ความหมายที่แท้จริงของคำว่า " ไพร่ "
ตั้งกระทู้ใหม่
ความหมายที่แท้จริงของคำว่า "ไพร่"
ไพร่ ในสังคมไทยสมัยโบราณหมายถึง สามัญชนหรือชนชั้นกลางทั่วไปที่ไม่ได้อยู่ในฐานะทาส ซึ่งมีสังกัดโดยพระมหากษัตริย์หรือเจ้าขุนมูลนาย มีสองประเภทคือ
ไพร่หลวง คือไพร่ที่สังกัดกรมกองต่างๆ เป็นไพร่ของพระมหากษัตริย์โดยตรง ประเภทที่ต้องถูกเกณฑ์มาทำงานตามราชการกำหนด และประเภทที่ต้องเสียเงินหรือสิ่งของมาแทนการเกณฑ์แรงงานหรือที่เรียกว่า "ไพร่ส่วย" การส่งเงินมาแทนการเกณฑ์แรงงาน เงินที่ส่งมาเรียกว่า "เงินค่าราชการ"
ไพร่สม เป็นไพร่ที่พระมหากษัตริย์พระราชทานให้มูลนายและขุนนางที่มีตำแหน่งทางราชการเพื่อผลประโยชน์ตอบแทน มูลนายจะมีไพร่มากน้อยขึ้นอยู่กับ ยศ ตำแหน่ง ศักดินา ไพร่สมต้องทำงานให้ราชสำนักปีละ 1 เดือน
ไพร่ในความหมายของพจนานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน
สรุป ก็คือทุกวันนี้เราก็เป็นประชาชนคนธรรมดากันอยู่แล้ว จะเรียกไพร่ก็ได้มันก็แค่คำโบราณ เหมือนคำว่ากู กับ ซึ่งคนสมัยก่อนใช้แทนตัวเอง และ ผู้ที่สนทนาด้วย แต่คนสมัยนี้เปลี่ยนมาเป็นฉัน กับ เธอ หรืออะไรก็แล้วแต่ ฯลฯ ทำให้พวกเราคิดกันไปเองว่าเป็นคำหยาบ
ถ้าสังเกตุดูดีๆ จะรู้ว่าทุกวันนี้เราเหลือแค่ชนชั้น พระมหากษัตริย์ กับ
ประชาชน(ไพร่)อย่างพวกเรา คิดดูดีๆ ว่าที่แกนนำพูดคำว่าไพร่นี่ต้องการต่อว่า
อำมาตหรือพลเอกเปรม จริงหรือไม่ ถ้าพูดกับพลเอกเปรมแล้วพลเอกเปรมไม่ใช่ ประชาชนหรืออย่างไร
ฝากเอาไว้ให้คิดกัน
ไพร่ [ไพฺร่] (โบ) น. ชาวเมือง, พลเมืองสามัญ
ทาส, ทาส [ทาด, ทาดสะ-] น. ผู้ที่อุทิศตนแก่สิ่งที่เลื่อมใสศรัทธา เช่น เป็นทาสความรู้, ผู้ที่ยอมตนให้ตกอยู่ในอํานาจสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น เป็นทาสการพนัน เป็นทาสยาเสพติด เป็นทาสความรัก เป็นทาสเงิน; บ่าว
สรุป ก็คือทุกวันนี้เราก็เป็นประชาชนคนธรรมดากันอยู่แล้ว จะเรียกไพร่ก็ได้มันก็แค่คำโบราณ เหมือนคำว่ากู กับ ซึ่งคนสมัยก่อนใช้แทนตัวเอง และ ผู้ที่สนทนาด้วย แต่คนสมัยนี้เปลี่ยนมาเป็นฉัน กับ เธอ หรืออะไรก็แล้วแต่ ฯลฯ ทำให้พวกเราคิดกันไปเองว่าเป็นคำหยาบ
ถ้าสังเกตุดูดีๆ จะรู้ว่าทุกวันนี้เราเหลือแค่ชนชั้น พระมหากษัตริย์ กับ
ประชาชน(ไพร่)อย่างพวกเรา คิดดูดีๆ ว่าที่แกนนำพูดคำว่าไพร่นี่ต้องการต่อว่า
