาคม 2552 / 16:19
มาโวยวายๆ เรื่องของชาวบ้านเค้าทำไม เอาเวลาไปนั่งเลี้ยงลูก เลี้ยงชีวิตตัวเองให้มันดีกว่านี้ดีว่าไหมครับ คุณหมอหมาหมอความ อะไรหน่ะ
นี้มันเรื่องของเด็กรุ่นใหม่เขา เขาจะทำอะไรมันก็ชีวิตของเขา คุณเป็นผู้ปกครองเค้าหรือเป็นบิดาแห่งวิชาชีพสัตวแพทย์ไทยหรือไงไม่ทราบ ถึงได้ชอบออกมาบงการชีวิตสถาบันอื่นเขา เด็กเขาก็มีความรัก มีความเชื่อมั่นในสถาบัน ในวิชาชีพของเขา แล้วคุณจะไปยุ่งอะไร ปล่อยเขาได้ต่อสู้ ได้เติบโตด้วยความภาคภูมิใจของเขาเองเถอะ ส่วนคุณก็เอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่มันมีสาระกว่านี้ดีกว่า  เพราะแทนที่จะแนะนำหรือให้กำลังใจกัน ไม่ชอบ ชอบขุดคุ้ยปัญหา เพื่อให้มันได้อะไรก็ไม่ทราบ ด้วยความหวังดีแด่มั้งรุ่นพี่และรุ่นน้องสัตวแพทย์ไทยครับพี่น้อง
คห.5  คะ ....
.
.
.
ขอโทษนะคะ...
.
.
.
ช่วยมองกลับมาที่ตัวคุณเอง
.
.
.
ว่าตอนนี้คุณดีแค่ไหนคะ...
.
.
.
ปริญญาช่วยอะรัยคุณได้บ้างคะ ถึงตัดสินใจคอมเมนต์อะรัยแบบนี้
.
.
.
หมอหมา หมอความ หรอคะ...
น่าจะมีความคิดอะรัยๆที่ดีกว่านี้นะคะ
เจ้าของกระทู้เค้าคงรุ้สึกแย่กับมหาลัยที่คุณกล่าวถึงนะคะ
มหาลัยเปิดใหม่เค้าก็ควรได้รับโอกาสสิคะ
แล้วอีกอย่างนะคะ
'คนที่จะเป็นสัตวแพทย์รึนักกฎหมายที่ดีได้ ไม่ได้อยู่ที่สถาบัน รึใบรับรอง แต่อยู่ที่คุณธรรมกับจรรยาบรรณ และจิตสำนึกลึกๆน่ะค่ะ'
.
.
.
ดิฉันว่าที่คณะเค้าน่าจะสอนนะคะ
รึคุณไม่ได้เข้าเรียนรึเปล่าเอ่ย...^^
ปล. สำหรับเจ้าของกระทู้นะคะ  ...สุ้ๆนะคะ อย่ายึดติดกับภายนอก รึคำพูดของคนอื่น ชีวิตเรา เราตัดสินใจจ๊ะ ^______^
เจ้าของกระทู้  เราก้อสอบติดโควต้าที่ มทร.ตะวันออกบางพระ คณะสัตวแพทย์ 
เรื่องยอมรับไม่ยอมรับเราก้อ งง เหมือนกัน
มันคงอยากที่จะทำอาชีพนี้ถ้าไม่มีใบประกอบ
1. คุณก็เป็นนายเฉยๆ ไม่ได้เป็น น.สพ หรืแ สพ.ญ เพราะไม่ผ่านการเป็นสมาชิกสภา
2. คุณไม่สามารถคุมฟาร์ม ร้านยาสัตว์ รักษาสัตว์ บำบัดโรค ได้
3. ไม่สามารถประชุม update ความรู้ได้
ความล้มเหลวไม่อยากให้น้องที่ไม่รู้อะไรมารับกรรมหรอกนะครับ ที่ชี้เเจงเพราะพี่เข้าใจคำว่าโอกาสเสมอ เเต่การที่จะมีโอกาสได้ก็จะมาจากการเเสวงหาโอกาสของตัวเองก่อน ดังนั้นการที่จะเข้ามาเป็นบัณฑิตสัตวเเพทย์เเละจบออกไปต้องใช้เวลาเรียนที่นาน เเละต้องอดทน สุดท้ายถ้าบัณฑิตที่จบออกมาไม่เป็นหลักเกณฑ์เดียวกันก็จะทำให้ประชาชนเสื่อมความศรัทธา ได้ น้องลองคิดดูครับว่าคนที่เขา Ent ติด จุฬา ธรรมศาสตร์ ทำไมถึงได้รับการยอมรับ ก็เพราะเขาต้องผ่านการสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่เข้มข้นเเละต้องอดทนอ่านหนังสือ ปี 1 ต้องตัดเกรดกับคณะเเพทยศาสตร์ เกรดไม่ถึงสองต้องซำชั้น  ฉันใดฉันนั้น ถ้าน้องจบมาในสถาบันที่ยังไม่มีรุ่นพี่ หรือพึ่งเปิดก็ต้องอดทนมากกว่ามอ ที่เปิดมาหลายปี เเต่ทุกอย่างอยู่ที่เป้าหมายในชีวิตของน้องว่าจะรักในอาชีพมากเท่าใด หากมีเป้าหมายที่ดีเเล้ว วางเเผนการเรียนที่ดี ก็คงจจะประสบความสำเร็จ เเต่ถ้าน้องวางเเผนผิด ก็อย่ามาเสียใจทีหลังนะครับ เพราะเขาเตือนไว้หมดเเล้ว
หลักสูตรสัตวแพทยศาสตรบัณฑิตในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองโดยสัตวแพทยสภา
สืบเนื่องจากกรณีของนักศึกษาวิทยาลัยพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา เข้าร้องเรียนเรื่องวิทยาลัยเปิดรับนักศึกษาและทำการสอนนักศึกษาทั้งที่หลักสูตรที่ใช้สอนไม่ได้รับการรับรองหลักสูตรจากสภาการพยาบาล ซึ่งเป็นสภาวิชาชีพ ในปัจจุบันวิชาชีพหลายอาชีพต่างมีสภาวิชาชีพของตนเอง อาชีพที่มีสภาวิชาชีพ ได้แก่ แพทยสภา สภาพยาบาล สภาเภสัชกรรม ทันตแพทยสภา สภาวิศวกร สภาสถาปนิก สภาเทคนิกการแพทย์ สภากายภาพบำบัด สภาทนายความ และอีกหลายสภาวิชาชีพ ซึ่งสภาวิชาชีพเหล่านี้เขาจัดตั้งขึ้นเพื่อควบคุมการประกอบวิชาชีพของเขาให้อยู่ในมาตรฐานแห่งวิชาชีพนั้นๆ รวมทั้งมีคุณธรรมและจริยธรรมของวิชาชีพนั้นๆ ด้วย แต่ละสภาวิชาชีพมีการกำหนดหลักเกณฑ์สำหรับผู้ประกอบวิชาชีพของตนเอง เช่น ต้องมีใบอนุญาตผู้ประกอบการวิชาชีพ มีมาตรการที่ให้ผู้ประกอบวิชาชีพได้มีการพัฒนาความรู้ให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา มีหลักคุณธรรมจริยธรรมของวิชาชีพ เป็นต้น สถาบันการศึกษาผู้ผลิตบัณฑิตในแต่ละสาขาวิชาชีพจึงต้องเป็นสมาชิกของสภาวิชาชีพนั้นๆ และหลักสูตรที่ใช้ในการผลิตบัณฑิตจำเป็นต้องได้รับการรับรอง และได้รับใบอนุญาตการประกอบการวิชาชีพนั้นๆ จากสภาวิชาชีพของตนเอง หรือมีกฎเกณฑ์ที่ต้องปฏิบัติให้สามารถสอบเพื่อให้ได้รับใบอนุญาตการประกอบวิชาชีพนั้นได้ ดังนั้นหากหลักสูตรวิชาชีพใดที่ไม่ได้รับการรับรองจากสภาวิชาชีพ จึงไม่ได้รับการรับรองมาตรฐาน และไม่สามารถประกอบวิชาชีพนั้นได้ตามกฏหมาย
                ปัจจุบันสถาบันการศึกษาเกิดขึ้นมากมาย และมีการแข่งขันกันสูงมากเนื่องจากเป็นธุรกิจการศึกษา ทำให้มีการเปิดการเรียนการสอนในหลายสาขาที่เป็นที่นิยม เพื่อทำให้สามารถรับนักศึกษาให้ได้มากที่สุด แต่ทั้งนี้สถาบันการศึกษาบางแห่งที่เปิดให้มีการเรียนการสอนโดยเฉพาะหลักสูตรวิชาชีพ (ซึ่งการประกอบวิชาชีพต้องได้รับใบอนุญาตการประกอบวิชาชีพก่อนจึงจะสามารถประกอบวิชาชีพได้ เช่น แพทย์ วิศวกร สัตวแพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล