Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

อาชีพบาป!!! ที่หลายคนใฝ่ฝันอยากจะเป็น

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
พอไมเคิล แจ็กสัน เสียชีวิต คนอื่นก็ฆ่าตัวตายตาม เรื่องของความหลงว่ากันไม่ได้ เพราะถ้าหากหลง แปลว่าไม่รู้ ในเมื่อไม่รู้ การยึดมั่นถือมั่นจึงถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่คนที่รู้เขาจะเห็นว่า เขาทั้งหลายน่าสงสารมาก วันนี้เห็นหนังสือพิมพ์ลงข่าวว่า มีตั๋วผีสำหรับเข้างานไมเคิล แจ็กสัน ใบละหนึ่งแสนดอลลาร์ มีใครจะซื้อบ้างไหม สามล้านเศษๆ เท่านั้น คาดว่าเข้าไป ภาพที่เห็นก็คงประมาณหัวไม้ขีดเท่านั้น แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนยอมซื้อ

ในเรื่องของบรรดาดาราและนักร้อง ต้องดูในตาลปุตตะสูตร พระตาลปุตตคามิณี เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงมาก มีคนตามดูเป็นจำนวนมหาศาล เรียกง่ายๆ ว่าแม่ยกเยอะ พระตาลปุตตคามิณีไปเปิดการแสดงที่เมืองสาวัตถี ได้ข่าวว่าพระสมณโคดม คือ พระพุทธเจ้า เป็นสัพพัญญู รู้ทุกเรื่อง ทีนี้บรรดานักแสดงของอินเดียเขามีความเชื่อว่า บุคคลที่สร้างความสนุกสนานให้แก่ผู้อื่น เมื่อตายไปจะได้เป็นสหายของเทวดาในชั้นดาวดึงส์ ก็คือ ได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พระตาลปุตตคามิณีสงสัยว่าเรื่องที่กล่าวมาจะกลายเป็นจริงหรือไม่ เมื่อทราบว่าพระพุทธเจ้าเป็นสัพพัญญูรู้ทุกเรื่อง จึงขอเข้าเฝ้าแล้วทูลถามปัญหานี้

พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า มาณเว ดูกรมาณพ ปัญหานี้เธออย่าได้ถามเลย พระตาลปุตตคามิณีในสมัยนั้นก็ยังคงทูลถามถึงสามวาระด้วยกัน พระพุทธเจ้าจึงได้ตรัสว่า บรรดานักแสดงทั้งหลายถ้าไม่มีบุญส่วนอื่นมาช่วย ลงอเวจีมหานรกหมด พระตาลปุตตคามิณีเชื่อพระพุทธเจ้า จึงนั่งร้องไห้ ถามว่าทำอย่างไรจึงจะพ้นได้ พระพุทธเจ้าบอกว่า เข้ามาบวชแล้วปฏิบัติธรรม ภายหลังพระตาลปุตตคามิณีเถระสำเร็จอรหันต์

เหตุที่นักร้องนักแสดงตายแล้วลงนรก เพราะว่าสิ่งที่เขาทำเป็นมายาการ ทำให้คนหลงยึดติดมาก อย่างเช่นว่า พอพระเอกนางเอกมาก็กรี๊ด จนกระทั่งบ้านแทบพัง ถ้าเป็นลูกเป็นหลานอาตมา จะฟาดให้หลังลาย
หรือไม่ก็พวกบรรดานางร้ายเข้าตลาดไปจะโดนเปลือกทุเรียนตบเอา ก็เพราะเขาไปยึดมั่นถือมั่นว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ไปหลงอยู่กับบทบาทการแสดงของเขา




พระพุทธเจ้าสอนให้เราละรัก โลภ โกรธ หลง แต่บรรดานักร้องนักแสดงสร้างรัก โลภ โกรธ หลง ให้เกิดขึ้นในจิตใจของคน แถมยังยึดมั่นแน่นแฟ้นมาก ดังนั้นบรรดานักร้องนักแสดงต่างๆ ถ้าไม่ได้ทำบุญอื่นเอาไว้ ไม่มีกุศลอื่นหนุนช่วย ตายเมื่อไหร่ลงนรกหมด เป็นเรื่องที่น่ากลัวมากๆ เราจะเห็นตัวอย่างนักร้องนักแสดงพอถึงเวลาตายแล้ว มีคนร้องไห้หา ยิ่งกว่า บางทีก็เป็นหมื่นเป็นแสนเลย อย่างไมเคิล แจ็กสันตาย ก็มีคนจะฆ่าตัวตายตามไปหลายคน ก็แปลว่าทั้งหมดพร้อมที่จะลงนรกไปด้วยกัน

