พุทธทำนาย++
++พุทธทำนาย++
++
--
อานันทะ ดูก่อนอานนท์ หลังกึ่งพุทธกาลไปแล้ว โลกจะมีอันตรายที่ พระพุทธศาสนาจะทรงอยู่ได้ถึง 5000ปี/หรือ อภิญญาก็จะเกิด ในเมื่อมโนมยิทธิ และ/หรือ 1. 1.1 อย่าสร้างศัตรู 1.2 ความสุข 1.3 1.4 2. 2.1 2.2 ถอดรหัสพุทธทำนาย และ การเตรียมตัว บทความของ อ หน้า 2.3 2.4 จริง ต้องไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต จงทรงจิตของท่านให้มีความมั่นคงใน คุณพระรัตนตรัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ให้มีจิตยึด พระพุทธคุณ ให้ภาวนาว่า กำหนดการเข้าออกของลมหายใจ หายใจเข้านึกคำว่า เมื่อไร ก็ทำใจให้นึกถึงความดีขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ภาวนาว่า พุทโธ เป็น ปกติ อย่างนี้ได้ชื่อว่า เป็นผู้เข้าถึงไตรสรณคมน์ พุทธรัตน ธรรมรัตน และสังฆรัตน ทั้ง 3 ประการ จิตของท่านจะทรงสมาธิ อำนาจบารมีของพระพุทธเจ้า จะทำจิตใจของ ท่านให้เยือกเย็น มีความสุข อันตรายที่จะเกิดขึ้นกับท่านทั้งหลาย ก็จะพ้นภัยด้วย อำนาจของพระพุทธานุภาพ ธัมมานุภาพ และ สังฆานุภาพ ถ้าจิตของเรา ไม่นิยมในขันธ์ 5 หรือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร และ วิญญาณ ตัวเราแท้จริง ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราควบคุมไม่ให้แก่ ไม่ให้เจ็บ ไม่ให้ปวด ไม่ให้ตาย ไม่ได้ ทุกอย่างเกิดขึ้นแล้ว ย่อมต้องมีการเปลี่ยนแปลง และ ในที่สุดก็แตกดับ เป็นสามัญญลักษณะ เราเบื่อกายสังขารแล้ว เราไม่ต้องการอีก แล้ว จิตเราขอเกาะองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า พระองค์อยู่ที่ไหนเราจะไปที่นั่น ท่านะพ้นจากกิเลส จะเข้าถึงพระนิพพานได้ เช่น ทำการสวดมนต์ว่า นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธธัสสะ (3 จบ) พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระธัมมเจ้าเป็นที่พึ่ง สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระสงฆเจ้าเป็นที่พึ่ง จากนั้น ตาม ด้วยบท บทความของ อ หน้า อิติปิโส ภควา อรหังสัมมา .................................................................................... สวากขาโต ภควา .................................................................................................. สุปฏิปัญโน ภควา ................................................................................................ แล้วก็ภาวนาว่า พุทโธ ก่อนจะหลับทุกคืน ให้กำหนดการเข้าออกของ ลมหายใจ หายใจเข้านึกคำว่า พุท หายใจออกนึกคำว่า โธ และ เวลาตื่นนอน ใหม่ๆทุกวัน ให้ทำแบบนี้เป็นปกติ เวลาที่ยังตื่นอยู่ ถ้าคิดขึ้นมาได้เมื่อไร ก็ทำใจให้ นึกถึงความดีขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ภาวนาว่า