Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

2.พระพุทธเจ้าชนะอาฬวกะยักษ์ ตอน เขวี้ยงอาวุธที่ร้ายแรงที่สุดในโลกในพระพุทธเจ้า

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เมื่อไม่ได้ผล อาฬวกยักษ์ก็ทำฝนห่าใหญ่ให้ตกลง ด้วยคิดว่า เราจักให้น้ำท่วมให้สมณะตาย ฝนทั้งหลายอันต่างด้วยก้อนเมฆ ตั้งร้อยตั้งพันเป็นต้นก่อตัวขึ้นแล้วก็ตกลงมา ด้วยความเร็วของกระแสน้ำฝน แผ่นดินก็เป็นช่อง ๆ ต่อแต่นั้น มหาเมฆก็มาเบื้องบนของราวป่า ก็ไม่อาจที่จะทำแม้สักว่า หยาดน้ำค้างให้เปียกที่จีวรของพระทศพลได้.
เมื่อไม่ได้ผลอีก อาฬวกยักษ์ก็ทำฝนแผ่นหินให้ตกลงมา ยอดเขาใหญ่ ๆ พ่นควันลุกโพลงมาทางอากาศ ถึงพระทศพลแล้ว ก็กลายเป็นดอกไม้ทิพย์และพวงดอกไม้ทิพย์ แต่นั้น ก็ทำฝนเครื่องประหารให้ตกลงมา อาวุธทั้งหลายที่มีคมข้างเดียว ที่มีคม ๒ ข้าง มีดาบหอกและมีดโกนเป็นต้น ก็พุ่งควันลุกโพลงมาทางอากาศ ถึงพระทศพลแล้ว ก็กลายเป็นดอกไม้ทิพย์
จากนั้นก็ทำฝนถ่านเพลิงตกลงมา ถ่านเพลิงมีสีดังกวาว ก็มาทางอากาศได้กลายเป็นดอกไม้ทิพย์ตกเรี่ยรายอยู่ที่ใกล้พระบาทของพระทศพล
แล้วก็ทำฝนเถ้ารึงตรลบขึ้นมาทางอากาศ ก็กลายเป็นจุณจันทน์ตกลงที่บาทมูลของพระทศพล
อาฬวกยักษ์ยังไม่ยอมแพ้ ก็ทำฝนทรายให้ตกลงมา ทรายละเอียดอย่างยิ่ง พ่นควันลุกโพลงมาทางอากาศ กลายเป็นดอกไม้ทิพย์ตกลงที่บาทมูลของพระทศพล
แล้วก็ทำฝนเปือกตมตกลงมา ฝนเปือกตมนั้นพ่นควันลุกโพลงมาทางอากาศ กลายเป็นของหอมอันเป็นทิพย์ตกลงที่บาทมูลของพระทศพล
แล้วก็บันดาลให้เกิดความมืดมนอันธการ ด้วยหวังว่า เราจะทำให้สมณะกลัวแล้วหนีไป ความมืดมนนั้น เป็นเช่นกับความมืดมนที่ประกอบด้วยองค์ ๕ ถึงพระทศพลแล้วก็อันตรธานไป ดุจถูกกำจัดด้วยแสงพระอาทิตย์ฉะนั้น.
อาฬวกยักษ์เมื่อไม่สามารถทำให้พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จหนีไป ด้วยลมฝน ฝนหิน ฝนเครื่องประหาร ฝนถ่านเพลิง ฝนเถ้ารึง ฝนทราย ฝนเปือกตมและความมืดมน ๘ อย่าง อย่างนี้แล้ว ตนเองจึงเข้าไปหาพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยเสนาประกอบด้วยองค์ ๔ เกลื่อนกล่นไปด้วยหมู่ภูตผี ซึ่งมีรูปเป็นอเนกประการ มีมือถือเครื่องประหารนานาชนิด คณะภูตเหล่านั้นกระทำสิ่งแปลก ๆ เป็นอเนกประการ เป็นดุจมาเบื้องบนของพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยคำพูดว่า ” ท่านทั้งหลายจงจับ จงฆ่าเสีย . “
ภูตเหล่านั้นก็ไม่สามารถที่จะเข้าไปใกล้พระผู้มีพระภาคเจ้าได้เลย ดุจแมลงวันไม่อาจเข้าใกล้ก้อนเหล็กที่กระเด็นออก เป็นดังเช่นครั้งคราวที่หมู่มารจะเข้ามาที่โพธิบัลลังค์ก็ไม่สามารถเข้าใกล้พระโพธิสัตว์ที่ประทับนั่งใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์นั้นได้เลย แต่คราวนี้เหล่าภูตผีต่างกระเด็นออกไปด้วย
อาฬวกยักษ์ได้กระทำความวุ่นวายต่าง ๆ อยู่ประมาณครึ่งคืน เมื่อไม่อาจทำพระผู้มีพระภาคเจ้าให้หวั่นไหวได้ แม้จะพยายามแสดงสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวอย่างมากมายล่วงไปอย่างนี้แล้ว จึงคิดว่า ทำไฉนหนอ เราจะพึงปล่อยทุสสาวุธ ซึ่งใครไม่พึงชนะได้.