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พึงสังวรไว้ โดยเฉพาะนักร้องนักแสดง จำเป็นต้องสร้างกุศลให้มากเข้าไว้ เพื่อที่กำลังจะได้สูงพอ ถ้าหากกุศลบารมีมีความสูงพอ ก็จะพาตนให้หลุดพ้นจากอบายภูมิได้ เรื่องนี้ไม่ค่อยมีใครกล้าพูด ทั้งๆ ที่พระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ชัดเจน เพราะเกรงว่าจะมีผลผลกระทบเป็นวงกว้าง แต่อาตมาเองไม่กลัว อยากให้ทุกคนตาสว่างได้รู้อะไรมากขึ้น จึงนำมาบอกกล่าวให้ทราบโดยทั่วกัน


บารมีหลวงพ่อฤาษีและสาวกภูมิและพุทธภูมิทุกท่านครับได้โปรดช่วยดารานักร้องไม่ให้ตกนรกอเวจีด้วยนะครับ พระไตรปิฏกกล่าวไว้ว่า อาชีพนักร้อง ดารา อาชีพตลก เป็นอาชีพที่ทำให้คนหลง ยึดติด ยิ่งอาชีพอย่างนักร้อง ถ้าเพลงแนวยั่วยุให้เกิดการชิงสุกก่อนห่าม มันก็จะทำให้คนหลายล้านคนประพฤติตาม ซึ่งผิดศีลธรรม ความจริงมันต้องแต่งงานกันก่อนถึงถูกต้อง อย่างเพลงบางเพลง สอนให้คนอิจฉากัน ก็เป็นเหตุให้คนหลง ยึดติด เกิดอกุศล หนังบางเรื่อง มีแต่ฉากเลิฟซีน มีแต่ฉากด่ากัน อิจฉาริษยาทำให้คนหลง เลียนแบบตามได้นับว่าอันตรายมากในสังคมไทย ประเทศอื่นช่วยไม่ได้ตกนรกช่างเขา แต่ประเทศเราช่วยพวกเขาไม่ให้ตกนรกอเวจีได้ ส่วนมากดารานักร้องมักทำให้คนหลง เช่นพูดหวาน ทำตัวทำจิตใจเต็มไปด้วยอกุศลทำให้คนหลงในตัวเอง ทำให้คนหลงเป็นล้าน ซึ่งทั้งพระพุทธโคดม และหลวงพี่เล็ก ท่านก็กล่าวไว้เป็นเสียงเดียวกันว่า อาชีพนี้ทำให้คนหลง ยึดติด มักตกนรกอเวจี แต่รอดได้ถ้าคนนั้นจิตดับก่อนตายคิดดี คิดถึงบุญก่อน คิดถึงพระพุทธเจ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อน แต่ส่วนมากมักไม่ค่อยคิดถึงบุญกันก่อนตายเลยไม่รอด จิตดับก่อนตายดิ่งตกนรกทันที แต่เรามีวิธ๊ทางช่วยได้ ถ้าท่านคนไหนชอบใจนักร้องคนใดก็ส่งจดหมายไปหานักร้องคนนั้น หาที่อยู่ได้จาก 1133 1188ใจความบอกเหตุผลเขาว่าอย่าทำตัวเองให้คนหลง และบอกว่าเวลาทำบุญให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นพยานในการทำบุญของท่านครั้งๆนั้นด้วย ถ้าอธิษฐานอย่างนี้แล้วจิตดับก่อนตายจะไม่ต้องดิ่งตกนรกทันทีแต่ได้พิจารณาคดีตอบบุญก่อน คงตอบได้อยู่แล้วว่าทำบุญอะไรมา เช่นไหว้พ่อแม่ ให้ข้าวสุนัข ฯลฯ เพียงเเค่นี้เขาก็รอด
****ส่วนในเรื่องส่งจดหมายไปหาประธานบริษัทแกรมมี่ อาร์เอส ช่องสาม ช่องเจ็ด ไอทีวี นั้น เนื้อความจดหมายต้องสื่อว่าให้บอกดารา นักร้องของท่านว่าไม่ควรทำตนให้คนหลง ยึดติด เพลงไม่ควรยั่วยุให้คนชิงสุกก่อนห่าม อิจฉากัน หลงรักคนมีเจ้าของกัน อาจนำพุทธพจน์มากล่าวก็ได้ว่าตกนรกอเวจี แต่บอกพวกเขาว่าอาจรอดได้โดยการอธิษฐาน ว่าเวลาทำบุญควรอธิษฐานให้พระพุทธเจ้าท่านเป็นพยานในการทำบุญของคุณในครั้งๆนั้นด้วย ถึงจะรอดไม่ต้องดิ่งตกนรกทันที 



