กลุ้มใจ แพทย์ vs ทันตะ อันไหนดีกว่ากัน สับสน
ตั้งกระทู้ใหม่
เหตุที่ผมไม่เลือกแพทย์เพราะว่า คะแนนคงสู้คนอื่นไม่ได้ มีเพื่อนๆเก่งกว่าผมเยอะ และผมก็ตั้งใจที่จะเรียนอันนี้อยู่แล้วเพราะคิดว่ามันน่าจะเรียนไม่หนักเท่าแพทย์นัก<คิดถูกหรือเปล่าก็ไม่รู้> และการทำงานคงไม่ต้องมาอยู่เวรจนดึกดื่น ไม่ต้องมีความรับผิดชอบสูงเท่าแพทย์
แต่หลังจากผมได้อ่านในเว็บนี้ หลากหลายความคิดเห็นของพี่ที่เรียนทันตะ บอกว่าต้องทำทั้ง lab และก็ต้องอ่านหนังสือสอบ...อีกมากมาย ซึ่งผมคิดว่าแพทย์น่าจะทำน้อยกว่า เวลาจะทำอะไรมันก็น่าจะมากกว่า จนถึงตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกว่ามันน่าจะหนักกว่าแพทย์แล้วมั้ง และกลัวว่าถ้าเรียนไปสักวันความอดทนผมมันจะหมดลง
ขอให้พี่ทั้งแพทย์และทันตะ มาช่วยแสดงความคิดเห็นหน่อยว่าจริงๆ มันแตกต่างกันอย่างไร นอกจากทันตะต้องใช้ศิลปะและสมอง
ผมไม่อยากเรียนแพทย์เลย...กลัวหลายๆอย่าง
ปล. ผมพอจะถนัดศิลปะนะครับ แต่คิว่าคงไม่ได้ช่วยอะไรได้มากเท่าไร นอกจากความอดทนเท่าที่อ่านๆมา...
สงสัยและสับสน
7 มี.ค. 53 เวลา 19:13 น.
519
views
24 ความคิดเห็น
เรียนวิศวะดิ
แำำำพทย์ มีประชาชนที่รอคอยหมอ ดีๆ อย่างคุณอยู่นะครับ ^^
ช่วยชีวิตเขา หรือ จะทำฟันเขา
ถ้าเกิด เจอคนประสบอุบัติเหตุ  คุณมีความ รู้สึกอย่างไรต้องเห็นคนสูญเสียเลือด  ถ้าเป้นหมอฟันคงได้แค่ยืนดู
ชีวิตคนเราเกิดมาลำบาก
คงจะกลัวลำบากสินะ
PS. KYUMINKIHAE
ก้อบอกอยู่ว่าไม่อยากเรียนแพทย์นี่นา ก้อเลือกเรียนทันตะถูกแล้วล่ะ ถ้าคิดว่าชอบ ถึงเวลา
มันก้ออดทนเรียนไปได้เองแหละ จิงๆนะ ถ้าใจเราอยากเป็น ถึงจะเหนื่อยแค่ไหน เราก้อจะ
สู้ไปให้ได้เองอ่ะ แต่ก้ออย่างที่ว่าต้องอยากที่จะเรียนก่อน  พี่ก้อเรียนทันตะ้ แต่อยู่พรีคลินิกเอง
คงยังแนะนำอารายไม่ได้มาก ถ้าจาถามว่าเหนื่อยมั้ย ก้อเหนื่อยนะ ทรมาน ทุกวันนี้ก้ออดทนอยู่
จบไปแต่ละปีนี่ แทบอยากไปฉลอง แล้วก้อคิดว่าคนที่เรียนหมอ ก้อคงเหนื่อยไม่แพ้กัน แต่พี่ก้อ
เลือกมาเรียนคณะนี้เองเพราะอยากเป็นหมอฟันมากกว่าหมอรู้สึกว่าขอบเขตของงานมันน้อยกว่า
ไม่เหมือนหมอ  ที่เวลาทำงาน ต้องรู้สากกะเบือยันเรือรบ รู้ไปซะทุกอย่าง (ถึงทันตะจะเรียนไปซะ