พุทโธ เป็นปกติ ชีวิตท่าน จะรอดและปลอดภัย การเตรียมตัวรับมือภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ 1. ก่อนการเกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ 15 วัน โลกจะเอียงก้มหัวให้ดวง อาทิตย์มากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้น้ำแข็งจากขั้วโลกเหนือละลาย จะนำไปสู่คลื่นยักษ์ ถาโถมเข้าสู่แผ่นดิน 2. เกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่เป็นเวลา 49 วัน ในระหว่างเดือนตุลาคม พฤศจิกายน 3. ฝนตกครั้งใหญ่ทั่วโลก (ระยะชำระล้างเป็นเวลา 7 วัน) *ใน 3 วันแรกจะเกิดสงครามนิวเคลียร์ ที่ทวีปเอเชีย ในประเทศที่เป็นอริ ต่อกัน ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 1. เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ 2. พายุถล่ม 3. แผ่นดินแยก และ แผ่นดินไหว 4. ภูเขาไฟระเบิด (จังหวัดทางภาคกลาง 2 ลูก,ภาคเหนือตอนล่าง 3 ลูก, อีกทั้งที่จังหวัด ราชบุรี น่าน แพร่ เป็นต้น) 5. คลื่นยักษ์จากทะเลจะซัดเข้าชายฝั่งอย่างรุนแรง บทความของ อ หน้า 6. โรคระบาดที่สุดจะเยียวยา ได้แก่ Virusteria สายพันธุ์ 2012 , อหิวาตกโรคสายพันธุ์ใหม่ 2012 ผู้ที่ได้รับเชื้อจะเสียชีวิตทันทีภายใน 6 วัน 7. คลื่นเสียงที่รุนแรง ตั้งแต่เกิดมาในชีวิตของทุกคน ยังไม่เคยได้ยินเสียง ที่ดังขนาดนั้นมากก่อน 8. อดอยากขาดแคลนอาหารอย่างหนัก การเตรียมตัวเตรียมปัจจัยเพื่อตนเองและสมาชิกในครอบครัว 1. เตรียมอาหารและน้ำดื่มไว้ที่บ้านอย่างน้อย 3-6 เดือน 2. เครื่องนุ่งห่มเพื่อความอบอุ่นของร่างกาย ได้แก่ เสื้อผ้า กระเป๋าน้ำร้อน ผ้าห่ม ฯลฯ เพราะในช่วงเวลานั้นอากาศจะหนาวเย็นยะเยือกจับขั้วหัวใจ จะมีหิมะ ตกในภาคเหนือ และ ภาคอิสาณ 3. เครื่องใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน 4. ที่อยู่อาศัยที่มีความพร้อมที่ปลูกพืชเป็นอาหาร ปลูกสมุนไพรใช้ในการ รักษาโรค 5. ยารักษาโรคประจำตัว และ ยาสามัญประจำบ้าน ที่ทำการผลิตไม่นาน ยังไม่หมดอายุ 6. ด่างทับทิม หรือ โซเดียม ไบคาร์บอเนต และ คาราไมล์ (จำเป็นมาก) ห้ามกินอาหารที่ไม่ได้ล้างด้วยด่างทับทิม หรือ โซเดียม ไบคาร์บอเนต เพราะจะมีทั้ง เชื้อโรค และ สารกัมมันตรังสี ส่วนคาราไมล์ จะมีไว้รักษาโรคทางผิวหนัง ที่ดู เหมือนจะยากต่อการรักษา แต่เมื่อทาคาราไมล์แล้ว จะหายคันได้อย่างน่าอัศจรรย์ ในช่วงนั้น 7. ยานพาหนะ เช่น เรือ เสื้อชูชีพ รองเท้ายางบู๊ท 8. เครื่องช่วยชีวิตอื่นๆ 9. สิ่งที่ให้ความสว่าง เช่น เทียน ตะเกียงเจ้าพายุ (เวลานั้นท้องฟ้าจะมืด มิด 7 วัน 7 ราตรี หรืออาจยาวนานถึง 49 วัน ไฟฟ้าจะดับทั่วโลก เป็นเหตุให้มีคน ตายทั่วโลกถึง 6,000 ล้านคน เพราะความหนาวเย็น