อำมาตหรือพลเอกเปรม จริงหรือไม่ ถ้าพูดกับพลเอกเปรมแล้วพลเอกเปรมไม่ใช่ ประชาชนหรืออย่างไร
ฝากเอาไว้ให้คิดกัน
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 24 เมษายน 2553 / 20:49
PS. ขอร้องเถอะเกิดมาเป็นคนไทย ทั้งทีอย่าให้เสียชาติเกิดเห็นแก่เลือดทุกหยดตอนที่บรรพบุรุษ ต้องเสียในครั้งเก่าก่อน (ไม่ขอให้รักกันเหมือนเดิมแต่ขอให้เห็นแก่ส่วนรวมบ้าง อย่าเห็นแต่พวกพ้องของตัวเอง)
30 ความคิดเห็น
ผมว่าไม่มีใครหมิ่นสถาบันหรอก คนไทยทุกคนนั้นรักพระองค์อยู่แล้ว
แค่เห็นว่าการที่พระองค์สามารถใช้อำนาจโดยตรงแบบเบ็ดเสร็จนั้น
คือใช้อำนาจผ่านทาง ศาล รัฐบาล และ รัฐสภา
ซึ่งอำนาจตุลาการ อำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติ
เป็นหัวใจในการถ่วงดุลกันในระบอบประชาธิปไตย
จะดีกว่าไหม ถ้าพระองค์ได้พักผ่อน เป็นที่รักเทิอดทูนตลอดไป
แต่ให้หน้าที่ในการพัฒนาประเทศไทย เป็นหน้าที่ของประชาชนเอง
อย่าให้พ่อต้องเหนื่อยอีกเลย ใครๆก็รักพระองค์ทั้งนั้นแหละ
ดูอย่างประชาธิปไตยของญี่ปุ่นสิ กษัตริย์ญี่ปุ่นก็ยังอยู่มาจนถึงปัจจุบัน
มันก็จริงอย่าง ที่ความเห็น 1 พูดหละ
แต่การให้ท่านพักผ่อนมันต้องไม่ใช่การ ล้มล้างสถาบัน สิ
มันมีตั้งหลายวิธีที่ทำได้อย่างเช่น รอให้พระองค์แต่งตั้ง ร.๑๐ หรือไม่ก็คนไทยรักกัน
ประเทศชาติสงบ ฯลฯ อะไรแบบนี้น่าจะดีกว่าไม่ใช่หรอ
PS. ขอร้องเถอะเกิดมาเป็นคนไทย ทั้งทีอย่าให้เสียชาติเกิดเห็นแก่เลือดทุกหยดตอนที่บรรพบุรุษ ต้องเสียในครั้งเก่าก่อน (ไม่ขอให้รักกันเหมือนเดิมแต่ขอให้เห็นแก่ส่วนรวมบ้าง อย่าเห็นแต่พวกพ้องของตัวเอง)
ถ้าไม่ทำในสมัยพระองค์
ซึ่งประชาชนเป็นปึกแผ่นแบบนี้
เพราะมีสิ่งยึดเหนี่ยวคือ ในหลวง
ในอนาคตเราก็ไม่อาจแน่ใจว่าประเทศจะเป็นยังไง
มันอาจจะวุ่นวายมากถึงมากที่สุด เพราะใครหล่ะจะเป็นราชาคนต่อไป
คนสมัยนี้ ไม่เข้าใจคำว่ารักแท้ วุ้ยยย
คุณไม่เข้าใจนะครับ
ว่ามันไม่ใช่การล้มล้างสถาบันอย่างที่หลายคนเข้าใจ
แต่มันเป็นสร้างประชาธิปไตย ถ้าเกิดว่าเราสามารถตัดอำนาจตรงส่วนนั้นไปได้
เพราะตอนนี้เราโชคดีไงที่มีในหลวง ซึ่งใช้อำนาจตรงนั้นอย่างมีทศพิธราชธรรม
แต่ในอนาคตถ้าเราไม่มีท่านแล้ว เราก็ไม่สามารถที่จะมั่นใจได้ว่าคนอื่นจะเป็นเหมือนท่านหรือป่าว