ทุกอย่างเหมือนกันก้อเหอะ)
สรุปว่า สองคณะนี้ เหนื่อยและต้องใช้ความอดทนไม่แพ้กันหรอก ถ้าคิดว่าชอบทันตะ ก้อเรียนทันตะแหละจ้าาา
คห.3  แล้วถ้าทุกคนเปนแพทย์หมด ก้อไม่ต้องมีหมอฟันเลยใช่มั้ย อย่างงี้เวลาคุณมีปัญหาเรื่องฟัน
ก้อไปให้แพทย์ทำฟันให้ดีมั้ยคะ
หนักพอกันครับ และไม่เหมาะกับคนป๊อด
แล้วแต่คนนะ
แต่เราเป็นคนรักสบาย ก็ทันตะ
แต่จะโหดมาก ๆ ในตอนเรียน เค้าบอกว่าเรียนยากกว่าหมอ
แต่จบมาทำงานสบาย หมายถึงสบายกว่าหมอนะ
ก็แล้วแต่คนชอบแหละ
รสชาติของชีวิตครับ ความทุกข์ทำให้รู้คุณค่าของความสุข
เออ ว่าแต่ติดหมอแล้วหรอ
เก่งเน๊าะ เลือกได้ด้วย
เราไม่เหนมีทางเลือกแบบเธอมั่งเลย
พี่เรียนทันตะ ยอมรับว่าหนักและก็เหนื่อยมากๆ แต่ก็นั้นแหละ เวลาทำงานก็สบายกว่าแพทย์จริงๆ(อาจยกเว้น หมอผิวหนังนะ) lab ก็เยอะ เวลาว่างเวลาพักผ่อนไม่ค่อยจะมี lab ก็ต้องใช้ฝีมือมาก(แต่ไม่ค่อยเกี่ยวกับการเก่งศิลปะนะ เพื่อนพี่วาดรูป ระบายสี โค ตรห่วยแตก แต่ทำงาน lab โค ตรสวย เสร็จเร็วกว่าเพื่อน)
ที่เหลือก็ต้องแล้วแต่น้องคิดเองแล้วล่ะว่าน้องชอบหรือไม่ชอบ สำหรับพี่นะถ้าน้องแบ่งเวลาได้ การรเรียนทันตะก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก คนน้อยกว่าคณะอื่น อยู่กันอบอุ่นดีด้วย รู้จักกันทุกคน ไม่เหมือนแพทย์เดินชนกันยังจำไม่ค่อยได้เลยว่าเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันหรือเปล่า
พี่สาวเราเป็นทันตะ พี่ชายเป็นสัตวแพทย์ ส่วนเราเป็นแพทย์
ก่อนอื่นเลย ถ้ากลัวเรียนหนัก อย่าเรียน เลย ไม่มีใครเขาให้เงินเดือนกับความสบายหรอก
ต่อ
ทันตะ เป็นงานละเอียดมาก เหมือนๆกับน้องเป็น สถาปนิก + แพทย์ ในช่องปาก ไม่ต้องเขาเวร
แพทย์ ก็เป็นงานที่ เหมือนกับทันตะ แต่จะละเอียดหรือไม่นั้น ขึ้นกับน้องเป็นหมออะไร และบางสาขาก็ไม่ได้ขึ้นกับว่าสวยหรือไม่ เช่น หมอ ให้ยา(MED)
สัตวแพทย์ ต้องบอกว่าไม่รักจริง ยาก ครับ แต่ถ้ารักก็จะสนุกมาก เห็นพี่ชายเราไปเที่ยวตาม ฟาม บ่อยมาก ชีวิตก็ happy ดี
ส่วนความรับผิดชอบ นั้น ต้องมีแน่นอน เพราะถ้า ผู้ที่เรียกว่า แพทยื ไม่มี แล้ว คงรักษาใครให้รอดไม่ได้ จริงไหม
เรียนหนักเท่ากัน แน่นอน