( หมายเหตุ :
มีกล่าวไว้ในอรรถกถาว่า อาวุธที่ทรงอานุภาพมากที่สุดในโลกมี ๔ อย่าง คือ วชิราวุธของท้าวสักกะ 1 คทาวุธของท้าวเวสวัณ 1 นัยนาวุธของพระยายม 1 ทุสสาวุธของอาฬวกยักษ์ 1
ถ้าท้าวสักกะทรงพิโรธแล้ว พึงประหารโดยวชิราวุธบนยอดเขาสิเนรุแล้ว วชิราวุธนั้นก็จะพึงชำแรกภูเขาสิเนรุซึ่งสูงหนึ่งแสนหกหมื่นแปดพันโยชน์ ลงไปถึงข้างล่างได้


(อ่านแล้วก็เข้าใจว่า ทำไมเหล่าอสูรจึงกลัวที่ท้าวสักกะโกรธกัน ก็สามารถส่งอาวุธลงไปทำลายได้ถึงวิมาณเลย)

ส่วนคทาวุธที่ท้าวเวสวัณปล่อยในกาลที่ตนยังเป็นปุถุชนนั้น สามารถทำลายศีรษะของพวกยักษ์หลายพันแล้วได้ในคราวเดียว กลับมาสู่กำมือตั้งอยู่อีกได้

(อ่านแล้วเข้าใจเลยว่า ทำไมท้าวเวสสุวรรณจึงปกครองเหล่ายักษ์ที่เกเรได้ ส่วนที่ว่าในสมัยที่เป็นปุถุชนนั้น เพราะท้าวเวสสุวรรณตอนนี้เป็นพระโสดาบันตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันนี้แล้ว ที่จริงท้าวสักกะก็เป็นพระโสดาบันแล้วด้วยเช่นกัน)

ถ้าพระยายมพิโรธแล้ว สักว่ามองดูด้วยนัยนาวุธ กุมภัณฑ์หลายพันก็จะลุกเป็นไฟพินาศ ดุจหญ้าและใบไม้บนกระเบื้องร้อนฉะนั้น

(อ่านแล้วก็เข้าใจเลยครับว่า ทำไมพระยายมจึงคุมเหล่ากุมภัณฑ์ได้ เพียงแค่มองด้วยนัยตาพิฆาตเมื่อโกรธเท่านั้นเอง ไหม้เป็นจุณได้เลย)

อาฬวกยักษ์โกรธ ถ้าปล่อยทุสสาวุธในอากาศแล้ว ฝนก็ไม่พึงตกตลอด ๑๒ ปี ถ้าปล่อยในแผ่นดินไซร้ วัตถุมีต้นไม้และหญ้าทั้งปวงเป็นต้น ก็จะเ่ยวแห้งไม่งอกอีก ภายใน ๑๒ ปี ถ้าพึงปล่อยในสมุทรไซร้ น้ำทั้งหมดก็พึงเหือดแห้งดุจหยาดน้ำ ในกระเบื้องร้อน ฉะนั้น ถ้าจะพึงปล่อยในภูเขาเช่นกับเขาสิเนรุไซร้ ภูเขาก็จะเป็นท่อนน้อยท่อนใหญ่ กระจัดกระจายไป. )
อาฬวกยักษ์นั้นเมื่อจะปล่อยทุสสาวุธอันมีอานุภาพอย่างนี้ จับยกชูขึ้น เหล่าเทวดาทั้งหลายในหมื่นโลกธาตุ ก็รีบมาประชุมกันด้วยคิดว่า วันนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าจักทรมานอาฬวกะ พวกเราจักฟังธรรมในที่นั้น เทวดาทั้งหลาย แม้ใคร่จะเห็นการรบ ก็ประชุมกัน อากาศแม้ทั้งสิ้นก็เต็มด้วยทวยเทพด้วยประการฉะนี้
อาฬวกยักษ์ลอยตัวขึ้นเบื้องบนในอากาศในที่ใกล้ ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วปล่อยทุสสาวุธลงมายังพระพุทธเจ้า ทุสสาวุธนั้นทำเสียงดังน่าสะพรึงกลัวในอากาศ ดุจอสนิจักรพ่นควัน ลุกโพลง เมื่อมาถึงพระผู้มีพระภาคเจ้า ก็กลายเป็นผ้าเช็ดพระบาทตกอยู่ที่บาทมูล
อาฬวกยักษ์เห็นดังนั้น ขนาดอาวุธที่ตนมีทรงอานุภาพยิ่งขนาดนั้น ยังไม่สามารถทำอะไรพระพุทธเจ้าได้เลย อาฬวกยักษ์จึงหมดเดชหมดมานะถือตนว่า เก่งกว่าพระพุทธเจ้าแล้ว ดุจโคอุสภะตัวใหญ่ที่มีเขาขาดแล้ว ดุจงูที่ถูกถอนเขี้ยวเสียแล้วฉะนั้น เป็นผู้มีธง คือ มานะที่ถูกนำออกเสียแล้ว คิดว่า แม้ทุสสาวุธไม่ทำให้สมณะกลัวได้ เหตุอะไรหนอจึงเป็นเช่นนั้น ก็ได้เห็นเหตุว่า สมณะประกอบด้วยเมตตาวิหารธรรม จึงคิดเอาชนะว่า เอาเถอะ เราจะทำให้สมณะนั้นโกรธแล้ว จักพรากเสียจากเมตตา ถ้าพรากจากเมตตา มีความโกรธเราจะจับกินเสีย