ว่าด้วยปัญหาของนักเต้นรำชื่อว่าตาลบุตร

[

อาชีพบาป!!! ที่หลายคนใฝ่ฝันอยากจะเป็น

…เป็นดารา นักร้อง นักแสดง ดีจริงหรือ?

เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๘ พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค ข้อ ๕๘๙-๕๙๒

เรื่อง ตาลปุตตสูตร ว่าด้วยปัญหาของนักเต้นรำชื่อว่าตาลบุตร



สมัยหนึ่งพระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเวฬุวันกลันทกนิวาปสถาน ใกล้กรุงราชคฤห์ ครั้งนั้นพ่อบ้านนักเต้นรำนามว่า ตาลบุตร เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า

"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์เคยได้ยินคำของนักเต้นรำผู้เป็นอาจารย์และโบราณจารย์ก่อน ๆ กล่าวว่า นักเต้นรำคนใดทำให้คนหัวเราะรื่นเริง ด้วยคำจริงบ้าง คำเท็จบ้าง ในท่ามกลางสถานเต้นรำ ในท่ามกลางสถานมหรสพ ผู้นั้นเมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาผู้ร่าเริง ในข้อนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าจะตรัสอย่างไรพระเจ้าข้า"

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า "อย่าเลยนายคามณี จงหยุดคำถามนี้เสียเถิด ท่านจงอย่าได้ถามคำถามนี้กับเราเลย"

เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสแล้ว ทำให้พ่อบ้านหัวหน้านักเต้นรำเกิดความสงสัยเป็นอย่างมาก จึงได้พยายามถามเป็นครั้งที่ 2 แต่พระพุทธเจ้าก็ตรัสเช่นเดิม พ่อบ้านก็คะยั้นคะยอถามเป็นครั้งที่ 3 พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า "ดูก่อนนายคามณี เราคงจะห้ามท่านเกี่ยวกับคำถามข้อนี้ไม่ได้แล้ว เอาละเราจะพยากรณ์ให้ท่านทราบ"

"ดูก่อนนายคามณี เมื่อก่อนสัตว์ทั้งหลายยังไม่ปราศจากราคะ โทสะ โมหะ อันมีกิเลสเป็นเครื่องผูกราคะ โทสะ โมหะเข้าไว้ นักเต้นรำเป็นผู้รวบรวมเข้าไว้ซึ่งธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด ในท่ามกลางสถานเต้นรำ ในท่ามกลางสถานมหรสพ อันจะทำให้สัตว์โลกเหล่านั้นมีความกำหนัดมากยิ่งขึ้น นักเต้นรำนั้นตนเองก็มัวเมาประมาท ตั้งอยู่ในความประมาท เมื่อแตกกายตายไป เขาย่อมบังเกิดในนรกที่ชื่อว่า ปหาสะ

อนึ่ง ถ้าเขามีความเห็นอย่างนี้ว่า นักเต้นรำคนใดทำให้คนหัวเราะรื่นเริง ด้วยคำจริงบ้าง คำเท็จบ้าง ในท่ามกลางสถานเต้นรำ ในท่ามกลางสถานมหรสพ ผู้นั้นเมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชื่อ ปหาสะ ความเห็นของเขานั้นเป็นความเห็นผิด"

"ดูก่อนนายคามณี เราขอกล่าวคติสองอย่างคือ ผู้มีความเห็นผิดจะต้องไปเกิดในนรก หรือกำเนิดเป็นสัตว์เดียรัจฉาน ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง"
เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว พ่อบ้านนักเต้นรำนามว่า ตาลบุตร ก็ร้องไห้สะอื้น น้ำตาไหล

พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า "ดูก่อนนายคามณี เราได้ห้ามท่านแล้วมิใช่หรือว่า อย่าเลย ให้หยุดคำถามนี้เสียเถิด อย่าถามคำถามนี้กับเราเลย"

ตาลบุตร กราบทูลว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ไม่ได้ร้องไห้ถึงข้อที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้กับข้าพระองค์หรอก แต่ที่ข้าพระองค์ร้องไห้นั้น ด้วยความเสียใจว่าได้ถูกนักเต้นรำผู้เป็นอาจารย์และโบราณจารย์ก่อน ๆ ล่อลวงให้หลงเสียนานว่า นักเต้นรำคนใดทำให้คนหัวเราะรื่นเริง ด้วยคำจริงบ้าง คำเท็จบ้าง ในท่ามกลางสถานเต้นรำ ในท่ามกลางสถานมหรสพ ผู้นั้นเมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชื่อ ปหาสะ

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระธรรมเทศนาของพระองค์แจ่มแจ้งยิ่งนัก พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงประกาศธรรมโดยอเนกปริยาย ดุจหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง หรือตามประทีปในที่มืด ด้วยความหวังว่าคนมีจักษุจะมองเห็นได้

ฉะนั้น ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์นี้ขอถึงพระผู้มีพระภาคเจ้า กับทั้งพระธรรม และภิกษุสงฆ์ว่าเป็นสรณะ คือที่พึ่งอันสูงสุด ข้าพระองค์พึงขอบรรพชาอุปสมบทในสำนักของพระผู้มีพระภาคเจ้า"

เมื่อ นายตาลบุตร ผู้เป็นพ่อบ้านนักเต้นรำอุปสมบทได้ไม่นาน ก็ได้หลีกออกจากหมู่ อยู่ผู้เดียว ไม่ประมาท มีความเพียร มีใจแน่วแน่น ในที่สุด พระตาลบุตร ก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์องค์หนึ่ง ในจำนวนพระอรหันต์ทั้งหลายนั่นเอง.

ประวัติของนายบ้านนักเต้นรำ ตาลบุตร

ชาวบ้านเล่ากันมาว่า นายบ้านนักฟ้อนรำคนนั้น มีผิวพรรณผ่องใสเหมือนลูกตาลสุกที่หลุดจากขั้ว ด้วยเหตุนั้น คนทั้งหลายจึงตั้งชื่อเขาว่า ตาลบุตร
นายตาลบุตร ผู้นี้ถึงพร้อมด้วยบุญเก่า ได้บังเกิดในตระกูลนักฟ้อนรำ พอเจริญวัยก็มีความสามารถเป็นยอดด้านนาฏศิลป์ ศิลปะฟ้อนรำ มีชื่อกระฉ่อนไปทั่วชมพูทวีป เขามีเกวียน ๕๐๐ เล่ม มีหญิงแม่บ้านรับใช้ ๕๐๐ คนเป็นบริวาร และมีภรรยาจำนวน ๕๐๐ คนเช่นกัน เขาจึงพรั่งพร้อมไปด้วยผู้หญิง ๑,๐๐๐ คน และเกวียน ๑,๐๐๐ เล่ม

เมื่อเขาไปอยู่ในนครใดก็ตาม จะมีประชาชนในนครนั้น ๆ พากันให้ทรัพย์แก่เขาหนึ่งแสนก่อนเลยทีเดียว และเมื่อเขาแต่งตัวขึ้นแสดงมหรสพพร้อมด้วยหญิง ๑,๐๐๐ คนเมื่อใด ประชาชนที่มาดูเขาแสดงต่างก็โยนเครื่องประดับมือประดับเท้าเป็นต้นให้แก่เขา เพื่อเป็นการตบรางวัล และพวกชาวบ้านก็จะโยนทรัพย์สินให้เขาอย่างไม่ขาดสายในเวลาที่เขาทำการแสดง

คำอธิบาย

ธรรมดานรกที่มีชื่อว่า ปหาสะ นั้น มิได้เป็นนรกที่เกิดขึ้นอยู่อย่างเอกเทศ แต่เป็นส่วนหนึ่งของอเวจีมหานรกนั่นเอง ในที่นั้นพวกสัตว์นรกทั้งหลายจะพากันขับร้องบ้าง ฟ้อนรำบ้าง อยู่ในเปลวไฟแห่งนรก และพากันหมกไหม้อยู่อย่างนั้นจนกว่าจะหมดกรรมอย่างน่าเวทนา.