แต่จบปแล้วทันตะจะสบายกว่า
ทันตะเป็นพวกงานละเอียด ต้องมีศิลป์นิดนึง แต่ก้เครียสได้ถ้าคุณต้อผ่าตัด
ทันตะแปลว่า ฟัน ก็จริง แต่ ทันตแพทย์ นั้นทำทุกอย่างที่อยู่ใต้จมูกลงมา
จนถึงบริเวณลคอ เช่น ถ้าน้องเป็นคนหน้าเหลี่ยมมากๆ (เหลี่ยมจัด+บ้า"กราม")
คนที่จะ ตัดกราม เหลาคาง ฯลฯ ให้น้องคือ ทันตะแพทย์นะคับ ไม่ใช่แพทย์
หมอเป็นพวกงานเครียสสสสสส แต่ก็อาจชิล และมีศิลป์บ้าง
ถ้าเป็นแพทยืผิวหนัง เปิดคลีนิกเสริมความงาม อย่าง วุฒิศักด์ พรเกษม ฯลฯ อ่าคับ
PS. "...ความฝัน ถ้าเราตั้งใจแรงกล้า มันจะต้องเป็นจริง..."
คำตอบมันซ่อนอยู่ในคำพูดนายแล้วหละ
ลองหาดูดีดีนะ ^^
เรียนแพทย์ก็มีศิลป์ได้ค่ะ - -"
พี่เลือกแพทย์เพราะเห็นว่า มันกว้างกว่าเพราะเรียนทั้งตัว มันส์กว่าก็เพราะเรียนทั้งตัวแหละ
อีกอย่างก็เพราะตอนเลือกคณะดันไปผ่าฟันคุด ก็เลยกลัวๆหมอฟันไปหน่อย
ในขณะที่น้องสาวพี่โดนเข็นเข้าห้องผ่าตัด ก็เลยกลัวหมอ - -"
สุดท้าย ถ้าน้องไม่ได้ชอบจริงจังทั้งสองอย่าง ก็เลือกอันที่ติดแล้วดีกว่านะ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยอ่านหนังสืออีกรอบ
PS. ผมดำ...ผมทอง...ผมหยิก...ผิวขาว...ผิวเหลือง...ผิวดำ...ผิวแดง...
อยากติดเว่ย*
ถ้าติดนะจะคิดไรมากเรย
จะเรียนทันที TT'
PS. Try ..to *be,, >> - DENT - *
แพทย์ก็ใช้ศิลปะไม่แพ้ทันตะเลย พี่ว่าอาจมากกว่าทันตะด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นศิลปะในการทำหัตถการต่างๆซึ่งเยอะมาก ศิลปะในนการรักษา ศิลปะในการพูดกับคนใข้ และเรื่องเรียนหนักและยาก พี่ว่าแพทย์เรียนหนักมากกว่าและเครียดกว่าเยอะ ไม่ค่อยมีวันหยุด แถมเวลาเรียนทั้งเหนื่อยและกดดัน ส่วนเรื่องlab พี่ว่าคณะแพทย์ ก็มีเยอะไม่แพ้ทันตะเช่นกัน ยังมีอีกเยอะที่น้องยังไม่ทราบข้อเท็จจริง ทันตะเค้าจะเน้นในช่องปากเกี่ยวกับฟัน ที่บอกว่าเรียนเหมือนหมอ ก็อาจมีบ้างที่ระดับpreclinicเรียนเหมือนหมอแต่ทันตะไม่ได้เจาะเน้นทั้งตัวเหมือนหมอ ทันตะจะเน้นที่ช่องปาก อีกอย่างพี่ไม่รู้นะว่าทันตะมีราวน์เสารอาทิตย์หรือวันหยุดป่าว เพราะพี่แทบไม่ได้หยุดเลย และต้องตื่นแต่เช้ามาราวน์ตอนเย็นกว่าจะได้กลับต้องราวน์เย็นอีกและต้องอยู่เวร