ควมเห็น 5 อย่าลืมสิระบอบกษัตริย์ เราก็ถ่ายทอดกันรุ่นสู่รู่นอยู่แล้ว
นายไม่อยากให้มีหรือว่าอยากให้ยกเลิกหรืออยากเปลี่ยนแต่คนอื่นๆหนะอีกกี่ 10 ล้านคนเค้ายัง
ไม่เห็นด้วยกับนาย
แล้วนายก็ลงมือทำโดยไม่สนใจเสียงตรงข้าม อย่างนี้เรียกประชาธิปไตยหรือเปล่า
ไหนบอกว่าฟังเสียงส่วนมากไง แต่ตอนนี้เสียงส่วนมากยังคัดค้านนายอยู่นะ
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 24 เมษายน 2553 / 22:09
PS. ดิฉันรัก ในหลวงและพระบรมวงศ์สานุวงศ์ ทุกพระองค์ ใครไม่รักดิฉันไม่ไว่าอะไรแต่ อย่าให้ร้ายท่าน แล้วอย่าหาว่าคนไทยไม่เตือน
เคยดูรายการนึง ... หนังสือของทักษิณ... มันจะมีไพ่อยู่สามใบ ใบแรกกับสองใบแรกคือ อภิสิทธิ์กับพลเปรมฯ แต่ใบที่สามคือไพ่คิง ซึ่งแปลว่า พระมหากษัตริย์ แต่มันกลับปิดให้แล้วเขียนว่า 'ไพร่ใบสุดท้าย' แค่นี้มันก็ส่อถึงจุดประสงค์แล้วล่ะค่ะ...
PS. vs: เทพเมคาอัคคีใส่รองเท้าเตะแต่ไม่มีแครอทมาฝาก
คุณต้องการสื่อถึงอะไร
อย่า!!!!!! แม้แต่จะคิด
บอกแล้วว่าไม่ใช่การล้มล้างสถาบัน
หรือการล้มล้างระบอบกษัตริย์
แต่ไม่อยากให้ใช้อำนาจที่มีอยู่
แล้วกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอีก
จะเห็นว่าในประเทศที่เป็นประชาธิปไตยเหมือนเรา
อย่างเช่น อังกฤษ หรือ ญี่ปุ่น ที่ยังมีกษัตริย์เหมือนกับไทย
เขาไม่มีกฎหมายหมิ่นเหมือนไทยเลย เพราะเขาเป็นประชาธิปไตยเต็มใบ
สื่อมวลชนทั้งในอังกฤษและญี่ปุ่นมีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์ได้เต็มที่ เพราะมันคือเสรีภาพ
สถาบันนี้ก็จะยังคงอยู่เคียงคู่กับประเทศไทยตลอดไป เหมือนกับในญี่ปุ่นและก็อังกฤษ
มนุษย์ทุกคนไม่ว่าจะสูงหรือตํ่า ดําหรือขาว ทุกคนก็ connect กันในสายพระเนตรของพระเจ้า
หลากความคิด แต่อย่าแตกแยกน่ะค่ะ
PS. happy time :))
ความเห็น 9 คุณคิดยังไงถึงเอาวัฒธรรมของคนต่างชาติมาเปรียบกับวัฒนธรรมไทยหละ
อย่าว่าแต่กฏหมายหมิ่นพระบรมเดชาณุภาพเลย แค่คนอายุน้อยกว่าเถียงผู้ใหญ่
หรือว่าเราไม่มีสัมมาคารวะ ก็โดนด่าแล้วไม่ต้องถึงกับ
เขียววิจารหรอก
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 24 เมษายน 2553 / 22:18
PS. ดิฉันรัก ในหลวงและพระบรมวงศ์สานุวงศ์ ทุกพระองค์ ใครไม่รักดิฉันไม่ไว่าอะไรแต่ อย่าให้ร้ายท่าน แล้วอย่าหาว่าคนไทยไม่เตือน
นั่นไงครับ!!!