เป็นต้น) ไม่มีความพร้อม หลักสูตรไม่ได้รับการรับรอง หรือเงื่อนไขอื่นๆ เช่น ในสาขาวิชาชีพสัตวแพทยศาสตร์ สถาบันการศึกษาที่บัณฑิตต้องมีความพร้อมทั้งในส่วนคณาจารย์ผู้สอน มีส่วนนักศึกษาต่ออาจารย์ตามมาตรฐานกระทรวงศึกษา นั่นหมายความว่ามีอาจารย์อย่างเพียงพอกับจำนวนนักศึกษา มีสถานที่สำหรับการเรียนการสอนอย่างเหมาะสมเพียงพอสำหรับการฝึกปฏิบัติ เช่น การเรียนในห้องปฏิบัติการ มีโรงพยาบาลสัตว์เพื่อให้นักศึกษาได้ฝึกงาน ฝึกปฏิบัติบนคลินิก เป็นต้น
              เนื่องจากในช่วงเวลานี้นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายกำลังเตรียมตัวเพื่อเลือกสถานศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ข้อมูลในเรื่องเหล่านี้นักเรียนอาจไม่ทราบ เพื่อให้เกิดความกระจ่างและไม่เป็นปัญหาอย่างวิทยาลัยพยาบาลที่เกิดปัญหา จึงขอแจ้งให้นักเรียนทราบว่าหลักสูตรคณะสัตวแพทยศาสตร์ ในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองจากสัตวแพทยสภามีทั้งสิ้น 6 สถาบัน คือ
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร
Credit : http://www.vet.ku.ac.th/infonews/vet_interm.htm
ผม ติดสัตวแพทยศาสตร์ ม.ราชมงคลตะวันออก เนี่ย รุ่น2 กับติด ประมง ม.เกษตร T___T ใจรักทั้งคู่ เลือกยากจังครับ ไงก็ขอให้เจ้าของกระทู้ สมหวังน่ะครับ สู้ๆๆๆๆ ครับ^^
ราชมงคลตะวันออกเพิ่งเปิดได้ไม่กี่ปี แต่ตอนนี้ก็เปิดรับแล้ว คณาอาจารย์พยายามขยันให้มีการรับรองคนที่ไม่รู้เรื่องก็อย่าดูถูกสถาบันที่เพิ่งเปิดคณะไหม่สิ เกี่ยวกับสายแพทย์ ไม่ใช้ว่ามันจะเปิดกันได้ง่ายๆๆนะ ถึงจะเปนหมอรักษา สัตว์ ก็มีเกียรติ และชีวิตของสัตว์ทุกตัวก็มีค่าเช่นกัน
อยากเสนอให้ คณบดีสัตว์แพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชมงคลตะวันออก มาช่วยชี้แจง วางแผนเส้นทางการเติบโตของคณะสัตวแพทย์ (Road Map) ที่ให้ได้รับการรับรอง  เช่น แผนการสร้างโรงพยาบาลสัตว์  หน่วยงานหรือคลินิกที่ร่วมโครงการให้นักศึกฝึกปฏิบัติ  ส่วนอาจารย์สัตวแพทย์ต่อนักศึกษา(แผนการรับอาจารย์เพิ่ม) และอื่น ๆ ที่วางแผนไว้ 
      ผมในฐานะประชาชน  ผมยังเชื่อมั่น  สิ่งเหล่านี้ ทีมบริหารมหาวิทยาลัยฯ  ได้วางแผนไว้หมดแล้ว แต่ไม่ได้นำมาชี้แจง  ในสังคม จึงมีคนสะท้อนในแง่บวก และแง่ลบ เป็นกระจกเงา  โดยถ้าท่านมีแผนการที่ดี  ก็ออกมาตอบให้หายข้อสงสัย  ให้นักศึกษา และผู้ปกครองใช้วิจารณญาณในตัดสินใจที่ส่งบุตรหลานเรียน ขอให้ได้เรียนในสิ่งที่รัก เป็นคนดี  สร้างอาชีพ ช่วยประเทศในเจริญรุ่งเรือง  จะดีมาก
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?