และ ไม่มีอาหารให้กิน ไม่มีน้ำ ให้ดื่ม) 10. เตรียมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง โดยเฉพาะพลังจิตที่เข้มแข็ง ผู้ฝึก ปฏิบัติกรรมฐานที่ได้ฌานสมาบัติ หรือ ได้มโนมยิทธิ หรือ ได้อภิญญา จะอยู่รอด ได้ทุกคน จึงจำเป็นต้องฝึกกรรมฐานกันตั้งแต่วันนี้ และ เดี๋ยวนี้ เพื่อให้มีความ คล่องแคล่ว มีความชำนิชำนาญ ในการเข้า-ออก จากฌาน ได้ในทุกขณะจิต บทความของ อ หน้า การดุแลตัวเองในช่วงวิกฤติ 1. ห้ามออกนอกบ้านโดยเด็ดขาด ใครมาเคาะประตูบ้าน ก็ห้ามเปิด ไม่ ว่าคนนั้นจะเป็นญาติสนิท หรือ คนที่เรารู้จักก็ตาม เพราะช่วงดังกล่าวมาร และ ซาตาน ปลอมแปลงออกล่าวิญญาณจองคนให้มาเป็นสาวก โดยมากันในหลาย รูปแบบ 2. ห้ามตากฝน เพราะในฝนจะมีพิษ ทั้งเชื้อโรค และ สารเคมีที่มนุษย์ สร้างขึ้น 3. ห้ามลุยน้ำ หรือ แช่น้ำนานๆ แต่ถ้าหลีกเลียงไม่ได้ ต้องใช้ด่างทับทิม หรือ โซเดียม ไบคาร์บอเนต ล้างทุกครั้ง 4. ห้ามเปิดประตูต้อนรับผู้อื่น เพราะช่วงเวลานั้น ประตูมิติของโลกทั้ง 3 ภพ จะถูกเปิดเป็นครั้งแรก ผู้ไม่เชื่อเรื่องผีสาง จิตวิญญาณ ก็จะได้เห็น คนที่มา เยือนอาจเป็นผีเปรต ผีโขมด ที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของเรา จำแลงมาก็เป็นได้ และห้ามอยากรู้อยากเห็นโดยเด็ดขาด 5. ห้ามกินเนื้อสัตว์ทุกชนิด 6. ห้ามกินผักที่ยังไม่ได้แช่ด่างทับทิม หรือ โซเดียม ไบคาร์บอเนต 7. ฝึกการกินน้อย ใช้น้อย ตั้งแต่ยังมีสิ่งของให้กิน ให้ใช้อย่างเหลือเฟือ 8. อากาศในอนาคตนั้น จะหนาวเย็นจนปวดกระดูกแน่นอน 9. ระวังสัตว์เลื้อยคลานที่มีพิษต่างๆ เช่น งูพิษ ตะขาบ แมงป่อง จระเข้ เป็นต้น 10. ห้ามอยู่ตึกสูงเกิน 3 ชั้น เพราะตึกสูงเกิน 3 ชั้น จะพังทลายราบเป็น หน้ากลอง การเตรียมจิตวิญญาณ 1. ชำระกรรมให้เบาบางโดย หยุดโลภ โกรธ หลง ทำจิตใจให้สงบเบิกบาน เพราะวันนั้น จะมีผู้ที่เส้นโลหิตในสมองแตก เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เพราะเสียงที่ ดังกึกก้องไปกระตุ้นเส้นเลือดในสมองให้แตก ดังนั้น ต้องฝึกฝนการปล่อยวาง ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ค่อยๆปล่อยวางวันละเรื่อง สองเรื่อง พยายามทำจิตให้เป็น บวก จะช่วยได้มาก 2. มีสำนึกทางจิตวิญญาณ 3. ฝึกการละวางในสิ่งที่มิใช่อริยทรัพย์ บทความของ อ หน้า 4. 5. ละเมิดแก่เรา การปฏิบัติตนในขณะเกิดมหันตภัย 1. รับรู้ ไม่รับเห็น ไม่รู้ ไม่ชี้ ไม่ว่าจะได้ยินเสียง คนข้างบ้านร้อง เพราะกำลังจะตาย หรือ ได้ยินเสียงใดที่น่าหวาดกลัว ต้องได้ยินแล้วปล่อยผ่านเลยไป หากละวาง ไม่ได้จะเกิดอาการ 2. พูด และ การกระทำ ตลอดเวลา 3. หากฝึกได้มโนมยิทธิ หรือ ได้อภิญญา หรือ ได้อารมณ์ที่เป็นฌาน สามารถไปพักที่ สวรรค์ หรือ พรหมชั้นหนึ่งชั้นใดก่อนได้ ตนกว่า สถานการณ์คลี่คลาย หรือ หา กิจกรรมอื่นทำ เช่น อ่านหนังสือธรรมะ เพื่อให้จิตเป็นบวกเกิดความอิ่มเอิบ เป็น ต้น 4. ทราบก่อนนาทีวิกฤติจะเกิดขึ้น ลางบอกเหตุก่อนเกิดมหันตภัย ครั้งใหญ่ ท้องฟ้าจะมืดมิดผิดปกติ ใบไม้จะพลิกคว่ำพลิกหงายให้เห็นมากผิดปกติ และดูหดหู่ สัตว์ทั้งหลายจะไม่ปรากฏกายให้เห็นตามปกติ แต่ถ้ามีสัตว์เลี้ยงอยู่ใน บ้าน จะเห็นมันวิ่งลุกลี้ลุกลนทุรนทุรายอย่างผิดปกติ หรือ บางตัวจะนอนนิ่งน้ำตา ซึม อย่างที่ท่านไม่เคยพบเห็นมาก่อน สำหรับวันเวลาที่แน่นอน นั้น ในขณะนี้ ยังไม่เป็นที่ชัดเจน แต่มีความ เป็นไปได้สูงว่า ไม่เกิดในปี กรรมของสัตว์โลก ด้วยมหันตภัย ทางดิน น้ำ ลม ไฟ โรคระบาด และ อุบัติภัย รวมทั้ง การทำศึกสงคราม สำหรับเมืองไทย ท่านไหนที่ขยันหมั่นเพียรรักษาศีล ภาวนา ก็จะได้มี โอกาสอยู่ในยุคใหม่ต่อไป ส่วนท่านที่ยังไม่มีศีลธรรมพอ ก็คงต้องไปตามวิถีกรรม บทความของ อ หน้า ของตนเอง ในยุคต่อไป อเมริกา อังกฤษ ฯลฯ จะต้องมาพึ่งพาอาศัยไทย ประเทศไทย จักเป็นศูนย์กลางสำคัญของโลกในหลายๆเรื่อง จะเป็นศูนย์กลางของ พระพุทธศาสนาโลก ในปัจจุบัน ผู้ที่เป็นครูบาอาจารย์ท่าน ได้ช่วยแก้ไขปัญหาเลวร้ายต่างๆ อยู่อย่างเงียบ ๆ ครูบาอาจารย์ท่านเคยเปรย ๆ ให้ฟังว่า สำหรับผู้ทำบารมีเข้มข้น แล้วนั้น ดังบ่ดี ดีบ่ดัง จากที่ครูบาอาจารย์ท่านเล่าสู่กันฟัง สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ ไม่มีใครที่จะสามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะกรรมเป็นตัวกำหนด และยุคพระยา ธรรมิกราช ก็เป็นพุทธประเพณี เป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ในช่วงหลังกึ่งกลาง พุทธกาลไปแล้ว สัก 60 ปี ก็พอจะอนุมานได้ว่า ยุคพระยาธรรมิกราชนั้นเข้ามา ใกล้ถึงปลายจมูกแล้ว ใครที่คิดจะทำบุญกุศลอะไร ก็ให้รีบเร่งทำ หากเมื่อใดที่ผู้ที่ เขาได้พรพระอินทร์ เขาทำอธิษฐานบารมีเพื่อดูแลพระศาสนา ระบบที่เขาทำ หน้าที่ภายใน เขาก็จะทำงานตามลำดับ เมื่อถึงตอนนั้น จะเห็นคุณค่าของ ศีลธรรม ของศีล 5 ศีล 8 ของบุญบารมีที่แต่ละท่านบำเพ็ญเพียร สั่งสมมา ให้ลอง นึกถึงคลื่นยักษ์ในภาคใต้ดูว่า คลื่นยักษ์ขนาดไหน ที่ทำให้ด้ามขวานไทยเหลือเป็น เกาะแก่ง และคลื่นยักษ์ขนาดไหน ที่จะสามารถทำให้เกาะขนาดประเทศไต้หวัน หายวับไปได้ในพริบตา เมื่อไหร่ก็ตามที่นาคใหญ่ทำงาน จะสั่นสะเทือนไปทั้งโลก หากจะเทียบเหตุการณ์ในภาคใต้ที่ผ่านมา เป็นแค่นาคใหญ่โก่งหลังหรือสะดุ้งเพียง เล็กหน่อย ลองจินตนาการดูว่า หากพวกนาคบางพวกมีหน้าที่ทำฤทธิ์ เพื่อล้างพวก ผู้มีศีลธรรมไม่เพียงพอ สำหรับอยู่ในยุคพระยาธรรมิกราชบนโลกนี้ ก็จะเหลือคน ไม่มากอย่างที่พระสูตรบอกไว้ เหตุการณ์ต่างๆที่กล่าวมานั้น จะมีอยู่วันหนึ่ง