แสงใดเหล่าใดจะสว่างกว่าธรรมนั้นหามีไม่
(โปรดเก็บประโยคนี้ไปไตรตรองดีๆ)



http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=thammakittakon&date=29-07-2009&group=1&gblog=3

ที่มาครับ
  



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2553 / 12:49
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2553 / 12:52

PS.  อยากเบียดเบียนไทย ถ้าอยากให้เกาหลีสงบสุข

แสดงความคิดเห็น

>

44 ความคิดเห็น

ขุนกำแหง 18 ก.พ. 53 เวลา 12:47 น. 1

กระทู้ศาสนาโปรดระวังและรักษามารยาทด้วย

แล้วแต่ใจคน

ในฐานะพุทธศาสนิกชนและได้พินิจดูแล้ว ผมเชื่อ



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2553 / 13:02

PS.  อยากเบียดเบียนไทย ถ้าอยากให้เกาหลีสงบสุข
0
mai 18 ก.พ. 53 เวลา 14:35 น. 5

ไม่ทราบนะคะว่า การทำให้ผู้อื่นมีความหลงผิด(ในแง่มุมของพุทธศาสนา)ในศาสนาศริสด์ส่งผลต่อผู้กระทำอย่างไร

เคยทราบมาว่าหากเราต้องรับกรรมไม่ว่าในศาสนาใด ความหนักของผลกรรมที่ต้องรับจะเท่ากัน จะแตกต่างกันไปตามความเชื่อของแต่ศาสนาและมโมทัศน์ของผู้ที่นับถือศาสนานั้น

0
คินทร์..,~* 18 ก.พ. 53 เวลา 15:57 น. 6

ไม่ค่อยอยากให้ตั้งกระทู้ศาสนาเลยครับ เนื่องจากศาสนาเป็นเรื่งละเอียดอ่อน คนเราต่างจิตต่างใจ เรื่องบางเรื่องอย่าตั้งจะดีกว่า


PS.  ดีเลวอยู่ที่ใจ ไม่เดือดร้อนใคร ทำไปอย่าได้แคร์ นะจ๊ะ
0
Hunny_B_blossoM 18 ก.พ. 53 เวลา 16:17 น. 7

เครียดเลยอะ -  -* เหอะๆ

ไม่รู้นะ อ่านกระทู้นี้แล้วรู้สึกหดหู่

คิดแว๊บขึ้นมาว่า เราต้องอยู่นิ่งๆ

ไม่ต้องทำอะไรเลยใช่ป่าว ถึงจะไม่บาป

ต่างคนต่างจิตอะนะ

แต่คิดว่าอาจจะมีดราม่า แบบสงบๆ ก็เป็นได้

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2553 / 16:29


PS.  
0
[G]enTle-Man 18 ก.พ. 53 เวลา 16:38 น. 8

การร้องเพลง ในศาสนาอื่นผมไม่รู้ว่าบาปแค่ไหน

แต่การร้องเพลงในศาสนาคริสต์ เป็นการนมัสการรูปแบบหนึ่ง

เพราะชาวคริสต์  นมัสการด้วยการร้องเพลงสรรเสริญ


PS.  หากได้ลง ได้ลอง ได้รักใคร...เทให้เลยหมดทั้งหัวใจ...และพร้อมตายแทนให้เลยเธอรู้ไหม ?
1
มีมิ สวัสดี 28 พ.ค. 58 เวลา 16:43 น. 8-1

ในศาสนาพุทธก็มีการถ่ายทอดธรรมะผ่านการขับร้องเช่นกัน หากเพลงนั้นๆทำให้คนสงบ เกิดความคิดที่ดี เนื้อหาเป็นประโยชน์ให้คนรู้ผิดชอบชั่วดี นั้นคือกุศล

ไม่ใช่เพลงที่ทำให้คนคล้อยตามในความหลง ความเกลียดชัง ยั่วยุ ซึ่งปัจจุบันเพลงส่วนใหญ่เป็นแบบนี้

