Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับฮอตดอก (Hot Dog) หรือ ขนมปังไส้กรอกที่เรากินกันในปัจจุบัน

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

 

                เฉพาะปี 2551 ที่ผ่านมา คนอเมริกันทั่วทั้งประเทศควักเงินในกระเป๋าถึง 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อซื้อฮอตดอก (Hot Dog) และไส้กรอกแสนอร่อยทานเป็นอาหารมื้อด่วน โดยสถิติการกินฮอตดอกที่สูงที่สุดอยู่ที่สนามเบสบอล ช่วงระหว่างการแข่งขันศึกเมเจอร์ลีกประจำปี

                ฮอตดอก แปลตามตัวว่า "หมาร้อน" แต่ไส้กรอกประกบด้วยขนมปังที่เรียกว่าฮอตดอกนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับสุนัขแต่อย่างใด และไม่ได้เป็นอาหารที่คนอเมริกันคิดค้นขึ้นมาอย่างที่เรามักจะเข้าใจกัน  ประวัติของฮอตดอกเริ่มตั้งแต่สมัยบาบิโลเนียเมื่อ 3,500 ปีที่แล้ว มีลักษณะเป็นเนื้อหมักเครื่องเทศ ยัดไว้ในไส้สัตว์ ชาวโรมันเรียกอาหารประเภทนี้ว่า Salsus ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของคำว่า Sausage หรือไส้กรอกในภาษาอังกฤษนั่นเอง

                ในสมัยยุคกลาง เมืองต่าง ๆ ในยุโรปได้พัฒนาสูตร รสชาติ และรูปร่างไส้กรอกของตนเอง และตั้งชื่อไส้กรอกตามเมืองที่เป็นถิ่นกำเนิด เช่น ไส้กรอกเวียนนา เป็นต้น  ไส้กรอกของประเทศแถบเมดิเตอเรเนียนจะมีลักษณะแข็งและแห้งเพื่อไม่ให้ไส้กรอกบูดเสียได้ง่าย นิยมกันมากในประเทศเขตร้อนแถบนั้น ส่วนไส้กรอกของสก็อตแลนด์นิยมยัดไส้ด้วยข้าวโอ๊ตมากกว่าจะใช้เนื่อมูหรือเนื้อวัว  ไส้กรอกที่เป็นที่นิยมกันมากที่สุดประเภทหนึ่งในเยอรมนี คิดค้นขึ้นโดยชาวเมืองแฟรงเฟิร์ต จึงมีชื่อเรียกว่า "แฟรงเฟอร์เตอร์" หรือเรียกสั้น ๆ ว่า แฟรงค์ มีขนาดหนา นุ่ม ใส่เครื่องเทศและรมควันอย่างดี มีรูปร่างโค้งเล็กน้อย คล้ายรูปร่างสุนัขดัชชุนด์ จนบางคนเรียกไส้กรอกประเภทนี้ว่า "ไส้กรอกดัชชุนด์"  มีเรื่องเล่ากันว่า ผู้คิดค้นไส้กรอกประเภทนี้เลี้ยงสุนัขดัชชุนด์ไว้หนึ่งตัว จึงเกิดความคิดว่าไส้กรอกที่มีรูปร่างเหมือนสุนัขตัวโปรดนี้จะเป็นที่นิยมของตลาดด้วย  ชาวยุโรปที่อพยพไปสหรัฐอเมริกาได้นำไส้กรอกแฟรงเฟอร์เตอร์ไปด้วย  ไส้กรอกที่ประกบด้วยขนมปังเป็นที่นิยมอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นอาหารว่างยอดนิยมระหว่างดูกีฬา


โทมัส ดอร์แกน

                ในปี ค.ศ. 1906 นักวาดการ์ตูนชื่อ โทมัส ดอร์แกน ได้แรงบันดาลใจจากรูปร่างที่โค้งงอคล้ายสุนัขดัชชุนด์ของไส้กรอก และจากเสียงพ่อค้า "เห่า" ตะโกนเรียกคนซื้อ จึงได้วาดรูปสุนัขดัชชุนด์ราดด้วยมัสตาร์ด ประกบด้วยขนมปัง แบะเขียนบรรยายใต้รูปว่า "ซื้อหมาร้อน ๆ จ้า" (Get your hot dogs!) เล่ากันว่าดอร์แกนไม่สามารถสะกดคำว่าดัชชุนได้ถูกต้อง จึงใช้คำว่าหมา (dog) แทน ปรากฏว่าคำว่าฮอตดอกกลายเป็นคำที่ติดปากคนอเมริกันทั่วไป จนเลิกเรียกไส้กรอกด้วยคำอื่น ๆ และยังททำให้ชาวโลกคิดว่าฮอตดอกเป็นอาหารที่คนอเมริกันคิดขึ้นมาอีกด้วย

Picture of a dog in a Hot Dog costume, with mustard
ภาพสุนัขดัชชุนด์(Dutchund)

 

เครดิต : วารสาร อพวช. ฉบับที่ 88 ปีที่ 8 ประจำเดือน ตุลาคม 2552 หน้า 10 คอลัมน์ รู้หรือไม่ว่า



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 20 ธันวาคม 2552 / 15:58

แสดงความคิดเห็น

>

5 ความคิดเห็น