ที่เหตุการณ์รุนแรงที่สุด คลื่นพลังมหาศาลจากจักรวาล จะกระแทกลงมายังโลก เป็นพลังงานที่เกิดจากลม พายุสุริยะอันเนื่องมาจากจุดดับบนดวงอาทิตย์จุดที่ 11 มนุษย์ทุกคนบนโลก จะได้ พบกันเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัว บรรยากาศช่วงแรกๆจะรู้สึกหดหู่ เวิ้งว้าง ท้องฟ้าจะวังเวงพิกล หลังจากนั้นไม่นานนัก ลมจะแรงขึ้น แรงขึ้น เสียงฟ้าเสียงลมจะแผดเสียง กึกก้องดังที่สุด ตั้งแต่เกิดมา แต่ละคนยังไม่เคยได้ยิน เป็นเสียงของพญามัจจุราช ที่พิพากษาโลก ในด้านความเป็นมนุษย์ คนชั่วเกือบทุกคน จะถูกประหารชีวิต บทความของ อ หน้า และ จะตายอย่างทรมาน ไม่เว้นแม้แต่ผู้นำสังคม ผู้นำเศรษฐกิจ ผู้นำทาง การเมือง ผู้นำลัทธิ ผู้นำทางศาสนา ที่จิตมืดมัว ฯลฯ ส่วนคนดีจะได้รับการ ยกเว้นเอาไว้ ให้ได้ทำความดีโดยไม่มีอุปสรรคต่อไป ปลายปี 2555 นี้ จะเกิดสงครามครั้งยิ่งใหญ่ของโลก ซึ่งจะส่งผลให้มีคน ตายจำนวนมาก ส่วนผู้ที่รักษาศีล 5 ขึ้นไป จะรอด และ อีก 5 ปีต่อไปน้ำจะท่วม เกือบทุกภาคของประเทศไทย และจะมีคลื่นยักษ์ มีความร้ายแรงกว่าสึนามิครั้ง ก่อน ผู้คนที่รอดชีวิตจะต้องเดินทางๆไปทางเหนือ หรือ อิสาณ เพื่อให้พ้นภัยโดย ระหว่างทางจะพบกับคนนอนตายเกลื่อนกลาดจำนวนมาก คนที่ไม่เคยเข้าวัด ก็ควรรีบเข้าวัดซะ ตอนนี้ก็ยังทัน รีบเร่งฝึก กรรมฐาน ให้มีลักษณะทรงตัว แต่ถ้าเป็นคนที่มีศีลดีอยู่แล้วก็ยิ่งดี เพราะไม่มีสิ่ง ใดจะช่วยเราได้ นอกจากมีกรรมฐาน และผู้ที่ปฏิบัติ จนได้มโนยิทธิ หรือ ได้ อภิญญา ย่อมที่จะอยู่รอด และ ปลอดภัย หากท่านไม่แน่ใจว่า ตัวท่านมีความดีพอ ที่จะรอดพ้นจากมหันตภัย ครั้ง นี้ละก็ ขอให้ท่าน ตั้งใจที่จะเป็นคนดี คิดดี พูดดี และ กระทำแต่สิ่งที่ดีๆ นับแต่ วีนนี้เป้นต้นไป เพื่อความดี จะช่วยรักษาตัวของท่านให้อยู่รอดปลอดภัยได้ ไม่ เชื่อก็อย่าลบหลู่ จงอย่าประมาท ขอให้จงหมั่นทำสิ่งที่ดีๆไว้ก่อน ย่อมดีแน่ ประเทศไทย เป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ ที่จะได้รับการปกป้องคุ้มครอง รักษาไว้ ซึ่งจะได้รับความบอบช้ำจากมหันตภัยธรรมชาติน้อยที่สุดในโลก และจะ เป็นอู่ข้าวอู่น้ำ ซึ่งมีความเจริญเป็นศูนย์กลางของโลกต่อไป คนไทยที่รอดชีวิตใน ครั้งนี้ไปได้ จะเข้าสู่ยุคใหม่ จะมีจิตใจที่ดีงาม และมีอายุไขที่ยาวมากกว่าช่วง 500 ปีที่ผ่านมา จนน่าประหลาดใจ อารยธรรมจะสิ้นสุด และ จะกลับมีอารยธรรมที่ จะเจริญก้าวหน้ามากกว่าเข้ามาแทนที่โดยเร็ว โดยเทคโนโลยีใหม่ จะไม่ก่อปัญหา ให้กับสิ่งแวดล้อมของโลกมาก เท่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน นอกจากนี้มนุษย์ยัง สามารถที่จะติดต่อสื่อสาร กับเพื่อนมนุษย์ต่างดาวได้ ถึงแม้ในปัจจุบัน บางคนก็ ไม่เชื่อว่า สิ่งเหล่านี้มีอยู่จริงก็ตาม ต่อไป ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางของโลก และ เป็นประเทศแรกที่ไป ท่องจักรวาลได้เป็นแห่งเดียวของโลก โดยใช้มโนมยิทธิ และ อภิญญา ในการ ขับเคลื่อนกายทิพย์ในตน โดยไม่ใช้เชื้อเพลิงในการเผาไหม้ ให้เกิดพลังงานที่ บทความของ อ ห