พี่ว่ามันเหนื่อย พี่อยากให้น้องคิดดีๆว่าน้องชอบอะไรมากกว่า ปรึกษาพ่อแม่ผู้รู้ เพราะมันคนละอย่างกันเลยทันตะกะหมอ พี่ไม่อยากให้น้องพลาดโอกาสดีๆไป  ทันตะจบออกไปสบายกว่าหมอแน่นอนทำงานสบายกกว่า พี่ไม่อยากให้น้องคิดว่าหนักหรือไม่หนักเพราทุกคณะ มันคงหนักแตกต่างกันตามแต่รูปแบบงาน ทุกคนเข้ามาตั้งใจก็เรียนนได้ฝึกเอาได้ สรุปว่าถ้าน้องชอบอะไรก็เรียนอันนั้นไปเถอะ
ปล. งงที่บอกว่าเหลาคางเป็นหมอฟันทำไม่ใช่แพทย์ทำ เราก็พึ่งรู้เหมือนกันว่าหมอฟันก็ทำ เพราะเราพึ่งไปเหลาคางกับหมอมาเมื่อปีที่แล้วเองเรานึกว่ามีแต่หมอทำ
งั้นผมคิดว่าคงจะเรียนทันตะแหละครับ เพราะมันให้ยืนยันสิทธิ์วันพรุ่งนี้แล้ว กะจะรอรับเพิ่มแพทย์ แต่คงไม่ทันเพราะยังไม่มีรายละเอียดเลย
ผมจะทำให้เต็มที่ละกัน คนอื่นทำได้เราก็ต้องทำได้สิ ผมจะไม่ให้หลายๆอย่างที่ได้อ่านมา มาบั่นทอนกำลังใจ จะพยายามมองแง่ดีของมันล่ะกัน เพื่อให้เรียนให้จบ
มีเรื่องสงสัยอีกนิดนึงว่าคณะพวกนี้เกรดในมหาลัยมีผลมมากมั้ย ในการเรียนหรือการทำงานต้องได้สูงๆมั้ยครับ เพราะผมคงไม่ได้เก่งที่สุดแน่นอน
แล้วเรื่องเรียน lecture นี่เรียนเหมือนแพทย์บ้างมั้ย กี่ปีครับ
ขอคำแนะนำในการเรียนด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ
ก็ปี1เรียนพวกวิทย์พื้นฐานอ่ะน้อง เรียนเหมือนแพทย์หมดๆ
แต่ปี2-3 เรียนเลคเชอร์สลับกับlabอย่างละครึ่งๆ (เรียนเหมือนเเพทย์ช่วงปี2 แต่น้อยกว่าเพราะจะเน้นทำlabพอสมควร)
ปี4-6 ก็เลคเชอร์กับทำคลีนิคอ่ะจ้า
คห.17 นี่เรียนแพทย์จริงๆหรอ
ถึงพูดได้น่าทุเรศขนาดนี้
แพทย์นี่นะใช้ศิลป์มากกว่าทันตะ คิดไปเองคนเดียวอ่ะดิ
ใครๆเค้าก็บอกกันว่าทันตะต้องหัวศิลป์สูง หัตถการนี่เยอะมากมายมากกว่าหมอหลายเท่า
แต่หมอจะต้องราววอร์ดเช่นกัน จะเห็นได้ว่าศิลป์ของหมอมันจิ๊บจ๊อยมาก ลองไปถามเพื่อนที่เรียนทันตะดูนะจ๊ะ
ถ้าใครเคยจัดฟัน น่าจะพอดูภาพออกคร่าวๆ
ถ้าตัวเองเรียนแพทย์ มีน้อง มีพี่หรือญาติเรียนทันตะหรือปล่าว
ถึงบอกเรียนหนักสู้ไม่ได้
หนักมันหนักเหมือนกันทั้งคู่แหล่ะ
ไม่น่าเชื่อจะมีหมอพูดได้ "ไร้ศิลป์"ขนาดนี้
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?