วัฒนธรรมต่างชาติ!!!
ถ้าคุณคิดแบบนั้น ประชาธิปไตยก็เป็นวัฒนธรรมต่างชาติเหมือนกัน
แต่ถ้าเลือกที่จะเอามาแล้ว ก็เอามาให้หมดแล้วกัน
แต่ก็น่าแปลกที่คนไทยเลียนแบบต่างชาติหลายๆเรื่อง
สิ่งที่ดีก็ควรเรียนแบบ สิ่งที่ไม่ดีแล้วเราจะเรียนแบบเค้าทำไมหรอ
หรือคุณแยกไม่ออกระหว่างเรื่องที่ควรกับเรื่องที่ไม่ควร
คุณยังไม่ตอบดิฉันเลยว่าที่เสียงส่วนมากไม่เห็นด้วยกับคุณแล้วคุณจะเอาวิธีไหนมาอ้างเพื่อเปลี่ยนหละ
PS. ดิฉันรัก ในหลวงและพระบรมวงศ์สานุวงศ์ ทุกพระองค์ ใครไม่รักดิฉันไม่ไว่าอะไรแต่ อย่าให้ร้ายท่าน แล้วอย่าหาว่าคนไทยไม่เตือน
เราต้องแยกแยะ และจัดลำดับให้ถูกต้องครับ
ไม่ใช่ว่าเรารับเอาระบอบของเค้ามา แล้วเราต้องเดินตามเค้าทุกเรื่อง เพราะนี่คือประเทศไทย เรามีวัฒนธรรมของเรา เราไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของใคร ฉะนั้นจะให้ทำตามเค้าไปทุกอย่าง คงเป็นไปไม่ได้
เราสามารถศึกษาแนวทางชีวิตของคนอื่นได้ แต่เราควรเดินตามเส้นทางของตัวเองครับ
และผมก็มั่นใจ ว่าเรามาถูกทาง หากคนไทยจะมีหัวคิดกันสักนิด และสนใจในเรื่องของวิธีการ ที่ถูกต้องตามหลักศีลธรรม ตามที่เราได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งพระพุทธศาสนา ไม่ใช่สนแต่ผลลัพธ์ มีแต่ความโลภ ขอให้ได้ผลประโยชน์ แต่วิธีการที่ได้มาจะเลวชั่วช้ายังไงก็ได้ แบบนั้นหรือครับ
PS. ~~++คนม่ายมีปีก++~~
ยังไงก็แล้วแต่
คนส่วนมากก็ต้องการประชาธิปไตยเต็มใบ
สักวันหนึ่งที่คนเรามีการศึกษามากขึ้น
คนเราก็ย่อมต้องการเสรีภาพมากขึ้น
หรือว่าจะเป็นคอมมิวนิสต์ที่สมบูรณ์แบบ
เหมือนกับที่มาร์คได้กล่าวไว้ก็เป็นได้
ปล. คอมมิวนิสต์ที่สมบูรณ์แบบคือ การที่สังคมเข้าสู่สันติภาพ ไม่มีความขัดแย้งใดๆ ไม่มีการต่อสู้ใดๆ เป็นสังคมในอุดมคติ ถ้าจะให้เห็นภาพก็เปรียบเหมือนการเป็นอริยสังคมหรือการเป็นนิพพาน
แล้วมันไม่ดีตรงไหนล่ะครับ?