ร้ายแรงมากกว่าก่อนกึ่งพุทธกาลมากนัก ยักษ์นอกพุทธศาสนาจะรบราฆ่าฟันซึ่งกัน
และกัน ต่างฝ่ายจะล้มตายกันฝ่ายละมาก ๆ สมณะ ซี พราหมณ์ จะล้มตาย จะ
ตายไปฝ่ายละครึ่ง จึงเลิกรากัน สำหรับประเทศที่นับถือพุทธศาสนาจะมีภัย
เหมือนกัน แต่ไม่ร้ายแรงนัก
ถ้าสงครามใหญ่เกิดขึ้น คนไทยจะมีความมั่นคงในพุทธศาสนามากขึ้น
ในเมื่อเห็นการสูญเสีย เห็นความตายเกิดขึ้น ความทุกข์ก็เกิดขึ้น จิตใจก็เริ่มเป็น
กุศลมากขึ้น เวลานั้นบรรดาพุทธศาสนิกชน ก็จะมีความมั่นคงในพุทธศาสนามาก
ขึ้น เพราะกลัวตาย
สำหรับท่านนักปฏิบัติ ที่เจริญกรรมฐาน ก็จะเร่งรัดตัวเอง กำลังใจก็จะมี
สมาธิ ในที่สุดมโนมยิทธิ และ
อภิญญาเกิด ก็จะเอามาช่วยบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ให้มีความเข้าใจที่
ชัดเจน มีความสุข มีความปลอดภัย ขอให้ทุกท่านปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระ
สัมมาสัมพุทธเจ้าที่ให้ไว้ คือ
3 ความคิดเห็น
เคยอ่านแล้วค่ะ
แต่ก็น่ากลัวอยู่ดี
ขี้เกียจอ่านอ่ะ ยาว
เอาเป็นว่าทำดีไว้ก่อนละกัน
PS. โปร Y
เราทราบดีว่าหลังจากโพสต์คำตอบแบบนี้ต้องโดนว่าไม่มากก็น้อยค่ะ
แต่ขอเตือนด้วยความหวังดีว่า
แม้จะมีเจตนาที่ดี แต่การกล่าวตู่พระพุทธเจ้า ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำนะค่ะ
หากเรื่องมีกล่าวในพระไตรปิฏกจริง เรื่องสำคัญขนาดนี้
ทำไมกระทรวงศึกษาไม่เอามาใ้ห้นักเรียนอ่านค่ะ
ทำไมถึงเก็บเป็นเรื่องลึกลับแล้วเพิ่งเอามาออกในปีพ.ศ. 2552 แน่ะ
ถ้าเป็นไปได้อยากให้อ้างอิงเว็บไซด์ที่มีพระไตรปิฏกฉบับที่เป็นมาตรฐานหรือยกพระสูตรมาด้วยก็ดีค่ะ
แล้วหากประเทศไทยมีศักยภาพพอจะเป็นศูนย์กลางของโลก
แต่ถ้าคนไทยส่วนใหญ่ยังอ่อนแอแบบที่เห็นกันทุกวันนี้
พวกเราเชื่อกันจริงๆหรือคะ ว่าไทยจะสามารถครองโลกได้ขนาดนั้น
ชาวพุทธนั้น มีอิสระกันมาก ที่จะเชื่อหรือจะทำอะไรก็ได้
หลายครั้งจะพบว่าคำสอนของพุทธนั้นไม่เน้นขู่ให้กลัว
หรือบอกว่าบาปหากไม่เชื่อคำของศาสดา เหมือนศาสนาอื่นๆ
พระพุทธเจ้ามักตรัสอย่างตรงๆ ว่าทำดีย่อมเป็นสุขชั่วกาลนาน
ทำชั่วก็ย่อมทนทุกข์ไปชั่วกาลนานเช่นเดียวกันค่ะ
เราอยากให้ชาวพุทธทุกท่านพิจารณาก่อนนะค่ะ
PS. " คนดีของฉัน..จะต้องเป็นคนไม่พูดปด ไม่สอพลอ ไม่อิจฉาริษยา ไม่คดโกง ไม่ทะเยอทะยานอย่างบ้าๆ แต่พยายามทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด" พระดำรัสสมเด็จย่า
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?