0
โอคุ :3 18 ก.พ. 53 เวลา 18:06 น. 10

ถึงกระนั้น  ก็ไม่เหมาะสมที่จะมาโพสนะครับ


PS.  ลืมตามองเช้าวันใหม่ มองไปด้วยใจที่ว่างเปล่า . . .
0
Ruy-Kin 18 ก.พ. 53 เวลา 18:08 น. 11

มันอยู่ที่ใจครับ ของแบบนี้

นานาจิตตัง ต่างคน ต่างความคิด

ปล ถ้าดาราแสดงละครเพื่ออยากจะสร้างความสุขแก่ผู้คน

ก็เป็นสุขทางโลกีย์ครับ

แต่หาคนที่จะหาความสุขทางโลกุตรธรรม 

สมัยนี้ ยาก!!!


PS.  ๐=สายลมแห่งเหมันต์ฤดู=๐
0
DEJWAYU-カクラ 18 ก.พ. 53 เวลา 18:23 น. 12
  เอาเป็นว่า

ผมไม่พูดแล้วกัน  เรื่องนี้ละเอียดอ่อนมากๆ

ไม่อยากจุดชนวน

แต่ขออนุโมทนา ที่คุณเอามาแบ่งปันแล้วกันครับ สาธุ

PS.  คมดาบ ยิ่งฝนยิ่งคม มนุษย์ไยมิใช่เช่นกัน มนุษย์มากหลายในโลกนี้ ไยมิใช่เติบใหญ่ในท่ามกลางความปวดร้าวขมขื่นหรือ 古龙 老师。。。
0
M@RUKUSAn! 18 ก.พ. 53 เวลา 19:37 น. 14

แล้วถ้าไม่มีดารา นักแสดง แล้วช่องทีวี จะหากินยังไงอ่ะ

แต่เราว่า มันก็ขึ้นอยู่กับผู้ชมด้วยล่ะมั่ง ที่จะแยกแยะ การแสดงกับชีวิตจริงได้


PS.  ~ยิ่ง ตาม หา เหมือน ยิ่ง ไกล ออก ไป~
0
ไซยาไนด์ 18 ก.พ. 53 เวลา 19:45 น. 15
อะไรคือไร้สาระ...?

ไม่มีแก่น แต่ได้มาเป็นสาร...?

อะไรกัน...?

คืออะไรกัน...?

PS.  ข้ายังเด็กนัก...ได้โปรด...อย่าใส่ใจสิ่งที่ข้าพูดเลย
0
nayrunkung 18 ก.พ. 53 เวลา 22:58 น. 17

สำหรับคริสเตียน ดนตรีถูกสร้างเพื่อสรรเสริญพระเจ้าค่ะ(ต้องใช้ให้ถูกทาง^^)

แต่สำหรับพุทธศาสนานี่ไม่มีความรู้เท่าไรค่ะ ไม่กล้าออกความเห็น 

0
crazytoey_Dororo 18 ก.พ. 53 เวลา 23:38 น. 18

 เขาบอกว่าการแสดงความคิดเห็นเรื่องศาสนา  จะทำให้คนขัดแย้งกัน

ศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อนอย่างที่ คห.7 เขาพูดค่ะ

หลีกเลี่ยงการตั้งกระทู้ศาสนาดีกว่านะคะ


PS.  ฉันเกลียดไอเหลี่ยม
0
ลมโกรก 19 ก.พ. 53 เวลา 02:49 น. 19

การที่ไม่รู้ หรือรู้ไม่จริงก็อย่าแสดงความเห็น



การแสดงความเห็นโดยตอบว่า " ไม่รู้ "


...ก็ไม่ควรจะแสดงออกมา...  เพราะมันไม่สร้างสรรค์ขึ้นแต่อย่างใด



การวางตัวที่ถูกที่สุดของผู้ที่ไม่รู้คือ   การเงียบ และ รับฟัง



PS.  In the Dark between the Light .
0
PRINCE_AEK 20 ก.พ. 53 เวลา 20:10 น. 20

เคยอ่านในพระไตรปิฎกนะ

พระพุทธเจ้าสอนไว้ว่า

การสอนให้คนโง่เป็นคนฉลาดนั้นได้กุศลสูงสุด


PS.  PS. มีปัญหาอะไรกับคห.นี้มาเคลียร์กันตรงๆดีกว่าอย่ามาแอบกัดแอบเห่าอยู่ข้างหลัง
0