ถ้าคอมมิวนิสต์ดีขนาดนั้น ผมก็ยอมให้เป็น
เพราะเป็นประชาธิปไตยแล้วห่วยแตก ยังกระทำตนไม่เหมือนอารชนเช่นนี้ แล้วจะมีไปทำไมกัน คอมก็คอมครับ
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 24 เมษายน 2553 / 20:36
PS. ~~++คนม่ายมีปีก++~~
คุณความเห็นที่ 15
แน่ใจนะครับว่าเราเดินมาถูกทาง
ตลอดเวลานับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2475
ที่เราเปลี่ยนมาเป็นระบอบประชาธิปไตย
สังคมของเราเคยมีความสงบสุขจริงๆเหรอ
ประชาธิปไตยในแบบที่เป็นอยู่มันทำให้สังคมของเราเป็นอยู่แบบทุกวันนี้
ก็ให้คนไทยเรียนหนังสือ ใส่ใจกับเหตุผลมากกว่าผลประโยชน์
อีกอย่างคนไทยฉลาดและมีระเบียบ แต่เข้าใจคำว่าพอดีเปล่าหละไม่เป๊ะแบบญี่ปุ่น ไม่ได้หลวมเหมือนอินเดีย
ประเทศเราเล็กแค่นี้เองจะให้ใช้คอมมิวนิสต์เพื่อ???
หลักการของคอมมิวนิสต์มันเป็นความฝันมันเป็นไปไม่ได้ที่ทุกๆคนจะเท่าเทียมกัน
อีกอย่างคอมมิวนิสต์ไม่ได้ต้องการให้เท่าเทียมกันทางชนชั้น
แต่ต้องการให้เท่าเทียมกันทาง ฐานะมากกว่า ถ้าไม่มีชนชั้นจริงใครมันจะมาปกครอง
ก็ทุกคนเท่ากันหมด อยากทำอะไรก็ทำไป ประเทศก็เละเทะ
อีกอย่างถ้าคอมมิวนิสต์ดีจริงทำไม ประเทศที่เป็นคอมมิวนิสต์ตัวแม่อย่างรัฐเซียถึงล่มสลาย
ทำไมจีนถึงเปลี่ยนระบบมาเป็น เผด็จการทหารหละจ๊ะ
PS. ดิฉันรัก ในหลวงและพระบรมวงศ์สานุวงศ์ ทุกพระองค์ ใครไม่รักดิฉันไม่ไว่าอะไรแต่ อย่าให้ร้ายท่าน แล้วอย่าหาว่าคนไทยไม่เตือน
คุณคิดเหรอว่าประเทศไทยจะมีวันเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
พูดจริงๆ นะ ยังมีคนอีกหลายคนที่ไม่รู้จักประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เราเชื่ออย่างนั้น
เราต้องเอาคนไทยเป็นที่ตั้งสิ อย่าเอาเมืองนอกมาคิด ตัวอย่างนะ รับราชการยศสูงกว่าถูกลูกน้องว่า รับรองชาตินี้ไม่เจริญ แต่ฝรั่งมันไม่ใช่ คนเค้ารู้จักรับความคิดเห็นของคนอื่น ลูกน้องด่าเจ้านายเป็นเรื่องปกติตราบใดที่เราไม่ใช่ความรุนแรง เพราะสังคมเค้าถูกหล่อหลอมให้มีความเป็นประชาธิปไตย
แต่ของเรานิสัยไทยๆ เอาของฝรั่งมาใช้ ทั้งที่ไม่ดูว่ามันเหมาะหรือเปล่า
ฝรั่งเค้าไม่ให้ความสำคัญกับสถาบันคิงมากเหมือนคนไทยนะคะ เรารู้ค่ะ เพราะเคยไปเรียนเมืองนอกมา เพราะเค้าถือว่าคิงไม่ได้ทำอะไรให้เค้ามากนัก แต่ของไทยดูได้จากอดีตนะคะ คงจะรู้พระราชกรณียกิจดี
ถ้าจะเปลี่ยนอย่างที่คุณว่า ไม่ว่าจะวิธีการใดๆ มีคนไทยอีกมากค่ะที่ไม่เห็นด้วยแน่นอน
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?