PS.  ขอบคุณจ้ะ

แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น

ขุนกำแหง 29 ส.ค. 53 เวลา 19:41 น. 1

เคยอ่าน เบญจวุธร้ายทั้ง5 มี ผ้าโพกหัวอาฬยักษ ตาที่สามพญายม และอาวุธของพระอินทร์


PS.  หญิงพรหมจารีหายากยิ่ง ขออุทิศทั้งชีวิตเพื่อหาสาวพรหมจารีมาเคียงกาย
0
กิตติภูมิ ไกรเจริญ 21 มี.ค. 62 เวลา 03:07 น. 2

สาธุกาลพระผู้มีพระภาคเจ้า พระโพธิสัตว์ผู้โปรดหมู่สรรพสัตว์ตลอดจนเวนัยสัตว์ทั้งน้อยใหญ่ที่มีกายแลไม่มีกาย ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้นและทุกๆพระองค์ทรงพระเจริญด้วย อายุวัณโณสุขังพลัง ขอพระมหาโพธิสัตว์เจ้าผู้คุ้มครองสรรพสัตว์สรรพสิ่งได้บรรลุซึ่งตบะเดชเดชาฌานญาณบารมีและฌาณปัญญาอันหาที่สุดมิได้ ในทุกที่ทุกสถานทุกภพภูมิไม่ว่าจักเป็นโลกธาตุใดๆจักกี่หมื่นกี่แสนกี่ล้านโลกธาตุก็ตามแต่ขอบารมีธรรมแห่งพระพุทธองค์คือพุทธันดรสิตอยู่ที่นั้นทั้งใกล้สุดสถิตจิตสถิตใจสถิตกายทั้งไกลสุดที่มองเห็นก็ดีมองไม่เห็นก็ดี ให้พรึงมีไออุ่นพุทธองค์ห้อมล้อมสรรพสัตว์สรรพสิ่งผู้สมบูรณ์ด้วยโภคาโภคทรัพย์ทั้งปวงทั้งจิตใจและกายาก็ดีผู้ขาดไร้ไม้หมอนเสื่อนอนทั้งบกพร่องด้านจิตใจแลกายาก็ดี ขอบารมีพุทธธรรมทรงชี้นำสอนสั่งให้ฟื้นตื่นคืนใจธรรมเป็นหมู่มวลสรรพสัตว์สรรพสิ่งผู้ครองสุขในทุกที่ทุกสถาน ดั่งนิยามแห่งพระศรีสิทธิ์พระมหาโพธิเทพรัตนบัลลังกรบัลลังกาลครองบัลลังก์โปรดหมู่สรรพสัตว์สรรพสิ่ง ขอบารมีธรรมแห่งพระศรีอริยะเมตตรัยทรงคุ้มครองบิดามารดาครูอุปัชฌาจารย์ครูบาอาจารย์ตลอดจนข้าพเจ้าและครอบครัวทั้งหมู่มิตรหมู่สหายทั้งที่รู้จักก็ดีไม่รู้จักก็ดี ทั้งที่ไกลก็ดีใกล้ก็ดีที่มีกายก็ดีไร้กายก็ดีให้มีสุขสถิตมั่นอยู่เบื้องจิตเบื้องใจเบื้องกายาในทุกภพทุกภูมิทุกที่ทุกสถานทุกแห่งหนแห่งโลกธาตุทั้งปวง แม้เจ้ากรรมนายเวรแห่งข้าพเจ้าและเจ้ากรรมนายเวรแห่งสรรพสัตว์สรรพสิ่งให้ได้รับกุศลธรรมอันพิสุทธิคุณยิ่งแห่งพระพุทธองค์ทุกๆพระองค์ตามกาลที่ผ่านมาและอนาคตกาลเบื้องหน้า สาธุ สาธุ สาธุ นะมะพะธะ นะโม พุท ธา ยะ

0